คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ต้องอธิบายย้อนอดีตไปถึงโอลิมปิกแล้วกัน
สมัยก่อนโอลิมปิกถือเอาอุดมคติของการเป็นนักกีฬาสมัครเล่นของบารอนเดอกูเบอแตง ผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นหลัก จึงมีการกำหนดว่า ห้ามนักกีฬาอาชีพลงแข่งขันอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทำให้กีฬาหลายชนิดที่มีระบบกีฬาอาชีพเริ่มมีปัญหา อย่างเทนนิสก็ถูกถอดออกจากโอลิมปิกไปนานมาก เพิ่งกลับมาอีกครั้งในปี 1988 นี่เอง
ส่วนเรื่องของฟุตบอล แต่ก่อนก็เหมือนกับกีฬาอื่น ๆ ในโอลิมปิกคือห้ามนักกีฬาอาชีพเข้าแข่งขัน ตอนแรกก็ยังไม่เป็นไรมาก จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อชาติในยุโรปตะวันออกกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งตามอุดมคติของคอมมิวนิสต์จะไม่มีธุรกิจเอกชน ฟุตบอลอาชีพจึงไม่มีไปด้วย มีแต่ทีมฟุตบอล "สมัครเล่น" ที่ตั้งโดยองค์กรต่าง ๆ ของรัฐ และนักฟุตบอล "สมัครเล่น" ที่มีชื่อเป็นพนักงานขององค์กรเหล่านั้นเท่านั้น จึงไม่ถือเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต่อให้เก่งขนาดไปติดทีมชาติแล้วก็ตาม
ผลก็คือเมื่อประเทศเหล่านั้นมาแข่งฟุตบอลในโอลิมปิกโดยใช้นักเตะ "สมัครเล่น" ที่ติดทีมชาติพวกนี้ ก็เลยเป็นต่อคู่แข่งที่ใช้นักเตะสมัครเล่นจริง ๆ แบบชนิดไม่เห็นฝุ่น เหมือนเอาทีมพรีเมียร์ลีกมาเตะกับทีมสมัครเล่นยังไงยังงั้น เรียกว่าโอลิมปิกตั้งแต่ปี 1952 จนถึง 1980 ชาติยุโรปตะวันออกที่เป็นคอมมิวนิสต์ผูกขาดเหรียญรางวัลเลย ก็จะไม่ผูกขาดยังไงไหว อย่างฮังการีชุดแมกยาร์มหัศจรรย์ปี 1952 ขนาดเล่นเกมอุ่นเครื่องกับอังกฤษ อังกฤษเอานักเตะอาชีพมาสู้ยังโดนยิงพรุนคาเวมบลีย์เลย แล้วพวกนักเตะสมัครเล่นจะไปเหลืออะไร
นอกจากเรื่องของความห่างแล้ว อีกปัญหาที่เกิดจากการเอานักกีฬาสมัครเล่นเท่านั้นมาแข่งก็คือ "ความนิยมของคนดู" โดยเฉพาะเมื่อมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ปรากฎว่าเรตติ้งของโอลิมปิกที่มีแต่นักกีฬาสมัครเล่นไม่ค่อยดี กลายเป็นว่ายิ่งจัดยิ่งเจ๊ง จนถึงขนาดแทบไม่มีใครอยากเป็นเจ้าภาพ เพราะกลัวขาดทุน อย่างปี 1984 LA ได้เป็นเจ้าภาพโดยไม่มีคู่แข่งเลยก็มี
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎห้ามนักกีฬาอาชีพลงแข่งโอลิมปิกเหอะ ไม่งั้นไม่ไหวแน่ จนในที่สุดโอลิมปิกก็ต้องยอมปล่อยให้นักกีฬาอาชีพเข้าแข่งขันโอลิมปิกได้ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 ต่อต้นทศวรรษที่ 90 เป็นต้นมา
จะมียกเว้นก็เฉพาะฟุตบอลที่ไม่ยอมเปิดเสรี เพราะฟีฟ่ากลัวว่าถ้าปล่อยหมดจะทำให้กระทบกับเรตติ้งของฟุตบอลโลก เลยขอให้เป็นแค่ชุด U23 เท่านั้นที่ไปแข่งได้
สมัยก่อนโอลิมปิกถือเอาอุดมคติของการเป็นนักกีฬาสมัครเล่นของบารอนเดอกูเบอแตง ผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นหลัก จึงมีการกำหนดว่า ห้ามนักกีฬาอาชีพลงแข่งขันอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ทำให้กีฬาหลายชนิดที่มีระบบกีฬาอาชีพเริ่มมีปัญหา อย่างเทนนิสก็ถูกถอดออกจากโอลิมปิกไปนานมาก เพิ่งกลับมาอีกครั้งในปี 1988 นี่เอง
ส่วนเรื่องของฟุตบอล แต่ก่อนก็เหมือนกับกีฬาอื่น ๆ ในโอลิมปิกคือห้ามนักกีฬาอาชีพเข้าแข่งขัน ตอนแรกก็ยังไม่เป็นไรมาก จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อชาติในยุโรปตะวันออกกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งตามอุดมคติของคอมมิวนิสต์จะไม่มีธุรกิจเอกชน ฟุตบอลอาชีพจึงไม่มีไปด้วย มีแต่ทีมฟุตบอล "สมัครเล่น" ที่ตั้งโดยองค์กรต่าง ๆ ของรัฐ และนักฟุตบอล "สมัครเล่น" ที่มีชื่อเป็นพนักงานขององค์กรเหล่านั้นเท่านั้น จึงไม่ถือเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต่อให้เก่งขนาดไปติดทีมชาติแล้วก็ตาม
ผลก็คือเมื่อประเทศเหล่านั้นมาแข่งฟุตบอลในโอลิมปิกโดยใช้นักเตะ "สมัครเล่น" ที่ติดทีมชาติพวกนี้ ก็เลยเป็นต่อคู่แข่งที่ใช้นักเตะสมัครเล่นจริง ๆ แบบชนิดไม่เห็นฝุ่น เหมือนเอาทีมพรีเมียร์ลีกมาเตะกับทีมสมัครเล่นยังไงยังงั้น เรียกว่าโอลิมปิกตั้งแต่ปี 1952 จนถึง 1980 ชาติยุโรปตะวันออกที่เป็นคอมมิวนิสต์ผูกขาดเหรียญรางวัลเลย ก็จะไม่ผูกขาดยังไงไหว อย่างฮังการีชุดแมกยาร์มหัศจรรย์ปี 1952 ขนาดเล่นเกมอุ่นเครื่องกับอังกฤษ อังกฤษเอานักเตะอาชีพมาสู้ยังโดนยิงพรุนคาเวมบลีย์เลย แล้วพวกนักเตะสมัครเล่นจะไปเหลืออะไร
นอกจากเรื่องของความห่างแล้ว อีกปัญหาที่เกิดจากการเอานักกีฬาสมัครเล่นเท่านั้นมาแข่งก็คือ "ความนิยมของคนดู" โดยเฉพาะเมื่อมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ปรากฎว่าเรตติ้งของโอลิมปิกที่มีแต่นักกีฬาสมัครเล่นไม่ค่อยดี กลายเป็นว่ายิ่งจัดยิ่งเจ๊ง จนถึงขนาดแทบไม่มีใครอยากเป็นเจ้าภาพ เพราะกลัวขาดทุน อย่างปี 1984 LA ได้เป็นเจ้าภาพโดยไม่มีคู่แข่งเลยก็มี
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎห้ามนักกีฬาอาชีพลงแข่งโอลิมปิกเหอะ ไม่งั้นไม่ไหวแน่ จนในที่สุดโอลิมปิกก็ต้องยอมปล่อยให้นักกีฬาอาชีพเข้าแข่งขันโอลิมปิกได้ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 ต่อต้นทศวรรษที่ 90 เป็นต้นมา
จะมียกเว้นก็เฉพาะฟุตบอลที่ไม่ยอมเปิดเสรี เพราะฟีฟ่ากลัวว่าถ้าปล่อยหมดจะทำให้กระทบกับเรตติ้งของฟุตบอลโลก เลยขอให้เป็นแค่ชุด U23 เท่านั้นที่ไปแข่งได้
Isbella ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1476906 ถูกใจ, JinWoo ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 734572 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1127802 ถูกใจ, ต้อมติ้ว ถูกใจ, Sioux ถูกใจ, Los Blancos ถูกใจ, OrangE_KnighT ถูกใจ, บุรี ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไม ฟุตบอล ซีเกมส์ เอเชียนส์เกมส์ โอลิมปิคเกมส์ ต้องจำกัดอายุไม่เกิน 23 ปีคะ?