เปิด สยามกีฬาสตาร์ซอคเกอร์ หน้าแรก มา จบแล้วหนังสือพิมพ์ในดวงใจในวัยเด็กของผม พวกเค้ากำลังฆ่าตัวเองแท้ๆ

หลายท่านอาจจะอคติหรือเกลียดแบรนด์นี้นะครับ

แต่เราต้องยอมรับสมัยก่อนในวันที่ทุกคนไม่smart phone ไม่มีInternet สตาร์ซอคเกอร์ คือ  โลกใบเล็กๆที่ทำให้คุณเพลิดเพลินไปฟุตบอล สำหรับ คนที่หายใจเข้าออกเป็นฟุตบอล  ผมกำเงิน 5 บาท สมัยนั้น กินน้ำอัดลมได้ กินขนมห่อละ5บาทได้อย่างมีความสุข ผมเลือกซื้อ สตาร์ซอคเกอร์แทน

จะขึ้นมา 7 บาท 10 บาท 12 บาท ผมก็ตามซื้อตามเสพ จนมาพีคที่15 บาท ก่อนจะมาเป็นราคาปัจจุบัน

วันที่ดอร์ทมุนด์ ได้แชมป์ UEFA Champions League ที่รังเหย้าเดิมของ บาเยิร์น มิวนิค  ผมยอมเดินออกจากซอย ค่าวินสมัยนั้น  10 บาท
ก็คำนวณระยะทางกันเอาเอง เพื่อมีตังค์ ออกมาซื้อ หนังสือพิมพ์ ที่แผงหนังสือหน้าปากซอย  แล้วมีตังค์เหลือนั่งรถเมล์ 3.50กลับบ้าน
หนังสือพิมพ์ ที่ผมอ่าน เรียบร้อยไม่มีรอยยับห้ามพับ  อ่านเสร็จเก็บเรียงอย่างดี มือเปื้อนน้ำเปื้อนอะไรผมจะหยุดเช็ดก่อน

ช่วงปิดฤดูกาลผมก็มีความสุขกับข่าวสารข่าวลือในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ จินตนาการไปเรื่อย มีความสุข แล้วก็เอามาจิ้น ใน เกม CM

ช่วงหลังๆมา คอลัมนิสต์หลายท่านก็โยกย้ายไปทำหน้าที่ต่างๆ  หลังๆคอลัมน์ที่น่าอ่าน และ รู้จริงก็มีน้อย
บางคอลัมน์ก็เขียนไปเรื่อย บางทีไปจบเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ประกอบกับข่าวสารทางInternet รวดเร็วกว่า  ทำให้จุดเด่นของสตาร์ซอคเกอร์ค่อยๆหายไป

ผมไม่รู้ว่าเยาวชนสมัยนี้ ยังมีคนที่ชอบอ่านและติดตาม อยู่ไหม?

แต่เมื่อผมเปิดด้านในหน้าแรกมา เป็นคอลัมน์  เกี่ยวกับฟุตบอล เอเชีย  อ่านพารากราฟแรก รอบชองชนะเลิศ ผมก็เอะ มันเหลือ4ทีม
มันกรุยทางไปรอบรองชนะเลิศ ทำไม  นั่งตีความตั้งนาน สรุป คืออาจจะพิมพ์ผิด อาจจะพลาดตรง ทีมพิสูจน์อักษร

พออ่านๆมา จนมาถึง "ทรรศนะคติ "  เฮ้ย !  (ใครจะว่าผมหยุมหยิมก็ช่างนะครับ)  แต่วิชาชีพสื่อ หรือ สิทธิเสรีภาพ หรือจะจรรยาบรรณของสื่อ
หรืออะไรก็ตามที่ชอบนำมาProtectตัวเอง เวลาถูกก้าวล่วง    ในเครือคุณอะไรๆก็ใช้คำว่าสยามหมด แต่คำพวกนี้ ถ้าผ่านตาคนหลายๆคน
จำและนำไปใช้กันผิดๆ  ผมว่ามันไม่อันตราย แต่มันทำให้ภาษามันผิดเพี้ยนไปหมด
ผมเจอ หน้ารัก น่าเกียจ ในโลก Social ผมยังเฉยๆ แต่นี่คุณเป็นสื่อที่มัน Mass

ผมไม่โทษคอลัมน์นิสต์ น่ะ  แต่ทีมงานทุกคนต้องรวมกันแก้ไข และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์แบบนี้

นิยายกำลังภายในของค่ายนี้คนก็บ่นเรื่องคำผิดเยอะมาก  

คือถ้าจะทำงานแบบนี้ ผมว่าอย่ามาขายสื่อสิ่งพิมพ์เลยครับ

การอ่านเสริมสร้างให้เราเขียนภาษาได้ถูกต้องสละสลวย  
คุณลองคิดถ้าหนังสือหนังหาบ้าน ขาดคุณภาพแบบนี้ มีแต่คำผิดๆ  แล้วต่อไปภาษาของเราจะเป็นยังไง
ถ้าพวกคอลัมน์นิสต์ มาอ่าน แล้วจะนำไปเหน็บนักเลงคีย์บอร์ด  เลื่อยไฟฟ้าผ่านสว่านดาก อะไรผมไม่แคร์ หรือว่าเซนส์ซิทีฟ

ผมว่าถ้าขนาดนี้ไม่รู้สึกตัวไปคิดจะแก้ไข ก็อย่าทำออกมาเถอะครับ  ขอร้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่