ภาพเดิม แสดงไว้โดย พม ไพโรจน์
.
CR.
https://www.facebook.com/profile.php?id=1604870167
ภาพ ข้อสงสัย
วิธีการนับสิกขาบทปาติโมกข์แบบนี้ ใครบัญญัติ ?
.
เนื้อความพระไตรปิฏก ตาม ภาพ การนับสิกขาบท
อาปัตติภยวรรคที่ ๕
[๒๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โฆสิตารามใกล้เมืองโกสัมพี
ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า
ดูกรอานนท์ อธิกรณ์นั้นระงับแล้วหรือ
ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
อธิกรณ์นั้นจักระงับแต่ที่ไหน
สัทธิวิหาริกของท่านพระอนุรุทธ์ชื่อว่าพาหิยะ
ตั้งอยู่ในการทำลายสงฆ์ถ่ายเดียว
เมื่อพระพาหิยะตั้งอยู่อย่างนั้นแล้ว
ท่านพระอนุรุทธ์ก็ไม่สำคัญที่จะพึงว่ากล่าวแม้สักคำเดียว
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรอานนท์ เมื่อไร อนุรุทธ์จะจัดการชำระอธิกรณ์ในท่ามกลางสงฆ์
อธิกรณ์ชนิดใดก็ตามที่บังเกิดขึ้น
เธอทั้งหลายกับสารีบุตรและโมคคัลลานะต้องระงับอธิกรณ์ทั้งหมดนั้นมิใช่หรือ
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามก เล็งเห็นอำนาจประโยชน์ ๔ ประการนี้
ย่อมยินดีด้วยการทำลายสงฆ์ อำนาจประโยชน์ ๔ ประการเป็นไฉน
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ทุศีล มีบาปธรรม มีความประพฤติไม่
สะอาด น่ารังเกียจ มีการงานอันปกปิด มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์
เป็นคนเน่าใน ชุ่มด้วยกิเลส รุงรังด้วยโทษ
เธอปริวิตกอย่างนี้ว่า
ถ้าภิกษุทั้งหลายจักรู้เราว่า เป็นคนทุศีล มีบาปธรรม...
รุงรังด้วยโทษ จักเป็นผู้พร้อมเพรียงกันนาสนะเราเสีย
แต่ภิกษุผู้เป็นพรรคพวกจักไม่นาสนะเรา
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามก เล็งเห็นอำนาจประโยชน์ที่ ๑ นี้ ย่อมยินดีด้วยการทำลายสงฆ์ ฯ
-
-
[๒๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกลัวต่ออาบัติ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน
-
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาราชิกทั้งหลาย ข้อนั้นเป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรมคือ ปาราชิก
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ สังฆาทิเสสทั้งหลาย ข้อนั้นเป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือ สังฆาทิเสส
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุ หรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาจิตตีย์ทั้งหลาย ข้อนี้เป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือ ปาจิตตีย์
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือ ความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาฏิเทสนียะทั้งหลาย ข้อนั้นพึงหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือปาฏิเทสนียะ
จักไม่ต้อง ผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกลัวต่ออาบัติ ๔ ประการนี้แล ฯ
[๒๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้
อันมีสิกขาเป็นอานิสงส์ มีปัญญาเป็นยอด มีวิมุตติเป็นแก่น มีสติเป็นอธิปไตย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พรหมจรรย์มีสิกขาเป็นอานิสงส์อย่างไร
สิกขา คือ อภิสมาจาร
เราบัญญัติแก่สาวกทั้งหลายในธรรมวินัยนี้
เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใสเพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว
สิกขา คือ อภิสมาจาร เราบัญญัติแล้วแก่สาวก
เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส เพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว
ด้วยประการใดๆ
สาวกนั้นเป็นผู้มีปรกติไม่ทำสิกขานั้นให้ขาดไม่ให้ทะลุ ไม่ให้ด่าง ไม่ให้พร้อย
ย่อมสมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายด้วยประการนั้นๆ
-
-
[๒๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูปารหบุคคล ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจกพุทธะ ๑
สาวกของพระตถาคต ๑
พระเจ้าจักรพรรดิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูปารหบุคคล ๔ จำพวกนี้แล ฯ
[๒๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ
ย่อมเป็นไปเพื่อความ เจริญแห่งปัญญา ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน
คือ สัปปุริสสังเสวะ การคบสัปบุรุษ ๑
สัทธรรมสวนะ ฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑
โยนิโสมนสิการ ทำไว้ ในใจโดยแยบคาย ๑
ธรรมานุธรรมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญแห่งปัญญา ฯ
[๒๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ เป็นธรรมมีอุปการะมากแก่มนุษย์
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ
สัปปุริสสังเสวะ ๑
สัทธรรมสวนะ๑
โยนิโสมนสิการ ๑
ธรรมานุธรรมปฏิปัตติ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล เป็นธรรมมีอุปการะมากแก่มนุษย์ ฯ
[๒๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
โวหารอันมิใช่ของพระอริยะ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้เห็นว่าเห็น ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้ฟังว่าได้ฟัง ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้ทราบว่าได้ทราบ ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้รู้ว่าได้รู้ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โวหารอันไม่ใช่ของ พระอริยะ ๔ ประการนี้แล ฯ
เนื้อความพระไตรปิฏกเต็มพระสูตร คลิกที่นี่
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=21&item=243&items=12&preline=0
การนับสิกขาบทตามพุทธวจน(150ถ้วน)
.
CR. https://www.facebook.com/profile.php?id=1604870167
ภาพ ข้อสงสัย
วิธีการนับสิกขาบทปาติโมกข์แบบนี้ ใครบัญญัติ ?
.
เนื้อความพระไตรปิฏก ตาม ภาพ การนับสิกขาบท
อาปัตติภยวรรคที่ ๕
[๒๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โฆสิตารามใกล้เมืองโกสัมพี
ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า
ดูกรอานนท์ อธิกรณ์นั้นระงับแล้วหรือ
ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
อธิกรณ์นั้นจักระงับแต่ที่ไหน
สัทธิวิหาริกของท่านพระอนุรุทธ์ชื่อว่าพาหิยะ
ตั้งอยู่ในการทำลายสงฆ์ถ่ายเดียว
เมื่อพระพาหิยะตั้งอยู่อย่างนั้นแล้ว
ท่านพระอนุรุทธ์ก็ไม่สำคัญที่จะพึงว่ากล่าวแม้สักคำเดียว
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรอานนท์ เมื่อไร อนุรุทธ์จะจัดการชำระอธิกรณ์ในท่ามกลางสงฆ์
อธิกรณ์ชนิดใดก็ตามที่บังเกิดขึ้น
เธอทั้งหลายกับสารีบุตรและโมคคัลลานะต้องระงับอธิกรณ์ทั้งหมดนั้นมิใช่หรือ
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามก เล็งเห็นอำนาจประโยชน์ ๔ ประการนี้
ย่อมยินดีด้วยการทำลายสงฆ์ อำนาจประโยชน์ ๔ ประการเป็นไฉน
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ทุศีล มีบาปธรรม มีความประพฤติไม่
สะอาด น่ารังเกียจ มีการงานอันปกปิด มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์
เป็นคนเน่าใน ชุ่มด้วยกิเลส รุงรังด้วยโทษ
เธอปริวิตกอย่างนี้ว่า
ถ้าภิกษุทั้งหลายจักรู้เราว่า เป็นคนทุศีล มีบาปธรรม...
รุงรังด้วยโทษ จักเป็นผู้พร้อมเพรียงกันนาสนะเราเสีย
แต่ภิกษุผู้เป็นพรรคพวกจักไม่นาสนะเรา
ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ลามก เล็งเห็นอำนาจประโยชน์ที่ ๑ นี้ ย่อมยินดีด้วยการทำลายสงฆ์ ฯ
-
-
[๒๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกลัวต่ออาบัติ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน
-
-
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาราชิกทั้งหลาย ข้อนั้นเป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรมคือ ปาราชิก
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ สังฆาทิเสสทั้งหลาย ข้อนั้นเป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือ สังฆาทิเสส
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุ หรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาจิตตีย์ทั้งหลาย ข้อนี้เป็นอันหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือ ปาจิตตีย์
จักไม่ต้อง หรือผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุหรือภิกษุณีบางรูป เข้าไปตั้งสัญญาคือ ความกลัวอันแรงกล้าอย่างนั้นไว้ในธรรม
คือ ปาฏิเทสนียะทั้งหลาย ข้อนั้นพึงหวังได้ว่า ผู้ที่ยังไม่ต้องธรรม คือปาฏิเทสนียะ
จักไม่ต้อง ผู้ที่ต้องแล้วจักกระทำคืนตามธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกลัวต่ออาบัติ ๔ ประการนี้แล ฯ
[๒๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมอยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้
อันมีสิกขาเป็นอานิสงส์ มีปัญญาเป็นยอด มีวิมุตติเป็นแก่น มีสติเป็นอธิปไตย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พรหมจรรย์มีสิกขาเป็นอานิสงส์อย่างไร
สิกขา คือ อภิสมาจาร
เราบัญญัติแก่สาวกทั้งหลายในธรรมวินัยนี้
เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใสเพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว
สิกขา คือ อภิสมาจาร เราบัญญัติแล้วแก่สาวก
เพื่อความเลื่อมใสของผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส เพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว
ด้วยประการใดๆ
สาวกนั้นเป็นผู้มีปรกติไม่ทำสิกขานั้นให้ขาดไม่ให้ทะลุ ไม่ให้ด่าง ไม่ให้พร้อย
ย่อมสมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายด้วยประการนั้นๆ
-
-
[๒๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูปารหบุคคล ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ
พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจกพุทธะ ๑
สาวกของพระตถาคต ๑
พระเจ้าจักรพรรดิ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูปารหบุคคล ๔ จำพวกนี้แล ฯ
[๒๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ
ย่อมเป็นไปเพื่อความ เจริญแห่งปัญญา ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน
คือ สัปปุริสสังเสวะ การคบสัปบุรุษ ๑
สัทธรรมสวนะ ฟังคำสั่งสอนของท่าน ๑
โยนิโสมนสิการ ทำไว้ ในใจโดยแยบคาย ๑
ธรรมานุธรรมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญแห่งปัญญา ฯ
[๒๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ เป็นธรรมมีอุปการะมากแก่มนุษย์
ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ
สัปปุริสสังเสวะ ๑
สัทธรรมสวนะ๑
โยนิโสมนสิการ ๑
ธรรมานุธรรมปฏิปัตติ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการนี้แล เป็นธรรมมีอุปการะมากแก่มนุษย์ ฯ
[๒๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โวหารอันมิใช่ของพระอริยะ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้เห็นว่าเห็น ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้ฟังว่าได้ฟัง ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้ทราบว่าได้ทราบ ๑
ความเป็นผู้กล่าวสิ่งที่ไม่ได้รู้ว่าได้รู้ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โวหารอันไม่ใช่ของ พระอริยะ ๔ ประการนี้แล ฯ
เนื้อความพระไตรปิฏกเต็มพระสูตร คลิกที่นี่
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=21&item=243&items=12&preline=0