ถาม : อิสลามมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับการจับคนเป็นตัวประกันอย่างเช่นในกรณีการจับอาสาสมัครชาวเกาหลีใต้ในอาฟกานิสถานหรือชาวญี่ปุ่นในตะว้นออกกลาง ?
ตอบ : แค่สามัญสำนึกตื้นๆของเราก็คิดได้ครับว่าการจับผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องในการทำสงครามเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ลองฟังทัศนะของนักวิชาการอิสลามคนสำคัญดูนะครับ
เชค ไฟซอล เมาลาวี รองประธานสภาเพื่อการวินิจฉัยปัญหาและศึกษาวิจัยแห่งยุโรปกล่าวว่า :-
“โดยทั่วไปแล้ว การจับคนเป็นตัวประกันไม่เป็นที่อนุญาตในอิสลาม แต่ในสถานการณ์สงครามก็สามารถจับศัตรูเป็นตัวประกันได้ เรื่องนี้มีหลักฐานจากการปฏิบัติของท่านนบีมุฮัมมัดในช่วงเวลาสงคราม แต่ถ้าหากไม่มีการทำสงครามเกิดขึ้น ท่านจะไม่อนุญาตให้จับใครเป็นตัวประกัน ในทางตรงกันข้าม ท่านกลับสั่งให้ปล่อยตัวประกันเป็นอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในระหว่างการทำสงคราม อิสลามก็ไม่อนุญาตให้จับทูต ผู้นำสาร ตัวแทน ผู้ที่ให้สัญญาความมั่นคงปลอดภัยหรือชาวต่างชาติที่มาอยู่อาศัยในประเทศของตนเป็นตัวประกัน
ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า “ฉันไม่จับผู้นำสารขังคุก” และ “มันเป็นแบบอย่างของฉันอย่างหนึ่งที่จะไม่ฆ่าผู้นำสาร”
เกี่ยวกับผู้ที่ให้สัญญาว่าจะไม่บ่อนทำลายความมั่นคงและคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมุสลิมนั้น อิสลามไม่อนุญาตให้จับคนเหล่านี้เป็นตัวประกันหรือฆ่า การฝ่าฝืนในเรื่องนี้เป็นการทำลายความไว้วางใจที่พระเจ้าได้มอบหมายให้และพระองค์ไม่ทรงรักผู้ที่ทำลายความไว้วางใจ
ถึงแม้การจับตัวประกันที่อาจจะเป็นที่อนุญาตในสถานการณ์สงคราม แต่โดยหลักการแล้วก็ไม่อนุญาตให้จับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในการสงครามด้วย เช่น ผู้ที่มิใช่นักรบหรือทหาร ผู้หญิง เด็กและคนชรา พระ นักบวชและแม่ชี เป็นต้น ทั้งนี้เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาร่วมสงคราม ถ้าหากมุสลิมคนใดหรือกลุ่มใดจับบุคคลดังกล่าวนี้ไว้เป็นตัวประกัน เขาต้องปล่อยตัวประกันทันที
การจับตัวนักรบฝ่ายข้าศึกเป็นตัวประกันจึงสามารถทำได้ถ้าหากผู้นำมุสลิมมีคำสั่งในระหว่างสงคราม เช่นในกรณีที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้สั่งให้มุสลิมจับตัวชาวอาหรับคนหนึ่งที่ชื่อษุมามะฮฺไว้หากใครพบ เพราะษุมามะฮฺพยายามที่จะฆ่าคนนำสารที่ท่านนบีมุฮัมมัดส่งไปยังกษัตริย์บาห์เรน
แต่ถ้าหากทหารมุสลิมจับนักรบข้าศึกไว้เป็นเชลยโดยไม่มีคำสั่งล่วงหน้าจากผู้นำ พวกเขาต้องส่งนักรบที่ถูกจับได้ให้แก่ผู้นำเป็นผู้ตัดสินว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
ที่กล่าวมาคือจุดยืนของอิสลามครับ แต่โลกมีจุดยืนอย่างไรในกรณีที่สหรัฐปิดล้อมอิรักมิให้โลกภายนอกส่งอาหารและหยูกยาไปประชาชนจนเด็กและคนป่วยนับหมื่นคนต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ทั้งๆที่ชาวอิรักเหล่านั้นก็ไม่ได้ไปรุกรานสหรัฐ หรือในกรณีที่สหรัฐส่งกำลังทหารเข้าไปรุกรานอาฟกานิสถานและจับผู้บริสุทธิ์ไปขังไว้คุกกวนตานาโมโดยไม่มีการสอบสวน ทั้งๆที่ชาวอาฟกานิสถานเหล่านั้นไม่ได้ไปรุกรานสหรัฐ ?
บรรจง บินกาซัน
แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Banjong.Binkason
อิสลามมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับการจับคนเป็นตัวประกัน
ตอบ : แค่สามัญสำนึกตื้นๆของเราก็คิดได้ครับว่าการจับผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องในการทำสงครามเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ลองฟังทัศนะของนักวิชาการอิสลามคนสำคัญดูนะครับ
เชค ไฟซอล เมาลาวี รองประธานสภาเพื่อการวินิจฉัยปัญหาและศึกษาวิจัยแห่งยุโรปกล่าวว่า :-
“โดยทั่วไปแล้ว การจับคนเป็นตัวประกันไม่เป็นที่อนุญาตในอิสลาม แต่ในสถานการณ์สงครามก็สามารถจับศัตรูเป็นตัวประกันได้ เรื่องนี้มีหลักฐานจากการปฏิบัติของท่านนบีมุฮัมมัดในช่วงเวลาสงคราม แต่ถ้าหากไม่มีการทำสงครามเกิดขึ้น ท่านจะไม่อนุญาตให้จับใครเป็นตัวประกัน ในทางตรงกันข้าม ท่านกลับสั่งให้ปล่อยตัวประกันเป็นอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในระหว่างการทำสงคราม อิสลามก็ไม่อนุญาตให้จับทูต ผู้นำสาร ตัวแทน ผู้ที่ให้สัญญาความมั่นคงปลอดภัยหรือชาวต่างชาติที่มาอยู่อาศัยในประเทศของตนเป็นตัวประกัน
ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า “ฉันไม่จับผู้นำสารขังคุก” และ “มันเป็นแบบอย่างของฉันอย่างหนึ่งที่จะไม่ฆ่าผู้นำสาร”
เกี่ยวกับผู้ที่ให้สัญญาว่าจะไม่บ่อนทำลายความมั่นคงและคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมุสลิมนั้น อิสลามไม่อนุญาตให้จับคนเหล่านี้เป็นตัวประกันหรือฆ่า การฝ่าฝืนในเรื่องนี้เป็นการทำลายความไว้วางใจที่พระเจ้าได้มอบหมายให้และพระองค์ไม่ทรงรักผู้ที่ทำลายความไว้วางใจ
ถึงแม้การจับตัวประกันที่อาจจะเป็นที่อนุญาตในสถานการณ์สงคราม แต่โดยหลักการแล้วก็ไม่อนุญาตให้จับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในการสงครามด้วย เช่น ผู้ที่มิใช่นักรบหรือทหาร ผู้หญิง เด็กและคนชรา พระ นักบวชและแม่ชี เป็นต้น ทั้งนี้เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาร่วมสงคราม ถ้าหากมุสลิมคนใดหรือกลุ่มใดจับบุคคลดังกล่าวนี้ไว้เป็นตัวประกัน เขาต้องปล่อยตัวประกันทันที
การจับตัวนักรบฝ่ายข้าศึกเป็นตัวประกันจึงสามารถทำได้ถ้าหากผู้นำมุสลิมมีคำสั่งในระหว่างสงคราม เช่นในกรณีที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้สั่งให้มุสลิมจับตัวชาวอาหรับคนหนึ่งที่ชื่อษุมามะฮฺไว้หากใครพบ เพราะษุมามะฮฺพยายามที่จะฆ่าคนนำสารที่ท่านนบีมุฮัมมัดส่งไปยังกษัตริย์บาห์เรน
แต่ถ้าหากทหารมุสลิมจับนักรบข้าศึกไว้เป็นเชลยโดยไม่มีคำสั่งล่วงหน้าจากผู้นำ พวกเขาต้องส่งนักรบที่ถูกจับได้ให้แก่ผู้นำเป็นผู้ตัดสินว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
ที่กล่าวมาคือจุดยืนของอิสลามครับ แต่โลกมีจุดยืนอย่างไรในกรณีที่สหรัฐปิดล้อมอิรักมิให้โลกภายนอกส่งอาหารและหยูกยาไปประชาชนจนเด็กและคนป่วยนับหมื่นคนต้องเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ทั้งๆที่ชาวอิรักเหล่านั้นก็ไม่ได้ไปรุกรานสหรัฐ หรือในกรณีที่สหรัฐส่งกำลังทหารเข้าไปรุกรานอาฟกานิสถานและจับผู้บริสุทธิ์ไปขังไว้คุกกวนตานาโมโดยไม่มีการสอบสวน ทั้งๆที่ชาวอาฟกานิสถานเหล่านั้นไม่ได้ไปรุกรานสหรัฐ ?
บรรจง บินกาซัน
แฟนเพจ https://www.facebook.com/Banjong.Binkason