อืมมมมมมมมม ใครผิด มีคนติดคุกป่าว???
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ซูเปอร์บอร์ด ไฟเขียวแผนฟื้นฟูการบินไทย เตรียม 5 แผนลดหนี้ 2 แสนล้าน เล็งปลดพนักงาน 5,000 คน-ขายทรัพย์สิน-ยกเลิกบินบางเส้นทาง
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ส่วนรายละเอียดของแผนที่จะต้องใช้เงินงบประมาณจะต้องสรุปเพื่อเสนอขออนุมัติจาก ครม. อีกครั้ง
สำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทยมี 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. การปรับเส้นทางบินแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ เส้นทางบินที่ขาดทุนแน่นอนจะให้หยุดบินไปก่อน และใช้เวลา 6 เดือน 12 เดือน และ 18 เดือนพิจารณาฟื้นฟูการบินอีกครั้ง ส่วนเส้นทางที่ขาดทุนแต่มีแนวโน้มทำกำไร ให้ปรับลดเที่ยวบินลง และให้ฟื้นฟูกลับมาใน 6-12 เดือน แต่ต้องไม่ให้กระทบผู้โดยสาร ส่วนเส้นทางที่กำไรให้พัฒนาและเพิ่มบริการ
2. การปรับแผนการตลาด เน้นเพิ่มสัดส่วนการขายตั๋วผ่านระบบออนไลน์และการจำหน่ายตั๋วเอง
3. การขายทรัพย์สินและอากาศยานที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น ปลดระวางหรือขายทิ้งเครื่องบิน 22 ลำ เพื่อลดภาระซ่อมบำรุงและค่าจอด รวมที่พักสำนักงานต่างประเทศ
4. การปรับโครงสร้างอัตรากำลังจะลดลง 5,000 คน จาก 25,000 คน เหลือ 2 หมื่นคน แต่ยังไม่กำหนดเวลา แต่ต้องสอดคล้องกับแผนเกษียณพนักงานก่อนกำหนดของบริษัท
5. การปรับปรุงพัฒนากิจการที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของการบินไทย เช่น กิจการโรงแรม, กิจการขนส่งน้ำมัน โดยพิจารณาว่าส่วนใดจะโอนหรือขายออกไป
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนปฏิรูปการบินไทยที่ผ่านการพิจารณาของ คนร. ครั้งนี้ เป็นแผนระยะ 2 ปี ตั้งแต่ปี 58-59 โดยมั่นใจจากแผนฟื้นฟูครั้งนี้มาถูกทางแน่ และปีนี้จะหยุดขาดทุนในปี 58 แน่นอน ก่อนกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืนในปี 2560 สำหรับเรื่องการปรับลดพนักงาน 5,000 คน เรื่องนี้จะให้ความสำคัญการลดต้นทุนการบริหารงานค่าใช้จ่ายด้านอื่นก่อน หากมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอถึงค่อยพิจารณาปรับลดพนักงาน ซึ่งในส่วนการปรับลดพนักงานจะต้องมีอีกหลายขั้นตอน
สำหรับขั้นตอนการปฏิรูปการบินไทย หลังจากนี้มี 3 ขั้นตอน 6 กลยุทธ์ ประกอบด้วย ขั้นตอนแรก ลดการขาดทุนให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยปีนี้มีแผนยกเลิกเส้นทาง ลดความถี่เที่ยวบินที่ขาดทุนต่อเนื่องและไม่มีศักยภาพทำกำไรประมาณ 10% ของเที่ยวบินทั้งหมด เช่น ยกเลิกเที่ยวภูเก็ต-กรุงโซล, กรุงเทพฯ-โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ส่วนเที่ยวบินสุราษฎร์ธานี อุดรธานี อุบลราชธานีจะลดความถี่ลง และให้สายการบินไทยสไมล์บินแทน พร้อมกับเร่งสร้างรายได้จากเส้นทางที่ได้เปรียบ
การขายสินทรัพย์ จะพิจารณาขายเครื่องบินก่อนส่วนแรก 22 ลำ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากทั้งหมด 102 ลำ ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น บ้านพักและสำนักงานต่างประเทศ ก็ต้องประเมินอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจการบินไทย เช่น หุ้นโรงแรม จะต้องพิจารณาอีกที ถ้าไม่สามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพก็อาจต้องขาย ซึ่งหลังจากนี้จะไปจัดทำแผนบริหารทรัพย์สิน เพื่อดูสินทรัพย์ส่วนไหนมีศักยภาพ มีผลตอบแทนดีจะเก็บไว้ แต่ถ้าไม่ดีก็จะขายทิ้ง แต่เท่าที่ดูปีนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องขายธุรกิจนอกเหนือ
ขั้นตอนที่สอง จะเร่งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน โดยปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ บุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ในการหารายได้ทุกช่องทาง แต่ยังให้บริการเต็มรูปแบบ และขั้นตอนที่สาม การขยายธุรกิจให้เติบโตและมีกำไรในระยะยาว โดยใช้จุดแข็งขององค์กรเป็นหลักในการเติบโต
"แผนเลื่อนการรับมอบเครื่องบิน เป็นหนึ่งในแผนช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กร แม้สภาพคล่องตอนนี้ยังไม่มีปัญหา และไม่จำเป็นต้องกู้ในปีนี้ แต่การขอสินเชื่อก็มีอยู่ในแผนการบริหารสภาพคล่องปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปีนี้รายได้ไม่ถึง 2 แสนล้านบาท แต่ปีนี้จะหยุดขาดทุน" นายจรัมพร กล่าว
สำหรับ 6 กลยุทธ์ที่ดำเนินการ ประกอบด้วย
การปรับปรุงเครือข่ายสายการบิน
การปรับปรุงฝูงบิน เพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้
การปรับปรุงการปฏิบัติการและต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพตามมาตรฐานสากล
การควบคุมค่าใช้จ่าย
การปรับปรุงโครงสร้างองค์การ
การจัดการกลุ่มธุรกิจของบริษัทอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดธุรกิจหลักและธุรกิจสนับสนุนให้ชัดเจน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
http://money.kapook.com/view110575.html 
การบินไทย ยกเครื่องใหญ่แก้ขาดทุน 2 แสนล้าน จ่อโละ 5 พันคน
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ซูเปอร์บอร์ด ไฟเขียวแผนฟื้นฟูการบินไทย เตรียม 5 แผนลดหนี้ 2 แสนล้าน เล็งปลดพนักงาน 5,000 คน-ขายทรัพย์สิน-ยกเลิกบินบางเส้นทาง
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ส่วนรายละเอียดของแผนที่จะต้องใช้เงินงบประมาณจะต้องสรุปเพื่อเสนอขออนุมัติจาก ครม. อีกครั้ง
สำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทยมี 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. การปรับเส้นทางบินแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ เส้นทางบินที่ขาดทุนแน่นอนจะให้หยุดบินไปก่อน และใช้เวลา 6 เดือน 12 เดือน และ 18 เดือนพิจารณาฟื้นฟูการบินอีกครั้ง ส่วนเส้นทางที่ขาดทุนแต่มีแนวโน้มทำกำไร ให้ปรับลดเที่ยวบินลง และให้ฟื้นฟูกลับมาใน 6-12 เดือน แต่ต้องไม่ให้กระทบผู้โดยสาร ส่วนเส้นทางที่กำไรให้พัฒนาและเพิ่มบริการ
2. การปรับแผนการตลาด เน้นเพิ่มสัดส่วนการขายตั๋วผ่านระบบออนไลน์และการจำหน่ายตั๋วเอง
3. การขายทรัพย์สินและอากาศยานที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น ปลดระวางหรือขายทิ้งเครื่องบิน 22 ลำ เพื่อลดภาระซ่อมบำรุงและค่าจอด รวมที่พักสำนักงานต่างประเทศ
4. การปรับโครงสร้างอัตรากำลังจะลดลง 5,000 คน จาก 25,000 คน เหลือ 2 หมื่นคน แต่ยังไม่กำหนดเวลา แต่ต้องสอดคล้องกับแผนเกษียณพนักงานก่อนกำหนดของบริษัท
5. การปรับปรุงพัฒนากิจการที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของการบินไทย เช่น กิจการโรงแรม, กิจการขนส่งน้ำมัน โดยพิจารณาว่าส่วนใดจะโอนหรือขายออกไป
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนปฏิรูปการบินไทยที่ผ่านการพิจารณาของ คนร. ครั้งนี้ เป็นแผนระยะ 2 ปี ตั้งแต่ปี 58-59 โดยมั่นใจจากแผนฟื้นฟูครั้งนี้มาถูกทางแน่ และปีนี้จะหยุดขาดทุนในปี 58 แน่นอน ก่อนกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืนในปี 2560 สำหรับเรื่องการปรับลดพนักงาน 5,000 คน เรื่องนี้จะให้ความสำคัญการลดต้นทุนการบริหารงานค่าใช้จ่ายด้านอื่นก่อน หากมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอถึงค่อยพิจารณาปรับลดพนักงาน ซึ่งในส่วนการปรับลดพนักงานจะต้องมีอีกหลายขั้นตอน
สำหรับขั้นตอนการปฏิรูปการบินไทย หลังจากนี้มี 3 ขั้นตอน 6 กลยุทธ์ ประกอบด้วย ขั้นตอนแรก ลดการขาดทุนให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยปีนี้มีแผนยกเลิกเส้นทาง ลดความถี่เที่ยวบินที่ขาดทุนต่อเนื่องและไม่มีศักยภาพทำกำไรประมาณ 10% ของเที่ยวบินทั้งหมด เช่น ยกเลิกเที่ยวภูเก็ต-กรุงโซล, กรุงเทพฯ-โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ส่วนเที่ยวบินสุราษฎร์ธานี อุดรธานี อุบลราชธานีจะลดความถี่ลง และให้สายการบินไทยสไมล์บินแทน พร้อมกับเร่งสร้างรายได้จากเส้นทางที่ได้เปรียบ
การขายสินทรัพย์ จะพิจารณาขายเครื่องบินก่อนส่วนแรก 22 ลำ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากทั้งหมด 102 ลำ ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น บ้านพักและสำนักงานต่างประเทศ ก็ต้องประเมินอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจการบินไทย เช่น หุ้นโรงแรม จะต้องพิจารณาอีกที ถ้าไม่สามารถบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพก็อาจต้องขาย ซึ่งหลังจากนี้จะไปจัดทำแผนบริหารทรัพย์สิน เพื่อดูสินทรัพย์ส่วนไหนมีศักยภาพ มีผลตอบแทนดีจะเก็บไว้ แต่ถ้าไม่ดีก็จะขายทิ้ง แต่เท่าที่ดูปีนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องขายธุรกิจนอกเหนือ
ขั้นตอนที่สอง จะเร่งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน โดยปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ บุคลากรให้มีประสิทธิภาพ ในการหารายได้ทุกช่องทาง แต่ยังให้บริการเต็มรูปแบบ และขั้นตอนที่สาม การขยายธุรกิจให้เติบโตและมีกำไรในระยะยาว โดยใช้จุดแข็งขององค์กรเป็นหลักในการเติบโต
"แผนเลื่อนการรับมอบเครื่องบิน เป็นหนึ่งในแผนช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กร แม้สภาพคล่องตอนนี้ยังไม่มีปัญหา และไม่จำเป็นต้องกู้ในปีนี้ แต่การขอสินเชื่อก็มีอยู่ในแผนการบริหารสภาพคล่องปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปีนี้รายได้ไม่ถึง 2 แสนล้านบาท แต่ปีนี้จะหยุดขาดทุน" นายจรัมพร กล่าว
สำหรับ 6 กลยุทธ์ที่ดำเนินการ ประกอบด้วย
การปรับปรุงเครือข่ายสายการบิน
การปรับปรุงฝูงบิน เพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้
การปรับปรุงการปฏิบัติการและต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพตามมาตรฐานสากล
การควบคุมค่าใช้จ่าย
การปรับปรุงโครงสร้างองค์การ
การจัดการกลุ่มธุรกิจของบริษัทอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดธุรกิจหลักและธุรกิจสนับสนุนให้ชัดเจน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
http://money.kapook.com/view110575.html