ชาติพันธุ์ม้งจี้ช่อง3-นกแล ขอโทษหลังพูดเหยียดหยามออกทีวี

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายยงยุทธ สืบทายาท ผู้อำนวยการสมาคมม้งในประเทศไทย กล่าวถึงกรณีวงดนตรีนกแล วงดนตรีชื่อดังจากจ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เดอะแฟมิลี่ แก๊งค์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีคำพูดในช่วงหนึ่งดูถูก และเหยียดหยามชาติพันธุ์ม้งว่า คำพูดที่ถูกพูดในรายการทำให้คนม้งเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี และรับไม่ได้ที่ถูกมองอย่างเหยียดหยามเช่นนั้น โดยพี่น้องชาวม้งทั่วไปเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก และแสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยในส่วนของสมาคม เตรียมทำเรื่องยื่นหนังสือเรียกร้องให้วงนกแล และ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งรับผิดชอบด้วยการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับชาติพันธุ์ม้ง ให้ผู้คนได้รับทราบว่าเป็นอย่างไร โดยจะดำเนินการใน 1-2 วันนี้

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ถูกพูดถึงนั้นขอยืนยันว่าอาจจะเป็นเพียงเรื่องเฉพาะตัว ที่กล่าวถึงในเรื่องความสะอาด ซึ่งทั้งที่จริงแล้วคนม้ง ก็เหมือนคนทั่วไปที่รักษาความสะอาด และซักเสื้อผ้าเป็นปกติ ฉะนั้น การจะพูดดูถูกหรือพูดเพื่อความสนุกสนานต้องดูด้วยว่าผู้พูดอยู่ในสถานะอะไร พูดเพื่อให้ใครฟัง หากพูดผ่านสื่อมวลชนเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ขณะเดียวกัน "สมาคมม้งในประเทศไทย" ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่องการดูถูกเหยียดหยามชนเผ่าชาติพันธุ์ม้ง ความว่า กรณีรายการ “เดอะแฟมิลี่ แก๊งค์” นำวงดนตรี “นกแล” มาแสดงทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.58 และโหลดรายการเผยแพร่ในเวปไซต์ยูทูบ โดยคณะนักร้องนักแสดงได้แต่งกายชุดเสื้อผ้าของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง อันเป็นจุดเด่นของวงมาตั้งแต่เริ่มตั้งวงดนตรี จนกลายเป็นที่รับรู้ของแฟนเพลงผู้ชมทั่วไป ตลอดจนสังคมไทยโดยทั่วไปว่าชุดเสื้อผ้าที่นักแสดงวงนกแล สวมใส่นี้เป็นเสื้อผ้าของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง

แต่ในการให้สัมภาษณ์ระหว่างรายการ โดยมีนายวิทวัส สุนทรวิเนตร และทีมงานผู้ดำเนินรายการตอนหนึ่งของการสัมภาษณ์ นายสมเกียรติ สยะราช ผู้ก่อตั้งวงดนตรีนกแล ได้กล่าวถ้อยคำว่า “หนึ่งปีแม้วเขาใส่เเล้วก็ถอดทิ้งเลยไม่เอา และไม่เคยซักไม่เคยอาบน้ำ” จากนั้นผู้ดำเนินรายการหญิง และชาย กล่าวตามว่า  “ถึงว่าวันนี้ในสตู นึกว่าแม่บ้านทำปลาเค็มอะไร กลิ่นชุดนี่เอง เหม็นไปทั้งสตูเลย” อันเป็นถ้อยคำที่ดูถูกเหยียดหยามกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง กับเป็นการแสดงให้เห็นถึงอคติที่มีต่อกลุ่มคนต่างเชื้อชาติ และต่างวัฒนธรรม โดยคนที่มีการศึกษาที่เป็นถึงครูบาอาจารย์ และคนทำงานด้านสื่อสารมวลชนในสังคมไทย อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในลักษณะของการเหมารวม ที่ทำให้สังคมโดยทั่วไปเข้าใจชาวม้งในทางที่ผิด ตลกขบขัน และเป็นกลุ่มชนที่สกปรกน่ารังเกียจของสังคม

ผลจากการออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 และการถูกนำไปเผยแพร่ต่อในสังคมออนไลน์ ได้ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อพี่น้องม้ง ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการถูกนำไปออกรายการโทรทัศน์ภาคภาษาม้ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา

สมาคมม้ง และพี่น้องชาวม้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงขอให้นายสมเกียรติ คณะนักร้องนักดนตรีวงนกแล รวมทั้งผู้ดำเนินรายการทุกท่านที่เป็นผู้ที่กล่าวถ้อยคำเหล่านั้น ออกมา ขอโทษต่อชนเผ่าม้งอย่างเป็นทางการ และขอให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย อันจะนำมาซึ่งความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ และขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายร่วมกันหามาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีกในอนาคต

ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อ 20 กว่าปีก่อน รัฐบาลไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) เคยกำหนดคำเรียกกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการพูดที่เหยียดหยามดูถูกพวกเขาขึ้นมา อาทิ อีก้อ เปลี่ยนมาเรียกว่า อาข่า ส่วน แม้ว ก็เปลี่ยนมาเรียกว่า ม้ง น่าเสียดายที่วงดนตรีนกแล ที่เป็นวงดนตรีที่สะท้อนภาพตัวแทนของเด็กบนดอย น่าจะเข้าใจกลุ่มชาติพันธุ์ แต่กลับนำมาพูดเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน ทั้งที่เรื่องการดูถูกเหยียดหยามชาติพันธุ์นั้น เป็นเรื่องที่ต้องระวังในการพูด เพราะจะเห็นได้ว่าสงครามที่เกิดขึ้นในโลกนี้หลายพื้นที่ก็มาจากการไม่ยอมรับการทางด้านชาติพันธุ์จนเกิดความไม่เข้าใจ และลุกลากบานปลายจนเป็นสงคราม

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ มานานเเล้ว และปฎิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ต้องทำหนังสือรายงานสถานการ ปฏิบัติต่อกลุ่มชาติพันธุ์ถึงสหประชาชาติมาโดยตลอด ความสำคัญของชาติพันธุ์ยังถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มีการบัญญัติเรื่องนี้ไว้ด้วย ฉะนั้น ผู้พูดต้องระวังการพูดในลักษณะเช่นนี้ เพราะอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ในส่วนของวงนกแลนั้น ควรออกมาขอโทษ และร่วมกับกลุ่มชาวม้งเผยแพร่วัฒนธรรมที่ถูกต้องของชาวม้งต่อไป

ที่มา  
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16QTFNamMyTnc9PQ%3D%3D&subcatid

คลิปรายการ
https://www.youtube.com/watch?v=lBJPh4u1Hq8
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่