ต้องเข้าใจก่อนว่า Dragon Ball ภาคเซลนั้น เนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาเข้ามา ต่างจากภาคอื่น ๆ ที่เดินไปในแนวเส้นตรง ซึ่งทฤษฎีเกี่ยวกับการข้ามเวลาก็มีหลายอย่างแตกต่างกันไป อาทิเช่น
ไทมไลน์แบบเส้นตรง คือ ย้อนอดีต - กลับไปแก้ไขอดีต - กลับมาปัจจุบัน - ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว
อีกทฤษฎีหนึ่งคือไทมไลน์แบบคู่ขนาน คือ ย้อนอดีต - กลับไปแก้ไขอดีต - กลับมาปัจจุบัน - ปัจจุบันไม่เปลี่ยน - แต่มีอีกมิติหนึ่งที่เปลี่ยนไป เท่ากับเพิ่มขึ้นมาอีกมิติหนึ่ง ซึ่ง Dragon Ball ใช้ทฤษฎีนี้
ทีนี้ก็จะเป็นคำถามซึ่งผมสงสัยครับว่า ตอนที่ทรังคซ์ย้อนอดีตมา ทำไม่บอกความจริงไปเลย ว่าชื่ออะไร เป็นลูกใคร ทำไมต้องบิดบัง เพราะตอนนั้นทรังค์บอกแค่โงคูคนเดียว ห้ามให้โงคูไปบอกใคร เพราะเดี๋ยวทรังคซ์เองจะไม่ได้เกิด ซึ่งมันขัดแย้ง กับตอนที่พวกโงคูถามว่า ทรังคซ์มาช่วยแล้วประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปมั๊ย ? ซึ่งทรังคซ์ก็บอกเองว่าไม่เปลี่ยน ยังไงโงคูในโลกของทรังคซ์ก็ตายไปด้วยโรคหัวใจอย่างเดิม เพียงแต่ย้อนเวลามาเพื่อหาจุดอ่อนของมนุษย์ดัดแปลง
หรือตอนที่รู้แล้วว่าห้องทดลองของดร.เกโร่อยู่ไหน ทรังคซ์จะย้อนเวลาไปทำลาย คุริลินเลยบอก ทำลายแล้วมนุษย์แปลงที่นี้จะหายวับไปเลยหรือเปล่า ทรังคซ์เลยบอกว่าไม่หาย แต่มนุษย์แปลงอีกโลกหนึ่งจะไม่กำเนิด ส่วนโลกปัจจุบันที่เคลื่อนไหวแล้วจะไม่มีผล ซึ่งในโลกอนาคตของทรัคซ์ก็ไม่มีผลด้วยเช่นกัน เลยล้มเลิกไป
ฉะนั้นถ้าทรังคซ์มาพูดความจริงตั้งแต่แรก ว่าเป็นใครมาจากไหน ก็ไม่มีผลกับทรังคซ์ในอนาคตอยู่ดี เพราะทรังคซ์ในอนาคตเกิดมาแล้ว ยังไงก็ไม่หายไปแน่นอน แต่จะมีผลกับทรังคซ์ในโลกปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่มี หรืออาจจะมีก็ได้
ตรงจุดนี้ผมว่าอาจารย์แกลืมหรือเปล่าครับ เพราะถ้าอิงตามทฤษฎีไทม์ไลน์เส้นตรงก็คือห้ามบอกก่อนที่เบจิต้า กับ บลูม่าจะลงเอยกัน แต่ถ้าอิงตามทฤษฎีไทมไลน์คู่ขนาน จะบอกหรือไม่บอกก็ไม่ส่งผลต่อตัวทรังคซ์ในอนาคตอย่างแน่นอน
ลองมาแชร์กันดูครับ
Dragon Ball ภาคเซล อ.โทริยาม่าลืมหรือว่าเบลอไปหรือเปล่า ?
ไทมไลน์แบบเส้นตรง คือ ย้อนอดีต - กลับไปแก้ไขอดีต - กลับมาปัจจุบัน - ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว
อีกทฤษฎีหนึ่งคือไทมไลน์แบบคู่ขนาน คือ ย้อนอดีต - กลับไปแก้ไขอดีต - กลับมาปัจจุบัน - ปัจจุบันไม่เปลี่ยน - แต่มีอีกมิติหนึ่งที่เปลี่ยนไป เท่ากับเพิ่มขึ้นมาอีกมิติหนึ่ง ซึ่ง Dragon Ball ใช้ทฤษฎีนี้
ทีนี้ก็จะเป็นคำถามซึ่งผมสงสัยครับว่า ตอนที่ทรังคซ์ย้อนอดีตมา ทำไม่บอกความจริงไปเลย ว่าชื่ออะไร เป็นลูกใคร ทำไมต้องบิดบัง เพราะตอนนั้นทรังค์บอกแค่โงคูคนเดียว ห้ามให้โงคูไปบอกใคร เพราะเดี๋ยวทรังคซ์เองจะไม่ได้เกิด ซึ่งมันขัดแย้ง กับตอนที่พวกโงคูถามว่า ทรังคซ์มาช่วยแล้วประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปมั๊ย ? ซึ่งทรังคซ์ก็บอกเองว่าไม่เปลี่ยน ยังไงโงคูในโลกของทรังคซ์ก็ตายไปด้วยโรคหัวใจอย่างเดิม เพียงแต่ย้อนเวลามาเพื่อหาจุดอ่อนของมนุษย์ดัดแปลง
หรือตอนที่รู้แล้วว่าห้องทดลองของดร.เกโร่อยู่ไหน ทรังคซ์จะย้อนเวลาไปทำลาย คุริลินเลยบอก ทำลายแล้วมนุษย์แปลงที่นี้จะหายวับไปเลยหรือเปล่า ทรังคซ์เลยบอกว่าไม่หาย แต่มนุษย์แปลงอีกโลกหนึ่งจะไม่กำเนิด ส่วนโลกปัจจุบันที่เคลื่อนไหวแล้วจะไม่มีผล ซึ่งในโลกอนาคตของทรัคซ์ก็ไม่มีผลด้วยเช่นกัน เลยล้มเลิกไป
ฉะนั้นถ้าทรังคซ์มาพูดความจริงตั้งแต่แรก ว่าเป็นใครมาจากไหน ก็ไม่มีผลกับทรังคซ์ในอนาคตอยู่ดี เพราะทรังคซ์ในอนาคตเกิดมาแล้ว ยังไงก็ไม่หายไปแน่นอน แต่จะมีผลกับทรังคซ์ในโลกปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่มี หรืออาจจะมีก็ได้
ตรงจุดนี้ผมว่าอาจารย์แกลืมหรือเปล่าครับ เพราะถ้าอิงตามทฤษฎีไทม์ไลน์เส้นตรงก็คือห้ามบอกก่อนที่เบจิต้า กับ บลูม่าจะลงเอยกัน แต่ถ้าอิงตามทฤษฎีไทมไลน์คู่ขนาน จะบอกหรือไม่บอกก็ไม่ส่งผลต่อตัวทรังคซ์ในอนาคตอย่างแน่นอน
ลองมาแชร์กันดูครับ