เป็นกระทู้เพื่อระบายความรู้สึกนะคับ
อย่างที่บอกนะครับ ผมโสดสนิด คือ ทั้งโสด ทั้งซิง จะโพสเรื่องชีวิต ทั้งทีมันก็ต้องมีเล่า ความเป็นมา ซักหน่อย
ผมขอเริ่มจากคำถามก่อนนะครับ ว่าทำไมผมต้องเป็นเกย์ มันก็คงต้องย้อนไปในชีวิตตอนเด็ก เท่าที่ผมพอจะนึกออก
ในช่วง อนุบาล ถึง ป1 ผมเหมือนจะคิดว่าทำตัวเอง จะเป็นผู้ ญ อย่างเช่น เอาผ้าขนหนูมาทำเป็น ผม ผมยาวๆ (555 ตลกละ แอบทำ)
แต่ไม่มีแบบว่า หนูแอบสวยนะ หรือ แบบเพลงมา แล้วเต้นซะ คุณได้ลูกสาวแน่ๆ (โตมาจะเป็นตุ้ด) หรือแสดงออกให้ผู้ใหญ่เห็น
แต่พอ หลังจากนั้นผมก็ไม่ทำอย่างนั้นอีก แน่อยู่แหละผมต้องเป็นเด็กเรียบร้อย เป็นเด็กเรียน แบบตั้งใจเรียนจริงๆ
คือผมก็เป็นเด็กต่างจังหวัด โรงเรียน ทั่วไป ผมก็เป็นเด็กเรียน เรียนได้ที่ A ของห้องติดๆกัน ซะด้วย (อวยตัวเอง 555)
และแน่นอนผมก็ต้องเข้ากลุ่มกับเด็ก ผู้หญิง เล่นกับ เด็กผู้ ญ แต่นั้นตัวผมเองก็เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่นั้นอยู่บนพื้นฐานของเด็กเรียนนะครับ
ไม่มีความคิดรักสวยรักงาม
และแน่นอนผมไม่ได้สนิท กับเพื่อนในห้องที่เป็นเด็กผู้ชาย ผมไม่ได้พาตัวเอง ไปแตะบอล หรือเล่นกีฬา อะไรหรอก
(โตมาเลยไม่ได้ชอบ เล่นหรือดูบอลเลย) แต่ผมก็โตมาแบบเด็กบ้านๆ ทั่วไป เคยเล่นทุกอย่าง (แบบเด็กสมัยนี้อาจไม่มี หรือไม่เหมือนกับเด็กในเมือง)
แต่อย่างว่า ตอนนั้นเมื่อจะจบชั้นประถมขึ้นมัธยม ผมก็มีความคิดว่าผมจะต้องเข้ากลุ่มกับเพื่อนผู้ชาย (ผมไม่ได้มีนิสัยตุ้ดจ๋านะครับ)
นี่คือเล่าแบบที่จะพอเล่าได้ ให้เข้ากับเรื่อง นะครับ วัยเด็กนี้แหละ จะเป็นคำตอบว่าทำไมคุณถึงเป็นเกย์ (เว้นบางกรณี เสียชายเพราะชาย/ได้ชายเพราะ ญ) ผมอาจจะบอกได้ว่า ผมเป็นประเภท Born to be
มาถึงช่วงวัยมัธยมนะครับ คงไม่มีอะไรจะเล่ามาก
ผมก็ยังไม่รู้หรอกครับ ว่าการเป็นเกย์มันคืออะไร (ตามประสาเด็ก) เมื่อผมเรียนในช่วง ม.ต้น ผมก็เข้ากลุ่มกับเด็กผู้ชาย
มีเพื่อนต่างโรงเรียน ผมก็อยู่ห้อง /1ไม่มีเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดิมอยู่ แต่เพื่อนโรงเรียนเดิม ก็อยู่ห้องอื่น ผมก็อยู่แบบผมตามประสาเด็กเรียน
ตามประสาเพื่อน (ไม่มีไรจะเล่า555) มีความสุขดีครับ (ที่คิดว่ามีความสุข อย่าคิดมาก ผมไม่ได้คิดไปชอบใคร หรอกครับ ทำไมหรือครับ ก็ผมเป็นเด็ก (ออกจะตุ้ด หรือป่าว? ไม่รู้! แต่ไม่ใช่แน่ๆ) หน้าตาออกจะขี้เหร่ (ไม่ใช่เชื้อจีน) ไม่ต้องคิดครับ ว่าจะมีใครมามอง
ตอนเด็กๆ ยังคิดเลยว่าทำไม_ขี่เหร่จังวะ ยิ่งรูปร่างยิ่งไม่ใช่ แบบนักกีฬาแน่(ผมไม่ได้อ้วนนะ)
มาเข้าเรื่องละกัน (ถึงความเป็นเกย์ในตัวคุณ) คือต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยได้จับต้องตัวใคร แม้แต่ พ่อ แม่ เท่าที่จำความได้
ผมไม่ได้เคยกอดหรือจูบ พ่อแม่เลย (ป 1 ขึ้นไป) ด้วยความที่พ่อแม่ผมต้องทำงาน และผมก็รู้ว่าท่านอยากให้ผมตั้งใจเรียน
มองผมด้วยความรักผ่านการพยายามตั้งใจเรียนของผม ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัว ผมโชคดีที่ผมยังมีพ่อ มีแม่ มีครอบครัวที่พร้อม จนถึงวันนี้
อีกอย่างโตมาก็เลยไม่กล้ากอด และ อีกอย่างก็ไม่เคยพูดคุยปรึกษาปัญหา แบบที่พ่อแม่ลูกควรจะทำ เพราะอย่างว่าก็เห็นผมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว
(เกริ่นไว้ก่อน) แต่นั้นคงเป็นความขาด บางสิ่งบางบางอย่าง ที่หลีกไม่ได้
กลับ มายังวัยเรียนของผม ผมสัมผัสได้ว่าตัวผมขาด อะไรบางอย่าง ในตัว มันคือ ฮอโมนเทสโทสเทอโรน (ฮอโมนแห่งความเป็นชาย)
ด้วยความที่ผมเป็นเด็กเรียน ตอนเด็กก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้ทำงานหนัก (แต่ไม่ใช่คนขี้โรค) ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองโตไม่เท่าคนอื่น
เหมือนที่เด็กผู้ชายควรจะเป็น และสิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือ เวลามือของผมไปสัมผัส หรือแตะกับมือที่แข็งกว่าของเพื่อนผู้ชายคนอื่น
มันทำให้ผมรู้สึก เหมือนไฟช็อต (แต่ไม่มีหวิวๆนะครับ)
และมันก็ทำให้ผมเข้าใจตัวเองว่าผมชอบ เพศ ช และไม่ได้ชอบเพศ ญ ผมรู้ตัวว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.2 (ไม่มีกรณีไปชอบใคร ใครมาชอบ หรือไปมีเรื่องอย่างว่า สักนิดไม่เคยเกิด) ตลอด ม.ต้น ก็อยู่กับเพื่อนผู้ชาย (เล่าสั้นๆ เอาใจความ ไม่ใส่น้ำ เพราะมันไม่มีให้เล่า)
พอม.ปลาย ก็มาเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง ก็อยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย อยู่แบบเด็กเรียน ในสายตาของเพื่อนทั้งห้อง(มั้ง) เรียน ว่างๆ แตะบอล (ถามว่าชอบมัย คิดไปว่า_ไม่เคยแตะบอล เอาเท่าที่เล่นได้ละกัน ) แต่ผมก็สบายใจดี ครับ เพื่อนผมก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น ใช่แบบนี้แหละครับที่ผมต้องการ
(ก็เหมือนเดิม อย่าคิดไรมาก ผมไม่คิดไรเลย คุณอย่ามายัดเยียด ให้ผมละ) (เห็นมัยครับ เล่าได้แค่นี้จริงๆ ชีวิตวัยรุ่น_)
แทรกเรื่อง: ผมไม่ได้สนใจผู้ ญ รู้ว่าไม่ได้ชอบ อาจจะมีคนมาชอบ มาบอกผม ผมเสียใจที่คิดว่าจะชอบไม่ได้ ผมตัดจบ /
เรื่องที่คิดว่าจะรักมันไม่ผิด ผมดันรู้สึกว่าชอบ เพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง (ย้ำว่าดันรู้สึกว่าชอบ ไม่ได้แอบชอบ เพราะตัวตัดสินคือการกระทำกับความรู้สึก) เวลาผมฝันถึงกลุ่มเพื่อน ผมจะฝันเห็นคนนี้เป็นคนสุดท้าย555) ( สำหรับผมแล้ว ผู้ชาย ก็คือผู้ชาย ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ผมจะไม่เอาความรู้สึกไปก้าวก่าย ใคร ถ้าเค้าไม่เป็นเหมือนผม)
มายังวัยมหาลัย คุณคิดว่าผมอาจจะได้ปลดปล่อย อาจจะได้ลอง ในสิ่งที่ไม่เคยลอง ผมจะเล่าให้ง่ายๆและคงจบไปไม่กี่บรรทัด
ผมก็ได้เข้าเรียนในคณะ ในสายที่ผมจบมาตอน ม.ปลาย เรื่องเรียนนั้นหรือ มันก็หนักอยู่ในตัวของมันแล้ว แล้วเพื่อนละ
แน่นอนผมมีทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ เรื่อง เที่ยวเรื่องดื่ม มันก็มีบ้างแต่ประปราย หรือพูดอีกแบบหนึ่งผมเป็นคนไม่ชอบเที่ยวนั่นเอง
ผมเป็นคนที่ไม่ติดเพื่อน เพื่อนเก่าก็ยังมี ใช่นี่คือเพื่อนสนิทของเรา แล้วเพื่อนใหม่ละ ผมก็ทักทายพูดคุย ตามประสา ใช่นี่คือเพื่อนร่วมรุ่นของเรา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็กลายเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว มีเพื่อนตามโอกาส เพื่อนที่มีก็มีทั้ง ช ญ เพื่อนผู้ชายนี้ก็ชายแท้หมด ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่มีเพื่อนเก่า (ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็น เพื่อนจะคิดจะถามหรือสงสัยหรือป่าว ผมไม่รู้ แต่ผมถือว่าเพื่อนให้เกียรติ (ก็คนมันไม่ยักจะสนใจ ญ) )
แล้วเรื่องอย่างว่าละอย่าหวัง ผมไม่มีใครมาจีบ หรือไปจีบใคร ( ก็คนมันดูไม่สนใครนิ หน้าตารูปร่าง ก็ไม่ใช่พิมพ์ดี แต่อวยตัวเองละกัน เวลามองตัวเอง บางทีมันก็หื่นนะ แบบว่าอยากได้คนแบบนี้เลย บอกเลยผมน่าฟัดนะครับ 555 (18+ หน่อยนะครับประโยคนี้) มันก็ไม่ได้ดีไปทั้งหมดหรอกครับ
แต่นิสัยเรารู้ รูปร่างหน้าตา เรารู้ เรารู้ตัวเราเอง ) ผมคงจะ โสดและซิง ไปจนจบมหาลัย
แทรกเรื่อง: มาดูคุณสมบัติของผม ผมโสด ผมซิง ไม่เคยมีแฟน เหล้าไม่อยากกิน (คนมันจนไม่อยากเอาเงินไปใช้กับเรื่องพวกนี้=ไม่เข้าหา) บุหรี่ไม่สูบ ไม่ชอบเที่ยว นิสัยดีพอตัว รูปร่าง หน้าตา พอไปวัดไปวา (อีกเดียวคงเป็นแบบพิมพ์เกย์นิยม ก็อย่างว่าเราไม่ได้ไปสนใจใคร ก็เหลือแต่สนใจตัวเอง) แต่ดูผมไม่ออกหรอก เพราะผมเป็นแบบไม่เข้าพวก
เรื่องมันไม่พอใน หน้าเดียว มีต่อนะครับ
โสดสนิท เพราะผมเป็น......
อย่างที่บอกนะครับ ผมโสดสนิด คือ ทั้งโสด ทั้งซิง จะโพสเรื่องชีวิต ทั้งทีมันก็ต้องมีเล่า ความเป็นมา ซักหน่อย
ผมขอเริ่มจากคำถามก่อนนะครับ ว่าทำไมผมต้องเป็นเกย์ มันก็คงต้องย้อนไปในชีวิตตอนเด็ก เท่าที่ผมพอจะนึกออก
ในช่วง อนุบาล ถึง ป1 ผมเหมือนจะคิดว่าทำตัวเอง จะเป็นผู้ ญ อย่างเช่น เอาผ้าขนหนูมาทำเป็น ผม ผมยาวๆ (555 ตลกละ แอบทำ)
แต่ไม่มีแบบว่า หนูแอบสวยนะ หรือ แบบเพลงมา แล้วเต้นซะ คุณได้ลูกสาวแน่ๆ (โตมาจะเป็นตุ้ด) หรือแสดงออกให้ผู้ใหญ่เห็น
แต่พอ หลังจากนั้นผมก็ไม่ทำอย่างนั้นอีก แน่อยู่แหละผมต้องเป็นเด็กเรียบร้อย เป็นเด็กเรียน แบบตั้งใจเรียนจริงๆ
คือผมก็เป็นเด็กต่างจังหวัด โรงเรียน ทั่วไป ผมก็เป็นเด็กเรียน เรียนได้ที่ A ของห้องติดๆกัน ซะด้วย (อวยตัวเอง 555)
และแน่นอนผมก็ต้องเข้ากลุ่มกับเด็ก ผู้หญิง เล่นกับ เด็กผู้ ญ แต่นั้นตัวผมเองก็เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่นั้นอยู่บนพื้นฐานของเด็กเรียนนะครับ
ไม่มีความคิดรักสวยรักงาม
และแน่นอนผมไม่ได้สนิท กับเพื่อนในห้องที่เป็นเด็กผู้ชาย ผมไม่ได้พาตัวเอง ไปแตะบอล หรือเล่นกีฬา อะไรหรอก
(โตมาเลยไม่ได้ชอบ เล่นหรือดูบอลเลย) แต่ผมก็โตมาแบบเด็กบ้านๆ ทั่วไป เคยเล่นทุกอย่าง (แบบเด็กสมัยนี้อาจไม่มี หรือไม่เหมือนกับเด็กในเมือง)
แต่อย่างว่า ตอนนั้นเมื่อจะจบชั้นประถมขึ้นมัธยม ผมก็มีความคิดว่าผมจะต้องเข้ากลุ่มกับเพื่อนผู้ชาย (ผมไม่ได้มีนิสัยตุ้ดจ๋านะครับ)
นี่คือเล่าแบบที่จะพอเล่าได้ ให้เข้ากับเรื่อง นะครับ วัยเด็กนี้แหละ จะเป็นคำตอบว่าทำไมคุณถึงเป็นเกย์ (เว้นบางกรณี เสียชายเพราะชาย/ได้ชายเพราะ ญ) ผมอาจจะบอกได้ว่า ผมเป็นประเภท Born to be
มาถึงช่วงวัยมัธยมนะครับ คงไม่มีอะไรจะเล่ามาก
ผมก็ยังไม่รู้หรอกครับ ว่าการเป็นเกย์มันคืออะไร (ตามประสาเด็ก) เมื่อผมเรียนในช่วง ม.ต้น ผมก็เข้ากลุ่มกับเด็กผู้ชาย
มีเพื่อนต่างโรงเรียน ผมก็อยู่ห้อง /1ไม่มีเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดิมอยู่ แต่เพื่อนโรงเรียนเดิม ก็อยู่ห้องอื่น ผมก็อยู่แบบผมตามประสาเด็กเรียน
ตามประสาเพื่อน (ไม่มีไรจะเล่า555) มีความสุขดีครับ (ที่คิดว่ามีความสุข อย่าคิดมาก ผมไม่ได้คิดไปชอบใคร หรอกครับ ทำไมหรือครับ ก็ผมเป็นเด็ก (ออกจะตุ้ด หรือป่าว? ไม่รู้! แต่ไม่ใช่แน่ๆ) หน้าตาออกจะขี้เหร่ (ไม่ใช่เชื้อจีน) ไม่ต้องคิดครับ ว่าจะมีใครมามอง
ตอนเด็กๆ ยังคิดเลยว่าทำไม_ขี่เหร่จังวะ ยิ่งรูปร่างยิ่งไม่ใช่ แบบนักกีฬาแน่(ผมไม่ได้อ้วนนะ)
มาเข้าเรื่องละกัน (ถึงความเป็นเกย์ในตัวคุณ) คือต้องบอกว่า ผมไม่ค่อยได้จับต้องตัวใคร แม้แต่ พ่อ แม่ เท่าที่จำความได้
ผมไม่ได้เคยกอดหรือจูบ พ่อแม่เลย (ป 1 ขึ้นไป) ด้วยความที่พ่อแม่ผมต้องทำงาน และผมก็รู้ว่าท่านอยากให้ผมตั้งใจเรียน
มองผมด้วยความรักผ่านการพยายามตั้งใจเรียนของผม ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัว ผมโชคดีที่ผมยังมีพ่อ มีแม่ มีครอบครัวที่พร้อม จนถึงวันนี้
อีกอย่างโตมาก็เลยไม่กล้ากอด และ อีกอย่างก็ไม่เคยพูดคุยปรึกษาปัญหา แบบที่พ่อแม่ลูกควรจะทำ เพราะอย่างว่าก็เห็นผมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว
(เกริ่นไว้ก่อน) แต่นั้นคงเป็นความขาด บางสิ่งบางบางอย่าง ที่หลีกไม่ได้
กลับ มายังวัยเรียนของผม ผมสัมผัสได้ว่าตัวผมขาด อะไรบางอย่าง ในตัว มันคือ ฮอโมนเทสโทสเทอโรน (ฮอโมนแห่งความเป็นชาย)
ด้วยความที่ผมเป็นเด็กเรียน ตอนเด็กก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้ทำงานหนัก (แต่ไม่ใช่คนขี้โรค) ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองโตไม่เท่าคนอื่น
เหมือนที่เด็กผู้ชายควรจะเป็น และสิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือ เวลามือของผมไปสัมผัส หรือแตะกับมือที่แข็งกว่าของเพื่อนผู้ชายคนอื่น
มันทำให้ผมรู้สึก เหมือนไฟช็อต (แต่ไม่มีหวิวๆนะครับ)
และมันก็ทำให้ผมเข้าใจตัวเองว่าผมชอบ เพศ ช และไม่ได้ชอบเพศ ญ ผมรู้ตัวว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.2 (ไม่มีกรณีไปชอบใคร ใครมาชอบ หรือไปมีเรื่องอย่างว่า สักนิดไม่เคยเกิด) ตลอด ม.ต้น ก็อยู่กับเพื่อนผู้ชาย (เล่าสั้นๆ เอาใจความ ไม่ใส่น้ำ เพราะมันไม่มีให้เล่า)
พอม.ปลาย ก็มาเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง ก็อยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย อยู่แบบเด็กเรียน ในสายตาของเพื่อนทั้งห้อง(มั้ง) เรียน ว่างๆ แตะบอล (ถามว่าชอบมัย คิดไปว่า_ไม่เคยแตะบอล เอาเท่าที่เล่นได้ละกัน ) แต่ผมก็สบายใจดี ครับ เพื่อนผมก็เป็นผู้ชายทั้งนั้น ใช่แบบนี้แหละครับที่ผมต้องการ
(ก็เหมือนเดิม อย่าคิดไรมาก ผมไม่คิดไรเลย คุณอย่ามายัดเยียด ให้ผมละ) (เห็นมัยครับ เล่าได้แค่นี้จริงๆ ชีวิตวัยรุ่น_)
แทรกเรื่อง: ผมไม่ได้สนใจผู้ ญ รู้ว่าไม่ได้ชอบ อาจจะมีคนมาชอบ มาบอกผม ผมเสียใจที่คิดว่าจะชอบไม่ได้ ผมตัดจบ /
เรื่องที่คิดว่าจะรักมันไม่ผิด ผมดันรู้สึกว่าชอบ เพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง (ย้ำว่าดันรู้สึกว่าชอบ ไม่ได้แอบชอบ เพราะตัวตัดสินคือการกระทำกับความรู้สึก) เวลาผมฝันถึงกลุ่มเพื่อน ผมจะฝันเห็นคนนี้เป็นคนสุดท้าย555) ( สำหรับผมแล้ว ผู้ชาย ก็คือผู้ชาย ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ผมจะไม่เอาความรู้สึกไปก้าวก่าย ใคร ถ้าเค้าไม่เป็นเหมือนผม)
มายังวัยมหาลัย คุณคิดว่าผมอาจจะได้ปลดปล่อย อาจจะได้ลอง ในสิ่งที่ไม่เคยลอง ผมจะเล่าให้ง่ายๆและคงจบไปไม่กี่บรรทัด
ผมก็ได้เข้าเรียนในคณะ ในสายที่ผมจบมาตอน ม.ปลาย เรื่องเรียนนั้นหรือ มันก็หนักอยู่ในตัวของมันแล้ว แล้วเพื่อนละ
แน่นอนผมมีทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ เรื่อง เที่ยวเรื่องดื่ม มันก็มีบ้างแต่ประปราย หรือพูดอีกแบบหนึ่งผมเป็นคนไม่ชอบเที่ยวนั่นเอง
ผมเป็นคนที่ไม่ติดเพื่อน เพื่อนเก่าก็ยังมี ใช่นี่คือเพื่อนสนิทของเรา แล้วเพื่อนใหม่ละ ผมก็ทักทายพูดคุย ตามประสา ใช่นี่คือเพื่อนร่วมรุ่นของเรา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็กลายเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว มีเพื่อนตามโอกาส เพื่อนที่มีก็มีทั้ง ช ญ เพื่อนผู้ชายนี้ก็ชายแท้หมด ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่มีเพื่อนเก่า (ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็น เพื่อนจะคิดจะถามหรือสงสัยหรือป่าว ผมไม่รู้ แต่ผมถือว่าเพื่อนให้เกียรติ (ก็คนมันไม่ยักจะสนใจ ญ) )
แล้วเรื่องอย่างว่าละอย่าหวัง ผมไม่มีใครมาจีบ หรือไปจีบใคร ( ก็คนมันดูไม่สนใครนิ หน้าตารูปร่าง ก็ไม่ใช่พิมพ์ดี แต่อวยตัวเองละกัน เวลามองตัวเอง บางทีมันก็หื่นนะ แบบว่าอยากได้คนแบบนี้เลย บอกเลยผมน่าฟัดนะครับ 555 (18+ หน่อยนะครับประโยคนี้) มันก็ไม่ได้ดีไปทั้งหมดหรอกครับ
แต่นิสัยเรารู้ รูปร่างหน้าตา เรารู้ เรารู้ตัวเราเอง ) ผมคงจะ โสดและซิง ไปจนจบมหาลัย
แทรกเรื่อง: มาดูคุณสมบัติของผม ผมโสด ผมซิง ไม่เคยมีแฟน เหล้าไม่อยากกิน (คนมันจนไม่อยากเอาเงินไปใช้กับเรื่องพวกนี้=ไม่เข้าหา) บุหรี่ไม่สูบ ไม่ชอบเที่ยว นิสัยดีพอตัว รูปร่าง หน้าตา พอไปวัดไปวา (อีกเดียวคงเป็นแบบพิมพ์เกย์นิยม ก็อย่างว่าเราไม่ได้ไปสนใจใคร ก็เหลือแต่สนใจตัวเอง) แต่ดูผมไม่ออกหรอก เพราะผมเป็นแบบไม่เข้าพวก
เรื่องมันไม่พอใน หน้าเดียว มีต่อนะครับ