เข้าเรื่องเลยครับ ลูกพี่ลูกน้องผม อายุ 25 ปี(ฝ่ายชาย) กำลังจะแต่งงานครับ ซึ่งอยู่กินกับฝ่ายหญิงมาหลายปี(คือตั้งแต่เรียนมหาลัยปีสองก็อยู่หอด้วยกันจนเรียนจบมาสามปี) ปัจจุบันก็ย้ายไปอยู่บ้านของฝ่ายหญิง (พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็อยู่ด้วยกัน) วันนึง ฝ่ายหญิงเกิดตั้งท้องขึ้นมา เลยเป็นเหตุให้ต้องจัดงานแต่ง...
ทีนี้ทางญาติฝ่ายชายไปกันหมด(แม่ผมก็ไปกับเค้าด้วย) เพื่อไปพูดคุยสู่ขอ ปรากฏว่า แม่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดมา เป็นจำนวนหนึ่ง ไม่ได้เยอะอะไรมากครับ คือทอง สามบาท เงินสดอีกสามแสน (ถือว่าไม่ได้เยอะมาก มั้ง?) แต่พ่อแม่ฝ่ายชายมีอาชีพทำนาครับ รายได้แค่พอหาไปเป็นวันๆ ส่งลูกชายเรียนหนังสือจนจบป.ตรี ได้ผมว่าสุดยอดล่ะ (พ่อแม่ฝ่ายหญิง รับราชการทั้งสองคน)
พอพ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดและคุยกำหนดวันเสร็จสรรพ ทุกคนก็แยกย้ายกลับมาบ้าน(ข้ามจังหวัดกันเลย) เรื่องหนักอึ้งจึงเกิดตั้งแต่บัดนั้น
เป็นที่ทุกใจของพ่อแม่ฝ่ายชายมากครับ จะไปหาเงินมาจากไหน เอาไปให้เป็นค่าสินสอด เพราะเงินมีกันแค่หลักพัน
จึงมาปรึกษากันที่บ้านผม(บ้านหลักของครอบครัว) ญาติๆก็คุยกันว่า เงินจำนวนนี้ ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะไปหามาจากไหนทัน เลยมาหาทางแก้ปัญหา
-ตัวว่าที่เจ้าบ่าวเอง ก็ทำงานมา สามปีหลังจากเรียนจบ ถามว่ามีเงินเก็บกี่บาท...... บอกมีประมาณ สองหมื่น!! หืมมมมม....
-พ่อแม่ฝ่ายชาย ถามว่ามีเงินเก็บในครอบครัวเท่าไร ก็บอกว่ามีไม่กี่พัน หรือเรียกว่าแทบไม่มีเลย คนหาเช้ากินค่ำ อาชีพทำนา วันธรรมดาก็รับจ้างทั่วไป
-ปัญหาอยู่ที่ไหน....... พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวครับ!! (ตัวเจ้าสาวเองก็ไม่พูดอะไร ฟังแม่อย่างเดียว กลัวพ่อแม่ด้วย พ่อแม่ว่าไงก็ต้องว่าตาม)
ผมเลยเสนอ(
) ว่าไปคุยกับแม่เจ้าสาวใหม่ว่า เราไม่มีเงิน ตามจำนวนนี้ แต่เด็กรักกัน ก็ให้มันได้แต่งได้อยู่ได้มีลูกมีครอบครัวกัน ดีไหม
หรือไม่ก็ ขอว่า เงินจำนวนนี้ ถ้าอยากทำให้เป็นพิธี ก็จะหายืมมา แล้วขอคืนได้ไหม? อะไรแบบนี้ 555+
แต่คุยกันไปมา ตัวว่าที่เจ้าบ่าวก็เงียบตลอด ไม่หาทางออกอะไรเลย พ่อแม่เจ้าบ่าวก็ร้อนใจ กล้วว่าลูกชายไปทำลูกสาวเค้าท้อง เค้าจะเอาตำรวจมาจับเอา ถ้าไม่หาเงินไปแต่ง โอ้ยยยยย ความคิดของพ่อแม่ที่รักลูกเนาะ
สรุปลองให้ตัวว่าที่เจ้าบ่าว ไปคุยกันกับว่าที่เจ้าสาวว่า ให้ลองไปคุยกับแม่ เรื่องเงินหน่อย ว่าทานี้มีปัญหา........ ผลปรากฏว่าเป็นไปตามคาดครับ แม่ไม่ยอม บอกว่าต้องหาเงินมาตามจำนวนนี้ ไม่ลด!!! (เรื่องคืนไม่คืน ฝ่ายหญิงก็กลัวแม่ เลยไม่กล้าถาม)
สรุปสุดท้าย แม่ฝ่ายชาย ไปยื่นกู้ยืมเงินจาก ธกส (เดิมทีก็เป็นหนี้อยู่แล้ว ก็ไปกู้เพิ่ม) ให้ได้เงินเกือบ สี่แสน มาใช้ในงานแต่งครั้งนี้....
ผมเลยอยากมาเล่าให้ฟังเฉยๆครับ บางที สินสอด มันไม่ได้เป็นการการันตีอะไรเลย กับชีวิตคู่ คนที่พร้อม ก็มีกันไป ก็ให้กันไป จะเท่าไร นั่นคือเค้าพร้อม แต่ไอคนที่ไม่พร้อมแบบครอบครัวญาติผมนี้ คือไม่พร้อมจริงๆ ลำบากกันจริงๆ คือไม่มีสิทธิมีลูกมีเมียกับเค้าบ้างเลยเหรอ ทำไมพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่คิดสักนิดเนาะ และภาระสินสอดตรงนี้ ควรจะตกมาเป็นของพ่อแม่ฝ่ายชายมั้ย....
บ่นๆ ถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดเป็นค่าน้ำนม ที่เลี้ยงดูลูกมา แล้วแม่ฝ่ายผู้ชายเลี้ยงลูกมา ไม่ต้องเสียน้ำนมรึไง มันก็พอๆกันแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันแต่งงานผ่านไปแล้วนะครับ สินสอดครบตามจำนวน จัดงานบ้านเจ้าสาว งานเล็กๆครับ เชิญกันแค่ญาติๆ ค่าจัดงานฝ่ายหญิงออก และตามที่คาดเดาไว้ แม่ฝ่ายหญิงเงินสินสอดเก็บไปหมด และไม่มีท่าทีว่าจะยกให้ลูกสาวหรือลูกเขยไปตั้งตัวดำเนินชีวิตเลยแม่แต่น้อย
สินสอดงานแต่ง ภาระของเจ้าบ่าว หรือพ่อแม่เจ้าบ่าวกันแน่!!!
ทีนี้ทางญาติฝ่ายชายไปกันหมด(แม่ผมก็ไปกับเค้าด้วย) เพื่อไปพูดคุยสู่ขอ ปรากฏว่า แม่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดมา เป็นจำนวนหนึ่ง ไม่ได้เยอะอะไรมากครับ คือทอง สามบาท เงินสดอีกสามแสน (ถือว่าไม่ได้เยอะมาก มั้ง?) แต่พ่อแม่ฝ่ายชายมีอาชีพทำนาครับ รายได้แค่พอหาไปเป็นวันๆ ส่งลูกชายเรียนหนังสือจนจบป.ตรี ได้ผมว่าสุดยอดล่ะ (พ่อแม่ฝ่ายหญิง รับราชการทั้งสองคน)
พอพ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดและคุยกำหนดวันเสร็จสรรพ ทุกคนก็แยกย้ายกลับมาบ้าน(ข้ามจังหวัดกันเลย) เรื่องหนักอึ้งจึงเกิดตั้งแต่บัดนั้น
เป็นที่ทุกใจของพ่อแม่ฝ่ายชายมากครับ จะไปหาเงินมาจากไหน เอาไปให้เป็นค่าสินสอด เพราะเงินมีกันแค่หลักพัน
จึงมาปรึกษากันที่บ้านผม(บ้านหลักของครอบครัว) ญาติๆก็คุยกันว่า เงินจำนวนนี้ ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะไปหามาจากไหนทัน เลยมาหาทางแก้ปัญหา
-ตัวว่าที่เจ้าบ่าวเอง ก็ทำงานมา สามปีหลังจากเรียนจบ ถามว่ามีเงินเก็บกี่บาท...... บอกมีประมาณ สองหมื่น!! หืมมมมม....
-พ่อแม่ฝ่ายชาย ถามว่ามีเงินเก็บในครอบครัวเท่าไร ก็บอกว่ามีไม่กี่พัน หรือเรียกว่าแทบไม่มีเลย คนหาเช้ากินค่ำ อาชีพทำนา วันธรรมดาก็รับจ้างทั่วไป
-ปัญหาอยู่ที่ไหน....... พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวครับ!! (ตัวเจ้าสาวเองก็ไม่พูดอะไร ฟังแม่อย่างเดียว กลัวพ่อแม่ด้วย พ่อแม่ว่าไงก็ต้องว่าตาม)
ผมเลยเสนอ(
หรือไม่ก็ ขอว่า เงินจำนวนนี้ ถ้าอยากทำให้เป็นพิธี ก็จะหายืมมา แล้วขอคืนได้ไหม? อะไรแบบนี้ 555+
แต่คุยกันไปมา ตัวว่าที่เจ้าบ่าวก็เงียบตลอด ไม่หาทางออกอะไรเลย พ่อแม่เจ้าบ่าวก็ร้อนใจ กล้วว่าลูกชายไปทำลูกสาวเค้าท้อง เค้าจะเอาตำรวจมาจับเอา ถ้าไม่หาเงินไปแต่ง โอ้ยยยยย ความคิดของพ่อแม่ที่รักลูกเนาะ
สรุปลองให้ตัวว่าที่เจ้าบ่าว ไปคุยกันกับว่าที่เจ้าสาวว่า ให้ลองไปคุยกับแม่ เรื่องเงินหน่อย ว่าทานี้มีปัญหา........ ผลปรากฏว่าเป็นไปตามคาดครับ แม่ไม่ยอม บอกว่าต้องหาเงินมาตามจำนวนนี้ ไม่ลด!!! (เรื่องคืนไม่คืน ฝ่ายหญิงก็กลัวแม่ เลยไม่กล้าถาม)
สรุปสุดท้าย แม่ฝ่ายชาย ไปยื่นกู้ยืมเงินจาก ธกส (เดิมทีก็เป็นหนี้อยู่แล้ว ก็ไปกู้เพิ่ม) ให้ได้เงินเกือบ สี่แสน มาใช้ในงานแต่งครั้งนี้....
ผมเลยอยากมาเล่าให้ฟังเฉยๆครับ บางที สินสอด มันไม่ได้เป็นการการันตีอะไรเลย กับชีวิตคู่ คนที่พร้อม ก็มีกันไป ก็ให้กันไป จะเท่าไร นั่นคือเค้าพร้อม แต่ไอคนที่ไม่พร้อมแบบครอบครัวญาติผมนี้ คือไม่พร้อมจริงๆ ลำบากกันจริงๆ คือไม่มีสิทธิมีลูกมีเมียกับเค้าบ้างเลยเหรอ ทำไมพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่คิดสักนิดเนาะ และภาระสินสอดตรงนี้ ควรจะตกมาเป็นของพ่อแม่ฝ่ายชายมั้ย....
บ่นๆ ถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกค่าสินสอดเป็นค่าน้ำนม ที่เลี้ยงดูลูกมา แล้วแม่ฝ่ายผู้ชายเลี้ยงลูกมา ไม่ต้องเสียน้ำนมรึไง มันก็พอๆกันแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้