เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงจากครอบครัวหนึ่ง ไม่มีการใส่สีตีไข่อะไรทั้งนั้น
เรื่องมีอยู่ว่า ยายของเรามีนิสัยชอบเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ค่ะ เป็นมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะตอนนั้นเราก็ยังไม่เกิดค่ะ
แต่พอคุณยายมีคุณแม่ของเราขึ้นมา แม่ของเราก็กลับชอบการเอื้อเฝื้อเหมือนกันค่ะ แต่พอดีมันเริ่มหนักขึ้น
เมื่อแม่เลิกกับพ่อ คุณแม่ก็มีลูกสาว1คนพอดี(นั่นคือพี่เราค่ะ) แล้วเพื่อนแม่ก็มีน้องพอดีแต่เขาเลี้ยงไม่ไหว
แม่เราเลยอาสาเลี้ยงให้(นั่นก็คือเราเองค่ะ) เรากับพี่สาวห่างกัน7ปีค่ะ แต่พอดีบ้านเราล้มละลายพอดี เพราะความเอื้อเฝื้อของยาย
เราเลยจำเป็นต้องขายบ้านของเราเพื่อไปอยู่คอนโดเล็กๆค่ะ เรามีกัน4คนคือ ยาย แม่ พี่สาว เรา เนื่องจากการเงินเราไม่ค่อยมี
บางทีก็ต้องเก็บไว้บ้าง ครอบครัวนี้เลี้ยงดูเราดีมากค่ะ ไม่ขาดอะไรเลย แต่หลัง2ปีมานี้เรารู้สึกสภาพครอบครัวแย่ลงมากค่ะ
เพื่อนแม่คนนั้นได้กลับมาอีกค่ะ แล้วก็บอกว่า "มีลูกอีกคนนึงแล้ว" แม่เราก็เอ่ยอาสาของทีจะเลี้ยงอีกที ก็เลยกลายเป็นมี5คนแล้วค่ะ
ตอนนี้เขาอายุ3ขวบค่ะ แต่เรา17แล้ว อยู่ในช่วงนี้ต้องเก็บคะแนนเพื่อเข้ามหาลัยค่ะ แล้วตั้งแต่มีเด็กคนนี้มา
เราเครียดมากเลยค่ะ เรารู้สึกเวลาจะทำอะไรต้องเป็นกังวลตลอด กลับบ้านก็ต้องกลับมาเลี้ยงค่ะ มี24ชั่วโมง เราเลี้ยงประมาณ20ชั่วโมง
อีก4ชั่วโมงเรานอนเพื่อที่จะตื่นไปโรงเรียนตอนตี5ค่ะ ทุกวันนี้เราไม่ได้อ่านหนังสือเลยค่ะเนื่องจากต้องเลี้ยงน้อง
เราพยายามพูดกับแม่แล้วค่ะว่าให้เอาไปคืน แต่แม่ทำเหมือนหูทวนลมค่ะ เราพยายามพูดทุกครั้งที่พูดถึงเด็กคนนี้
แต่แม่เราก็เหมือนกับแบบไม่สงสารเพื่อนแม่หรอ เหมือนข้ออ้างอะค่ะ แล้วยิ่งตอนนี้คุณแม่มีธุรกิจขายเสื้อที่ต้องไปขายทุกวัน พฤ-อท
ตั้งแต่บ่าย3ถึงตี2 ตอนนี้บ้านเรารกมากค่ะ ไม่ต่างอะไรจากรังหนูยักษ์เลย เราจึงต้องรีบกลับบ้านมาเลี้ยงน้องและทำความสะอาดห้อง
ที่โดนน้องเรารื้อและแพมเพิสค่ะแถมช่วง จ-พ แม่เราก็ต้องไปซื้อผ้าค่ะ ยังดีนะคะที่ไม่ให้หยุดเรียนมาเลี้ยงน้อง
ส่วนพี่เราก็เลี้ยงน้องไม่เป็นค่ะ เรารู้สึกอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดเลยค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้เข้ามหาลัยให้ได้ตามที่กำหนด
แต่เรารู้สึกเราต้องการสมาธิในการอ่านหนังสือ ในการออกไปติวกับเพื่อน ในการออกไปเรียนพิเศษ แต่ทุกวันนี้ได้แต่อยู่บ้านเลี้ยงน้องค่ะ
เราควรบอกแม่ยังไงดีคะ ให้เค้าเข้าใจเราบ้างเพราะตอนนี้เราทนไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกเราย่ำแย่มากค่ะ รบกวนด้วยนะคะT__T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆแล้วตอนม.1-3เราเรียนดีมาตลอดค่ะ พอมีเด็กคนนี้เราเริ่มเกรดตกค่ะ พอลองไปปรึกษาคุณครู
คุณครูก็บอกว่าอย่าโทษใครให้โทษตัวเองค่ะ แต่ก็ยอมรับค่ะว่าเกรดตกจริงๆ แต่เราเป็นคนสมาธิสั้นค่ะ
เราไม่สามารถอ่านหนังสือโดยมีเสียงเด็กได้ค่ะT__T
คุณแม่ชอบเลี้ยงเด็ก แต่ที่บ้านมีปัญหา ทำไงดีคะ?
เรื่องมีอยู่ว่า ยายของเรามีนิสัยชอบเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ค่ะ เป็นมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะตอนนั้นเราก็ยังไม่เกิดค่ะ
แต่พอคุณยายมีคุณแม่ของเราขึ้นมา แม่ของเราก็กลับชอบการเอื้อเฝื้อเหมือนกันค่ะ แต่พอดีมันเริ่มหนักขึ้น
เมื่อแม่เลิกกับพ่อ คุณแม่ก็มีลูกสาว1คนพอดี(นั่นคือพี่เราค่ะ) แล้วเพื่อนแม่ก็มีน้องพอดีแต่เขาเลี้ยงไม่ไหว
แม่เราเลยอาสาเลี้ยงให้(นั่นก็คือเราเองค่ะ) เรากับพี่สาวห่างกัน7ปีค่ะ แต่พอดีบ้านเราล้มละลายพอดี เพราะความเอื้อเฝื้อของยาย
เราเลยจำเป็นต้องขายบ้านของเราเพื่อไปอยู่คอนโดเล็กๆค่ะ เรามีกัน4คนคือ ยาย แม่ พี่สาว เรา เนื่องจากการเงินเราไม่ค่อยมี
บางทีก็ต้องเก็บไว้บ้าง ครอบครัวนี้เลี้ยงดูเราดีมากค่ะ ไม่ขาดอะไรเลย แต่หลัง2ปีมานี้เรารู้สึกสภาพครอบครัวแย่ลงมากค่ะ
เพื่อนแม่คนนั้นได้กลับมาอีกค่ะ แล้วก็บอกว่า "มีลูกอีกคนนึงแล้ว" แม่เราก็เอ่ยอาสาของทีจะเลี้ยงอีกที ก็เลยกลายเป็นมี5คนแล้วค่ะ
ตอนนี้เขาอายุ3ขวบค่ะ แต่เรา17แล้ว อยู่ในช่วงนี้ต้องเก็บคะแนนเพื่อเข้ามหาลัยค่ะ แล้วตั้งแต่มีเด็กคนนี้มา
เราเครียดมากเลยค่ะ เรารู้สึกเวลาจะทำอะไรต้องเป็นกังวลตลอด กลับบ้านก็ต้องกลับมาเลี้ยงค่ะ มี24ชั่วโมง เราเลี้ยงประมาณ20ชั่วโมง
อีก4ชั่วโมงเรานอนเพื่อที่จะตื่นไปโรงเรียนตอนตี5ค่ะ ทุกวันนี้เราไม่ได้อ่านหนังสือเลยค่ะเนื่องจากต้องเลี้ยงน้อง
เราพยายามพูดกับแม่แล้วค่ะว่าให้เอาไปคืน แต่แม่ทำเหมือนหูทวนลมค่ะ เราพยายามพูดทุกครั้งที่พูดถึงเด็กคนนี้
แต่แม่เราก็เหมือนกับแบบไม่สงสารเพื่อนแม่หรอ เหมือนข้ออ้างอะค่ะ แล้วยิ่งตอนนี้คุณแม่มีธุรกิจขายเสื้อที่ต้องไปขายทุกวัน พฤ-อท
ตั้งแต่บ่าย3ถึงตี2 ตอนนี้บ้านเรารกมากค่ะ ไม่ต่างอะไรจากรังหนูยักษ์เลย เราจึงต้องรีบกลับบ้านมาเลี้ยงน้องและทำความสะอาดห้อง
ที่โดนน้องเรารื้อและแพมเพิสค่ะแถมช่วง จ-พ แม่เราก็ต้องไปซื้อผ้าค่ะ ยังดีนะคะที่ไม่ให้หยุดเรียนมาเลี้ยงน้อง
ส่วนพี่เราก็เลี้ยงน้องไม่เป็นค่ะ เรารู้สึกอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดเลยค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้เข้ามหาลัยให้ได้ตามที่กำหนด
แต่เรารู้สึกเราต้องการสมาธิในการอ่านหนังสือ ในการออกไปติวกับเพื่อน ในการออกไปเรียนพิเศษ แต่ทุกวันนี้ได้แต่อยู่บ้านเลี้ยงน้องค่ะ
เราควรบอกแม่ยังไงดีคะ ให้เค้าเข้าใจเราบ้างเพราะตอนนี้เราทนไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกเราย่ำแย่มากค่ะ รบกวนด้วยนะคะT__T
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้