ชีวิตหลังปมด้อยที่หายไป

ตั้งแต่เด็กผมไม่เคยคิดว่า ตนเองมีปมด้อย เพราะผมเองมองไม่เห็นมัน แต่คนอื่นมองเห็น นั่นคือ "ตาเข" นั่นเอง ซึ่งผมมองกระจกมันก็ปกติ แต่คนอื่นมองเห็น ตั่งแต่เด็กจนจบม.ต้น ก็ไม่มีใครเคยล้อ จนขึ้นม.ปลายแล้วย้ายโรงเรียน นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป  จากคนที่กล้าพูดกล้าแสดงออก หลังจากที่ถูกล้อ ถูกเรียก ด้วยปมด้อย ทำให้ผมไม่กล้าสบตาใคร มองที่ปาก นอกจากคนที่ผมสนิทผมถึงกล้าสบตา หลังจากเรียนจบมหาลัย ก็มีคนแนะนำให้ไปผ่าตัด ผมตกลงทันที ผ่าตัดด้วยกัน 3 ครั้ง ความหน้ากลัวของการผ่าตัด กล้ามเนื้อตา คือการฉีดยาชาเข้าไป เบ้าตา รอบๆดวงตา เข็มแทงเข้าไปเกือยบสุดเข็ม ประมาณ 3-4 เข็ม ครั้งผม ผ่า 2 ตา คุณต้องลืมตาตลอดเวลา เจ็บแต่ก็ต้องทน ผมต้องทนเจ็บอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาปีที่แล้ว 2 ครั้งแรกก็ยังไม่หาย แต่พอครั้งที่ 3 หมอตรวจดูก็พบว่า ผมหายจากการเป็นตาเข่แล้ว ผมดีใจมาก
                 แต่หลังจากนั้นผมก็พยายามมองสบตากับคนอื่นบ่อยขึ้น บ่อยครั้งก็หลบตาอยู่บ้าง ตอนนี้ผมเป็นปกติแล้วไม่มีปมด้อย มันรู้สึกดีมาก ขอบคุณคุณหมอ ที่ทำให้ผมหาย หากใครมีปัญหา เรื่องเดียวกับผม ผมยินดีให้คำปรึกษา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่