คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
การที่จขกทมุ่งมั่นจะสอบ N1 ให้ผ่านเช่นนี้ เดาว่าจขกทคงเป็นคนมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นพอสมควร และน่าจะสอบผ่าน N3 หรือ N2 แล้ว (ถ้าผิดต้องขออภัย)
ข้อสอบ N1 ส่วนตัวคิดว่าการฟังง่ายที่สุด ควรเก็บให้ได้อย่างน้อย 40 ขึ้นไป เช่นนี้แล้วหากทำคำศัพท์ไวยากรณ์และการอ่านให้ได้ 30 กับ 30 ก็ผ่านแล้ว วีธีฝึกการฟังก็ง่ายนิดเดียว ก็คือฟังบ่อยๆและหมั่นท่องศัพท์ ควรฝึกฟังจากสื่อหลากหลายชนิด การฝึกฟังจาก アニメเพียงอย่างเดียวอาจจะช่วยให้หูชินกับความไวได้ก็จริง แต่จะไม่ได้คำศัพท์ที่ออกสอบ เพราะบทสนทนาที่ปรากฏในข้อสอบมักเป็นบทสนทนาที่ค่อนข้างเป็นทางการ เช่น พยากรณ์อากาศ การดูแลรดน้ำต้นไม้ การเดินทาง บรรยายเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ส่วนไวยากรณ์ ใช้หนังสือ 500 รูปประโยค ก็น่าจะใช้ได้ แต่ไวยากรณ์ที่ออกในระดับ N1 หลายข้อไม่มีในหนังสือที่ขายตามท้องตลาด เช่น ภาษาสุภาพ หรือ คำเชื่อม เป็นต้น อันนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากอาศัยบุญเก่าที่สั่งสมมาเท่านั้น แต่มีเป็นส่วนน้อยไม่ต้องกังวล ตรงที่ให้เรียงหลายคนมักมีปัญหา โดยเฉพาะคนที่พื้นฐานโครงสร้างภาษาและคำช่วยไม่แน่น แนะนำให้หาบทความยาวๆมาอ่าน และนั่งวิเคราะห์โครงสร้างประโยค
คำศัพท์ เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะ N1 เป็นระดับที่สูงที่สุดแล้ว จึงสามารถออกอะไรก็ได้ทั้งนั้น หนังสือที่พิมพ์ออกมาวางขาย ถึงแม้จะท่องจำคำศัพท์ได้ทุกคำ แต่พอไปทำข้อสอบ ก็เจอคำที่ไม่รู้อยู่ดี แถมที่ท่องมาออกสี่คำ (เซ็ง อุตส่าห์ท่องมาเป็นเล่ม) บางคำรู้ความหมายแต่ไม่รู้วิธีใช้ แนะนำว่าแทนที่จะไปซื้อหนังสือเหล่านั้น ไปหาบทความภาษาญี่ปุ่นมาอ่านดีกว่า เช่น ข่าวในหนังสือพิมพ์ เดี๋ยวนี้มีแอพให้โหลดมากมาย จริงๆมืหนังสือที่อยากแนะนำแต่รู้สึกว่าที่ไทยจะไม่มีขาย
สุดท้ายคือการอ่าน ส่วนนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุด เพราะนอกจากจะยาวและเยอะแล้ว ตัวเลือกก็ชอบหลอก ถ้าไม่เข้าใจเนื้อหาจริงๆจะไม่สามารถตอบได้ ขนาดเข้าใจแล้วบางทียังตอบผิดเลย หากจขกทมีความเข้าใจในเรื่องโครงสร้างประโยคดีแล้ว แต่กลับอ่านแล้วไม่เข้าใจ อาจจะเป็นเพราะปริมาณคำศัพท์ยังไม่เพียงพอ หากคำศัพท์ที่เราไม่รู้เป็นคำศัพท์หลักในประโยคแล้วละก็ การจะเข้าใจความหมายของประโยคนั้นคงเป็นเรื่องยาก แก้ไขได้โดยการเพิ่มคลังคำศัพท์ของตัวเองเท่านั้น และควรอ่านตัวเลือกดีๆ ใช้วิธีหาจุดผิดของแต่ละตัวเลือกและค่อยๆตัดตัวเลือกที่ผิดออกไปจะดีที่สุด อย่าทำแบบอ่านรวบๆแล้ว เออ ข้อนี้มีประโยคคล้ายๆในบทความ อีกอย่างหนึ่งคืออ่านคำถามก่อนอ่านบทความจะช่วยได้มาก
การเรียนภาษาต้องใช้เวลา ต้องสะสมเรื่อยๆ ไม่มีหนังสือสำเร็จรูปที่จะทำให้สอบผ่านได้ แม้แต่ที่ญี่ปุ่นมีวางขายมากกว่าเมืองไทยมาก ก็ไม่มีเล่มไหนดีสุดถึงขนาดว่าใช้เล่มนี้เท่านั้นแล้วสอบผ่านชัวร์
อยากฝากจขกทอีกหนึ่งอย่าง N1 ไม่ใช่สิ่งที่การันตีว่าเก่งหรือสามารถใช้ภาษาได้ถูกต้อง ต่อให้ได้ N1 เต็ม ก็ไม่ใช่จะเก่งพูดไฟแล็บเป็นคนญี่ปุ่น กล้าพูดเพราะเป็นหนึ่งในนั้น จขกทอยากเอา N1 ไปทำอะไร ถ้าแค่อยากจะพัฒนาการใช้ภาษาของตัวเอง คิดว่า N1 ไมได้เป็นตัววัดที่ดีขนาดนั้น หรือหากเป็นล่าม N1 ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นล่ามที่ดีเช่นกัน เข้าใจภาษาญี่ปุ่นแต่แปลเป็นภาษาไทยแล้วคนไทยฟังแล้วงงก็คงจะไม่ดีแน่ อาจจะมีประโยชน์ตอนหางานเท่านั้น
พิมพ์มายาวมาก ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับจขกทขนาดไหน เอาใจช่วย ขอให้สอบได้ N1 ตามที่ตองการ
ตอบคห.2
N4 อ่านมินนะจบสี่เล่มก็สอบผ่านแล้ว แต่ระดับพื้นฐานเป็นระดับที่สำคัญที่สุดและสอนยากที่สุด ควรหาครูที่เก่งมาสอนจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นพอไประดับสูงจะเรียนเองได้ลำบาก
ข้อสอบ N1 ส่วนตัวคิดว่าการฟังง่ายที่สุด ควรเก็บให้ได้อย่างน้อย 40 ขึ้นไป เช่นนี้แล้วหากทำคำศัพท์ไวยากรณ์และการอ่านให้ได้ 30 กับ 30 ก็ผ่านแล้ว วีธีฝึกการฟังก็ง่ายนิดเดียว ก็คือฟังบ่อยๆและหมั่นท่องศัพท์ ควรฝึกฟังจากสื่อหลากหลายชนิด การฝึกฟังจาก アニメเพียงอย่างเดียวอาจจะช่วยให้หูชินกับความไวได้ก็จริง แต่จะไม่ได้คำศัพท์ที่ออกสอบ เพราะบทสนทนาที่ปรากฏในข้อสอบมักเป็นบทสนทนาที่ค่อนข้างเป็นทางการ เช่น พยากรณ์อากาศ การดูแลรดน้ำต้นไม้ การเดินทาง บรรยายเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ส่วนไวยากรณ์ ใช้หนังสือ 500 รูปประโยค ก็น่าจะใช้ได้ แต่ไวยากรณ์ที่ออกในระดับ N1 หลายข้อไม่มีในหนังสือที่ขายตามท้องตลาด เช่น ภาษาสุภาพ หรือ คำเชื่อม เป็นต้น อันนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากอาศัยบุญเก่าที่สั่งสมมาเท่านั้น แต่มีเป็นส่วนน้อยไม่ต้องกังวล ตรงที่ให้เรียงหลายคนมักมีปัญหา โดยเฉพาะคนที่พื้นฐานโครงสร้างภาษาและคำช่วยไม่แน่น แนะนำให้หาบทความยาวๆมาอ่าน และนั่งวิเคราะห์โครงสร้างประโยค
คำศัพท์ เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะ N1 เป็นระดับที่สูงที่สุดแล้ว จึงสามารถออกอะไรก็ได้ทั้งนั้น หนังสือที่พิมพ์ออกมาวางขาย ถึงแม้จะท่องจำคำศัพท์ได้ทุกคำ แต่พอไปทำข้อสอบ ก็เจอคำที่ไม่รู้อยู่ดี แถมที่ท่องมาออกสี่คำ (เซ็ง อุตส่าห์ท่องมาเป็นเล่ม) บางคำรู้ความหมายแต่ไม่รู้วิธีใช้ แนะนำว่าแทนที่จะไปซื้อหนังสือเหล่านั้น ไปหาบทความภาษาญี่ปุ่นมาอ่านดีกว่า เช่น ข่าวในหนังสือพิมพ์ เดี๋ยวนี้มีแอพให้โหลดมากมาย จริงๆมืหนังสือที่อยากแนะนำแต่รู้สึกว่าที่ไทยจะไม่มีขาย
สุดท้ายคือการอ่าน ส่วนนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุด เพราะนอกจากจะยาวและเยอะแล้ว ตัวเลือกก็ชอบหลอก ถ้าไม่เข้าใจเนื้อหาจริงๆจะไม่สามารถตอบได้ ขนาดเข้าใจแล้วบางทียังตอบผิดเลย หากจขกทมีความเข้าใจในเรื่องโครงสร้างประโยคดีแล้ว แต่กลับอ่านแล้วไม่เข้าใจ อาจจะเป็นเพราะปริมาณคำศัพท์ยังไม่เพียงพอ หากคำศัพท์ที่เราไม่รู้เป็นคำศัพท์หลักในประโยคแล้วละก็ การจะเข้าใจความหมายของประโยคนั้นคงเป็นเรื่องยาก แก้ไขได้โดยการเพิ่มคลังคำศัพท์ของตัวเองเท่านั้น และควรอ่านตัวเลือกดีๆ ใช้วิธีหาจุดผิดของแต่ละตัวเลือกและค่อยๆตัดตัวเลือกที่ผิดออกไปจะดีที่สุด อย่าทำแบบอ่านรวบๆแล้ว เออ ข้อนี้มีประโยคคล้ายๆในบทความ อีกอย่างหนึ่งคืออ่านคำถามก่อนอ่านบทความจะช่วยได้มาก
การเรียนภาษาต้องใช้เวลา ต้องสะสมเรื่อยๆ ไม่มีหนังสือสำเร็จรูปที่จะทำให้สอบผ่านได้ แม้แต่ที่ญี่ปุ่นมีวางขายมากกว่าเมืองไทยมาก ก็ไม่มีเล่มไหนดีสุดถึงขนาดว่าใช้เล่มนี้เท่านั้นแล้วสอบผ่านชัวร์
อยากฝากจขกทอีกหนึ่งอย่าง N1 ไม่ใช่สิ่งที่การันตีว่าเก่งหรือสามารถใช้ภาษาได้ถูกต้อง ต่อให้ได้ N1 เต็ม ก็ไม่ใช่จะเก่งพูดไฟแล็บเป็นคนญี่ปุ่น กล้าพูดเพราะเป็นหนึ่งในนั้น จขกทอยากเอา N1 ไปทำอะไร ถ้าแค่อยากจะพัฒนาการใช้ภาษาของตัวเอง คิดว่า N1 ไมได้เป็นตัววัดที่ดีขนาดนั้น หรือหากเป็นล่าม N1 ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นล่ามที่ดีเช่นกัน เข้าใจภาษาญี่ปุ่นแต่แปลเป็นภาษาไทยแล้วคนไทยฟังแล้วงงก็คงจะไม่ดีแน่ อาจจะมีประโยชน์ตอนหางานเท่านั้น
พิมพ์มายาวมาก ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับจขกทขนาดไหน เอาใจช่วย ขอให้สอบได้ N1 ตามที่ตองการ
ตอบคห.2
N4 อ่านมินนะจบสี่เล่มก็สอบผ่านแล้ว แต่ระดับพื้นฐานเป็นระดับที่สำคัญที่สุดและสอนยากที่สุด ควรหาครูที่เก่งมาสอนจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นพอไประดับสูงจะเรียนเองได้ลำบาก
แสดงความคิดเห็น
ขอสอบถามเทคนิคการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น N1 ให้ผ่านหน่อยครับ