เนื้อเรื่อง shadow of mordor เกิดขึ้นช่วงรอยต่อระหว่าง The Hobbit กับ The Lordฯ ครับ เรื่องราวต่อจากที่ว่า หลังจากที่ เซารอน ถูก เลดี้ กาลาเดรียล ขับไล่ไปจาก โดลกูดูร์ ก็หลีกเร้นลงใต้ ไปซุ่มฟื้นพลังอยู่ที่ มอร์ดอร์ ระหว่างที่รอการสร้างเสร็จของ หอคอยบารัดดูร์ ครับ ในช่วงนั้นก็ส่องสุมกำลังพลออร์ค แล้วก็จัดการพวกทหารกอนดอร์ ที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ที่นั้นจนหมดสิ้นครับ พระเอกก็เป็นหนึ่งในพวก เรนเจอร์ ที่เฝ้าอยู่ที่นั้นครับ เลยพลอยซวยไปด้วย ลูกตาย เมียตาย ตัวเองกลายเป็นตัวประหลาด

--- ตอบคำถามครับ ---

1. เคเลบริมบอร์ เหมือนโดนสาบไว้ครับ ให้อยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างโลกคนเป็นกับคนตาย(โลกวิญญาณ) ไม่ใช่เพื่อการสร้างแหวนใหม่ครับ แต่เป็นการสืบเสาะหาข่าวแหวน เพื่อที่จะมาทำลายครับ เพราะตัวเองคิดแน่ๆ อยู่แล้ว ว่าเซารอนจะกลับมาในเร็วๆ นี้

2. พระเอก (ทาลเลียน)ไม่ตายก็เพราะว่าถูกเลือกจาก เคเลบริมบอร์ ครับ ว่าคนนี้สามารถที่จะจัดการงานใหญ่นี้ได้ เพราะแรงฮึดที่อยากจะแก้แค้นพวกออร์ค ของแบล็กแฮนด์ ที่ทำให้ลูกเมียตัวเองต้องตาย และสาปวิญญาณของพระเอกให้ร่อนเร่ หัวอกเดียวกันกับเคเลบริมบอร์เลยครับ แล้วทั้งคู่ก็อยู่ในสภาพเดียวกันอีก คือเป็นบุคคลที่ผ่านเข้าไปยังรอยต่อระหว่างโลกคนเป็นกับคนตาย ทั้งคู่เลยสื่อถึงกัน แล้วหยิบยืมพลังในการแก้แค้นให้กันได้ครับ เคเลบริมบอร์แรกๆ ก็หลอกใช้ทริลเลี่ยนแหละครับ แต่มันก็คุ้มค่ากับการใหญ่ที่คิดจะตัดกำลังเซารอน

3. ไม้เท้าเป็นแหล่งพลังงานเวทย์ของราชินี มอร์เวน แห่ง ชอร์ จึงต้องการกลับคืนมาเพื่อที่จะได้ฟื้นพลังอีกครั้ง ที่มอร์เวนมีสภาพเป็นแม่มดแก่น่ากลัวนั้นจริงแล้วไม่ใช่ร่างเดิมครับ ร่างเดิมสง่าและทรงพลังมาก แต่เนื่องจากเคยต่อกรกับ ซารูมาน เรื่องที่ว่าไม่เห็นด้วยที่พ่อมดขาวคิดแปรพรรคไปฝ่ายเซารอน สู้กันแล้วแพ้ครับ เลยโดนสาป แล้วที่ทาลเลียนหัวเสียก็เพราะรู้ว่าตัวเองถูกหลอกใช้ครับ

4. กอลลั่ม ที่ช่วงนั้นกำลังเฮิร์ทที่ บิลโบ้ ขโมยแหวนไป ได้ออกตามหาตัวบิลโบ้ และได้เจอกับพวกพระเอกโดยบังเอิญ โดยกอลลั่มคิดว่าน่าจะได้ข่าวแหวนจากสองคนนี้บ้างครับ แล้วที่ว่าเคเลบริมบอร์มีแผนการณ์ที่จะทำลายแหวน กอลลั่มเลยโกรธมากตีโพยตีพาย แต่ก็ทำอะไรเคเลบริมบอร์ไม่ได้ครับ

5. เป็น เซารอน แหละครับ ที่เข้ามาแฝงร่าง แบล็กแฮนด์ เพื่อที่ต้องการสื่อกลาง(กายหยาบ) ในการจัดการศัตรูได้สะดวก

6. ที่ทาลเลี่ยน พูดกับ เคเลบริมบอร์ ตอนจบ เหมือนเป็นการบอกลากันครับ ที่ว่าภารกิจของตนทั้งคู่ลุล่วงแล้ว แม้จะไม่สามารถจัดการเซารอนลงได้ แต่ก็ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำได้สำเร็จแล้ว เคเลบริมบอร์คิดว่า ยังไงเสียตนทั้งคู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซารอนหรอก แถมรู้ด้วยว่าถ้าไม่ทำลายแหวนเอก เซารอนก็ไม่มีวันตาย จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลังที่คิดจะทำจริงๆ (โฟรโด้) ทาลเลียนจึงน้อยใจและแอบต่อว่าประมาณว่า " ท่านจะไปแล้วเหรอ ท่านเป็นคนเริ่มต้นสร้างสื่อแห่งหายนะขึ้นมา แล้วจะปล่อยทิ้งมันไปเฉยๆ แบบนี้หรอ" เคเลบริมบอร์ ก็ตอบประมณว่า " ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของมัน แต่เวลาของข้าได้หมดลงแล้ว... ข้าและเจ้า เราทำดีที่สุดแล้ว" เสร็จแล้วก็อำลาจากกัน คิดว่าคงจะไปที่ท้องพระโรงแห่งมานดอสครับ

7. เนื้อเรื่องหลักตามฆ่าแบล็กแฮนด์ และล้างคำสาปที่มันสาปพระเอกไว้ครับ ส่วนเซารอนยังไงก็ฆ่าไม่ได้ ไม่ใช่ตอนนี้

8. Hither Shore คิดว่าเป็นอณาจักรส่วนหนึ่งในแดนใต้ มีลักษณะเป็นทะเลใหญ่ครับ

9. เคเลบริมบอร์ ในฉบับนิยายจริงๆ สร้างแหวนก็จริง แต่ไม่ได้สร้างแหวนเอก และไม่มีลูกเมีย( หรือไม่ได้ถูกลงรายละเอียดไว้ )แบบในเกมส์ด้วยครับ

10. ที่ตามหาไอเท็มแล้วเกิดระลึกอดีตได้ เป็นเพราะตอนเคเลบริมบอร์ตาย เขาอยู่ในสภาวะจิตแตกครับ คือจิตใจบอบช้ำ( ที่เห็นลูกเมียโดนทุบร่างแหลกต่อหน้า ) แล้วหวาดกลัว( เซารอน )ก่อนที่จะสิ้นใจ และคิดว่าหายนะทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความเบาปัญญาของตนเองครับ ที่ไปหลงเชื่ออันนาทาร์ แล้วมารู้ทีหลังว่าแท้จริงอันนาทาร์ ก็คือ เซารอนแปลงมาหลอกใช้

11. เคเลบริมบอร์ มีตัวตนจริงๆ ในฉบับนิยายของปู่ โทลเคียนครับ ปรากฏในเรื่อง The Silmarillion และถูกพูดถึงในเรื่อง The Lord และนิยายอื่นๆ เกี่ยวกับยุคที่ 2 ของ มิดเดิลเอิร์ท

12. เซารอน ไม่ใช่เอล์ฟ ครับ แต่เป็น ไมอาร์ ( ไมอาร์ก็คือเทวดานั่นแหละ ) การแบ่งลำดับชั้นของปวงเทพในปกรณัมมิดเดิลเอิร์ท

*เปรียบให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

- เอรู อิรูวาทาร์ : เทพบิดร, พระผู้สร้าง, เทพเจ้า

- วาลาร์ (ไอนัวร์) : เทพ, เทพแห่งธรรมชาติ, เทพแห่งโลกธาตุ แบ่งเป็นเทพ และ เทพี อาทิ มานเว, วาดาร์, ยาวันนา, มานดอส, อุลโม, โอโรเม, เมลคลอร์(มอร์ก็อธ) ฯลฯ

- ไมอาร์ : เทวดา (เทพชั้นรองลงมา) อาทิ เอออนเว, อิลมาเร, เมลิอัน, อุยเนน, เซารอน, บัลร็อก ฯลฯ รวมทั้งอิสทารี่ทั้ง 5 คน ก่อนที่จะอวตารลงมา อันมี คูรูโม (ซารูมาน), โอโลริน (กานดาล์ฟ), ไอเวนดิล (ราดากัสต์) และพ่อมดสีน้ำเงินอีกสองคน

ที่เซารอนจำแลงร่าง เป็นอันนาทาร์ โดยอิงรูปลักษณ์มาจากเอล์ฟที่ดงามครับ

13. เมื่อ เซารอน ไม่มีแหวนเอก ก็ไม่สามารถที่จะจำแลงร่างที่เป็นกายหยาบได้อีก เนื่องจากตอนสร้างแหวนเอกเซารอนได้บรรจุพลังชีวิตของตนเองลงไปกว่า 80% ครับ ที่เห็นเป็นดวงไฟรูปนัยต์ตา ที่โดลกูดูร์ หรือ บารัดดูร์ นั้นเป็นร่างจำแลงของดวงจิตครับ

.....