รีวิวสัมภาษณ์ visa อเมริกา (เคสเจ้าของกิจการ)
จขกท. ได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากใน pantip อย่างมากมาย
โดยเฉพาะกระทู้ทรงคุณค่าของคุณ ล็อคอินนี้ง่วงแล้ว
http://pantip.com/topic/32189283
http://pantip.com/topic/32193184
และรีวิวสัมภาษณ์วีซ่าของท่านอื่นๆ ที่ทำให้เราเตรียมตัว เตรียมเอกสารได้ถูก
ขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ -/\-
คราวนี้เลยตั้งใจแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ท่านอื่นที่กำลังเตรียมตัวทำวีซ่าอเมริกาบ้าง
หวังว่าจะได้อะไรไม่มากก็น้อยนะคะ
=============================
เริ่มเลยนะคะ เราขอพูดถึงการเตรียมเอกสารแล้วช่วงนัดสัมภาษณ์เลยละกันนะคะ
ขั้นตอนเริ่มต้นและอื่นๆ อ่านได้จากกระทู้ทรงคุณค่าด้านบนเลย ระเอียดยิบบบบ ทำตามได้เลย เยี่ยมๆ มว๊ากกก
เราสัมภาษณ์ในเคสผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการค่ะ
เคยไปอเมริกาสมัยเรียนมหาลัย กับโครงการ Work and Travel ค่ะ
อ่านรีวิว/ความเห็นหลายท่านในนี้ รู้สึกว่าตัวเองโอกาสกินแห้วสูงมากกก เพราะบางท่านมียอดเงินหลายแสน ทำธุรกิจมา 5-6 ปี
ดูมั่นคงมากๆ ก็ยังไม่ผ่านนนนนนนนน! เฮือก....
บอกเลยว่าเครียดมากกก รู้สึกว่าพลาดที่กรอกไปแบบนั้น คือเราทำงานด้านการเขียน เป็นงาน freelance
แต่ทำกับบริษัทแห่งหนึ่งอยู่เป็นประจำมา 9 ปีแล้ว ถ้าขอจดหมายรับรองการเป็นนักเขียน แต่จดหมาย
ไม่สามารถระบุเงินเดือนอะไรแบบนี้ได้ค่ะ เป็นงานที่ไม่ประจำด้วย ไม่ต้องเข้าออฟฟิต แล้วมันเป็นงานที่ดู ชิลลลส์เว่อร์...
กลัวทางสถานฑูตจะมองว่าเราไม่มีพันธะผูกพันธ์กับที่ไทย ก็เลยตัดสินใจ (เอาเอง) ขอยื่นแบบเจ้าของธุรกิจซะเลย
เอกสารที่เราเตรียมไป
1. passport เล่มปัจจุบัน (มีเล่มเก่า 1 เล่ม / ไม่มีการเรียกดู แต่ต้องเตรียมไปเผื่อด้วยนะคะ)
2. ทะเบียนบ้าน (ไม่มีการเรียกดู)
3. บัตรประชาชน (ใช้ตอนฝากมือถือด้านหน้าเท่านั้นน)
4. Statment (ไม่เรียกดู ใช้แค่ bookbank ก็พอ รู้สึกไม่น่าเสียตังค์ทำเลย T_T)
5. Bookbank 2 ฉบับ อันแรกเป็นของ หจก. อันที่สองเป็นของส่วนตัวค่ะ (ท่านกงศุลเรียกดู)
6. หนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้า (ไม่เรียกดูอีกเช่นกัน)
7. จดหมายเชิญจากเพื่อน เพราะว่าจะไปพักกับเพื่อน (ไม่เรียกดูเลย)
8. จดหมายชำระดอกเบี้ยค่าบ้าน (ถือติดมางั้นล่ะค่ะ แล้วก็ไม่ได้ใช้ 555+)
9. รูปถ่าย (ไม่ได้ใช้)
เท่านี้ค่ะ ฮือๆ เอกสารน้อยเกินทน น้อยจนเครียดเพราะกลัวว่าถ้าเขาขอดูอะไรแบบเชิงลึกจะทำยังไงหว่า
เครียดไปก็เท่านั้น ก่อนที่จะเป็นบ้า เราตัดสินใจแล้วก็จองวันสัมภาษณ์เลยค่ะ เพราะไม่อยากทนเครียดว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนานๆ
ก่อนนอนเราซ้อมตอบคำถามทุกวันเลย 555+ หารีวิวอ่านตลอดเลย วีซ่าทำให้คนเป็นบ้าได้นะคะ เชื่อเรา ฮืออออ
=================================
วันนัดสัมภาษณ์
เราจองวันธรรมดา รอบ 10.15 นะคะ ใจก็อยากไปเช้าๆ แต่ตื่นไม่ไหวค่ะ คนเยอะก็ยอม 5555
มาถึงก่อนเวลา 10 นาทีเอง ตอนแรกแอบกดดันว่ามาสายหรือเปล่าหว่า ยืนรอต่อแถวที่หน้าประตูประมาณ 5 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่มาเช็คชื่อ
แล้วก็เข้าไปสแกนตัวข้างในเลย โชคดีมาก
ด้านในคนไม่เยอะมากเท่าไหร่ ขอมูฟไปถึงช่วงสัมภาษณ์เลยนะคะ
รอบแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทยก่อน มาถึงก็โดนจัดชุดใหญ่เลย โฮๆๆ TOT
จนท. : เคยเปลี่ยนชื่อมั้ยคะ
เรา : ไม่เคยค่ะ
จนท. : เบอร์คุณพ่อเบอร์อะไรคะ
เรา : 085-xxx-xxxx
*เราว่าเราบอกเบอร์ผิดไปตัวหรือสองตัวด้วย เราเป็นคนจำเบอร์ใครไม่ค่อยได้ค่ะ ขนาดพ่อแม่แท้ๆ ด้วยนะ ฮือๆ
จนท. : แล้วเบอร์ 084-6xx-xxxx นี่เบอร์ใครคะ
เรา : เบอร์หนูเองค่ะ
จนท. : บริษัทของน้องไม่มีเบอร์ออฟฟิตเองเหรอ
เรา : ขอเบอร์บ้านไม่ได้อ่ะค่ะ (เราพูดเบอร์บ้านไป โก๊ะป่ะ แงๆๆ) เค้าบอกโควต้าพื้นที่เต็มแล้ว
จนท. : อ้าว ทำไมเบอร์เดียวกัน 084-6xxx-xxxx
เรา : ...... หนูเป็นเจ้าของ หจก. เองค่ะ
จนท. อ้อ.....
....เงียบไปสักครู่.....
จนท. มีเบอร์เลขามั้ย
เรา : .... มีค่ะ มีผู้ช่วย (ตั้งใจจะให้เบอร์คุณน้าที่คอยเป็นที่ปรึกษา)
จนท : ขอเบอร์หน่อย
เรา : ..........จำเบอร์ไม่ได้ค่ะ โทรศัพท์อยู่ข้างนอก T_T
จนท. จำไม่ได้เลยเหรอ แล้วแบบนี้ถ้าอยากโทรเช็คจะทำยังไง
เรา : ก็ต้องออกไปเอาเบอร์ค่ะ
จากนั้น จนท. ก็ไม่พูดอะไรอีกค่ะ ทำหน้าเอือมๆ แล้วก็บอกให้เราไปสถานีถัดไปปปป
เราก็แบบใจแป้วแล้ว สงสัยไม่รอดแน่ๆ เพราะอ่านรีวิวก็เหมือนเค้าเริ่มเช็คกันตั้งแต่จุดนี้ ตายแน่ โฮฮฮ
พอมาถึงเวลาท่านกงสุลสัมภาษณ์ของจริง (เป็นฝรั่งนะคะ พูดไทยได้ ท่าทางใจดี)
กงสุล : สวัสดีคร้าบบ จะไปไหนครับ
เรา : สวัสดีค่ะ จะไป LA กับ NY เพื่อช้อปปิ้งค่า (แงงงง คือเราตื่นเต้น เครียด แล้วก็ล้นไปแล้วเรียบร้อย ตอบเกินกว่าถามหมดเลย)
กงสุล : ทำงานอารายคร้าบ
เรา : ธุรกิจส่วนตัวค่ะ เกี่ยวบทความ นวนิยาย ประมาณนี้ค่ะ
กงสุล : (ทำหน้างงนิดหน่อย)
เรา : ต้องยื่นหนังสือรับรอง...
กงศุล : ไม่เอาาาา จะไปกี่วันครับ
เรา : 2 weeks ค่ะ (เริ่มเบลอ ประสาท ตอบมั่วไปหมดทั้งไทยทั้งอังกฤษ T^T)
กงศุล : ขอดู bookbanks หน่อยได้มั้ยครับ
เราก็ยื่นให้ดูทั้งหมดที่มี สาธยายด้วยว่าอันไหนเป็นอันไหน (บ้าป่ะ แงๆๆๆ) ท่านกงศุลก็เปิดดูทั้งสองอัน แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ หงักๆ
ส่วนเราก็ตื่นเต้น เครียด กดดัน อยากอ้วก อยากเป็นลม กลัววว คิดไปต่างๆ นาๆ
กงสุล : อ้อ...โอเค คุณเคยไปประเทศไหนมาบ้างครับบบ นอกจากสหรัฐ
เรา : สเปน อิตาลี อังกฤษ... สก๊อตแลนด์ ฝรั่งเศส บลาๆๆๆๆ
กงสุล : โอเค...
กงสุล : มีญาติหรือเพือนที่นั้นม้ายยครับ
เรา : ไม่มีญาติค่ะ มีแต่เพื่อน
กงสุล : เพื่อนทำอารายครับ
เรา : เพื่อนเรียน ป.โท อยู่ที่นู่นค่ะ
กงสุล : ขอโทษนะครับ ทำงานอะไรนะคร้าบบบ
เรา : เอ่อ.......(ในใจที่ร้องไห้ไปแล้ว ไม่ผ่านแน่ๆ โดนถามซ้ำแบบนี้) ทำด้านบทความ นิยาย ลิขสิทธิ์ค่ะ อย่างเช่น ถ้ามีสำนักพิมพ์สนใจงานของเรา ก็จะขายลิขสิทธิ์ให้สำนักพิมพ์นั้นค่ะ
กงศุล : โอเค.... #$%^&)(*&^% ...................อีกสามวันได้รับครับ
เราไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินออกมา ฟังไม่ออกเลยท่านพูดอะไรบ้าง ได้ยินแค่สามวันมารับ
เดินมาก็ยังงงงๆ แต่ก็จำได้ว่าถ้าไม่ผ่านเค้าจะคืน passport ให้เลย แต่เราก็แบบ เอ๊ะ ท่านได้ไม่ได้ให้คืนมา คงผ่านแล้วล่ะมั้งงงง ....
ผ่านแล้วเหรอออออออ??!!
ใช้เวลาเบ็ดเสร็จ 30 นาทีเองค่ะ
อีกสามวันเป๊ะตามที่ท่านกุงสุลว่าค่ะ passport มาถึงบ้าน เปิดดูก็ลุ้นๆ
ไม่โดนปฏิเสธแต่อาจจะได้แบบ 3 เดือนอย่างท่านอื่นที่เคยรีวิวไว้
แต่เปิดมาเจอวีซ่าอเมริกา 10 ปี ^_________^ ก็โล่งอกกกก แฮ่กกกกกก รอดตายไปอีกหนึ่งงาน
สรุปเหตุผลที่ตัวเองผ่านมาได้ (แบบขลุกขลัก) ก็น่าจะเป็น
1. มีเงินหมุนเวียน ยอดเงิน 6 หลักปลายๆ ค่ะ /บัญชีส่วนตัวมีห้าหลัก เงินเข้าออกตลอด เลยน่าจะพอเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง
2. เที่ยว ตปท บ่อยยยย ทั้งโซนเอเชีย ยุโรป เคยมีเชงเก้น/ UK visa ไปแล้วกลับ ไม่หนี ไม่หายเลยสักครั้ง *-*
ขอจบเท่านี้แล้วกันเนอะ ขอบคุณทุกท่านสละเวลาเข้ามาอ่าน
ขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์นะค้า ^__^ v
[CR] Review สัมภาษณ์ visa อเมริกา (เคสเจ้าของกิจการ)
จขกท. ได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์จากใน pantip อย่างมากมาย
โดยเฉพาะกระทู้ทรงคุณค่าของคุณ ล็อคอินนี้ง่วงแล้ว
http://pantip.com/topic/32189283
http://pantip.com/topic/32193184
และรีวิวสัมภาษณ์วีซ่าของท่านอื่นๆ ที่ทำให้เราเตรียมตัว เตรียมเอกสารได้ถูก
ขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ -/\-
คราวนี้เลยตั้งใจแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ท่านอื่นที่กำลังเตรียมตัวทำวีซ่าอเมริกาบ้าง
หวังว่าจะได้อะไรไม่มากก็น้อยนะคะ
=============================
เริ่มเลยนะคะ เราขอพูดถึงการเตรียมเอกสารแล้วช่วงนัดสัมภาษณ์เลยละกันนะคะ
ขั้นตอนเริ่มต้นและอื่นๆ อ่านได้จากกระทู้ทรงคุณค่าด้านบนเลย ระเอียดยิบบบบ ทำตามได้เลย เยี่ยมๆ มว๊ากกก
เราสัมภาษณ์ในเคสผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการค่ะ
เคยไปอเมริกาสมัยเรียนมหาลัย กับโครงการ Work and Travel ค่ะ
อ่านรีวิว/ความเห็นหลายท่านในนี้ รู้สึกว่าตัวเองโอกาสกินแห้วสูงมากกก เพราะบางท่านมียอดเงินหลายแสน ทำธุรกิจมา 5-6 ปี
ดูมั่นคงมากๆ ก็ยังไม่ผ่านนนนนนนนน! เฮือก....
บอกเลยว่าเครียดมากกก รู้สึกว่าพลาดที่กรอกไปแบบนั้น คือเราทำงานด้านการเขียน เป็นงาน freelance
แต่ทำกับบริษัทแห่งหนึ่งอยู่เป็นประจำมา 9 ปีแล้ว ถ้าขอจดหมายรับรองการเป็นนักเขียน แต่จดหมาย
ไม่สามารถระบุเงินเดือนอะไรแบบนี้ได้ค่ะ เป็นงานที่ไม่ประจำด้วย ไม่ต้องเข้าออฟฟิต แล้วมันเป็นงานที่ดู ชิลลลส์เว่อร์...
กลัวทางสถานฑูตจะมองว่าเราไม่มีพันธะผูกพันธ์กับที่ไทย ก็เลยตัดสินใจ (เอาเอง) ขอยื่นแบบเจ้าของธุรกิจซะเลย
เอกสารที่เราเตรียมไป
1. passport เล่มปัจจุบัน (มีเล่มเก่า 1 เล่ม / ไม่มีการเรียกดู แต่ต้องเตรียมไปเผื่อด้วยนะคะ)
2. ทะเบียนบ้าน (ไม่มีการเรียกดู)
3. บัตรประชาชน (ใช้ตอนฝากมือถือด้านหน้าเท่านั้นน)
4. Statment (ไม่เรียกดู ใช้แค่ bookbank ก็พอ รู้สึกไม่น่าเสียตังค์ทำเลย T_T)
5. Bookbank 2 ฉบับ อันแรกเป็นของ หจก. อันที่สองเป็นของส่วนตัวค่ะ (ท่านกงศุลเรียกดู)
6. หนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้า (ไม่เรียกดูอีกเช่นกัน)
7. จดหมายเชิญจากเพื่อน เพราะว่าจะไปพักกับเพื่อน (ไม่เรียกดูเลย)
8. จดหมายชำระดอกเบี้ยค่าบ้าน (ถือติดมางั้นล่ะค่ะ แล้วก็ไม่ได้ใช้ 555+)
9. รูปถ่าย (ไม่ได้ใช้)
เท่านี้ค่ะ ฮือๆ เอกสารน้อยเกินทน น้อยจนเครียดเพราะกลัวว่าถ้าเขาขอดูอะไรแบบเชิงลึกจะทำยังไงหว่า
เครียดไปก็เท่านั้น ก่อนที่จะเป็นบ้า เราตัดสินใจแล้วก็จองวันสัมภาษณ์เลยค่ะ เพราะไม่อยากทนเครียดว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนานๆ
ก่อนนอนเราซ้อมตอบคำถามทุกวันเลย 555+ หารีวิวอ่านตลอดเลย วีซ่าทำให้คนเป็นบ้าได้นะคะ เชื่อเรา ฮืออออ
=================================
วันนัดสัมภาษณ์
เราจองวันธรรมดา รอบ 10.15 นะคะ ใจก็อยากไปเช้าๆ แต่ตื่นไม่ไหวค่ะ คนเยอะก็ยอม 5555
มาถึงก่อนเวลา 10 นาทีเอง ตอนแรกแอบกดดันว่ามาสายหรือเปล่าหว่า ยืนรอต่อแถวที่หน้าประตูประมาณ 5 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่มาเช็คชื่อ
แล้วก็เข้าไปสแกนตัวข้างในเลย โชคดีมาก
ด้านในคนไม่เยอะมากเท่าไหร่ ขอมูฟไปถึงช่วงสัมภาษณ์เลยนะคะ
รอบแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่คนไทยก่อน มาถึงก็โดนจัดชุดใหญ่เลย โฮๆๆ TOT
จนท. : เคยเปลี่ยนชื่อมั้ยคะ
เรา : ไม่เคยค่ะ
จนท. : เบอร์คุณพ่อเบอร์อะไรคะ
เรา : 085-xxx-xxxx
*เราว่าเราบอกเบอร์ผิดไปตัวหรือสองตัวด้วย เราเป็นคนจำเบอร์ใครไม่ค่อยได้ค่ะ ขนาดพ่อแม่แท้ๆ ด้วยนะ ฮือๆ
จนท. : แล้วเบอร์ 084-6xx-xxxx นี่เบอร์ใครคะ
เรา : เบอร์หนูเองค่ะ
จนท. : บริษัทของน้องไม่มีเบอร์ออฟฟิตเองเหรอ
เรา : ขอเบอร์บ้านไม่ได้อ่ะค่ะ (เราพูดเบอร์บ้านไป โก๊ะป่ะ แงๆๆ) เค้าบอกโควต้าพื้นที่เต็มแล้ว
จนท. : อ้าว ทำไมเบอร์เดียวกัน 084-6xxx-xxxx
เรา : ...... หนูเป็นเจ้าของ หจก. เองค่ะ
จนท. อ้อ.....
....เงียบไปสักครู่.....
จนท. มีเบอร์เลขามั้ย
เรา : .... มีค่ะ มีผู้ช่วย (ตั้งใจจะให้เบอร์คุณน้าที่คอยเป็นที่ปรึกษา)
จนท : ขอเบอร์หน่อย
เรา : ..........จำเบอร์ไม่ได้ค่ะ โทรศัพท์อยู่ข้างนอก T_T
จนท. จำไม่ได้เลยเหรอ แล้วแบบนี้ถ้าอยากโทรเช็คจะทำยังไง
เรา : ก็ต้องออกไปเอาเบอร์ค่ะ
จากนั้น จนท. ก็ไม่พูดอะไรอีกค่ะ ทำหน้าเอือมๆ แล้วก็บอกให้เราไปสถานีถัดไปปปป
เราก็แบบใจแป้วแล้ว สงสัยไม่รอดแน่ๆ เพราะอ่านรีวิวก็เหมือนเค้าเริ่มเช็คกันตั้งแต่จุดนี้ ตายแน่ โฮฮฮ
พอมาถึงเวลาท่านกงสุลสัมภาษณ์ของจริง (เป็นฝรั่งนะคะ พูดไทยได้ ท่าทางใจดี)
กงสุล : สวัสดีคร้าบบ จะไปไหนครับ
เรา : สวัสดีค่ะ จะไป LA กับ NY เพื่อช้อปปิ้งค่า (แงงงง คือเราตื่นเต้น เครียด แล้วก็ล้นไปแล้วเรียบร้อย ตอบเกินกว่าถามหมดเลย)
กงสุล : ทำงานอารายคร้าบ
เรา : ธุรกิจส่วนตัวค่ะ เกี่ยวบทความ นวนิยาย ประมาณนี้ค่ะ
กงสุล : (ทำหน้างงนิดหน่อย)
เรา : ต้องยื่นหนังสือรับรอง...
กงศุล : ไม่เอาาาา จะไปกี่วันครับ
เรา : 2 weeks ค่ะ (เริ่มเบลอ ประสาท ตอบมั่วไปหมดทั้งไทยทั้งอังกฤษ T^T)
กงศุล : ขอดู bookbanks หน่อยได้มั้ยครับ
เราก็ยื่นให้ดูทั้งหมดที่มี สาธยายด้วยว่าอันไหนเป็นอันไหน (บ้าป่ะ แงๆๆๆ) ท่านกงศุลก็เปิดดูทั้งสองอัน แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ หงักๆ
ส่วนเราก็ตื่นเต้น เครียด กดดัน อยากอ้วก อยากเป็นลม กลัววว คิดไปต่างๆ นาๆ
กงสุล : อ้อ...โอเค คุณเคยไปประเทศไหนมาบ้างครับบบ นอกจากสหรัฐ
เรา : สเปน อิตาลี อังกฤษ... สก๊อตแลนด์ ฝรั่งเศส บลาๆๆๆๆ
กงสุล : โอเค...
กงสุล : มีญาติหรือเพือนที่นั้นม้ายยครับ
เรา : ไม่มีญาติค่ะ มีแต่เพื่อน
กงสุล : เพื่อนทำอารายครับ
เรา : เพื่อนเรียน ป.โท อยู่ที่นู่นค่ะ
กงสุล : ขอโทษนะครับ ทำงานอะไรนะคร้าบบบ
เรา : เอ่อ.......(ในใจที่ร้องไห้ไปแล้ว ไม่ผ่านแน่ๆ โดนถามซ้ำแบบนี้) ทำด้านบทความ นิยาย ลิขสิทธิ์ค่ะ อย่างเช่น ถ้ามีสำนักพิมพ์สนใจงานของเรา ก็จะขายลิขสิทธิ์ให้สำนักพิมพ์นั้นค่ะ
กงศุล : โอเค.... #$%^&)(*&^% ...................อีกสามวันได้รับครับ
เราไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินออกมา ฟังไม่ออกเลยท่านพูดอะไรบ้าง ได้ยินแค่สามวันมารับ
เดินมาก็ยังงงงๆ แต่ก็จำได้ว่าถ้าไม่ผ่านเค้าจะคืน passport ให้เลย แต่เราก็แบบ เอ๊ะ ท่านได้ไม่ได้ให้คืนมา คงผ่านแล้วล่ะมั้งงงง ....
ผ่านแล้วเหรอออออออ??!!
ใช้เวลาเบ็ดเสร็จ 30 นาทีเองค่ะ
อีกสามวันเป๊ะตามที่ท่านกุงสุลว่าค่ะ passport มาถึงบ้าน เปิดดูก็ลุ้นๆ
ไม่โดนปฏิเสธแต่อาจจะได้แบบ 3 เดือนอย่างท่านอื่นที่เคยรีวิวไว้
แต่เปิดมาเจอวีซ่าอเมริกา 10 ปี ^_________^ ก็โล่งอกกกก แฮ่กกกกกก รอดตายไปอีกหนึ่งงาน
สรุปเหตุผลที่ตัวเองผ่านมาได้ (แบบขลุกขลัก) ก็น่าจะเป็น
1. มีเงินหมุนเวียน ยอดเงิน 6 หลักปลายๆ ค่ะ /บัญชีส่วนตัวมีห้าหลัก เงินเข้าออกตลอด เลยน่าจะพอเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง
2. เที่ยว ตปท บ่อยยยย ทั้งโซนเอเชีย ยุโรป เคยมีเชงเก้น/ UK visa ไปแล้วกลับ ไม่หนี ไม่หายเลยสักครั้ง *-*
ขอจบเท่านี้แล้วกันเนอะ ขอบคุณทุกท่านสละเวลาเข้ามาอ่าน
ขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์นะค้า ^__^ v