รักแรกของคุณๆเป็นยังไงกันคะ ???
เริ่มจากการย้ายโรงเรียนใหม่เป็นจุดเริ่มต้น..ตอนแรกเรียนโรงเรียนในเมืองมาแล้ว 1 ปี ก้อมีเหตุต้องย้าย ก้อตัดสินใจไปอยู่กับพ่ออีกอำเภอนึง (พ่อกับแม่แยกทางกัน) วันย้ายโรงเรียนแม่ก้อไปด้วย วันนั้นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนพอดี ซึ่งคนเยอะอยู่แล้ว เราก้อใส่ชุดโรงเรียนเก่าไปคะ ทุกสายตาจับจ้อง กรูไม่ใช่ดาราพวกมองไปทางอื่นได้ม้ายยยย ! จัดการเรื่องย้ายอะไรเสร็จ รอง ผอ. ก้อบอกว่าให้เริ่มเรียนได้เรย เราก้อเห้ย ! พน.ไม่ได้อ๋อ ตูยังไม่ได้ทำใจเรย แม่ก้อเรียนเรยก้อดีนะจะได้ชิน (โห่! แม่ แม่ไม่เข้าอ้ะะะ) ก้อเรียนเรยตามบัญชาของพระมารดา แต่ปัญหา ห้องที่เราได้เรียนได้ครูที่ปรึกษาที่โหดที่สุดอีก อกอีแป้นจะแตกกกก ! สวรรค์กลั่นแกล้งข้าชัด

ก้อสวัสดีอาจารย์กันไปตามระเบียบ เข้าไปในห้องเรียน (โรงเรียนมีห้องเรียนประจำเป็นบางวิชาก้อต้องเดินบ้างอะไรบ้างซึ่งนี่คือห้องประจำของพวกเรา) ก้อนั่งข้างผู้หญิงคนนึง เราก้อเงียบสิคะ ก้มหัวงุดๆ ด้วยความเขิล เพราะทุกคนกำลังจับจองมาที่เรา !!! เน้นว่าเรา ไม่กล้าคุยกับใครบอกตรงๆ วันนั้นก้อไม่ได้เรียนหรอกเพราะพึ่งเปิดเทอม ช่วงพักเที่ยง เราป้อไม่รู้จะไปกินข้าวกับใคร และแล้ว และแล้ว ! ก้อมีผู้หญิงเดินมา ไปกินข้าวกับเราไม๊ ? โถว่แม่พระของช้านนนน ก้อโอเคมีเพื่อนไป เพื่อนเรามี 5 คนรวมเราด้วยนะ ก้อดีอะนิสัยดีทุกคน ชักเริ่มจะมีความสุขขึ้นมา 10%
เราก้อเรียนไปตามปกติ พักหลังๆเราก้อเริ่มคุยกะเพื่อนๆทุกคน. แต่ประเด็นมันอยู่ที่เพื่อนชาย ที่มันเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรื่อยๆ ๆ เราก้อเริ่มรู้จักคนเยอะขึ้น เยอะขึ้น ก้อเริ่มมีคนมาหมั่นไส้เรา จะหาเรื่อง เพื่อนเราก้อช่วยเต็มที่คะ เนื่องจากแฟนของเพื่อนเราเนี้ยะคล้ายๆกับหัวโจกคุมโรงเรียน ก้อบ๊ายบาย ชีไม่กล้าทำอารายยย เวลาผ่านไปปป ก้อมีเพื่อนผู้ชายมาสนิทกับเรา สองสามคนหน้าตาดีทั้งสาม 555 แต่เราสนิทที่สุดคนนึงอะ. นั่งเรียนก้อจะนั่งข้างๆเรา สมมุติว่าชื่อ N กินข้าวก้อมานั่งกับเราบ้างเหมือนแฟนเรยอ๊ะ -///- เพื่อนๆก้อแซวกันไป. แต่ยืนยัน นั่งยัน เลยคิดแค่เพื่อนจริง N เป็นคนสูง เราก้อเตี้ยกว่ามันเยอะอะ เป็นเพื่อนสนิท คนนึงก้อว่าได้ เราเริ่มเล่น MSN กัน ก้อคุยกันทุกวันเลย บางทียังสงสัยมันคิดอะไรกับเราปะเนี่ย ? บางทีเราก้อทักมัน บางทีมันก้อทักเรา เรื่องการบ้านบ้าง เรื่องสัพเพเหระ บางทีก้อแบบประชุมลากกันเข้ามาคุยหลายๆคน ช่วงเวลานั้นสนุกมาก จนเพื่อนสนิทนี่แหละมันคิดเกินเลยไปไกลแล้ววว คืนนั้นเราอยู่บ้านคนเดียว ก้อเลยชวนญาติผู้หญิงมานอนด้วย เราก้อนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คกัน เรื่องมีอยู่ว่า เราอะชอบ N แต่ถึงแม้ความรู้สึกยังไม่ชัดเจน ก้อรู้อะว่าชอบ เราก้อเลยถามพี่ว่า จะบอกไปดีไม๊?? พี่ก้อตอบว่าถ้ารู้สึกว่าชอบก้อบอกไป แต่บอกไปแล้วก้อจะเสียเพื่อนนะ คิดดีๆ . . . . บอกสิค้ะ เราก้อทัก N ไป บอกว่า
เรา : เห้ยกูชอบ

วะ ชอบจริงๆ
N : . . . (เงียบ)
เรา : แล้วคิดยังไงกับกูวะ ?
N : กูก้อชอบ

เหมือนกัน. (อร๊ายยยยยยยเขิล)
เรา :แล้วเอาไงต่ออะ
N: พน.ค่อยไปคุยกันที่โรงเรียน
เรา : จะกล้าคุยอ๋อ ??
N : ค่อยคุย พน. ละกัน
ฝันดีนะ
เรา: อื้ม ฝันดี
วันต่อมา...
ทุกอย่างเป็นปกติ เงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไร เพื่อนเราก้อไม่รู้นะคือรู้กันสองคนอะ เราก้อบอกเพื่อนผู้หญิงไปคนนึง เห้ย ! เมื่อคืนกูบอกชอบ N วะ ! เท่านั้นละ นางเป็นโทรโข่งทันที ไอเราก้อเขิลหัวแทบมุดใต้โต๊ะ พวกชะนีเพื่อนเราก้อชอบแกล้งกัน ให้เราไปนั่งข้าง N บ้างละ ให้เรา เดินข้างๆบ้างละ แต่ N ก้อเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ไม่ค่อยพูดกับเราเรยอะ เจ้าใจนะว่าเขิลแต่ทำตัวปกติมิได้หรอคะ ? เราก้อถาม N ว่า จะพูดให้มากเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อ๋อ มันก้อบอกว่าเขิล เขิลมากเรย เราก้อโอเคไม่พูดก้อขอแค่นั่งข้างๆเหมือนเดิมนะ -//- เราก้อพูดคุยกันปกติอะ แต่เวลากลับบ้านคุยเอ็มกัน มันเหมือนคนละคน ช่วงนั้นเราไม่สนใจชายอื่นใด. โลกนี้มีเพียงเรา 555 เราเรียนเก่งนะ ส่วนมาก N ก้อมานั่งทำ(ลอก)การบ้านเรา. N เป็นคนดีคะ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัว หรือพยายามทำอะไรแบบนั้นเลย เวลาคุยเอ็มกัน เราถามว่ารักเราไม๊ N ก้อบอกว่ารักดิ รักมากด้วย พอจะเป็นกำลังใจที่อยู่โรงเรียนคุนไม่พูดกับกู ! บางทีเราก้อน้อยใจ ทำไมไม่ทำเหมือนเป็นแฟนกันเหมือนคนอื่นๆ แต่ก้อเข้าใจ วันวาเลนไทน์ ในโรงเรียนเต็มไปด้วย พลังงานแห่งรัก 55 เราไม่หวังสิ่งของอะไรนะ ก้อไม่ได้อะไรจากคุนแฟนหรอกแค่ดอกกุหลาบเองงง -//- เขิลหัวแทบมุดดิน เราก้อให้ดอกกุหลาบนะ. แลกกัน สติ๊กเกอร์หัวใจนี่แบบเต็มเสื้อเลย ช่วงหลังๆมา N ก้อจะเดินไปส่งเราขึ้นรถอะ โรงเรียนอยู่ใกล้ๆตลาด รถก้อจะไปรอรับนักเรียนที่ตลาด ยังไงอะแบบเดินกันเป็นคู่ๆ เขิลลลลลลลลลลลลล คบกันมานานนะ มากสุดเราก้อแค่จับมือกันนะแหละ

เราก้อจำเรื่องราวอะไรไม่เยอะหรอกมันผ่านมานานละ
มีอยู่วันนึงนะ ช่วงพักเที่ยง คืออากาศทุกวันเราก้อเอาแน่เอานอนไม่ได้ อยู่ดีๆฝนก้อตกหนักมาก ไม่มีใครมีร่มอะ มีเพื่อนคนนึงมี แต่มีผู้อาศัยอีกเป็นสิบคน 555 ก้อต้องใช้วิธีเดินเวียนกันไปมา มี N ด้วยนะ อิอิ เพื่อนก้อเวียนไปส่งกันไปมาถึงตาเรา N เดินมารับจ้าาาา ตามจริงร่มก้อคันใหญ่นะแบบเดิมไปสามคนได้ป้ะ เพื่อนมันก้อไปกันสองเหอะ ๆ ก้อดีสิ เราสองคนกางร่มคันเดียวกัน N กางให้เราด้วย เขิลไปสิคะ ก้อคุยกันระหว่างทาง N ก้อถามเปียกไม๊ เดินดีๆนะ (ชั้ลแทบจะลอยละลิ่วละลิ่วแล้ววว) เป็นปกติเวลาเรียนเราสองคนก้อจะนั่งด้วยกัน อาจจะไม่คุยกันก้อเหอะ ทุกวันก้อมีความสุขดีคร้าาา แน่นอนมีสุขก้อต้องมีทุกข์ปะปนกันไปคะ
เราทะเลาะกันจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เราต่างคนต่างไม่อธิบายอะไรกัน เราห่างกัน ไม่พูดกัน คล้ายๆว่าเลิกกัน แต่ไม่บอกเลิกกัน มันคาราคาซังอยู่แบบนั้น แล้วเราก้อเริ่มคุยกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ N ไม่เหมือนเก่า วันนึง N ไม่มาเรียน โรงเรียนเราห้ามเอาโทรศัพท์ไปนะ เราเคยคุยโทรศัพท์กะ N แค่สองสามครั้งเอง เราก้อชวนเพื่อนไปตู้โทรศัพท์ โทรถามN ว่าทำไมไม่มาเรียน แต่. .. แต่... มีเสียงผู้หญิงรับสาย. เราส่งให้เพื่อนคุยทันที (คุยแทนเราเหอะ ของร้องละคุนเพื่อน) คุยเส็ดเพื่อนเราบอกแค่ว่า มันบอกว่ามันคบกัน เห้ย! แล้วเราอะ เราก้อไม่อยากรู้อะไรแล้ว หันหลังเดินกลับน้ำตาไหลทันที นั่งร้องไห้เป็นวักเป็นเวร ก้อทำใจแข็งไม่พูดไม่คุยไม่ร้องไห้ พอเลิกเรียนกลับบ้านไป N ก้อทักมา อธิบายให้ฟัง มันไม่ได้เป็นแบบที่คิด เราก้อคุยกันแบบปกติ วันต่อมา อีผู้หญิงนั่นแหละคะ เราก้อรุ้จักแหละเรียนคนละห้องกัน ช่วงพักเที่ยงใกล้จะเริ่มเรียนละ ชีก้อพาเพื่อนชีมาคะ มาโวยวายกับ N นะคะ ทำไมทำแบบนี้ -'8$'+-'9$$("

"-$9$ อะไรของชีไป ร้องห่มร้องไห้ บีบน้ำตา เราก้อนั่งดูอยู่คะ นั่งคนละมุมกันกะ N เรานั่งหน้าห้อง N ก้อนั่งหลังห้อง เรานั่งเล่นกะเพื่อนก้อมองสิคะแต่ก้อไม่ได้คิดอารายย ตอนนั้นนั่งเล่นคัตเตอร์ด้วยนะเหมือนนางมารร้าย 555 เพื่อนก้อยุแยงกัน

เดินเข้าไปเลย ไปดิ๊ ! เราก้อนั่งก่อน เห็น N เหลือบมามองเราด้วย ชีก้อโวยวายยุคะ เราก้อตัดสินใจเดินเค้าไป ยืนเป็นแบบรักสามเส้าอะคะ ยืนกันคนละมุม เป็นสามเหลี่ยม N ก้อน่าซีดเลย เราเลยถาม N ไปว่าจะเลือกใคร ? . . . . . . ทุกคนก้อลุ้นคะคือมีคนมามุงดูเยอะคะคิดว่าจะตบกัน N ก้อชี้มาที่เราคะ เพื่อนในห้องเรากรี๊ดวี๊ดว๊ายกันใหญ่ เรายิ้มแก้มปริเลยยยย จากเหตุการณ์นั้นเราก้อคบกันมาปกติ N ก้อเหมือนเดิม ไม่ค่อยพูดกับเรา จนเราเหนื่อย ตัดสินใจบอกเลิก N เลยค่ะ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เราขอให้เป็นเพื่อนเหมือนเดิมเหมือนเมื่อก่อน ...
แต่ไม่ใช่แบบนั้นสิคะ N ไม่คุยกะเราไม่มองหน้าเรา แต่ช่วงนั้นก้อมีเพื่อนอีกคนมาชอบเราหล่อมากคนนี้ 555 สมมุติว่าชื่อ T ก้อสนิทกับเราเรื่อยแต่ไม่ได้คบกันนะ N ก้อไม่พูดกับเราเหมือนเดิม แต่วันนึงเพื่อนเราเดินมาบอกว่า N กับ T มีเรื่องกัน เราก้อ งง อะไรกันนะ มีเรื่องอะไรกัน เราก้อเดินไปดูคะ พอเราเดินไปก้อวงแตกเลย อ่าววว ! ชั้ลยังไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร แต่เพื่อนบอกว่า N หึงที่เราสนิทกับ T เราเลิกกันแล้วหนิ ตั้งแต่นั้นเราก้อคบกับ T เรื่อยๆ. ส่วน N ก้อไม่คุยกับเรา เราต่างคิดว่าต่างคนเป็นอากาศ หลีกเลี่ยงการพบเจอกัน จนปัจจุบันเราก้อกลับมาคุยกะเหมือนเดิม มันผ่านมา 2-3 ปีแล้วหนิ เราอยู่คนละที่กัน แต่เราก้อมั่นใจว่าเราสองคนยังรู้สึกดีๆกันอยู่
ปล.ผิดพลาดยังไงก้อบอกได้คะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 100% สาบานได้เลย
รักแรกที่...
เริ่มจากการย้ายโรงเรียนใหม่เป็นจุดเริ่มต้น..ตอนแรกเรียนโรงเรียนในเมืองมาแล้ว 1 ปี ก้อมีเหตุต้องย้าย ก้อตัดสินใจไปอยู่กับพ่ออีกอำเภอนึง (พ่อกับแม่แยกทางกัน) วันย้ายโรงเรียนแม่ก้อไปด้วย วันนั้นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนพอดี ซึ่งคนเยอะอยู่แล้ว เราก้อใส่ชุดโรงเรียนเก่าไปคะ ทุกสายตาจับจ้อง กรูไม่ใช่ดาราพวกมองไปทางอื่นได้ม้ายยยย ! จัดการเรื่องย้ายอะไรเสร็จ รอง ผอ. ก้อบอกว่าให้เริ่มเรียนได้เรย เราก้อเห้ย ! พน.ไม่ได้อ๋อ ตูยังไม่ได้ทำใจเรย แม่ก้อเรียนเรยก้อดีนะจะได้ชิน (โห่! แม่ แม่ไม่เข้าอ้ะะะ) ก้อเรียนเรยตามบัญชาของพระมารดา แต่ปัญหา ห้องที่เราได้เรียนได้ครูที่ปรึกษาที่โหดที่สุดอีก อกอีแป้นจะแตกกกก ! สวรรค์กลั่นแกล้งข้าชัด
เราก้อเรียนไปตามปกติ พักหลังๆเราก้อเริ่มคุยกะเพื่อนๆทุกคน. แต่ประเด็นมันอยู่ที่เพื่อนชาย ที่มันเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรื่อยๆ ๆ เราก้อเริ่มรู้จักคนเยอะขึ้น เยอะขึ้น ก้อเริ่มมีคนมาหมั่นไส้เรา จะหาเรื่อง เพื่อนเราก้อช่วยเต็มที่คะ เนื่องจากแฟนของเพื่อนเราเนี้ยะคล้ายๆกับหัวโจกคุมโรงเรียน ก้อบ๊ายบาย ชีไม่กล้าทำอารายยย เวลาผ่านไปปป ก้อมีเพื่อนผู้ชายมาสนิทกับเรา สองสามคนหน้าตาดีทั้งสาม 555 แต่เราสนิทที่สุดคนนึงอะ. นั่งเรียนก้อจะนั่งข้างๆเรา สมมุติว่าชื่อ N กินข้าวก้อมานั่งกับเราบ้างเหมือนแฟนเรยอ๊ะ -///- เพื่อนๆก้อแซวกันไป. แต่ยืนยัน นั่งยัน เลยคิดแค่เพื่อนจริง N เป็นคนสูง เราก้อเตี้ยกว่ามันเยอะอะ เป็นเพื่อนสนิท คนนึงก้อว่าได้ เราเริ่มเล่น MSN กัน ก้อคุยกันทุกวันเลย บางทียังสงสัยมันคิดอะไรกับเราปะเนี่ย ? บางทีเราก้อทักมัน บางทีมันก้อทักเรา เรื่องการบ้านบ้าง เรื่องสัพเพเหระ บางทีก้อแบบประชุมลากกันเข้ามาคุยหลายๆคน ช่วงเวลานั้นสนุกมาก จนเพื่อนสนิทนี่แหละมันคิดเกินเลยไปไกลแล้ววว คืนนั้นเราอยู่บ้านคนเดียว ก้อเลยชวนญาติผู้หญิงมานอนด้วย เราก้อนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คกัน เรื่องมีอยู่ว่า เราอะชอบ N แต่ถึงแม้ความรู้สึกยังไม่ชัดเจน ก้อรู้อะว่าชอบ เราก้อเลยถามพี่ว่า จะบอกไปดีไม๊?? พี่ก้อตอบว่าถ้ารู้สึกว่าชอบก้อบอกไป แต่บอกไปแล้วก้อจะเสียเพื่อนนะ คิดดีๆ . . . . บอกสิค้ะ เราก้อทัก N ไป บอกว่า
เรา : เห้ยกูชอบ
N : . . . (เงียบ)
เรา : แล้วคิดยังไงกับกูวะ ?
N : กูก้อชอบ
เรา :แล้วเอาไงต่ออะ
N: พน.ค่อยไปคุยกันที่โรงเรียน
เรา : จะกล้าคุยอ๋อ ??
N : ค่อยคุย พน. ละกัน
ฝันดีนะ
เรา: อื้ม ฝันดี
วันต่อมา...
ทุกอย่างเป็นปกติ เงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไร เพื่อนเราก้อไม่รู้นะคือรู้กันสองคนอะ เราก้อบอกเพื่อนผู้หญิงไปคนนึง เห้ย ! เมื่อคืนกูบอกชอบ N วะ ! เท่านั้นละ นางเป็นโทรโข่งทันที ไอเราก้อเขิลหัวแทบมุดใต้โต๊ะ พวกชะนีเพื่อนเราก้อชอบแกล้งกัน ให้เราไปนั่งข้าง N บ้างละ ให้เรา เดินข้างๆบ้างละ แต่ N ก้อเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ไม่ค่อยพูดกับเราเรยอะ เจ้าใจนะว่าเขิลแต่ทำตัวปกติมิได้หรอคะ ? เราก้อถาม N ว่า จะพูดให้มากเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อ๋อ มันก้อบอกว่าเขิล เขิลมากเรย เราก้อโอเคไม่พูดก้อขอแค่นั่งข้างๆเหมือนเดิมนะ -//- เราก้อพูดคุยกันปกติอะ แต่เวลากลับบ้านคุยเอ็มกัน มันเหมือนคนละคน ช่วงนั้นเราไม่สนใจชายอื่นใด. โลกนี้มีเพียงเรา 555 เราเรียนเก่งนะ ส่วนมาก N ก้อมานั่งทำ(ลอก)การบ้านเรา. N เป็นคนดีคะ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัว หรือพยายามทำอะไรแบบนั้นเลย เวลาคุยเอ็มกัน เราถามว่ารักเราไม๊ N ก้อบอกว่ารักดิ รักมากด้วย พอจะเป็นกำลังใจที่อยู่โรงเรียนคุนไม่พูดกับกู ! บางทีเราก้อน้อยใจ ทำไมไม่ทำเหมือนเป็นแฟนกันเหมือนคนอื่นๆ แต่ก้อเข้าใจ วันวาเลนไทน์ ในโรงเรียนเต็มไปด้วย พลังงานแห่งรัก 55 เราไม่หวังสิ่งของอะไรนะ ก้อไม่ได้อะไรจากคุนแฟนหรอกแค่ดอกกุหลาบเองงง -//- เขิลหัวแทบมุดดิน เราก้อให้ดอกกุหลาบนะ. แลกกัน สติ๊กเกอร์หัวใจนี่แบบเต็มเสื้อเลย ช่วงหลังๆมา N ก้อจะเดินไปส่งเราขึ้นรถอะ โรงเรียนอยู่ใกล้ๆตลาด รถก้อจะไปรอรับนักเรียนที่ตลาด ยังไงอะแบบเดินกันเป็นคู่ๆ เขิลลลลลลลลลลลลล คบกันมานานนะ มากสุดเราก้อแค่จับมือกันนะแหละ
มีอยู่วันนึงนะ ช่วงพักเที่ยง คืออากาศทุกวันเราก้อเอาแน่เอานอนไม่ได้ อยู่ดีๆฝนก้อตกหนักมาก ไม่มีใครมีร่มอะ มีเพื่อนคนนึงมี แต่มีผู้อาศัยอีกเป็นสิบคน 555 ก้อต้องใช้วิธีเดินเวียนกันไปมา มี N ด้วยนะ อิอิ เพื่อนก้อเวียนไปส่งกันไปมาถึงตาเรา N เดินมารับจ้าาาา ตามจริงร่มก้อคันใหญ่นะแบบเดิมไปสามคนได้ป้ะ เพื่อนมันก้อไปกันสองเหอะ ๆ ก้อดีสิ เราสองคนกางร่มคันเดียวกัน N กางให้เราด้วย เขิลไปสิคะ ก้อคุยกันระหว่างทาง N ก้อถามเปียกไม๊ เดินดีๆนะ (ชั้ลแทบจะลอยละลิ่วละลิ่วแล้ววว) เป็นปกติเวลาเรียนเราสองคนก้อจะนั่งด้วยกัน อาจจะไม่คุยกันก้อเหอะ ทุกวันก้อมีความสุขดีคร้าาา แน่นอนมีสุขก้อต้องมีทุกข์ปะปนกันไปคะ
เราทะเลาะกันจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เราต่างคนต่างไม่อธิบายอะไรกัน เราห่างกัน ไม่พูดกัน คล้ายๆว่าเลิกกัน แต่ไม่บอกเลิกกัน มันคาราคาซังอยู่แบบนั้น แล้วเราก้อเริ่มคุยกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ N ไม่เหมือนเก่า วันนึง N ไม่มาเรียน โรงเรียนเราห้ามเอาโทรศัพท์ไปนะ เราเคยคุยโทรศัพท์กะ N แค่สองสามครั้งเอง เราก้อชวนเพื่อนไปตู้โทรศัพท์ โทรถามN ว่าทำไมไม่มาเรียน แต่. .. แต่... มีเสียงผู้หญิงรับสาย. เราส่งให้เพื่อนคุยทันที (คุยแทนเราเหอะ ของร้องละคุนเพื่อน) คุยเส็ดเพื่อนเราบอกแค่ว่า มันบอกว่ามันคบกัน เห้ย! แล้วเราอะ เราก้อไม่อยากรู้อะไรแล้ว หันหลังเดินกลับน้ำตาไหลทันที นั่งร้องไห้เป็นวักเป็นเวร ก้อทำใจแข็งไม่พูดไม่คุยไม่ร้องไห้ พอเลิกเรียนกลับบ้านไป N ก้อทักมา อธิบายให้ฟัง มันไม่ได้เป็นแบบที่คิด เราก้อคุยกันแบบปกติ วันต่อมา อีผู้หญิงนั่นแหละคะ เราก้อรุ้จักแหละเรียนคนละห้องกัน ช่วงพักเที่ยงใกล้จะเริ่มเรียนละ ชีก้อพาเพื่อนชีมาคะ มาโวยวายกับ N นะคะ ทำไมทำแบบนี้ -'8$'+-'9$$("
แต่ไม่ใช่แบบนั้นสิคะ N ไม่คุยกะเราไม่มองหน้าเรา แต่ช่วงนั้นก้อมีเพื่อนอีกคนมาชอบเราหล่อมากคนนี้ 555 สมมุติว่าชื่อ T ก้อสนิทกับเราเรื่อยแต่ไม่ได้คบกันนะ N ก้อไม่พูดกับเราเหมือนเดิม แต่วันนึงเพื่อนเราเดินมาบอกว่า N กับ T มีเรื่องกัน เราก้อ งง อะไรกันนะ มีเรื่องอะไรกัน เราก้อเดินไปดูคะ พอเราเดินไปก้อวงแตกเลย อ่าววว ! ชั้ลยังไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร แต่เพื่อนบอกว่า N หึงที่เราสนิทกับ T เราเลิกกันแล้วหนิ ตั้งแต่นั้นเราก้อคบกับ T เรื่อยๆ. ส่วน N ก้อไม่คุยกับเรา เราต่างคิดว่าต่างคนเป็นอากาศ หลีกเลี่ยงการพบเจอกัน จนปัจจุบันเราก้อกลับมาคุยกะเหมือนเดิม มันผ่านมา 2-3 ปีแล้วหนิ เราอยู่คนละที่กัน แต่เราก้อมั่นใจว่าเราสองคนยังรู้สึกดีๆกันอยู่
ปล.ผิดพลาดยังไงก้อบอกได้คะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 100% สาบานได้เลย