ที่มา:
http://news.voicetv.co.th/thailand/162708.html
ดัชนีเสรีภาพสื่อในประเทศไทย ปี 2557 ได้คะแนน 1.5 เพราะมีกฎหมายจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และสะท้อนว่า นักข่าวเป็นได้เพียงช่างเทคนิคหรือนักเขียนข่าว
แม้คสช.จะไม่อนุญาตให้จัดแถลง"ดัชนีชี้วัดสถานภาพสื่อเอเชีย: ประเทศไทย 2557" หรือ Asian Media Barometer : Thailand 2014 ในวันศุกร์ (30 ม.ค.58) ที่ผ่านมา แต่รายงานของมูลนิธิฟรีดริคเอแบร์ท ได้เผยแพร่แล้ว โดยประเด็นที่น่าสนใจ จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน เช่น ความเป็นมืออาชีพสื่อไทยอยู่ระดับปานกลางที่ 2.5 คะแนน
ส่วนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพของสื่อ พบว่าไทยได้คะแนน 2.8 เช่น หลังการรัฐประหาร 2557 มีบรรยากาศของความหวาดกลัวเกิดขึ้น เพราะสื่อถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การปิดเว็บบอร์ดทางอินเตอร์เน็ต และไทยได้คะแนน 1.5 ด้านกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนอย่าง น้อย 3 กลุ่มคือ กฎหมายหมิ่นประมาท กฎหมายข้อมูลข่าวสารและกฎหมายสื่อมวลชนและหลังการรัฐประหาร คสช. ประกาศและคำสั่งเกี่ยวกับการควบคุมสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนรวม 20 ฉบับ
ส่วนองค์กรวิชาชีพ ถูกกำหนดจากผู้บริหารองค์กรสื่อ จึงไม่มีอำนาจต่อรอง โดยเฉพาะการพิจารณาไม่ลงโทษลงนักข่าวที่ผิดจรรยาบรรณ หากนักข่าวหรือการทำผิดจรรยาบรรณนั้นสร้างรายได้จำนวนมากให้แก่องค์กร
นอกจากนี้ สื่อไม่ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงพอ แข่งที่ความรวดเร็ว ทำให้ข้อมูลผิดพลาดแล้ว และตกเป็นเครื่องมือในการปั่นข่าวของกลุ่มผลประโยชน์ นักข่าวเป็นได้เพียงช่างเทคนิคหรือนักเขียนข่าว และการนำเสนอข่าวมีความโน้มเอียงและเลือกหยิบเพียงบางมุมขึ้นมารายงาน
ส่วนการเซ็นเซอร์ตนเองอยู่ในดีเอ็นเอของสื่อไทยมาโดยตลอดและถือเป็นเรื่องปกติ หากเนื้อหาข่าวเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลและกลุ่มผลประโยชน์ และสื่อออนไลน์มักนำเสนอข่าวที่สื่อกระแสหลักไม่รายงาน
ดัชนีเสรีภาพสื่อไทย ได้แค่ 1.5 คะแนน
ดัชนีเสรีภาพสื่อในประเทศไทย ปี 2557 ได้คะแนน 1.5 เพราะมีกฎหมายจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น และสะท้อนว่า นักข่าวเป็นได้เพียงช่างเทคนิคหรือนักเขียนข่าว
แม้คสช.จะไม่อนุญาตให้จัดแถลง"ดัชนีชี้วัดสถานภาพสื่อเอเชีย: ประเทศไทย 2557" หรือ Asian Media Barometer : Thailand 2014 ในวันศุกร์ (30 ม.ค.58) ที่ผ่านมา แต่รายงานของมูลนิธิฟรีดริคเอแบร์ท ได้เผยแพร่แล้ว โดยประเด็นที่น่าสนใจ จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน เช่น ความเป็นมืออาชีพสื่อไทยอยู่ระดับปานกลางที่ 2.5 คะแนน
ส่วนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพของสื่อ พบว่าไทยได้คะแนน 2.8 เช่น หลังการรัฐประหาร 2557 มีบรรยากาศของความหวาดกลัวเกิดขึ้น เพราะสื่อถูกควบคุมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การปิดเว็บบอร์ดทางอินเตอร์เน็ต และไทยได้คะแนน 1.5 ด้านกฎหมายจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนอย่าง น้อย 3 กลุ่มคือ กฎหมายหมิ่นประมาท กฎหมายข้อมูลข่าวสารและกฎหมายสื่อมวลชนและหลังการรัฐประหาร คสช. ประกาศและคำสั่งเกี่ยวกับการควบคุมสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนรวม 20 ฉบับ
ส่วนองค์กรวิชาชีพ ถูกกำหนดจากผู้บริหารองค์กรสื่อ จึงไม่มีอำนาจต่อรอง โดยเฉพาะการพิจารณาไม่ลงโทษลงนักข่าวที่ผิดจรรยาบรรณ หากนักข่าวหรือการทำผิดจรรยาบรรณนั้นสร้างรายได้จำนวนมากให้แก่องค์กร
นอกจากนี้ สื่อไม่ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงพอ แข่งที่ความรวดเร็ว ทำให้ข้อมูลผิดพลาดแล้ว และตกเป็นเครื่องมือในการปั่นข่าวของกลุ่มผลประโยชน์ นักข่าวเป็นได้เพียงช่างเทคนิคหรือนักเขียนข่าว และการนำเสนอข่าวมีความโน้มเอียงและเลือกหยิบเพียงบางมุมขึ้นมารายงาน
ส่วนการเซ็นเซอร์ตนเองอยู่ในดีเอ็นเอของสื่อไทยมาโดยตลอดและถือเป็นเรื่องปกติ หากเนื้อหาข่าวเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิทธิพลและกลุ่มผลประโยชน์ และสื่อออนไลน์มักนำเสนอข่าวที่สื่อกระแสหลักไม่รายงาน