ใครเคยมีประสบการณ์ที่คนในครอบครัว หรือคนรู้จักที่มีความคิดและยึดติดกับวัดธรรมกายแบบถอนตัวไม่ขึ้นบ้างไหมค่ะ???
ขอเกริ่นนำก่อนนะ น้องชายเริ่มรู้จักวัดนี้ เหมือนตอนที่ไปอยู่ชมรมพุทธ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขณะเรียนปีหนึ่ง ก่อนหน้านี้น้องชายโทรมาเล่าและบอกให้ฟังเหตุผลที่มาอยู่ชมรมพุทธ บอกว่า ชมรมนี้ได้เที่ยวฟรี แถมยังมีเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องด้วย กิจกรรมไม่หนัก ไอ้เราก็เห็นดีด้วยไม่ได้พูดอะไร เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรมาก และคิดว่าก็คงเป็นชมรมพุทธทั่วไปที่จัดงานชมรมตอนมีเทศกาลสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ก็เคยบอกน้องชายว่า เรียนวิดวะ ก็ต้องไปอยู่ชมรมแบบลุยๆดิ เราก็มองในแบบว่าเด็กวิดวะต้องลุยๆ กินเหล้า อะไรประมาณนี้ (จิงๆ ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ นี้ก็ถือว่าชอบนะค่ะ) ผ่านไปสักพัก น้องชายเริ่มไปเข้าค่ายชมรม ของผู้นำธรรมกาย V-cheer อะไรนี้และค่ะ หลังจากนั้น เริ่มกู่ไม่กลับเลย มีการชักชวนคนในบ้านบอกถึงลัทธินี้ว่าดีแบบนั้น แบบนู้นบ้าง พอเรียนจบ น้องชายขอแม่เลยว่า ขอบวชธรรมกายนะ(มีการมาบอกญาติๆว่า บวชวัดนี้เงินไม่เสียสักบาท บวชให้ฟรีนะ คนบวชเยอแยะ เห็นไหมประหยัดให้ครอบครัวขนาดไหน ครอบครัวของเราเป็นจังหวัดนราธิวาสค่ะ ถ้าน้องบวชก็ต้องเหมารถไปอีก) และไม่รู้วันสึกด้วยว่าจะสึกตอนไหน ที่นี้เริ่มเครียดค่ะกลัวเลย กลัวว่าน้องชายจะไม่สึก แม่ก็ห้ามอะไรไม่ได้ เลยต้องมีข้อเสนอวว่าให้บวชได้ แต่ต้องสึกนะ ถ้าไปนานเกิน มีตามให้สึกแน่ ดิฉันบอกน้องแบบนี้
พอถึงวันบวช โอ้ย พูดเลยค่ะตาลาย คนเยอะ อันดับแรก ญาติๆต้องไปดูว่าลูกเราอยู่ลำดับที่เท่าไร ให้ 2 คนเท่านั้นที่ถือผ้าไตร ไปเดินตามหลังแถวนาค(ไม่รู้ว่าเรียกถูกไหมนะค่ะ) และนอกเหนือ 2 คน ออกมายืนหลังสุดของขบวนแถว พูดเลยค่ะ เหนื่อยมาก ร้อนด้วย ให้เดินเท้าเปล่ารอบจานบิน 3 รอบ สงสารค่ะ สงสารยาย กะแม่ 2 คนนี้เป็นคนถือผ้าไตร ระหว่างที่เดินรอบก็มองบรรยากาศในวัดนั้น เห็นรถประดับเหมือนกาบหอยจอดตั้งอยู่ข้างๆ(คงมาจอดไว้เฉยๆค่ะ) เห็นเด็กผู้ชายน่าจะเป็นเด็กนักเรียนอะไรประมาณนี้ ยื่นถือธง ใส่ชุดอลังมาก อย่างกะทหารเลยค่ะ มีสายสะพาย ใส่ถุงมือเรียบร้อย
เป็นคนยืนอารักขาใกล้ผู้ใหญ่ใจดีที่เป็นสปอรเซอร์ให้วัด โดยส่วนมาก็เป็นพวกหมอ ดร. คนที่มีการศึกษา บวกรวย และศรัทธาในลัทธิ ใส่ชุดสีขาวติดเข็มกลัด หลวงพ่อสด มีเพ็ชรประดับรอบเข็มกลัด ตึกอาคารรอบจานบิน สร้างใหญ่โตมาก ยอมรับเลยค่ะพื้นที่วัดมากจริงๆ พอเดินครบ 3 รอบ ทางวัดก็จะปล่อยให้พักผ่อน มีอาหารเลี้ยงคนที่มาร่วมงานเป็นเส้นหมี่ผัด ส่วนสปอรเซอร์หลักก็จะได้กินอาหารกล่องอีกเกรดหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเดินรอบจานบิน ก็จะให้ญาติๆมานั่งในหอประชุม(ไม่รู้ว่าเรียกอะไรนะค่ะ แต่ดูๆแล้วเหมือนหอประชุมค่ะ กระจกใส มีแอร์ ถือว่าเย็นฉ่ำกันทีเดียว) ระหว่างรอแม่ก็ชวนไปซื้อสังฆทานที่เป็นของใช้สำหรับภิกษุ(ไม่รู้ว่าเรียกถูกไหมนะค่ะ) เพราะเห็นทางวัดจัดเป็นกล่องๆเลย เห็นคนข้างๆซื้อมาก็เลยต้องซื้อตาม เพราะกลัวว่าน้องจะไม่มีของใช้ พอถามราคานี้เงิบเล็กน้อยเลยค่ะ 500 บาท มีแปรง สบู่ น้ำยาซักผ้า ของใช้เล็กๆน้อยๆ ระหว่างเดินไปซื้อของก็แอบไปเห็นบัตรเครดิตธรรมกาย อุย!!!ตกใจเล็กน้อย ว่าทำบุญที่นี้เข้าถึงกระเป๋าตังค์กันเลย มีให้ทำแบบสะดวกมาก ไม่ว่าตู้ กล่อง บัญชี เพื่อให้ทุกคนสะสมบุญกันเนินๆได้เลยค่ะ กลับมานั่งรอพระที่หอประชุมต่อค่ะ ยอมรับเลยนะค่ะว่าวัดที่นี้เน้นความเป็นระเบียบจริงๆ ถือเป็นข้อดีตรงนี้ค่ะ เค้าจะปล่อยให้พระออกมาทีละแถว เดินช้าๆ ดูแล้วสวยงาม แอบเคลิ้มกันเลยทีเดียว ระหว่างที่พระเดินมา ก็มีเสียงใสๆของเด็กๆ ฟังแล้วเคลิ้มไปอีก แต่พอดีดิฉันเป็นพวกหัวแข็งค่ะ ได้แค่เคลิ้มแต่ไม่ไปตามทางนั้นแน่ หลังจากน้องบวชเป็นพระแล้ว ทางวัดก็ปล่อยให้ญาติๆ ไปพูดคุยได้ และจะเรียกพระกลับเข้าที่พัก ไปเป็นระเบียบ
หลังจากที่น้องเข้าไปบวช ก็หายจากครอบครัวไปเลย เราไม่สามารถรู้ และติดต่อได้นอกจากน้องชายจะโทรมาเอง ก็ถือว่าดีนะค่ะ เป็นพระก็ควรล่ะทางโลกบ้าง นี้ก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อ จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องชายโทรหา แล้วมาบอกว่าจะไปเดินธุดงค์แถวอีสาน ก็เลยเอาบุญมาฝาก และถามว่าจะร่วมบุญกับอาตมาไหม ไอ้เราก็ทำไป 100 บาท และก็หายไปอีกเลยค่ะ โทรมาอีกทีคือวันที่จะสึกก่อนหนึ่งอาทิตย์ ในใจนี้ดีใจมากที่น้องสึก แอบลุ้นมาตลอด แต่หลังจากสึกออกมา รวมระยะเวลาบวชน่าจะสามเดือนได้ ยังมีทิ้งทายบอกเราว่าสักวันจะกลับไปบวชไม่สึก เงิบเลยค่ะ!!!
หลังจากสึก น้องชายก็มุ่งหน้าหางาน แต่ก็ยังไม่วายนะค่ะ ยังคงทำงานไปด้วยและไปอยู่ที่ชมรมพุทธเหมือนเดิม คือไม่มีออกห่าง มีการสะสมบุญก็ถวายกันไป แต่ก็ไม่รู้นะค่ะว่าน้องถวายไปเท่าไร เวลาถามก็บอกว่านิดเดียวไม่มาก ทุกวันนี้ถ้าจะไปทำกิจกรรมทางศาสนา ถ้าให้น้องพาไปก็จะพาไปแต่วัดที่เป็นลัทธิจานบินตลอด เคยมีครั้งหนึ่ง ชวนน้องชายไปปฎิบัติธรรมที่วัดถ้ำสุมะโน น้องก็ไม่ไปค่ะ ไม่ได้บอกเหตุผลอะไร แต่เราก็เฉยๆ เพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่าน้องคงไม่มีทางไปหรอก แต่ไม่กี่วันนี้มีการโปร่ยดาวโรยที่กรุงเทพ น้องชายไปถึงที่ค่ะ
ป.ล.ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะค่ะ อาจจะเขียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ถือว่าแชร์ประสบการณ์นะค่ะ และใครพอมีวิธีที่จะฉุดคนให้ออกจากลัทธินี้ได้มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะค่ะ
ใครมีญาติมุ่งหน้าเข้าสู่ลัทธิจานบินไหมค่ะ
ขอเกริ่นนำก่อนนะ น้องชายเริ่มรู้จักวัดนี้ เหมือนตอนที่ไปอยู่ชมรมพุทธ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขณะเรียนปีหนึ่ง ก่อนหน้านี้น้องชายโทรมาเล่าและบอกให้ฟังเหตุผลที่มาอยู่ชมรมพุทธ บอกว่า ชมรมนี้ได้เที่ยวฟรี แถมยังมีเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องด้วย กิจกรรมไม่หนัก ไอ้เราก็เห็นดีด้วยไม่ได้พูดอะไร เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรมาก และคิดว่าก็คงเป็นชมรมพุทธทั่วไปที่จัดงานชมรมตอนมีเทศกาลสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ก็เคยบอกน้องชายว่า เรียนวิดวะ ก็ต้องไปอยู่ชมรมแบบลุยๆดิ เราก็มองในแบบว่าเด็กวิดวะต้องลุยๆ กินเหล้า อะไรประมาณนี้ (จิงๆ ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ นี้ก็ถือว่าชอบนะค่ะ) ผ่านไปสักพัก น้องชายเริ่มไปเข้าค่ายชมรม ของผู้นำธรรมกาย V-cheer อะไรนี้และค่ะ หลังจากนั้น เริ่มกู่ไม่กลับเลย มีการชักชวนคนในบ้านบอกถึงลัทธินี้ว่าดีแบบนั้น แบบนู้นบ้าง พอเรียนจบ น้องชายขอแม่เลยว่า ขอบวชธรรมกายนะ(มีการมาบอกญาติๆว่า บวชวัดนี้เงินไม่เสียสักบาท บวชให้ฟรีนะ คนบวชเยอแยะ เห็นไหมประหยัดให้ครอบครัวขนาดไหน ครอบครัวของเราเป็นจังหวัดนราธิวาสค่ะ ถ้าน้องบวชก็ต้องเหมารถไปอีก) และไม่รู้วันสึกด้วยว่าจะสึกตอนไหน ที่นี้เริ่มเครียดค่ะกลัวเลย กลัวว่าน้องชายจะไม่สึก แม่ก็ห้ามอะไรไม่ได้ เลยต้องมีข้อเสนอวว่าให้บวชได้ แต่ต้องสึกนะ ถ้าไปนานเกิน มีตามให้สึกแน่ ดิฉันบอกน้องแบบนี้
พอถึงวันบวช โอ้ย พูดเลยค่ะตาลาย คนเยอะ อันดับแรก ญาติๆต้องไปดูว่าลูกเราอยู่ลำดับที่เท่าไร ให้ 2 คนเท่านั้นที่ถือผ้าไตร ไปเดินตามหลังแถวนาค(ไม่รู้ว่าเรียกถูกไหมนะค่ะ) และนอกเหนือ 2 คน ออกมายืนหลังสุดของขบวนแถว พูดเลยค่ะ เหนื่อยมาก ร้อนด้วย ให้เดินเท้าเปล่ารอบจานบิน 3 รอบ สงสารค่ะ สงสารยาย กะแม่ 2 คนนี้เป็นคนถือผ้าไตร ระหว่างที่เดินรอบก็มองบรรยากาศในวัดนั้น เห็นรถประดับเหมือนกาบหอยจอดตั้งอยู่ข้างๆ(คงมาจอดไว้เฉยๆค่ะ) เห็นเด็กผู้ชายน่าจะเป็นเด็กนักเรียนอะไรประมาณนี้ ยื่นถือธง ใส่ชุดอลังมาก อย่างกะทหารเลยค่ะ มีสายสะพาย ใส่ถุงมือเรียบร้อย
เป็นคนยืนอารักขาใกล้ผู้ใหญ่ใจดีที่เป็นสปอรเซอร์ให้วัด โดยส่วนมาก็เป็นพวกหมอ ดร. คนที่มีการศึกษา บวกรวย และศรัทธาในลัทธิ ใส่ชุดสีขาวติดเข็มกลัด หลวงพ่อสด มีเพ็ชรประดับรอบเข็มกลัด ตึกอาคารรอบจานบิน สร้างใหญ่โตมาก ยอมรับเลยค่ะพื้นที่วัดมากจริงๆ พอเดินครบ 3 รอบ ทางวัดก็จะปล่อยให้พักผ่อน มีอาหารเลี้ยงคนที่มาร่วมงานเป็นเส้นหมี่ผัด ส่วนสปอรเซอร์หลักก็จะได้กินอาหารกล่องอีกเกรดหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเดินรอบจานบิน ก็จะให้ญาติๆมานั่งในหอประชุม(ไม่รู้ว่าเรียกอะไรนะค่ะ แต่ดูๆแล้วเหมือนหอประชุมค่ะ กระจกใส มีแอร์ ถือว่าเย็นฉ่ำกันทีเดียว) ระหว่างรอแม่ก็ชวนไปซื้อสังฆทานที่เป็นของใช้สำหรับภิกษุ(ไม่รู้ว่าเรียกถูกไหมนะค่ะ) เพราะเห็นทางวัดจัดเป็นกล่องๆเลย เห็นคนข้างๆซื้อมาก็เลยต้องซื้อตาม เพราะกลัวว่าน้องจะไม่มีของใช้ พอถามราคานี้เงิบเล็กน้อยเลยค่ะ 500 บาท มีแปรง สบู่ น้ำยาซักผ้า ของใช้เล็กๆน้อยๆ ระหว่างเดินไปซื้อของก็แอบไปเห็นบัตรเครดิตธรรมกาย อุย!!!ตกใจเล็กน้อย ว่าทำบุญที่นี้เข้าถึงกระเป๋าตังค์กันเลย มีให้ทำแบบสะดวกมาก ไม่ว่าตู้ กล่อง บัญชี เพื่อให้ทุกคนสะสมบุญกันเนินๆได้เลยค่ะ กลับมานั่งรอพระที่หอประชุมต่อค่ะ ยอมรับเลยนะค่ะว่าวัดที่นี้เน้นความเป็นระเบียบจริงๆ ถือเป็นข้อดีตรงนี้ค่ะ เค้าจะปล่อยให้พระออกมาทีละแถว เดินช้าๆ ดูแล้วสวยงาม แอบเคลิ้มกันเลยทีเดียว ระหว่างที่พระเดินมา ก็มีเสียงใสๆของเด็กๆ ฟังแล้วเคลิ้มไปอีก แต่พอดีดิฉันเป็นพวกหัวแข็งค่ะ ได้แค่เคลิ้มแต่ไม่ไปตามทางนั้นแน่ หลังจากน้องบวชเป็นพระแล้ว ทางวัดก็ปล่อยให้ญาติๆ ไปพูดคุยได้ และจะเรียกพระกลับเข้าที่พัก ไปเป็นระเบียบ
หลังจากที่น้องเข้าไปบวช ก็หายจากครอบครัวไปเลย เราไม่สามารถรู้ และติดต่อได้นอกจากน้องชายจะโทรมาเอง ก็ถือว่าดีนะค่ะ เป็นพระก็ควรล่ะทางโลกบ้าง นี้ก็ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อ จนกระทั่งวันหนึ่ง น้องชายโทรหา แล้วมาบอกว่าจะไปเดินธุดงค์แถวอีสาน ก็เลยเอาบุญมาฝาก และถามว่าจะร่วมบุญกับอาตมาไหม ไอ้เราก็ทำไป 100 บาท และก็หายไปอีกเลยค่ะ โทรมาอีกทีคือวันที่จะสึกก่อนหนึ่งอาทิตย์ ในใจนี้ดีใจมากที่น้องสึก แอบลุ้นมาตลอด แต่หลังจากสึกออกมา รวมระยะเวลาบวชน่าจะสามเดือนได้ ยังมีทิ้งทายบอกเราว่าสักวันจะกลับไปบวชไม่สึก เงิบเลยค่ะ!!!
หลังจากสึก น้องชายก็มุ่งหน้าหางาน แต่ก็ยังไม่วายนะค่ะ ยังคงทำงานไปด้วยและไปอยู่ที่ชมรมพุทธเหมือนเดิม คือไม่มีออกห่าง มีการสะสมบุญก็ถวายกันไป แต่ก็ไม่รู้นะค่ะว่าน้องถวายไปเท่าไร เวลาถามก็บอกว่านิดเดียวไม่มาก ทุกวันนี้ถ้าจะไปทำกิจกรรมทางศาสนา ถ้าให้น้องพาไปก็จะพาไปแต่วัดที่เป็นลัทธิจานบินตลอด เคยมีครั้งหนึ่ง ชวนน้องชายไปปฎิบัติธรรมที่วัดถ้ำสุมะโน น้องก็ไม่ไปค่ะ ไม่ได้บอกเหตุผลอะไร แต่เราก็เฉยๆ เพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่าน้องคงไม่มีทางไปหรอก แต่ไม่กี่วันนี้มีการโปร่ยดาวโรยที่กรุงเทพ น้องชายไปถึงที่ค่ะ
ป.ล.ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะค่ะ อาจจะเขียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ถือว่าแชร์ประสบการณ์นะค่ะ และใครพอมีวิธีที่จะฉุดคนให้ออกจากลัทธินี้ได้มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะค่ะ