ฉันเป็นคนที่เรียนวิชาภาษาไทยแล้วตกมาตั้งแต่ชั้นประถมเลย จึงทำให้การใช้คำหรือประโยคอาจไม่ถูกต้องก็ขออภัยด้วยนะคะ
ฉันเกิดมาในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีถนนลาดยาง
ตอนอายุ 7 ขวบ ฉันก็เข้าโรงเรียนประจำหมู่บ้าน วันแรกที่ฉันได้ไปโรงเรียนฉันรู้สึกดีใจมากๆ (ยังจำได้ว่าพี่สาวเอาดินสอกับสมุดที่เป็นรูปในหลวงสีน้ำตาลมาให้แล้วบอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนกับพี่นะ )
ฉันไปโรงเรียนวันแรกไม่ยอมไปเข้าแถวในห้องของตัวเองจะไปเข้าแถวกับพี่สาว จนเพื่อนทั้งโรงเรียนก็มองฉันเป็นตาเดียวกัน ฉันไม่ได้เรียนชั้นอนุบาลแต่ไปเข้าเรียนชั้นป.1 เลย จึงทำให้ช้ากว่าเพื่อนและฉันไม่ได้ขีดๆ เป็นเส้นๆ จึงทำให้ปัจจุบันนี้ฉันเขียนหนังสือไม่ตรงและไม่สวยเลยทีเดียว
ไปโรงเรียนได้พักนึงคุณครูให้นักเรียนช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน ถางหญ้า และเก็บเศษขยะ บริเวณรอบๆ โรงเรียน ความโชคร้ายของฉัน ทำให้ฉันไปเหยียบใส่ตะปูที่ติดอยู่กับแผ่นไม้ ซึ่งตะปูขึ้นสนิมเป็นสีดำเลือดไหลเต็มรองเท้าแต่ก็ไม่กล้าบอกคุณครู กลับบ้านมาบอกพ่อกับแม่ พ่อจึงพาไปฉีดยาป้องกันบาดทะยักที่โรงพยาบาล บ้านฉันห่างจากโรงพยาบาลไปประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้าไปยังตัวอำเภอ ขี่มอเตอร์ไซด์ไปกันสองคน
ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งถึงพ่อผู้จากไป
ฉันเกิดมาในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีถนนลาดยาง
ตอนอายุ 7 ขวบ ฉันก็เข้าโรงเรียนประจำหมู่บ้าน วันแรกที่ฉันได้ไปโรงเรียนฉันรู้สึกดีใจมากๆ (ยังจำได้ว่าพี่สาวเอาดินสอกับสมุดที่เป็นรูปในหลวงสีน้ำตาลมาให้แล้วบอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนกับพี่นะ )
ฉันไปโรงเรียนวันแรกไม่ยอมไปเข้าแถวในห้องของตัวเองจะไปเข้าแถวกับพี่สาว จนเพื่อนทั้งโรงเรียนก็มองฉันเป็นตาเดียวกัน ฉันไม่ได้เรียนชั้นอนุบาลแต่ไปเข้าเรียนชั้นป.1 เลย จึงทำให้ช้ากว่าเพื่อนและฉันไม่ได้ขีดๆ เป็นเส้นๆ จึงทำให้ปัจจุบันนี้ฉันเขียนหนังสือไม่ตรงและไม่สวยเลยทีเดียว
ไปโรงเรียนได้พักนึงคุณครูให้นักเรียนช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน ถางหญ้า และเก็บเศษขยะ บริเวณรอบๆ โรงเรียน ความโชคร้ายของฉัน ทำให้ฉันไปเหยียบใส่ตะปูที่ติดอยู่กับแผ่นไม้ ซึ่งตะปูขึ้นสนิมเป็นสีดำเลือดไหลเต็มรองเท้าแต่ก็ไม่กล้าบอกคุณครู กลับบ้านมาบอกพ่อกับแม่ พ่อจึงพาไปฉีดยาป้องกันบาดทะยักที่โรงพยาบาล บ้านฉันห่างจากโรงพยาบาลไปประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้าไปยังตัวอำเภอ ขี่มอเตอร์ไซด์ไปกันสองคน