ปีนี้ขอเชียร์ตามนี้ครับ
1. The Grand Budapest Hotel (Best Picture)
ปีนี้หนังที่เข้าชิง 8 เรื่อง ได้ดูไปแล้ว 5 เรื่อง ยกเว้น Birdman Selma และ The Theory of Everything ชอบที่สุดต้องยกให้ The Grand Budapest Hotel คือไม่รู้จะอธิบายยังไง มันประทับใจทุกองค์ประกอบของหนังเลย บท นักแสดง ภาพ มุมกล้อง ยิ่งงานโปรดักชั่นเรียกได้ว่าสุดยอดไปเลย ฉากแต่ละฉากที่จัดขึ้นมาดูแล้วมันสนุกไปพร้อมๆกับตัวหนังที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่ ส่วนเรื่องอื่นที่เข้าชิง อย่าง Boyhood ผมยังรู้สึกว่าหนังมันดำเนินเรื่องราบเรียบเกินไป The Imitation Game ควรจะทำให้เป็นดราม่าเข้มข้นไปเลย แต่ไม่ทำ ดันพยายามแทรกมุขตลกเข้ามาเยอะเกินไป ดูไม่เวิร์คเอาซะเลย เรื่องอื่นๆขอละไว้แล้วกัน ส่วนตัวเบื่อหนังแนวดราม่าล่ะอยากให้หนังแนวนี้ชนะบ้าง ผมคุยกับเพื่อนไว้แล้วว่าถ้า The Grand Budapest Hotel ชนะจะเลี้ยงเบียร์มัน 1 ลัง (เพื่อนมันเชียร์ Boyhood) หวังว่าผมจะได้เลี้ยงเบียร์มันนะ
2. Wes Anderson (Best Directing)
ให้ตายสิ หลังจากดู The Grand Budapest Hotel จบ ผมนี่ปลื้มเฮียเวสขึ้นเป็นทวีคูณเลย เพราะจำได้ว่าตั้งแต่ดูหนังของเฮียแกเรื่องแรก The Royal Tenenbaums ผมก็ตามดูหนังของเขามาตลอด ขาดแค่ The Life Aquatic with Steve Zissou กับอีกสองเรื่องก่อนหน้านั้น มาครั้งนี้เหมือนฝีมือเขาถึงจุดสูงสุดของการเป็นผู้กำกับแล้ว ตอนแรกผมคิดว่า Moonrise Kingdom เป็นเรื่องที่ดีที่สุดของเขา แต่น่าจะเป็นเพราะ The Grand Budapest Hotel ได้ทุนสร้างที่มากกว่า งานโปรดักชั่นเลยออกมาดีกว่าและเบียดแซงชนะไปได้ในที่สุด (ในความคิดผมนะ) ทำให้นึกถึงตอน David Fincher กำกับ The Social Network เป็นช่วงที่ท็อปฟอร์มที่สุด เสียดายพลาด Oscar ไป หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเฮียเวสนะ รู้ว่าปีนี้คู่แข่งแต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น แต่ปีนี้จะขอเชียร์แบบสุดๆล่ะกัน อยากให้สไตล์การกำกับเขาเป็นที่จดจำได้ว่าเป็นผู้ชนะในเวที Oscar สู้เขา...เฮียเวส...เฮียเวส...สู้ๆ...สู้ๆ...เฮียเวส...
3. Edward Norton (Best Supporting Actor)
แม้ว่ายังไม่ได้ดูการแสดงของเขาในเรื่อง Birdman ก็ตาม แค่รู้ว่ามีชื่อเข้าชิงผมก็เชียร์แบบไม่มีเหตุผลแล้ว เพราะผมชอบการแสดงของ Edward Norton มาก ตามดูทุกเรื่อง ในช่วงชีวิตการแสดงของเขาน่าจะคว้า Oscar ได้แล้วเฉียดไปมาสองครั้งล่ะ ไม่ว่าจะในเรื่อง Primal Fear ปี 1996 และ American History X ปี 1998 เสียดายหลังๆ ได้แสดงหนังที่มีบทน้อยเกินไป ไม่ได้บทส่งให้ได้ใช้ฝีมืออย่างเต็มที่ สำหรับปีนี้รางวัลคงไม่น่าจะพ้นมือของ J.K. Simmons จากเรื่อง Whiplash แน่ ผมดูมาแล้วก็ยอมรับว่าเขาแสดงดีจริงๆ ควรจะได้ด้วย แต่ยังไงก็ขอแอบเชียร์ Edward Norton ไว้เล็กๆ แล้วกัน
4. “Lost Stars” : Begin Again (Best Original Song)
เพลง Lost Stars แต่งเพื่อหนัง Begin Again หรือหนัง Begin Again สร้างเพื่อเพลง Lost Stars กันแน่? คงตั้งเป็นคำถามโลกแตกอีกคำถามหนึ่งได้เลย สำหรับคนที่ไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้วผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งได้อิทธิพลจากการฟังเพลงนี้แน่เลย ยิ่งตอนหนังดำเนินเรื่องในช่วงเวลาที่ Adam Levine ร้องเพลงนี้ เสียงร้อง ทำนอง ความหมายของเพลง มันช่างเป็นช่วงเวลาทองคำของหนังจริงๆ ส่วนเพลงคู่แข่งปีนี้ฟังแล้วมันไม่สามารถชนะความประทับใจที่เกิดขึ้นกับเพลง Lost Stars ได้เลย ทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมตามเชียร์ในสาขาเพลงประกอบ ก็หวังว่าจะชนะได้ Oscar ไปนะ ว่าแล้วขอฟังเพลงนี้อีกซักรอบ
ปีนี้เพื่อนเชียร์ใคร สาขาไหน บ้างครับ มาแชร์กันครับ
*** Oscars ปีนี้ เชียร์ใคร สาขาไหน กันบ้างครับ ***
1. The Grand Budapest Hotel (Best Picture)
ปีนี้หนังที่เข้าชิง 8 เรื่อง ได้ดูไปแล้ว 5 เรื่อง ยกเว้น Birdman Selma และ The Theory of Everything ชอบที่สุดต้องยกให้ The Grand Budapest Hotel คือไม่รู้จะอธิบายยังไง มันประทับใจทุกองค์ประกอบของหนังเลย บท นักแสดง ภาพ มุมกล้อง ยิ่งงานโปรดักชั่นเรียกได้ว่าสุดยอดไปเลย ฉากแต่ละฉากที่จัดขึ้นมาดูแล้วมันสนุกไปพร้อมๆกับตัวหนังที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่ ส่วนเรื่องอื่นที่เข้าชิง อย่าง Boyhood ผมยังรู้สึกว่าหนังมันดำเนินเรื่องราบเรียบเกินไป The Imitation Game ควรจะทำให้เป็นดราม่าเข้มข้นไปเลย แต่ไม่ทำ ดันพยายามแทรกมุขตลกเข้ามาเยอะเกินไป ดูไม่เวิร์คเอาซะเลย เรื่องอื่นๆขอละไว้แล้วกัน ส่วนตัวเบื่อหนังแนวดราม่าล่ะอยากให้หนังแนวนี้ชนะบ้าง ผมคุยกับเพื่อนไว้แล้วว่าถ้า The Grand Budapest Hotel ชนะจะเลี้ยงเบียร์มัน 1 ลัง (เพื่อนมันเชียร์ Boyhood) หวังว่าผมจะได้เลี้ยงเบียร์มันนะ
2. Wes Anderson (Best Directing)
ให้ตายสิ หลังจากดู The Grand Budapest Hotel จบ ผมนี่ปลื้มเฮียเวสขึ้นเป็นทวีคูณเลย เพราะจำได้ว่าตั้งแต่ดูหนังของเฮียแกเรื่องแรก The Royal Tenenbaums ผมก็ตามดูหนังของเขามาตลอด ขาดแค่ The Life Aquatic with Steve Zissou กับอีกสองเรื่องก่อนหน้านั้น มาครั้งนี้เหมือนฝีมือเขาถึงจุดสูงสุดของการเป็นผู้กำกับแล้ว ตอนแรกผมคิดว่า Moonrise Kingdom เป็นเรื่องที่ดีที่สุดของเขา แต่น่าจะเป็นเพราะ The Grand Budapest Hotel ได้ทุนสร้างที่มากกว่า งานโปรดักชั่นเลยออกมาดีกว่าและเบียดแซงชนะไปได้ในที่สุด (ในความคิดผมนะ) ทำให้นึกถึงตอน David Fincher กำกับ The Social Network เป็นช่วงที่ท็อปฟอร์มที่สุด เสียดายพลาด Oscar ไป หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเฮียเวสนะ รู้ว่าปีนี้คู่แข่งแต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น แต่ปีนี้จะขอเชียร์แบบสุดๆล่ะกัน อยากให้สไตล์การกำกับเขาเป็นที่จดจำได้ว่าเป็นผู้ชนะในเวที Oscar สู้เขา...เฮียเวส...เฮียเวส...สู้ๆ...สู้ๆ...เฮียเวส...
3. Edward Norton (Best Supporting Actor)
แม้ว่ายังไม่ได้ดูการแสดงของเขาในเรื่อง Birdman ก็ตาม แค่รู้ว่ามีชื่อเข้าชิงผมก็เชียร์แบบไม่มีเหตุผลแล้ว เพราะผมชอบการแสดงของ Edward Norton มาก ตามดูทุกเรื่อง ในช่วงชีวิตการแสดงของเขาน่าจะคว้า Oscar ได้แล้วเฉียดไปมาสองครั้งล่ะ ไม่ว่าจะในเรื่อง Primal Fear ปี 1996 และ American History X ปี 1998 เสียดายหลังๆ ได้แสดงหนังที่มีบทน้อยเกินไป ไม่ได้บทส่งให้ได้ใช้ฝีมืออย่างเต็มที่ สำหรับปีนี้รางวัลคงไม่น่าจะพ้นมือของ J.K. Simmons จากเรื่อง Whiplash แน่ ผมดูมาแล้วก็ยอมรับว่าเขาแสดงดีจริงๆ ควรจะได้ด้วย แต่ยังไงก็ขอแอบเชียร์ Edward Norton ไว้เล็กๆ แล้วกัน
4. “Lost Stars” : Begin Again (Best Original Song)
เพลง Lost Stars แต่งเพื่อหนัง Begin Again หรือหนัง Begin Again สร้างเพื่อเพลง Lost Stars กันแน่? คงตั้งเป็นคำถามโลกแตกอีกคำถามหนึ่งได้เลย สำหรับคนที่ไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้วผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งได้อิทธิพลจากการฟังเพลงนี้แน่เลย ยิ่งตอนหนังดำเนินเรื่องในช่วงเวลาที่ Adam Levine ร้องเพลงนี้ เสียงร้อง ทำนอง ความหมายของเพลง มันช่างเป็นช่วงเวลาทองคำของหนังจริงๆ ส่วนเพลงคู่แข่งปีนี้ฟังแล้วมันไม่สามารถชนะความประทับใจที่เกิดขึ้นกับเพลง Lost Stars ได้เลย ทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมตามเชียร์ในสาขาเพลงประกอบ ก็หวังว่าจะชนะได้ Oscar ไปนะ ว่าแล้วขอฟังเพลงนี้อีกซักรอบ
ปีนี้เพื่อนเชียร์ใคร สาขาไหน บ้างครับ มาแชร์กันครับ