ตอนนี้ในสมองมันวุ่นวายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มเรื่องยังไง
ก่อนอื่นต้องขอเล่าพื้นฐานตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวฐานะปานกลาง ครอบครัวอบอุ่นมาก พ่อแม่รักและตามใจ
แต่ไม่ได้สปอยล์จนเสียผู้เสียคน ทุกคนรอบข้างเรา เพื่อน แฟน พี่ที่ทำงาน ทุกคนรักและเอ็นดูเรามาก
เรามีแฟนตอนนี้ไปเรียนต่อเมืองนอก คบกันมานานมากแล้ว สัญญากันไว้ว่าเรียนจบจะกลับมาแต่งงานกัน ชีวิตดูดีมากใช่มั้ยคะ
ตัดเข้าเรื่อง เราทำงานสายก่อสร้างอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เราทำที่นี่มาหลายปีแล้วก็ออกไปจึงกลับเข้าทำอีกครั้ง
เราเช่าห้องพักอยู่ใกล้ที่ทำงาน กลับบ้านนครปฐมอาทิตย์ละครั้ง
เรากลับเข้ามาทำงานที่นี่ได้ประมาณปีเศษๆ แรกเริ่มก็ใช้ชีวิตตามลำพังจนเคยชิน เราค่อนข้างนิสัยลูกคนเดียว มีโลกส่วนตัวพอสมควร
สามเดือนแรกผ่านไปเราทำงานอย่างมีความสุข เพราะคุ้นเคยกับพี่ๆทุกคนเป็นอย่างดี จนวันหนึ่งมีน้องใหม่เข้ามาทำงาน
น้องเป็นเด็กผู้หญิง เพิ่งเรียนจบวิศวะมาหมาดๆ น้องเป็นผู้หญิงบุคลิกแมนๆคุยกันครัช ตามสไตล์เด็กช่าง แต่นางไม่ใช่ทอม นางมีแฟนเป็นผู้ชาย
แรกเริ่มที่เรารู้จักนาง เราออกจะเฉยๆ ไปจนถึงไม่ชอบนางเสียด้วยซ้ำ เพราะนิสัยหลายๆอย่าง ของนาง
แต่ด้วยวันเวลาผ่านไป เรากับนางกลับสนืทสนมกันมากขึ้นตามลำดับ นางพูดกับเราเสมอว่า นางรักเราเหมือนพี่สาว
เรากับนางอายุห่างกันเกือบ 10 ปี เราเห็นนางเป็นเด็กเป็นน้องเราคนหนึ่งเลย และด้วยความสนิทสนมนี้ ทำให้นางย้ายมาอยู่กับเราในที่สุดช่วงครึ่งปีหลัง
เรากับนางตัวติดกันตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ที่ไหน ยังไง เราไปด้วยกันเสมอ จะห่างกันแค่วันอาทิตย์ที่เราต้องกลับบ้าน กระนั้นก็ยังคุยไลน์กันตลอด
ด้วยนิสัยนางอย่างที่เราบอกนางแมนๆ ตามประสาเด็กช่าง ไม่จู้จี้จุกจิก เราต้องการอะไร นางไม่เคยขัดใจเราแม้สักครั้งเดียว นางตามใจเราทุกอย่าง
แม้กระทั่งวันที่เราซื้อรถ นางก็ยินดีค้ำประกันให้เราโดยไม่อิดออดเลย มันทำให้นางได้ใจเราไปเต็มๆ
ทุกคืนที่เรานอนด้วยกัน เราจะนอนคุยกันเรื่องนั้น เรื่องนี้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตซึ่งกันและกัน และนางก็เล่าเรื่องที่บ้านของนางให้เราฟังในที่สุด
นางเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก แม่ดื่มเหล้าตบตีทำร้ายร่างกายนางทุกวัน พานางไปขังไว้ในห้องเก็บของไม่ให้กินข้าวกินปลา
ส่วนพ่อไปมีเมียน้อยโดยที่ไม่เคยรู้ว่าลูกสาวโดนแม่ทำร้ายเพราะไม่เคยกลับบ้านมาดู นางมีน้องชายคนนึง ทุกวันต้องคอยพาน้องชายหนีไปหลบที่อื่นเพื่อไม่ให้แม่ทำร้าย
นางเคยกรีดข้อมือตัวเอง เลียนแบบละครที่นางเคยดู เสียเลือดมากจนแม่เข้ามาพบและพาส่ง รพ. ปัจจุบันแม่เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 5 ปี
นางเติบโตมาท่ามกลางสภาวะแบบนี้ นางเรียนสายช่าง ทุกอย่างหล่อหลอมให้นางแข็งแกร่ง นางมีแฟนที่คบกันตอนเรียนก่อสร้าง
คบกันมาได้สัก 5 ปี วันนึงแฟนนางมาบอกเลิก เราเห็นนางร้องไห้ครั้งแรกในวันนั้น
ตัดกลับมาที่เรา หลังจากที่เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆในชีวิตนาง คืนนั้นขณะที่นางเล่า เรานอนร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความสงสาร
เราไม่คิดว่านางจะพบเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ในชีวิต นั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราอยากเป็นใครสักคนที่นางอยุ่ด้วยแล้ว นางรู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย
เราจึงมอบความรักกลับไปให้นางอย่างเต็มที่มากกว่าเดิม ไม่ว่านางจะเดือดร้อนเรื่องใด เรามักจะเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนางเสมอๆ
และด้วยความที่มันสนิทกันมาก มันจึงมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา เพราะนิสัยส่วนตัวเราด้วย เรามุ้งมิ้ง เราสายหวาน เราสายเอาแต่ใจ
วันนึงเราแสดงอาการงอนนาง เพราะนางขัดใจเรา เป็นครั้งแรกที่เรางอน นางงง นางไม่เคยเจอมุมนี้ของเรา จากพี่ที่แสนดี เราเริ่มกลายเป็นคนงี่เง่า
เวลาอยู่กับนาง เรากลายเป็นคนขี้งอน เพื่ออยากให้นางง้อ เพื่ออยากให้นางเอาใจเรา ตามใจเราเหมือนเคย เราเรียกร้องจากนางมากขึ้นโดยที่เราทั้งคู่ไม่รู้ตัว
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้เรื่อยๆ จนวันหนึ่งก่อนหยุดยาวปีใหม่ อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยห่างกัน เราตัวติดกันตลอด พอวันหยุดมาถึง นางต้องลาไปธุระกับที่บ้าน
เรายังมาทำงานอยู่ ความรู้สึกคือเราคิดถึงนางมากกกกก มากจนเราต้องโทรหานาง หาเรื่องให้นางมาพาเราไปนู้นไปนี่ ซึ่งนางก็มาด้วยความเต็มใจ
วินาที่ที่เราได้เจอนาง เรามีความสุขมาก เราหายคิดถึง เราร่าเริง เราแแฮปปี้ จนเรากลับบ้าน เราไลน์หานางตลอดเวลา ชวนนางคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้
เราไปต่างจังหวัดกับครอบครัว เราก็รบเร้าให้กลับบ้านเพื่อที่เราจะชวนนางไปเที่ยว ซึ่งตามแผนนางจะต้องไปธุระกับที่บ้าน แต่นางก็ไม่ไป
นางกลับพาเราไปเที่ยวตามที่เราต้องการ เรามีความสุขแบบบรรยายไม่ถูก อยากอยู่กับนางแบบนี้ตลอดไป เราลองถามใจตัวเองดูแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ระหว่างเรากับนาง แต่ทุกครั้งเราก็จะมีเหตุผลให้ตัวเองว่า เราไม่ได้ชอบนางในเชิงชู้สาว เราแค่รู้สึกดี รู้สึกอบอุ่น รุ้สึกปลอดภัยเมือมีนางอยู่กับเรา
เพราะนางคอยเอาใจตามใจเราไม่เคยขัดเลย เราไม่ได้รักนางเกินเลยไปกว่าคำว่าพี่น้อง เราไม่ได้ผิดปกติทางเพศ และนางเองก็ไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน
วันหยุดผ่านไปจนมาถึงวันเปิดงาน เราให้แม่ทำกับข้าวที่นางชอบเตรียมมาให้นาง เราอยากให้นางกิน ปรากฎว่านางกินข้าวไปแล้ว
เราก็งอนพลั้งปากบอกนางไปว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเทให้หมากิน อะไรๆที่แม่ทำมา เดี๋ยวเทให้หมากินให้หมด เราไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นชนวนเล็กๆ ให้นางนำเรือองนี้ไประบายกับเพื่อน
สายวันนั้น เราเห็นนางโพสต๋เฟสบุค ประมาณว่านางไม่ใช่ถังขยะเอะอะก็เหวี่ยง เอะอะก็วีน เราถามนางไปตามตรงว่า หมายถึงใคร
นางบอกว่าเพื่อน แต่ด้วยความงี่เง่าของเรา เราจึงไปเปิดแชทที่นางคุยกับเพื่อน เราจึงได้รู้ นางเอาความอึดอัดใจที่ได้รับจากเราไประบายให้เพื่อนฟัง
เราอ่านไปน้ำตาไหลพรากเหมือนคนถูกหักหลัง เราเสียใจที่นางเอาเราไปพูดลับหลังกับเพื่อนแบบนั้น เราทนอ่านจนจบและเก็บความรู้สึกนั้นไว้
จนกลับห้องไปเจอนางเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เราไม่อยากเห็นหน้านาง เรารู้สึกตัวชาเหมือนโดนตบ เราเข้าห้องนอนโดยไม่พูดกัน เรานอนหันหลังให้นางตลอดทั้งคืน
จนเราเห็นนางหลับไปแล้ว เราจึงพิมพ์ข้อความส่งให้นางทางไลน์ คืนนั้นเรานอนไม่หลับทั้งคืน คอยคิดถึงแต่เรื่องที่เกิด จนรุ่งเช้าเรารีบขับรถออกไปข้างนอก
ใจความในไลน์ระบุว่า เราขอโทษที่ทำให้นางอึดอัด แต่ทุกอย่างที่เราแสดงออกไป ไมว่าจะเป็นการงอน การมุ้งมิ้งอะไรต่างๆนานา เราไม่เคยคิดกับนางเกินเลย
เราอยากให้นางเข้าใจตรงนี้ เราไม่เคยมีพี่น้องที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขนาดนี้ พอมีนางเข้ามา นางมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของเรา เราไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
เส้นบางๆที่เราเคยมีกับนางมันหายไปจนหมดสิ้น เราพยายามจะเป็นพี่ที่ดีให้นาง แต่ด้วยความที่ตัวเราก็มุ้งมิ้งเกินไป มันเลยกลายเป็นความงี่เง่าบ้างอะไรบ้าง
แสดงออกมาให้นางเห็น ให้นางต้องคอยเอาใจ คอยงอนง้อพี่สาวคนนี้ ใจความคร่าวๆมีประมาณนี้
เราขับรถไปเรื่อยๆ ประมาณ 8 โมง นางอ่านแล้วตอบกลับมาว่า ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น นางไม่เคยเจอใครแบบเรา นางจึงเอาใจไม่ถูกเวลาเรางี่เง่า
และสุดท้ายนางบอกว่านางจะกลับไปอยู่บ้าน เพื่อไม่ให้เราลำบากใจอีก
คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่เราได้นอนด้วยกัน หลังจากวันนั้น เรากับนางก็ไม่ได้พูดกัน เราขับรถไปหาเพื่อน ส่วนนางทำงานแค่ครึ่งวันแล้วก็กลับบ้านไป
เรากลับมานอนที่ห้องในคืนนั้น และไลน์ถามนางว่าจะกลับมานอนกับพี่มั้ย นางบอกไม่กลับ จะกลับไปนอนบ้าน
คืนนั้นเรานอนร้องไห้ทั้งคืน เราคิดถึงนางมาก มากเหมือนคนอกหัก เราเห็นหมอน เห็นเสื้อผ้านาง เราเอามากอดร้องไห้จวนเจียนจะเป็นบ้า
เรากินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนวันรุ่งขึ้นนางมาทำงาน เราอึดอัดทนไม่ได้ที่นางหมางเมิน เฉยชากับเราไปแบบนี้ เราเดินเข้าไปถามนางที่โต๊ะว่า
ต้องการให้มันเป็นแบบนี้เหรอ ต้องการให้มันจบแบบนี้ใช่มั้ย นางก็ตอบมาตามสไตล์แมนๆครัชของนางว่า ก็ไม่ได้อะไรนี่ ก็คุยกันเหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกเราบอกว่ามันไม่ใช่ วันนั้นเราพานางเข้าไปคุยที่ห้องกันสองคน เราพูด เราบอกความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นทุกอย่างของเราให้นางฟัง
เราหวังว่าจะได้ยิน ได้รับรู้ความรู้สึกลึกๆของนางบ้าง แต่ไม่เลย นางใจแข็ง ปากแข็งเกินกว่าที่เราคิดไว้เยอะ เราก็ได้แต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว พูดไปร้องไห้ไป
จนสักพักเราเห็นนางนั่งนิ่ง เงียบ ร้องไห้ เราจึงถามนางว่า นางร้องไห้ทำไม นางจึงหลุดออกมาว่า นางเสียใจที่ทำให้เราร้องไห้ ความรู้สึกนางเหมือนทำให้แม่ร้องไห้
พอได้ยินแบบนั้น เรารู้สึกดีมากอ่ะ ที่นางเข้าใจความรู้สึกเรา เราสองคนพี่น้องก็กอดคอกันร้องไห้ และคิดว่าเรื่องคงจะจบด้วยดี
แต่เปล่าเลย เรื่องของเราในส่วนนางคงจะจบไปแล้ว แต่เรื่องของนางในส่วนเรามันกำลังเริ่มต้นจนเป็นที่มาของกระทู้นี้
นางไม่กลับมานอนกับเราอีกเลย ตั้งแต่วันนั้น แต่นางก็ให้เหตุผลเราดีๆว่า พ่ออยากให้กลับบ้าน อยากให้ไปอยู่กับน้องบ้าง น้องคิดถึง อ่ะเราเข้าใจได้
แต่ลึกๆแล้ว เราคิดถึงนางมาก ระหว่างทำงานเราไม่ได้คุยกัน แต่เราก็ไลน์หานางตลอด เราชวนนางไปกินข้าวข้างนอกเหมือนเดิม นางหลีกเลี่ยงเราทุกครั้ง
เราชวนนางไปนู้นไปนี้ นางไม่เคยไปกับเราเลยสักครั้ง จนวันหนึ่งเราทนความอึดอัดนี้ไม่ได้ นางมาถึงที่ทำงาน เราไลน์ให้นางไปหาเราที่รถ
เราพานางขับรถออกไปโดยที่นางก็ไม่รู้ว่าเราจะพานางไปไหน นางได้แต่นั่งเงียบๆไปตลอดทาง ระหว่างทางเราก็ไม่พูดกับนางสักคำ
เราขับรถมาจนถึงนครปฐม พานางมาหาพี่ที่เราสนิทสนมคนหนึ่ง พี่ที่เข้าใจความเป็นเรามาก เราแทบไม่ต้องพูดอะไรเมื่ออยู่กับพี่คนนี้ พี่เค้าพูดทุกสิ่งในใจเรากับนาง
พร้อมถามนางว่า ตอนนี้รู้สึกยังไง คิดอะไร นางก็ตอบมาว่า นางเหมือนเดิม มีแต่เราที่เปลี่ยนไป นางยังเห็นเราเป็นพี่คนเดิม มีแต่เราอะไรก็ไม่รู้ งุ้งงิ้งตลอดเวลา
พอได้เปิดใจ เปิดอกคุยกัน วันนั้นเราสบายใจขึ้นมาก เราขับรถกลับกรุงเทพด้วยความสุขแบบ ที่ไม่เคยมีเลยนับตั้งแต่เราทะเลาะกัน
พอกลับมาทำงานตามปกติ ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะเดิมอีกแล้ว นางไม่พูดไม่คุยกับเรา เราชวนไปไหนนางก็หลีกเลี่ยง ทำให้เราคิดมาก ทำให้เราจิตตก
เรามัวแต่คิดว่า อยากให้นางกลับมาเป็นนางคนเดิม และข่าวร้ายมากไปกว่านั้น นางกำลังจะลาออก ทุกวันนี้ เราเป็นเหมือนคนอกหัก
เรากินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ มัวแต่พร่ำเพ้อเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราเฝ้าคิดถึงอดีตที่ผ่านมาระหว่างเรากับนาง คิดถึงแต่สิ่งที่นางทำให้
เราไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันคืออะไร เราคิดถึงนางตลอดเวลา นางอยู่ในใจ อยู่ในความรู้สึกเรา 24 ชม. เราไม่อยากคุยกับแฟนเราเลย
ช่วงที่นางมานอนกับเรา เราคุยกับแฟนนับคำได้ บางทีแฟนโทรมาเราก็ให้นางรับสายแทน จนวันที่เราทะเลากับนาง เราโทรหาแฟน โทรไประบาย โทรไปร้องไห้เรื่องนาง
แฟนถามเราว่าหายไปไหนมา เราตอบว่าไม่ได้หายไปไหน แค่ไม่ได้นึกถึง เพราะเรามีนางมาเติมเต็มจนเราไม่ได้คิดถึงเค้าเลย
แฟนเราจากที่เข้าใจก็เรริ่มไขว้เขวว่าเรารู้สึกกับนางมากเกินไป มากเกินคำว่าพี่น้อง กลายเป็นเราต้องมาทะเลาะกับแฟนอีก
แต่เราถามตัวเองย้ำแล้วย้ำอีก เราไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับนาง เราไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศกับนาง แต่เราอยากมีนางอยู่กับเราแบบนี้ตลอดไป
ทุกเช้าที่นางมาทำงานเราจะเตรียมอาหารตั้งไว้บนโต๊ะสำหรับนางทุกวัน จนพี่ๆที่ทำงานแซวนาง นางมาเล่าให้เราฟัง เราถามนางก่อนเลยว่า
นางรู้สึกยังไงที่พี่ๆเค้าแซวว่าเราชอบกัน นางบอกนางไม่รู้สึกอะไร แค่รำคาญ เราได้ยินนางตอบแบบนี้เราดีใจนะ ดีใจที่นางเข้าใจเราแม้คนอื่นจะคิดยังไงก็ตาม
แต่ที่เราไม่เข้าใจตัวเองคือ เราร็สึกคิดถึงนางตลอดเวลา เราทำทุกอย่างเพื่อนางเยอะมาก เยอะจนเรากลัวว่านางจะอึดอัดอีก เราควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดี
ปัจจุบันเรามาทำงาน เราไม่มีกะจิตกะใจทำงาน เราคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้น คิดวนๆซ้ำๆ เฝ้าแต่โทษตัวเอง เราอยาหให้นางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้นางจะบอกว่า
นางก็คุยกับเราเหมือนเดิม แต่สิ่งที่นางกระทำมันตรงกันข้าม เราจวนเจียนจะเป็นบ้า นั่งซึม หดหู่ โลกมันไม่สดใสเหมือนเดิม เรากินไม่ได้ นอนไม่หลับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความสุขของเรากลับไปขึ้นอยู่กับนางเพียงคนเดียว เราเหนื่อยที่ต้องไล่ตามนาง
ตอนนี้เราอาการแย่มาก เหนื่อย สับสนกับตัวเองจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ ไม่รู้จะปรึกษาใครดี ช่วยเราด้วยนะคะ
ก่อนอื่นต้องขอเล่าพื้นฐานตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวฐานะปานกลาง ครอบครัวอบอุ่นมาก พ่อแม่รักและตามใจ
แต่ไม่ได้สปอยล์จนเสียผู้เสียคน ทุกคนรอบข้างเรา เพื่อน แฟน พี่ที่ทำงาน ทุกคนรักและเอ็นดูเรามาก
เรามีแฟนตอนนี้ไปเรียนต่อเมืองนอก คบกันมานานมากแล้ว สัญญากันไว้ว่าเรียนจบจะกลับมาแต่งงานกัน ชีวิตดูดีมากใช่มั้ยคะ
ตัดเข้าเรื่อง เราทำงานสายก่อสร้างอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เราทำที่นี่มาหลายปีแล้วก็ออกไปจึงกลับเข้าทำอีกครั้ง
เราเช่าห้องพักอยู่ใกล้ที่ทำงาน กลับบ้านนครปฐมอาทิตย์ละครั้ง
เรากลับเข้ามาทำงานที่นี่ได้ประมาณปีเศษๆ แรกเริ่มก็ใช้ชีวิตตามลำพังจนเคยชิน เราค่อนข้างนิสัยลูกคนเดียว มีโลกส่วนตัวพอสมควร
สามเดือนแรกผ่านไปเราทำงานอย่างมีความสุข เพราะคุ้นเคยกับพี่ๆทุกคนเป็นอย่างดี จนวันหนึ่งมีน้องใหม่เข้ามาทำงาน
น้องเป็นเด็กผู้หญิง เพิ่งเรียนจบวิศวะมาหมาดๆ น้องเป็นผู้หญิงบุคลิกแมนๆคุยกันครัช ตามสไตล์เด็กช่าง แต่นางไม่ใช่ทอม นางมีแฟนเป็นผู้ชาย
แรกเริ่มที่เรารู้จักนาง เราออกจะเฉยๆ ไปจนถึงไม่ชอบนางเสียด้วยซ้ำ เพราะนิสัยหลายๆอย่าง ของนาง
แต่ด้วยวันเวลาผ่านไป เรากับนางกลับสนืทสนมกันมากขึ้นตามลำดับ นางพูดกับเราเสมอว่า นางรักเราเหมือนพี่สาว
เรากับนางอายุห่างกันเกือบ 10 ปี เราเห็นนางเป็นเด็กเป็นน้องเราคนหนึ่งเลย และด้วยความสนิทสนมนี้ ทำให้นางย้ายมาอยู่กับเราในที่สุดช่วงครึ่งปีหลัง
เรากับนางตัวติดกันตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ที่ไหน ยังไง เราไปด้วยกันเสมอ จะห่างกันแค่วันอาทิตย์ที่เราต้องกลับบ้าน กระนั้นก็ยังคุยไลน์กันตลอด
ด้วยนิสัยนางอย่างที่เราบอกนางแมนๆ ตามประสาเด็กช่าง ไม่จู้จี้จุกจิก เราต้องการอะไร นางไม่เคยขัดใจเราแม้สักครั้งเดียว นางตามใจเราทุกอย่าง
แม้กระทั่งวันที่เราซื้อรถ นางก็ยินดีค้ำประกันให้เราโดยไม่อิดออดเลย มันทำให้นางได้ใจเราไปเต็มๆ
ทุกคืนที่เรานอนด้วยกัน เราจะนอนคุยกันเรื่องนั้น เรื่องนี้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตซึ่งกันและกัน และนางก็เล่าเรื่องที่บ้านของนางให้เราฟังในที่สุด
นางเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก แม่ดื่มเหล้าตบตีทำร้ายร่างกายนางทุกวัน พานางไปขังไว้ในห้องเก็บของไม่ให้กินข้าวกินปลา
ส่วนพ่อไปมีเมียน้อยโดยที่ไม่เคยรู้ว่าลูกสาวโดนแม่ทำร้ายเพราะไม่เคยกลับบ้านมาดู นางมีน้องชายคนนึง ทุกวันต้องคอยพาน้องชายหนีไปหลบที่อื่นเพื่อไม่ให้แม่ทำร้าย
นางเคยกรีดข้อมือตัวเอง เลียนแบบละครที่นางเคยดู เสียเลือดมากจนแม่เข้ามาพบและพาส่ง รพ. ปัจจุบันแม่เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 5 ปี
นางเติบโตมาท่ามกลางสภาวะแบบนี้ นางเรียนสายช่าง ทุกอย่างหล่อหลอมให้นางแข็งแกร่ง นางมีแฟนที่คบกันตอนเรียนก่อสร้าง
คบกันมาได้สัก 5 ปี วันนึงแฟนนางมาบอกเลิก เราเห็นนางร้องไห้ครั้งแรกในวันนั้น
ตัดกลับมาที่เรา หลังจากที่เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆในชีวิตนาง คืนนั้นขณะที่นางเล่า เรานอนร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความสงสาร
เราไม่คิดว่านางจะพบเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ในชีวิต นั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราอยากเป็นใครสักคนที่นางอยุ่ด้วยแล้ว นางรู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย
เราจึงมอบความรักกลับไปให้นางอย่างเต็มที่มากกว่าเดิม ไม่ว่านางจะเดือดร้อนเรื่องใด เรามักจะเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนางเสมอๆ
และด้วยความที่มันสนิทกันมาก มันจึงมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา เพราะนิสัยส่วนตัวเราด้วย เรามุ้งมิ้ง เราสายหวาน เราสายเอาแต่ใจ
วันนึงเราแสดงอาการงอนนาง เพราะนางขัดใจเรา เป็นครั้งแรกที่เรางอน นางงง นางไม่เคยเจอมุมนี้ของเรา จากพี่ที่แสนดี เราเริ่มกลายเป็นคนงี่เง่า
เวลาอยู่กับนาง เรากลายเป็นคนขี้งอน เพื่ออยากให้นางง้อ เพื่ออยากให้นางเอาใจเรา ตามใจเราเหมือนเคย เราเรียกร้องจากนางมากขึ้นโดยที่เราทั้งคู่ไม่รู้ตัว
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้เรื่อยๆ จนวันหนึ่งก่อนหยุดยาวปีใหม่ อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยห่างกัน เราตัวติดกันตลอด พอวันหยุดมาถึง นางต้องลาไปธุระกับที่บ้าน
เรายังมาทำงานอยู่ ความรู้สึกคือเราคิดถึงนางมากกกกก มากจนเราต้องโทรหานาง หาเรื่องให้นางมาพาเราไปนู้นไปนี่ ซึ่งนางก็มาด้วยความเต็มใจ
วินาที่ที่เราได้เจอนาง เรามีความสุขมาก เราหายคิดถึง เราร่าเริง เราแแฮปปี้ จนเรากลับบ้าน เราไลน์หานางตลอดเวลา ชวนนางคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้
เราไปต่างจังหวัดกับครอบครัว เราก็รบเร้าให้กลับบ้านเพื่อที่เราจะชวนนางไปเที่ยว ซึ่งตามแผนนางจะต้องไปธุระกับที่บ้าน แต่นางก็ไม่ไป
นางกลับพาเราไปเที่ยวตามที่เราต้องการ เรามีความสุขแบบบรรยายไม่ถูก อยากอยู่กับนางแบบนี้ตลอดไป เราลองถามใจตัวเองดูแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ระหว่างเรากับนาง แต่ทุกครั้งเราก็จะมีเหตุผลให้ตัวเองว่า เราไม่ได้ชอบนางในเชิงชู้สาว เราแค่รู้สึกดี รู้สึกอบอุ่น รุ้สึกปลอดภัยเมือมีนางอยู่กับเรา
เพราะนางคอยเอาใจตามใจเราไม่เคยขัดเลย เราไม่ได้รักนางเกินเลยไปกว่าคำว่าพี่น้อง เราไม่ได้ผิดปกติทางเพศ และนางเองก็ไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน
วันหยุดผ่านไปจนมาถึงวันเปิดงาน เราให้แม่ทำกับข้าวที่นางชอบเตรียมมาให้นาง เราอยากให้นางกิน ปรากฎว่านางกินข้าวไปแล้ว
เราก็งอนพลั้งปากบอกนางไปว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวเทให้หมากิน อะไรๆที่แม่ทำมา เดี๋ยวเทให้หมากินให้หมด เราไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นชนวนเล็กๆ ให้นางนำเรือองนี้ไประบายกับเพื่อน
สายวันนั้น เราเห็นนางโพสต๋เฟสบุค ประมาณว่านางไม่ใช่ถังขยะเอะอะก็เหวี่ยง เอะอะก็วีน เราถามนางไปตามตรงว่า หมายถึงใคร
นางบอกว่าเพื่อน แต่ด้วยความงี่เง่าของเรา เราจึงไปเปิดแชทที่นางคุยกับเพื่อน เราจึงได้รู้ นางเอาความอึดอัดใจที่ได้รับจากเราไประบายให้เพื่อนฟัง
เราอ่านไปน้ำตาไหลพรากเหมือนคนถูกหักหลัง เราเสียใจที่นางเอาเราไปพูดลับหลังกับเพื่อนแบบนั้น เราทนอ่านจนจบและเก็บความรู้สึกนั้นไว้
จนกลับห้องไปเจอนางเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เราไม่อยากเห็นหน้านาง เรารู้สึกตัวชาเหมือนโดนตบ เราเข้าห้องนอนโดยไม่พูดกัน เรานอนหันหลังให้นางตลอดทั้งคืน
จนเราเห็นนางหลับไปแล้ว เราจึงพิมพ์ข้อความส่งให้นางทางไลน์ คืนนั้นเรานอนไม่หลับทั้งคืน คอยคิดถึงแต่เรื่องที่เกิด จนรุ่งเช้าเรารีบขับรถออกไปข้างนอก
ใจความในไลน์ระบุว่า เราขอโทษที่ทำให้นางอึดอัด แต่ทุกอย่างที่เราแสดงออกไป ไมว่าจะเป็นการงอน การมุ้งมิ้งอะไรต่างๆนานา เราไม่เคยคิดกับนางเกินเลย
เราอยากให้นางเข้าใจตรงนี้ เราไม่เคยมีพี่น้องที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขนาดนี้ พอมีนางเข้ามา นางมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของเรา เราไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
เส้นบางๆที่เราเคยมีกับนางมันหายไปจนหมดสิ้น เราพยายามจะเป็นพี่ที่ดีให้นาง แต่ด้วยความที่ตัวเราก็มุ้งมิ้งเกินไป มันเลยกลายเป็นความงี่เง่าบ้างอะไรบ้าง
แสดงออกมาให้นางเห็น ให้นางต้องคอยเอาใจ คอยงอนง้อพี่สาวคนนี้ ใจความคร่าวๆมีประมาณนี้
เราขับรถไปเรื่อยๆ ประมาณ 8 โมง นางอ่านแล้วตอบกลับมาว่า ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น นางไม่เคยเจอใครแบบเรา นางจึงเอาใจไม่ถูกเวลาเรางี่เง่า
และสุดท้ายนางบอกว่านางจะกลับไปอยู่บ้าน เพื่อไม่ให้เราลำบากใจอีก
คืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่เราได้นอนด้วยกัน หลังจากวันนั้น เรากับนางก็ไม่ได้พูดกัน เราขับรถไปหาเพื่อน ส่วนนางทำงานแค่ครึ่งวันแล้วก็กลับบ้านไป
เรากลับมานอนที่ห้องในคืนนั้น และไลน์ถามนางว่าจะกลับมานอนกับพี่มั้ย นางบอกไม่กลับ จะกลับไปนอนบ้าน
คืนนั้นเรานอนร้องไห้ทั้งคืน เราคิดถึงนางมาก มากเหมือนคนอกหัก เราเห็นหมอน เห็นเสื้อผ้านาง เราเอามากอดร้องไห้จวนเจียนจะเป็นบ้า
เรากินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนวันรุ่งขึ้นนางมาทำงาน เราอึดอัดทนไม่ได้ที่นางหมางเมิน เฉยชากับเราไปแบบนี้ เราเดินเข้าไปถามนางที่โต๊ะว่า
ต้องการให้มันเป็นแบบนี้เหรอ ต้องการให้มันจบแบบนี้ใช่มั้ย นางก็ตอบมาตามสไตล์แมนๆครัชของนางว่า ก็ไม่ได้อะไรนี่ ก็คุยกันเหมือนเดิม
แต่ความรู้สึกเราบอกว่ามันไม่ใช่ วันนั้นเราพานางเข้าไปคุยที่ห้องกันสองคน เราพูด เราบอกความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นทุกอย่างของเราให้นางฟัง
เราหวังว่าจะได้ยิน ได้รับรู้ความรู้สึกลึกๆของนางบ้าง แต่ไม่เลย นางใจแข็ง ปากแข็งเกินกว่าที่เราคิดไว้เยอะ เราก็ได้แต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว พูดไปร้องไห้ไป
จนสักพักเราเห็นนางนั่งนิ่ง เงียบ ร้องไห้ เราจึงถามนางว่า นางร้องไห้ทำไม นางจึงหลุดออกมาว่า นางเสียใจที่ทำให้เราร้องไห้ ความรู้สึกนางเหมือนทำให้แม่ร้องไห้
พอได้ยินแบบนั้น เรารู้สึกดีมากอ่ะ ที่นางเข้าใจความรู้สึกเรา เราสองคนพี่น้องก็กอดคอกันร้องไห้ และคิดว่าเรื่องคงจะจบด้วยดี
แต่เปล่าเลย เรื่องของเราในส่วนนางคงจะจบไปแล้ว แต่เรื่องของนางในส่วนเรามันกำลังเริ่มต้นจนเป็นที่มาของกระทู้นี้
นางไม่กลับมานอนกับเราอีกเลย ตั้งแต่วันนั้น แต่นางก็ให้เหตุผลเราดีๆว่า พ่ออยากให้กลับบ้าน อยากให้ไปอยู่กับน้องบ้าง น้องคิดถึง อ่ะเราเข้าใจได้
แต่ลึกๆแล้ว เราคิดถึงนางมาก ระหว่างทำงานเราไม่ได้คุยกัน แต่เราก็ไลน์หานางตลอด เราชวนนางไปกินข้าวข้างนอกเหมือนเดิม นางหลีกเลี่ยงเราทุกครั้ง
เราชวนนางไปนู้นไปนี้ นางไม่เคยไปกับเราเลยสักครั้ง จนวันหนึ่งเราทนความอึดอัดนี้ไม่ได้ นางมาถึงที่ทำงาน เราไลน์ให้นางไปหาเราที่รถ
เราพานางขับรถออกไปโดยที่นางก็ไม่รู้ว่าเราจะพานางไปไหน นางได้แต่นั่งเงียบๆไปตลอดทาง ระหว่างทางเราก็ไม่พูดกับนางสักคำ
เราขับรถมาจนถึงนครปฐม พานางมาหาพี่ที่เราสนิทสนมคนหนึ่ง พี่ที่เข้าใจความเป็นเรามาก เราแทบไม่ต้องพูดอะไรเมื่ออยู่กับพี่คนนี้ พี่เค้าพูดทุกสิ่งในใจเรากับนาง
พร้อมถามนางว่า ตอนนี้รู้สึกยังไง คิดอะไร นางก็ตอบมาว่า นางเหมือนเดิม มีแต่เราที่เปลี่ยนไป นางยังเห็นเราเป็นพี่คนเดิม มีแต่เราอะไรก็ไม่รู้ งุ้งงิ้งตลอดเวลา
พอได้เปิดใจ เปิดอกคุยกัน วันนั้นเราสบายใจขึ้นมาก เราขับรถกลับกรุงเทพด้วยความสุขแบบ ที่ไม่เคยมีเลยนับตั้งแต่เราทะเลาะกัน
พอกลับมาทำงานตามปกติ ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะเดิมอีกแล้ว นางไม่พูดไม่คุยกับเรา เราชวนไปไหนนางก็หลีกเลี่ยง ทำให้เราคิดมาก ทำให้เราจิตตก
เรามัวแต่คิดว่า อยากให้นางกลับมาเป็นนางคนเดิม และข่าวร้ายมากไปกว่านั้น นางกำลังจะลาออก ทุกวันนี้ เราเป็นเหมือนคนอกหัก
เรากินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ มัวแต่พร่ำเพ้อเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราเฝ้าคิดถึงอดีตที่ผ่านมาระหว่างเรากับนาง คิดถึงแต่สิ่งที่นางทำให้
เราไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันคืออะไร เราคิดถึงนางตลอดเวลา นางอยู่ในใจ อยู่ในความรู้สึกเรา 24 ชม. เราไม่อยากคุยกับแฟนเราเลย
ช่วงที่นางมานอนกับเรา เราคุยกับแฟนนับคำได้ บางทีแฟนโทรมาเราก็ให้นางรับสายแทน จนวันที่เราทะเลากับนาง เราโทรหาแฟน โทรไประบาย โทรไปร้องไห้เรื่องนาง
แฟนถามเราว่าหายไปไหนมา เราตอบว่าไม่ได้หายไปไหน แค่ไม่ได้นึกถึง เพราะเรามีนางมาเติมเต็มจนเราไม่ได้คิดถึงเค้าเลย
แฟนเราจากที่เข้าใจก็เรริ่มไขว้เขวว่าเรารู้สึกกับนางมากเกินไป มากเกินคำว่าพี่น้อง กลายเป็นเราต้องมาทะเลาะกับแฟนอีก
แต่เราถามตัวเองย้ำแล้วย้ำอีก เราไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับนาง เราไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศกับนาง แต่เราอยากมีนางอยู่กับเราแบบนี้ตลอดไป
ทุกเช้าที่นางมาทำงานเราจะเตรียมอาหารตั้งไว้บนโต๊ะสำหรับนางทุกวัน จนพี่ๆที่ทำงานแซวนาง นางมาเล่าให้เราฟัง เราถามนางก่อนเลยว่า
นางรู้สึกยังไงที่พี่ๆเค้าแซวว่าเราชอบกัน นางบอกนางไม่รู้สึกอะไร แค่รำคาญ เราได้ยินนางตอบแบบนี้เราดีใจนะ ดีใจที่นางเข้าใจเราแม้คนอื่นจะคิดยังไงก็ตาม
แต่ที่เราไม่เข้าใจตัวเองคือ เราร็สึกคิดถึงนางตลอดเวลา เราทำทุกอย่างเพื่อนางเยอะมาก เยอะจนเรากลัวว่านางจะอึดอัดอีก เราควรจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดี
ปัจจุบันเรามาทำงาน เราไม่มีกะจิตกะใจทำงาน เราคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้น คิดวนๆซ้ำๆ เฝ้าแต่โทษตัวเอง เราอยาหให้นางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้นางจะบอกว่า
นางก็คุยกับเราเหมือนเดิม แต่สิ่งที่นางกระทำมันตรงกันข้าม เราจวนเจียนจะเป็นบ้า นั่งซึม หดหู่ โลกมันไม่สดใสเหมือนเดิม เรากินไม่ได้ นอนไม่หลับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความสุขของเรากลับไปขึ้นอยู่กับนางเพียงคนเดียว เราเหนื่อยที่ต้องไล่ตามนาง