ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน ไม่มีอะไรใหม่ เสียดายโรงฉาย เสียดายโอกาสคนดูหนังไทย 3/10


ออกตัวก่อนว่ารีวิวนี้มีสปอยล์เนื้อหา ถ้าไม่แคร์สปอยล์ก็อ่านได้เลย

จะว่าไป อั้ม พัชราภา นี่เหมือนจะหลุดออกจากวงจรดาราไปแล้ว(รึเปล่า) เพราะเอาเข้าจริงๆผลงานของอั้ม พัชราภา ในวงการจริงๆน่าจะเป็นงานถ่ายโฆษณา กับงานอีเวนต์ปรากฏตัวเป็นเซเลบมากกว่า เพราะช่วงสองสามปีที่ผ่านมาคงมีละครอั้มแค่เรื่องเดียวคือเรื่อง พราว และก็มีหนังไทย ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน นี่แหละที่เป็นภาพยนตร์ไทย และนอกจากนั้นคนไทยก็แทบจะไม่ได้เห็นผลงานอะไรของอั้มในฐานะดารานักแสดงอีกเลย

และสำหรับหนังไทยเรื่อง ซิงเกิลเลดี้ นี้ก็ถือว่าน่าผิดหวังเอามากๆ เพราะเวลาที่ผลาญไปในหนัง และเวลาที่ผลาญไปในโรงภาพยนตร์สำหรับหนังเรื่องนี้คือ 150 นาที มันช่างเป็นเวลาที่ไร้ค่าจริงๆ
อั้ม พัชราภา ถ้านานๆจะรับงานทั้งที เราอยากเห็นอั้ม ในบทบาทการแสดงที่ดูมีมิติมากกว่านี้ เราอยากเห็นอั้ม พัชราภา ในบทบาทการแสดงที่ต้องใช้ความสามารถมากกว่านี้ เพราะตลอด 150 นาทีของหนังเรื่อง ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน นี้เราต้องยอมรับว่าอั้มเป็นตัวเดินเรื่องทั้งเรื่อง แต่อั้มก็ไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรทางการแสดงเลยแม้แต่น้อย เพราะอั้มได้บทบาททางการแสดงที่แทบจะเป็นตัวของตัวเองตลอดทั้งเรื่องเท่านี้ยังไม่พอ บทบาทของไบรท์ใน ซิงเกิลเลดี้นี้ก็ช่างเป็นบทที่ขาดที่มาที่ไป ขาดมิติและดูแบนราบ แถมยังออกแนวสับสนในบทบาทที่ทางคนเขียนบทเขียนเอาไว้แล้วพาไปตกม้าตายตอนจบเรื่อง

150 นาทีของ ซิงเกิลเลดี้เพราะเคยมีแฟน นี้เรารู้สึกดีเพียงแค่ 5 นาทีแรกที่เป็นงานเปิดตัวหนังสือ แต่พอหนังปรับโหมดเข้าสู่บรรยากาศของหนังเราว่ามันก็พอดูได้ ตอนแรกก็กะว่าจะมาบอกว่าใครชอบอั้มก็ไปดูเถอะ แต่สุดท้าย ช่วงเวลาประมาณ 30% สุดท้ายของเรื่องเราพบว่าหนังเรื่องนี้ช่างเป็นหนังที่ห่วยแตกและน่าแหกเหลือเกิน แต่บอกตรงๆว่า ไม่อยากแหกให้มันแรงให้มันน่าอับอายมากไปกว่านี้ เพราะลำพังโรงฉายที่โคตรเยอะ แต่คนดูในโรงมี 3-4 คน ในรอบที่ไปดู มันก็คงจะบอกได้ว่า ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน ไม่น่าจะประสบความสำเร็จทางด้านรายได้สักเท่าไหร่

เรื่องราวของไบรท์ เริ่มต้นที่งานเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ้คที่ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตดี๊ดีของการอยู่เป็นโสด โดยเธอเป็นเหมือนไอดอลสาวโสดของสาวๆเป็นจำนวนมาก ไบรท์เหมือนเป็นเนตไอดอล เปิดเพจของตัวเองก็มีคนไลค์เกือบล้าน แถมงานประจำก็ไปได้สวย (กูสงสัย นางทำงานห่าไรไม่รู้ รู้แต่ตอนแรกโดนพักงาน ตอนจบเค้าเชิญกลับไปเป็น CEO ในส่วนนี้หนังพลาดมากที่ไม่ยอมปูพื้นให้คนดูรู้เลยว่าอั้มทำงานสายไหน)

ไบรท์โชคดีที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาว เลยได้ดูดวงกับปู่ของเจ้าบ่าวซึ่งเป็นคนอินเดีย (คนอินเดียอะไร พูดภาษาแขกเหมือนท่อง อย่ามาตบตาชั้นเลย ชั้นแฟนพันธุ์แท้หนังบอลลีวู้ด สำเนียงแขกมั่วมาก พูดยังกะท่อง จริงๆถ้าหาคนพูดภาษาอินเดียไม่ได้ก็เอาเป็นหมอดูไทยก็ได้) แปลกมาก หมอดูอินเดียแนะนำให้แก้กรรมด้วยการไปตามหาว่าเคยไปสร้างปมอะไรให้บรรดาแฟนเก่าบ้าง ซึ่งในส่วนนี้เราว่ามันเป็นบทหนังที่ไร้เหตุผลสิ้นดี เพราะปมต่างๆที่อั้มทำไว้กับแฟนเก่าแต่ละคนมันไม่ใช่ความผิดอะไรของอั้มเลยแม้แต่นิดเดียว โดยเป้ อารักษ์ เป็นพื่อนของเจ้าบ่าวในงานที่บังเอิญมาช่วยอั้มตามไปหาแฟนเก่าเพื่อตามแก้กรรมด้วย

การกลับไปแก้ปัญหาแฟนในแต่ละคนไม่มีเหตุไม่มีผลอะไรชวนให้เราเชื่อได้เลยว่ามันเรียกว่า กรรม ที่อั้มต้องตามไปแก้ ซึ่งขอบอกว่าจุดนี้บทหนังมันห่วยมันเฮงซวยจนงงว่า เฮ้ย นี่บทหนังนี่สติปัญญามันมีแค่นี้เองเหรอวะ ใช้สมองหรือใช้หัวแม่เท้าคิดบทวะ บทหนังมีแต่จุดอ่อนและความบังเอิญที่ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

ตอนโก๊ะตี๋นี่คืองงมาก โก๊ะตี๋โตขึ้นมากลายเป็นคนเกเรระรานเป็นคนมีเงินแต่ดูถูกชาวบ้านและก่อกวนชาวบ้าน เพราะอั้มไม่ยอมรักษาสัญญาที่ให้ไว้ตอนเด็กๆ อั้มต้องมาเที่ยวไปขอโทษชาวบ้านแทนโก๊ะตี๋ แต่ที่งงคือ ชาวบ้านไล่กระทืบโก๊ะตี๋ เพราะโก๊ะตี๋จะไปขึ้นค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าตลาด แต่พอเวลาโก๊ะตี๊ก่อกวนชาวบ้านมันก็ไปของมันคนเดียว ไม่เห็นว่ามันจะเกรงกลัวอะไรนี่คืองงนะ งงมากๆ

ตอนเอกกี้ นี่ก็บ้าไปแล้ว เอกกี้บอกว่า ตัวเองโดนผู้ชายหลอก- ไม่มีความรักให้จริงๆ เพราะตอนเด็กๆมอบจูบแรกให้อั้ม แต่ตัวเองเป็นตุ๊ด มอบจูบแรกให้ชะนีทำให้ตัวเองมีปม แล้วอั้มล่ะ อั้มเป็นชะนี มอบจูบแรกให้ตุ๊ด อั้มมันไม่รู้สึกแย่เลย นางยังลั้ลลามองเอกกี้เป็นตัวตลกด้วยซ้ำ แถมตอนที่จะเอาเป้อารักษ์ไปถวายตัวให้เอกกี้ก็ดูไม่มีเหตุมีผล จะทำเพื่อ

ตอนต้าบาบี้ ปมคือ ต้ารักอั้มมาก แต่เผลอไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง เลยต้องทำเป็นนอกใจอั้ม ให้อั้มโกรธจะได้ทิ้งตัวเองไป ส่วนตัวเองก็เลี้ยงลูกไป เพราะเลิกกับผู้หญิงที่เป็นแม่ของลูก ลูกสาวโตมาใจแตก บอกว่าพ่อรักคนไปทั่วไม่หยุดที่ใครสักคนเลยจะหนีออกจากบ้าน แต่เท่าที่ดู ก็ไม่เห็นต้าบาบี้นางจะไปมีกิ๊กที่ไหนเลยหลังจากมีลูก และที่งงคือ อั้มมันผิดตรงไหน ถึงต้องไปแก้กรรม

ตอนนาวินต้า นาวินต้าเคยหลอกขออั้มแต่งงาน แล้วอั้มดีใจมาก แต่นาวินต้าบอกว่า อั้มแพ้แล้ว ล้อเล่น อั้มเลยโกรธนาวินต้ามาก เหมือนเป็นศัตรูคู่อาฆาต อั้มตามมาล้างแค้นด้วยการพยายามทำให้นาวินต้าโดนแฟนใหม่ปฏิเสธการแต่งงาน แต่นาวินต้าบอกว่าตอนที่หลอกแต่งงานนั่นคือมุข จริงๆจะขอแต่งงานจริงๆ อั้มกับเป้เลยต้องไปช่วยให้นาวินต้ากับแฟนได้แต่งงานกัน คืออะไร แก้กรรมอะไรกูงง

ตอนปิ๊บ รวิชญ์ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ สมัยอั้ม กับ ปิ๊บคบกันจนเกือบจะแต่งงานกัน แต่ก็ไม่ได้แต่ง เพราะที่บ้านผู้ชายแอนตี้ อยากได้ผู้หญิงจีนแท้ๆที่พูดแต่ภาษาจีนได้ อั้มเลยพยายามกลับมาบอกให้ปิ้บเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก ปิ้บเข้ามาที่ร้านอาหารที่นัดดูตัว แล้วบอกว่า ผมจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก อีผู้หญิงจีนในเรื่องพูดแต่ภาษาจีน จู่ๆก็ฟังภาษาไทยออก เดินเหวี่ยงออกจากร้าน ด่าเป็นภาษาจีน ปิ๊บพาผู้หญิงไทยที่ตัวเองชอบเข้ามาเปิดตัว ญาติพี่น้องบอกไม่เอาๆ แต่อาม่าบอกดีดีชอบๆ เพราะอั้มเอาไอแพดตอนที่ปิ๊บอย่กับแฟนคนไทยคนนี้แล้วมีความสุข แล้วจู่ๆญาติคนจีนทุกคนก็มากอดกัน ยินดีต้อนรับสะใภ้ไทย คือมันปรับโหมดไวจนคนดูตามไม่ทันเลย

สุดท้ายยังไงอั้มก็ต้องได้กับเป้อารักษ์ถูกไหม เชื่อว่าใครๆก็เดาได้ ใช่แล้ว อั้มได้กับเป้ อารักษ์ แต่หนังมันคิดว่ามันฉลาดรึเปล่า พยายามสร้างกิมมิกบอกคนดูว่า จริงๆแล้ว เป้อารักษ์เนี่ยที่เราเข้าใจว่าเป็นเพื่อนของเจ้าบ่าวเนี่ย จริงๆแล้วเป็นผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆตัวอั้มมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย คอยแอบตาม คอยแอบถ่ายรูป คอยแอบส่งการ์ดให้กำลังใจมาตลอด แต่อั้มไม่เคยมองเห็น  !

ไม่น่าเชื่อเลยว่าบทหนังมันจะตำบอนได้ถึงขนาดนี้ ดีกรีผู้กำกับเคยกำกับหนังเรื่อง เฟค ที่อั้มเคยแสดงมาก่อนแล้วเมื่อราวๆ 10 กว่าปีก่อน เอาจริงๆผู้กำกับไม่ใช่คนโนเนมแน่ๆ แต่ฝีมือมีแค่นี้ ก็นับว่าเป็นความสิ้นหวังของวงการหนังไทยแล้ว การได้วัตถุดิบชั้นดีอย่าง อั้ม ดาราแม่เหล็กที่นานๆจะรับงานแสดงสักทีมาแสดงหนังให้ มันน่าจะเป็นอะไรที่ต้องตั้งใจทำงาน แต่นี่กลับทำหนังออกมาเพลย์เซฟ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ในบทหนังที่โง่ๆ จำเจ ซ้ำซาก ข้าใจว่าปัญหาใหญ่คือระดับสมองของทีมงานที่มีจำกัด

หนังไม่ยอมใช้ศักยภาพของอั้มเลย กลับให้อั้มแสดงเป็นตัวของตัวเอง เดินเรื่องตลอดเรื่องด้วยความเป็นตัวของตัวเองในบทจำเจ เดิมๆ สวยรวยเก่งเชิ่ดๆ ดูไปดูมา เหมือนนั่งดูวิดีโอไดอารี่พัชราภา ไชยเชื้อ ที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ใดๆมาสร้างสรรค์ผลงานเลยแม้แต่น้อย เป้ อารักษ์ ก็แสดงเป็นเป้ อารักษ์ พูดลิ้นจุกปากเหมือนเดิม บทออกแนวเดิมๆ ผู้ช่วยนางเอกได้ล่อนางเอกเสียเอง
บรรดาพระเอกอย่าง ต้าบาบี้ , นาวินต้า ปิ๊บ รวิชญ์ เอาท์จนไม่มีคนสนใจแล้ว (นาวินต้าหน้าตาพิลึกมาก ไม่รู้ไปทำอะไรกับหน้ามา หน้าดูปลอมมาก)

ซิงเกิลเลดี้ ก็คือหนังไทยที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ การมีอั้ม พัชราภา ช่วยได้แค่คนที่เป็นแฟนคลับอั้มเข้าไปดูแล้วจะมีความสุขแค่นั้น แต่เอาเข้าจริงๆ แฟนคลับอั้มเปิดเนตดูภาพ เปิดข่าวดูอั้มออกงานอีเวนต์ เปิดทีวีดูอั้ม ถ่ายโฆษณา หรือดูอั้มในทีวีฟรีๆเค้าก็ดูได้ ไม่จำเป็นต้องไปดูอั้มแสดงหนังในบทบาทเดิมๆที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่แบบนี้หรอก

เต็มที่สุดๆแล้ว ให้ 3/10 นี่คือไม่รู้ให้เป็นคะแนนอะไร เป็นคะแนนยันต์กันผี กันแฟนคลับอั้มมาด่าละกันนะ เพราะมันไม่มีอะไรให้ชมเลย

ปล.สงสารคนที่นานๆจะเข้าโรงหนังไปดูหนังไทย แต่เค้ากลับต้องไปเจอกับอะไรจำเจที่ไม่สร้างสรรค์แบบนี้มันน่าเสียดายจริงๆ

จากอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก https://www.facebook.com/overhyp
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่