ณ ห้องไอซียูของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีคนคนไข้ชื่อ วงศกร อายุ 21 ปี ป้ายหน้าเตียงเขียนว่าฆ่าตัวตาย วงศกรเป็นนักศึกษาปี 3 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพฯ มีพี่น้องสามคน ครอบครัวของเขามีประวัติฆ่าตัวตายในครอบครัว ลุงและพี่ชายของเขาได้จากโลกนี้ไปด้วยการฆ่าตัวตาย การฆ่าตัวตายนี้ อาจจะเป็นความผิดปกติทางจิตใจ ที่ถ่ายทอดมาตามพันธุกรรม ทำให้ทนต่อความเครียดทั้งภายในใจและจากสิ่งแวดล้อมไม่ได้
การมานอนไอซียูครั้งนี้ของวงศกร เขากินยาฆ่าหญ้าไปสามช้อนโต๊ะ นี่เป็นครั้งที่สองของการพยายามฆ่าตัวตาย หกเดือนก่อน เขาพยายามฆ่าตัวตายโดยกินยาฆ่าแมลง เนื่องจากทะเลาะกับแฟนสาว เขาได้ดื่มเหล้าผสมยาฆ่าแมลงที่หอพักของเขา โชคดีที่เพื่อนร่วมห้องพบเห็นอาการผิดปกติได้ทันท่วงที เพื่อนร่วมห้องรีบพาวงศกรที่ล้มฟุบอยู่กับพื้น หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก เหงื่อแตก ถ่ายท้องเต็มพื้น แขนขากระตุกเกร็งส่งโรงพยาบาลโดยไม่ลืมหยิบซองยาฆ่าแมลงมาให้หมอดู ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมห้องทำถูกต้องแล้ว การปฐมพยาบาลขั้นแรกของคนที่ถูกสารพิษก็คือ ถ้ารู้ตัวให้ดื่มน้ำมากๆ ล้วงคอให้อาเจียน แล้วดื่มนมตามแก้วใหญ่ๆ แต่ในกรณีที่ไม่รู้ตัว เหมือนวงศกร ให้รีบส่งคนไข้ไปสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด พร้อมนำสารพิษหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุของอาการ ไปให้หมอดู
เมื่อวงศกร ไปถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หมอรีบใส่ท่อหายใจให้เขา และสั่งล้างท้องด่วน พยาบาลจับวงศกร ซึ่งหมดสติ นอนตะแคงข้างซ้าย ใส่ท่อขนาดใหญ่ผ่านปากลงไปในกระเพาะ ดูดสารพิษที่ตกค้างออกให้มากที่สุด มีน้ำสีเหลืองไหลออกมาจากท่อกระเพาะอาหารจำนวนมาก พยาบาลใส่น้ำเข้าไปล้างกระเพาะประมาณหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วดูดออก ใส่น้ำแล้วดูดออก จนน้ำใส ไม่มีกลิ่น จึงเสร็จสิ้นการล้างท้อง เมื่อล้างท้องเสร็จ วงศกรยังไม่รู้สึกตัว แขนขาเขากระตุกเป็นพักๆ หมอจึงรีบให้ยากันชัก ให้น้ำเกลือ และรับวงศกรเข้ารักษาในไอซียู เพื่อคอยเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน โชคดีที่การกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายครั้งแรกของวงศกร สามารถแก้ได้ โดยยาแก้พิษ และเครื่องมือช่วยชีวิต
ตอนแม่ของวงศกรมารับลูกกลับบ้าน นางดีใจที่ลูกชายกลับมาเป็นปกติดี หลังจากอยู่ในไอซียูนานสองสัปดาห์ และย้ายไปอยู่หอผู้ป่วยอีกหนึ่งสัปดาห์ นอกจากอาการเหม่อลอย ชาตามปลายมือปลายเท้าแล้ว ก็ไม่มีอาการอื่นๆ อีก "คุณแม่คะ แม่ต้องคอยดูแล ให้กำลังใจลูกชายมากๆ นะคะ" หมอจิตเวชประจำหอผู้ป่วยแนะนำ วงศกร ได้รับคำปรึกษาให้เห็นคุณค่าของชีวิต หลีกเลี่ยงการผจญกับความเครียด การทำใจให้เข้มแข็ง ฯลฯ แต่บุคลิกภาพของเขาเป็นคนเก็บกด ปฏิเสธว่าชีวิตไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีความรู้สึกผิดที่คิดฆ่าตัวตายไม่ใช่เขาคนเดียว แม้แต่แม่ของเขาก็ปฏิเสธว่าลูกชายไม่ได้มีปัญหาอะไร
กลับจากไอซียูเพียงหกเดือน เขาก็กินยาฆ่าหญ้าเพื่อฆ่าตัวตายอีกครั้ง วงศกรถามอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย "ยาอะไรกินแล้วตายแน่นอน" "ยาฆ่าหญ้าสิ" อาจารย์ตอบแกมหัวเราะ เพราะอาจารย์ไม่เคยรู้ว่าเขาเคยฆ่าตัวตายมาก่อน "กินแค่สองช้อนโต๊ะ ก็ไม่มีโอกาสรอดแล้ว" อาจารย์เสริม
คราวนี้ วงศกรจึงกินยาฆ่าหญ้าสามช้อนโต๊ะเพื่อฆ่าตัวตาย เมื่อไก่แฟนสาวคนใหม่บอกเลิก ยาฆ่าหญ้าที่นิยมใช้กันแพร่หลาย เป็นสารชื่อ ”พาราควอท” เป็นของเหลวสีน้ำเงินเข้ม ยานี้อันตรายมาก และเป็นที่รู้ดีในหมู่แพทย์ว่า ตายอย่างช้าๆและทรมาณ ฤทธิ์ยาฆ่าหญ้าจะกัดเนื้อเยื่อ ให้เป็นแผลและค่อยๆ ดูดซึมเข้าทำพิษต่อไต ตับ ปอด และอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย
วงศกรกินยาฆ่าหญ้าเข้าไปเพียงสองนาที เขาอาเจียนอย่างรุนแรง เพราะปัจจุบันยาฆ่าหญ้ามีการผสมสารที่ทำให้อาเจียน เพื่อลดพิษของผู้ที่กินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ คุณแม่รีบพาเขามาหาหมอ คุณหมอทำการล้างท้องด้วยน้ำผสมยาพิเศษ และให้กินดินเหนียว ร่วมกับยาระบายทุก 6 ชั่วโมง เพื่อให้ดินเหนียวช่วยดูดซึมสารพิษ และยาระบายจะระบายสารพิษออกทางอุจจาระ นอกจากนั้น ยังฉีดยาขับปัสสาวะ เพื่อให้ไตเร่งขับสารพิษตัวนี้ออกจากร่างกาย
หนึ่งวันหลังจากวงศกรรับประทานยาฆ่าหญ้า เขานั่งได้ แต่ในปากมีแผลพุพอง และมีคราบสีขาวคลุมเต็ม เขาร้องไห้ว่า อยากตายทำไมไม่ตาย วันที่สามที่อยู่ในไอซียู แฟนสาวที่ชื่อไก่มาหา งอนง้อและบอกเขาว่า "วงศกร ไก่ผิดเอง เมื่อวงศกรหายดี เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะนะ" ต่อจากนั้น ไก่ก็มาเฝ้าเขาทุกวัน ตอนนี้วงศกรไม่อยากตาย หมอเองก็ช่วยเต็มที่ มีการล้างสารพิษ ในเลือดของเขา โดยการเปลี่ยนถ่ายเลือดบางส่วน วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 วัน
"แต่ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดกฏเกณฑ์ของชีวิต เมื่อไม่อยากตาย กลับต้องตาย" วงศกรเริ่มมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง แสดงว่าตับเริ่มวาย ปัสสาวะไม่ออก แขนขาบวม แสดงว่าไตเริ่มวาย แพทย์ให้ยารักษาโรคตับวายและไตวาย อย่างเต็มที่ ล้างไตหลายครั้งทำให้อาการดีขื้น แต่เมื่อครบสิบวัน ของการพยายามฆ่าตัวตายวงศกรเริ่มหายใจหอบเหนื่อย ไอออกมาเป็นเลือด นั่นแสดงว่า ปอดเริ่มเกิดพังผืดจากฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า
อาการทางปอดแย่ลงทุกวัน จนไม่สามารถหายใจได้ แม้ใช้เครื่องหายใจ ก็ไม่อาจอัดอากาศเข้าปอดได้ ครบสองอาทิตย์เขาชักเกร็ง หัวใจหยุดเต้น ขณะที่ไก่แฟนสาว เฝ้าเขาด้วยใบหน้านองน้ำตา การช่วยชีวิตขั้นสูง ไม่สามารถยื้อแย่งลมหายใจของเขากลับคืนมาได้
บางท่านมาอยู่ไอซียูด้วยความเสียสละ บางท่านมาอยู่ไอซียูด้วยความประมาท ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปเป็นอุทาหรณ์ก่อนการตัดสินใจที่จะทำอะไรลงไป เพราะเมื่อเราตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้ว บางครั้งเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงผลรับในภายหลังได้อีกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แหล่งข้อมูล: หนังสือ 108 คนไข้ไอซียู
เจอมาจาก เพจ Psychologist Cafe' 
เมื่อไม่ต้องการตายกลับตาย เมื่อต้องการตายกลับตาย (กินยาฆ่าหญ้า)
การมานอนไอซียูครั้งนี้ของวงศกร เขากินยาฆ่าหญ้าไปสามช้อนโต๊ะ นี่เป็นครั้งที่สองของการพยายามฆ่าตัวตาย หกเดือนก่อน เขาพยายามฆ่าตัวตายโดยกินยาฆ่าแมลง เนื่องจากทะเลาะกับแฟนสาว เขาได้ดื่มเหล้าผสมยาฆ่าแมลงที่หอพักของเขา โชคดีที่เพื่อนร่วมห้องพบเห็นอาการผิดปกติได้ทันท่วงที เพื่อนร่วมห้องรีบพาวงศกรที่ล้มฟุบอยู่กับพื้น หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก เหงื่อแตก ถ่ายท้องเต็มพื้น แขนขากระตุกเกร็งส่งโรงพยาบาลโดยไม่ลืมหยิบซองยาฆ่าแมลงมาให้หมอดู ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมห้องทำถูกต้องแล้ว การปฐมพยาบาลขั้นแรกของคนที่ถูกสารพิษก็คือ ถ้ารู้ตัวให้ดื่มน้ำมากๆ ล้วงคอให้อาเจียน แล้วดื่มนมตามแก้วใหญ่ๆ แต่ในกรณีที่ไม่รู้ตัว เหมือนวงศกร ให้รีบส่งคนไข้ไปสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด พร้อมนำสารพิษหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุของอาการ ไปให้หมอดู
เมื่อวงศกร ไปถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หมอรีบใส่ท่อหายใจให้เขา และสั่งล้างท้องด่วน พยาบาลจับวงศกร ซึ่งหมดสติ นอนตะแคงข้างซ้าย ใส่ท่อขนาดใหญ่ผ่านปากลงไปในกระเพาะ ดูดสารพิษที่ตกค้างออกให้มากที่สุด มีน้ำสีเหลืองไหลออกมาจากท่อกระเพาะอาหารจำนวนมาก พยาบาลใส่น้ำเข้าไปล้างกระเพาะประมาณหนึ่งแก้วใหญ่ แล้วดูดออก ใส่น้ำแล้วดูดออก จนน้ำใส ไม่มีกลิ่น จึงเสร็จสิ้นการล้างท้อง เมื่อล้างท้องเสร็จ วงศกรยังไม่รู้สึกตัว แขนขาเขากระตุกเป็นพักๆ หมอจึงรีบให้ยากันชัก ให้น้ำเกลือ และรับวงศกรเข้ารักษาในไอซียู เพื่อคอยเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน โชคดีที่การกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายครั้งแรกของวงศกร สามารถแก้ได้ โดยยาแก้พิษ และเครื่องมือช่วยชีวิต
ตอนแม่ของวงศกรมารับลูกกลับบ้าน นางดีใจที่ลูกชายกลับมาเป็นปกติดี หลังจากอยู่ในไอซียูนานสองสัปดาห์ และย้ายไปอยู่หอผู้ป่วยอีกหนึ่งสัปดาห์ นอกจากอาการเหม่อลอย ชาตามปลายมือปลายเท้าแล้ว ก็ไม่มีอาการอื่นๆ อีก "คุณแม่คะ แม่ต้องคอยดูแล ให้กำลังใจลูกชายมากๆ นะคะ" หมอจิตเวชประจำหอผู้ป่วยแนะนำ วงศกร ได้รับคำปรึกษาให้เห็นคุณค่าของชีวิต หลีกเลี่ยงการผจญกับความเครียด การทำใจให้เข้มแข็ง ฯลฯ แต่บุคลิกภาพของเขาเป็นคนเก็บกด ปฏิเสธว่าชีวิตไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีความรู้สึกผิดที่คิดฆ่าตัวตายไม่ใช่เขาคนเดียว แม้แต่แม่ของเขาก็ปฏิเสธว่าลูกชายไม่ได้มีปัญหาอะไร
กลับจากไอซียูเพียงหกเดือน เขาก็กินยาฆ่าหญ้าเพื่อฆ่าตัวตายอีกครั้ง วงศกรถามอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัย "ยาอะไรกินแล้วตายแน่นอน" "ยาฆ่าหญ้าสิ" อาจารย์ตอบแกมหัวเราะ เพราะอาจารย์ไม่เคยรู้ว่าเขาเคยฆ่าตัวตายมาก่อน "กินแค่สองช้อนโต๊ะ ก็ไม่มีโอกาสรอดแล้ว" อาจารย์เสริม
คราวนี้ วงศกรจึงกินยาฆ่าหญ้าสามช้อนโต๊ะเพื่อฆ่าตัวตาย เมื่อไก่แฟนสาวคนใหม่บอกเลิก ยาฆ่าหญ้าที่นิยมใช้กันแพร่หลาย เป็นสารชื่อ ”พาราควอท” เป็นของเหลวสีน้ำเงินเข้ม ยานี้อันตรายมาก และเป็นที่รู้ดีในหมู่แพทย์ว่า ตายอย่างช้าๆและทรมาณ ฤทธิ์ยาฆ่าหญ้าจะกัดเนื้อเยื่อ ให้เป็นแผลและค่อยๆ ดูดซึมเข้าทำพิษต่อไต ตับ ปอด และอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย
วงศกรกินยาฆ่าหญ้าเข้าไปเพียงสองนาที เขาอาเจียนอย่างรุนแรง เพราะปัจจุบันยาฆ่าหญ้ามีการผสมสารที่ทำให้อาเจียน เพื่อลดพิษของผู้ที่กินเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ คุณแม่รีบพาเขามาหาหมอ คุณหมอทำการล้างท้องด้วยน้ำผสมยาพิเศษ และให้กินดินเหนียว ร่วมกับยาระบายทุก 6 ชั่วโมง เพื่อให้ดินเหนียวช่วยดูดซึมสารพิษ และยาระบายจะระบายสารพิษออกทางอุจจาระ นอกจากนั้น ยังฉีดยาขับปัสสาวะ เพื่อให้ไตเร่งขับสารพิษตัวนี้ออกจากร่างกาย
หนึ่งวันหลังจากวงศกรรับประทานยาฆ่าหญ้า เขานั่งได้ แต่ในปากมีแผลพุพอง และมีคราบสีขาวคลุมเต็ม เขาร้องไห้ว่า อยากตายทำไมไม่ตาย วันที่สามที่อยู่ในไอซียู แฟนสาวที่ชื่อไก่มาหา งอนง้อและบอกเขาว่า "วงศกร ไก่ผิดเอง เมื่อวงศกรหายดี เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเถอะนะ" ต่อจากนั้น ไก่ก็มาเฝ้าเขาทุกวัน ตอนนี้วงศกรไม่อยากตาย หมอเองก็ช่วยเต็มที่ มีการล้างสารพิษ ในเลือดของเขา โดยการเปลี่ยนถ่ายเลือดบางส่วน วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 วัน
"แต่ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดกฏเกณฑ์ของชีวิต เมื่อไม่อยากตาย กลับต้องตาย" วงศกรเริ่มมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง แสดงว่าตับเริ่มวาย ปัสสาวะไม่ออก แขนขาบวม แสดงว่าไตเริ่มวาย แพทย์ให้ยารักษาโรคตับวายและไตวาย อย่างเต็มที่ ล้างไตหลายครั้งทำให้อาการดีขื้น แต่เมื่อครบสิบวัน ของการพยายามฆ่าตัวตายวงศกรเริ่มหายใจหอบเหนื่อย ไอออกมาเป็นเลือด นั่นแสดงว่า ปอดเริ่มเกิดพังผืดจากฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า
อาการทางปอดแย่ลงทุกวัน จนไม่สามารถหายใจได้ แม้ใช้เครื่องหายใจ ก็ไม่อาจอัดอากาศเข้าปอดได้ ครบสองอาทิตย์เขาชักเกร็ง หัวใจหยุดเต้น ขณะที่ไก่แฟนสาว เฝ้าเขาด้วยใบหน้านองน้ำตา การช่วยชีวิตขั้นสูง ไม่สามารถยื้อแย่งลมหายใจของเขากลับคืนมาได้
บางท่านมาอยู่ไอซียูด้วยความเสียสละ บางท่านมาอยู่ไอซียูด้วยความประมาท ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปเป็นอุทาหรณ์ก่อนการตัดสินใจที่จะทำอะไรลงไป เพราะเมื่อเราตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้ว บางครั้งเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงผลรับในภายหลังได้อีกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้