เรากำลังเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน เพิ่งมาได้ห้าเดือนและยังต้องอยู่ต่ออีกเกือบห้าเดือน ไม่มีความสุขเลยคะแต่ก็ยังอยู่มาได้ถึงตอนนี้ อดทนมาตลอดโดยมีพ่อแม่พี่เป็นกำลังใจ
เริ่มประการแรกตอนมามีแฟนคะแต่แล้วก็เลยก็ไม่อาลัยอะไรคะไม่คิดจะเสียใจเพราะรู้ยังไงก็ไม่ยาวแต่พอมาเมื่อสองเดือนที่แล้ว ก็ได้รับรู้ว่าพ่อได้เข้าผ่าตัดหลังจากที่มาส่งเราขึ้นเครื่องวันนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยคะแต่รู้นะคะว่าพ่อป่วยทุกครั้งที่หมอนัดก็จะไปด้วยตลอดแต่พอมาหลังๆพ่อเขาก็ไม่ให้ไปด้วยคะแต่ก็จะถามตลอดว่าเป็นไงบ้างหมอว่าไง พ่อก็จะบอกสบายดีทุกครั้งซึ่งเราก็จะไม่เชื่อจะไปถามแม่ตลอดตอนที่รู้ว่าพ่อผ่าตัดโกรธตัวเองมาก ทำไมไม่สงสัยมันก็เห็นๆกันอยู่ว่าเขาปิดบังอะไรไว้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มันผ่านมาแล้วพ่อผอมลงมากเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนั้นเขาได้ยาตัวเดิมแต่เพิ่มขนาดมาคือหมอบอกตัวนี้ตัวสุดท้ายแล้วถ้าเอาไม่อยู่ก็ต้องปล่อยแล้วเวลาพ่อเจ็บท้องหมอก็จะให้แค่มอร์ฟีนมา พ่อเลยเลิกกินยาเพราะทนผลข้างเคียงไม่ไหว ลองไปพึ่งทางธรรมชาติทางธรรม(ปกติพ่อเป็นคนปฏิบัติธรรมอยู่แล้วนะคะ ถึงขนาดเคยบอกว่าถ้าไม่ติดว่าเป็นห่วงครอบครัวก็อยากจะบวชตลอดชีวิต) พอไปทางนั้นพ่อบอกว่าพ่อรู้สึกดีขึ้นกินได้เยอะขึ้นขับถ่ายได้ดีกว่าตอนอยู่โรงพยาบาล เราก็เริ่มใจชื่น แต่พอมาเมื่อวานเราเฟสไทม์คุยกันปกติกับแม่แต่สภาพแวดล้อมมันไม่ปกตอ เราเลยถามว่าอยู่ไหน แม่บอกอยู่โรงพยาบาลเดี๋ยวก็กลับแล้ว เราก็อ้าวเป็นอะไรทำไมไปโรงบาลนึกว่าอยู่บ้านที่เพชร แม่:ไม่ได้เป็นอะไรสบายดีพ่อมาให้เลือดเฉยๆพ่อมาอยู่สองวันเดี๋ยวกลับแล้ว เราก็คิดสบายดีจะไปโรงพยาบาลทำไม ไม่ได้เป็นไรจะให้เลือดทำไม เราก็เลยขอคุยกับพ่อหน่อยได้ไหมเขาก็ให้เราคุยนะแต่พ่อบอกไม่อยากเข้ากล้องเราก็โอเคคุยกันต้องทำเป็นว่าสบายดีสดใสร่าเริง แต่จริงๆข้างในมันร้องอะมันแบบอธิบายไม่ถูกเราไม่อยากให้เขารู้ว่าเราร้องเราอยากให้เขามีกำลังใจ พอดีวันนั้นเราทำขนมแล้วส่งไปให้มันถึงพอดีเลยว่าถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วจะถ่ายมาให้ดู
พอแม่ส่งภาพมาเท่านั้นแหละใจมันจะขาดอะ มือถือโทรศัพท์อยู่แบบอ่อนเลยอะ คือแบบผอมแบบผอมมากๆติดกระดูกอะ เราอยากจะกลับไปหาพ่อแต่เราก็ทำไมได้ เราไม่รู้จะทำยังไงของมันเห็นชัดๆอะเวลาแค่ห้าเดือนจากคนที่เคยมีน้ำมีนวลฝ่ามือพ่อคือเต็มๆมันแบบเนื้ออิ่มมากกลายเป็นผอมติดกระดูก
เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะจากเราไปเมื่อไหร่ อยากกลับไปดูแลเขาไปอยู่กลับเขาแต่อีกตั้งห้าเดือนกว่าจะได้กลับเราไม่รู้จะทำยังไง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เราอยู่นี้เราจะทำยังไง เราไม่รู้เลยมันคิดอะไรไม่ออก มันหมดกำลังใจ เราควรจะทำไงดี
หมดแรงหมดกำลังใจไม่รู้ต่อไปจะทำไงดี?
เริ่มประการแรกตอนมามีแฟนคะแต่แล้วก็เลยก็ไม่อาลัยอะไรคะไม่คิดจะเสียใจเพราะรู้ยังไงก็ไม่ยาวแต่พอมาเมื่อสองเดือนที่แล้ว ก็ได้รับรู้ว่าพ่อได้เข้าผ่าตัดหลังจากที่มาส่งเราขึ้นเครื่องวันนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยคะแต่รู้นะคะว่าพ่อป่วยทุกครั้งที่หมอนัดก็จะไปด้วยตลอดแต่พอมาหลังๆพ่อเขาก็ไม่ให้ไปด้วยคะแต่ก็จะถามตลอดว่าเป็นไงบ้างหมอว่าไง พ่อก็จะบอกสบายดีทุกครั้งซึ่งเราก็จะไม่เชื่อจะไปถามแม่ตลอดตอนที่รู้ว่าพ่อผ่าตัดโกรธตัวเองมาก ทำไมไม่สงสัยมันก็เห็นๆกันอยู่ว่าเขาปิดบังอะไรไว้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มันผ่านมาแล้วพ่อผอมลงมากเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนั้นเขาได้ยาตัวเดิมแต่เพิ่มขนาดมาคือหมอบอกตัวนี้ตัวสุดท้ายแล้วถ้าเอาไม่อยู่ก็ต้องปล่อยแล้วเวลาพ่อเจ็บท้องหมอก็จะให้แค่มอร์ฟีนมา พ่อเลยเลิกกินยาเพราะทนผลข้างเคียงไม่ไหว ลองไปพึ่งทางธรรมชาติทางธรรม(ปกติพ่อเป็นคนปฏิบัติธรรมอยู่แล้วนะคะ ถึงขนาดเคยบอกว่าถ้าไม่ติดว่าเป็นห่วงครอบครัวก็อยากจะบวชตลอดชีวิต) พอไปทางนั้นพ่อบอกว่าพ่อรู้สึกดีขึ้นกินได้เยอะขึ้นขับถ่ายได้ดีกว่าตอนอยู่โรงพยาบาล เราก็เริ่มใจชื่น แต่พอมาเมื่อวานเราเฟสไทม์คุยกันปกติกับแม่แต่สภาพแวดล้อมมันไม่ปกตอ เราเลยถามว่าอยู่ไหน แม่บอกอยู่โรงพยาบาลเดี๋ยวก็กลับแล้ว เราก็อ้าวเป็นอะไรทำไมไปโรงบาลนึกว่าอยู่บ้านที่เพชร แม่:ไม่ได้เป็นอะไรสบายดีพ่อมาให้เลือดเฉยๆพ่อมาอยู่สองวันเดี๋ยวกลับแล้ว เราก็คิดสบายดีจะไปโรงพยาบาลทำไม ไม่ได้เป็นไรจะให้เลือดทำไม เราก็เลยขอคุยกับพ่อหน่อยได้ไหมเขาก็ให้เราคุยนะแต่พ่อบอกไม่อยากเข้ากล้องเราก็โอเคคุยกันต้องทำเป็นว่าสบายดีสดใสร่าเริง แต่จริงๆข้างในมันร้องอะมันแบบอธิบายไม่ถูกเราไม่อยากให้เขารู้ว่าเราร้องเราอยากให้เขามีกำลังใจ พอดีวันนั้นเราทำขนมแล้วส่งไปให้มันถึงพอดีเลยว่าถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วจะถ่ายมาให้ดู
พอแม่ส่งภาพมาเท่านั้นแหละใจมันจะขาดอะ มือถือโทรศัพท์อยู่แบบอ่อนเลยอะ คือแบบผอมแบบผอมมากๆติดกระดูกอะ เราอยากจะกลับไปหาพ่อแต่เราก็ทำไมได้ เราไม่รู้จะทำยังไงของมันเห็นชัดๆอะเวลาแค่ห้าเดือนจากคนที่เคยมีน้ำมีนวลฝ่ามือพ่อคือเต็มๆมันแบบเนื้ออิ่มมากกลายเป็นผอมติดกระดูก
เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะจากเราไปเมื่อไหร่ อยากกลับไปดูแลเขาไปอยู่กลับเขาแต่อีกตั้งห้าเดือนกว่าจะได้กลับเราไม่รู้จะทำยังไง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เราอยู่นี้เราจะทำยังไง เราไม่รู้เลยมันคิดอะไรไม่ออก มันหมดกำลังใจ เราควรจะทำไงดี