[CR] สามสาวท่องเมืองเฟิ่งหวง แวะจางเจียเจี้ย และความประทับใจที่ฉางซา (+ซื้อตุ๊กตา exo m ที่ KFC และชม Miss granny)

*หมายเหตุ

1. กระทู้นี้ต้องการนำเสนอความสนุกสนานจากการท่องเที่ยว งานติ่งคือผลพลอยได้จ้ะ
2. เราชื่อ “ออม” ผู้ร่วมทริปของเราชื่อ “เจ๊อิ๊น” และ “โอลิเวอร์” (จริงๆ ชื่อแพทแต่เพื่อนไม่เรียก)











สวัสดีค่ะชาวพันทิป  จากชื่อกระทู้ก็คงทราบกันแล้วว่าพวกเราจะพาท่านเดินทางไปที่ไหนบ้างใช่มั้ยคะ  สำหรับ “การเตรียมตัว” และ “สาระ” นั้น  เราแนะนำกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/31709657 ของคุณ neju11  ซึ่งเป็นกระทู้แรงบันดาลใจของพวกเราทั้งสามคนค่ะ





กระชับสายกระเป๋าให้แน่น อย่าลืมพาสปอร์ตที่ขอวีซ่าแล้วเรียบร้อย มั่นใจด้วยว่าแลกเงินไปพอใช้จ่าย (เราแลกไป 6000 บาท  ได้ประมาณ 1140 หยวน  สำหรับห้าวัน  ค่าโรงแรมตัดบัตรเครดิตไปแล้ว) อ้อ ควรมีกล้องถ่ายรูปด้วยนะ ถ้าพูดจีนไม่ได้โปรดพกประโยคสำคัญๆ ไว้ในมือถือหรือกระดาษ เช่น ราคาเท่าไหร่ ฉันเป็นคนไทย ฉันไม่เข้าใจ ฉันพูดภาษาจีนไม่ได้ สถานีรถบัส สนามบิน ฯลฯ พกปากกา และพกเครื่องคิดเลขไว้ต่อรองราคากับคนจีน  

เอาล่ะ  ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย!



19 มกราคม 2558 – สนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร






เราสามคนออกเดินทางกับสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบิน FD540 ออกจาก กทม. 7.55 น. (ค่าเครื่องบินไป-กลับคนละ 8,579 บาท รวมประกัน) แนะนำให้ไปถึงเร็วๆ เพราะแอร์เอเชียเปิดเคาท์เตอร์เช็คอินน้อยมาก  แน่นอนว่าเราสามคนต้อง “วิ่ง” เข้าเกตและถึงเกตตอนที่เขากำลังจะประกาศเรียกขึ้นเครื่องพอดี  เดินทางถึงฉางซาประมาณ 11.30 ตามเวลาท้องถิ่น  เวลาที่ฉางซาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง  พอลงจากเครื่อง ไอเย็นก็ปะทะใบหน้าทันที  อากาศช่วงนี้ไม่เกิน 15 องศา  กรุณาเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ  เจ๊อิ๊นชอบอากาศหนาว ถูกใจนาง  ส่วนโอลิเวอร์ครวญครางตั้งแต่ก้าวแรกเพราะขี้หนาวมาก  สนามบินฉางซากว้างขวาง โอ่โถง โครงสร้างคล้ายสนามบินสุวรรณภูมิ  





หลังจากได้กระเป๋าแล้วก็ลงมาซื้อตั๋ว Airport bus ด้านล่าง  บอกเขาว่าไป Western bus station ตั๋วราคา 28.5 หยวน  รอขึ้นรถที่ชานชาลา 1 รถออกทุกครึ่งชั่วโมง  



รถมาถึงตอนประมาณ 12.30  สภาพรถใช้ได้เลยค่ะ  นั่งตรงไหนก็ได้ คนขึ้นไม่เยอะ   พอรถออก พวกเราก็ได้เห็นบ้านเมืองฉางซาที่ตอนนี้กำลังมีการก่อสร้างอาคารสูงเยอะมากๆ มีตึกสร้างใหม่เต็มไปหมด โดยเฉพาะคอนโด แต่ค่อนข้างร้าง  มีการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมด้วยค่ะ  

รถไม่ติดเพราะเป็นช่วงบ่าย  พี่คนขับแกก็ขับไปเรื่อยๆ ชิลๆ  หยิบคุ้กกี้ขึ้นมากินบ้าง  เปิดกระติกน้ำชามาซดบ้าง ว่างหน่อยก็โทรศัพท์  แหมะ บันเทิงเริงใจเหลือเกินพี่ขา  แต่เขาขับรถนิ่มจริงๆ นะ ต้องยกให้เขาเลยเรื่องนี้  อ้อ...ประเทศจีนฝุ่นเยอะมากนะคะ ทั้งในเมืองและในรถโดยสาร ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องความสวยก็ใส่หน้ากากอนามัยไว้เป็นอันดี  เราใส่ทุกวัน คือมันกันหนาวได้ด้วยนะ^^  

มาถึงท่ารถเวลา 13.45 โดยประมาณ  ลงจากรถก็เดินเข้าไปหาป้ายบอกทางไปที่ขายตั๋ว (ป้ายสีน้ำเงิน)  แต่ก่อนเข้าสถานีจะต้องสแกนกระเป๋าก่อนนะเธอ  งานความปลอดภัยนางดี  ภายในตึก ผู้คนวุ่นวายมากกกกกก  แล้วก็ชอบสูบบุหรี่กันในอาคารทั้งๆ ที่มีป้ายตั้งโทนโท่ว่า No Smoking!  เฮ้อ  

ช่องขายตั๋วจะมีลูกกรงเยอะๆ นะ  พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้อยู่  บอกว่าไปเฟิ่งหวง  พวกเราได้ตั๋วรอบ 14.20  ราคา 150.5 หยวน





ขึ้นรถที่ประตู 4  ตรงจุดที่รอจะมีป้าๆ ถือป้ายสีแดงบอกจุดหมายปลายทาง  พวกเธอที่ไม่รู้ภาษาจีน (เหมือนเราสามคน) ควรสังเกตตัวหนังสือชื่อเมืองด้วยเด้อจะได้ไม่เอ๋อ  ทางออกเปิดเป็นช่องให้เข้าได้ทีละคน  คาดว่ามีไว้กันพวกเนียนขึ้นรถฟรี  อันนี้ให้อภัย  พอถึงเวลาเดินทาง เราได้รับอนุญาตให้เข้าไปรอรถที่ชานชาลา (สักที)  บริเวณรอรถเหมือนหมอชิตเปี๊ยบ  รถไปเฟิ่งหวงของพวกเราสีฟ้าค่ะ  นั่งตามเลขที่นั่ง แต่คนจีนที่มาด้วยกันแล้วไม่ได้ที่นั่งติดกันชอบมาขอเปลี่ยนที่  คนซวยคือโอลิเวอร์ 555 แต่นางฟินอยู่เพราะท้ายสุดนางได้นั่งข้างผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง 555

คนขับขับนิ่มดีค่ะ  เรื่อยๆ  มีจุดแวะพักให้เข้าห้องน้ำระหว่างทางด้วยเพราะในรถไม่มีห้องน้ำ  บรรยากาศในรถกิ๊บเก๋มากจ้ะเธอ  ที่นั่งแอบแคบ  ถ้าใครแบ็คแพ็คอย่างพวกเราก็เอากระเป๋ามาไว้กับตัวเองเถอะ พอวางได้อยู่  (นี่แอบสังเกตว่าคนจีนชอบใช้กระเป๋าเดินทางแบบลาก  อย่างตอนเช็คอินนะ  พวกนางมีกระเป๋าที่ต้องโหลดนะ แต่พอขึ้นเครื่องก็มีอีก  เครื่องทรงนางคงเยอะน่าดู 555)  อ่ะต่อๆ  ในรถที่เรานั่งไป  คุณลุงที่มาขอเปลี่ยนที่กับโอลิเวอร์นอนกรนเสียงดังมากกก!!!  หลังคุณลุงมีคุณป้าคนหนึ่งมากับลูกสาว แกนั่งแถวเดียวกับเรา กินของดองและผลไม้ตลอดเส้นทาง แต่พวกนางใส่ถุงมือพลาสติกหยิบอาหารดองนะจ๊ะ แอบอนามัยเล็กๆ  แถมขากยิ้มก็ลงถังขยะพอดีเป๊ะ   รถบัสที่นี่มีถังขยะวางให้เป็นจุดๆ  ดีมาก  ชอบๆ

หากมองวิวข้างทางจะเห็นว่าเขาระเบิดภูเขาทำถนนค่ะ  แต่ไม่ได้ระเบิดแบบราบเรียบนะ  ระเบิดพอทำถนนได้  ที่เหลือก็ให้มันเป็นเนินหรือเขาขนาดเล็กแหว่งๆ ไป   ยิ่งไกลออกไปก็ยิ่งเห็นความเป็นชนบทมากขึ้น  บ้านเรือนตั้งโดดเดี่ยว แต่ละหลังห่างกันพอสมควร   ชุมชนเล็กๆ ก็พอมีให้เห็น  ภูเขาสลับซับซ้อนมากขึ้น  ตอนแรกแอบกลัวว่าจะรอดมั้ยวะ ขึ้นถูกคันมั้ย  555 แต่แล้วก็ถึงเฟิ่งหวงเวลา 19.30 จนได้  รถคันที่เรานั่งมาไม่ได้จอดที่สถานีรถโดยสารนะ  เขาจอดให้ทุกคนลงข้างทาง *ฮือ*  ต่างด้าวสามคนถึงกับมึน  ตั้งหลักแป๊บ!

เราควักกระดาษที่อยู่ของโรงแรมออกมาบอกแท็กซี่เป็นภาษาอังกฤษ  แท็กซี่ตอบเป็นภาษาจีนรัวเร็ว ทำท่าบอกให้โทรศัพท์ แต่ฉันไม่มีโทรศัพท์ไงแก!  ตอนนั้นมัวแต่มึนงง ก็ลื้มมมว่าเอาเบอร์โรงแรมให้แท็กซี่โทรสิวะ! 555  ไม่เป็นไร  เอาใหม่  เรียกแท็กซี่หลายคันมาก  ไม่มีใครรับซักคน  โอลิเวอร์ผู้เป็นฮีโร่งานนี้ตัดสินใจเด็ดขาดว่า “เราจะต้องตามหาตำรวจ!”   ระหว่างเดินไปเรื่อยๆ ก็สังเกตบ้านเมืองเฟิ่งหวงไปด้วย  ทางเดินเท้ากว้างมากค่ะ  เดินสบายมาก  ไม่มีขยะเลย  พอถึงสามแยกใกล้กับโรงพยาบาลเฟิ่งหวงเราก็เจอป้อมตำรวจ  โอลิเวอร์คนหน้ามึนโผล่หน้าเข้าไปในป้อม  ร้อง “แฮ่” (มันร้องงี้จริงๆ)  ตำรวจคนหนึ่งเดินออกมารัวภาษาจีนใส่  นี่พูดแทบจะพร้อมกันว่า “ไท่กั๋ว” ฉันเป็นคนไทยนะ  ฉันไม่เข้าใจคุณ  เขาเกาหัวแล้วทำท่ายกหูโทรศัพท์  ตำรวจ “หน้า-ตา-ดี” ในป้อมหัวเราะขำ  เจ๊อิ๊นบอกเราว่าเอาเบอร์โทรโรงแรมออกมาสิ  ตำรวจคงคิดว่าจะรอดแล้ว แต่เปล่าค่ะ  เราสามคนทำเครื่องหมาย X บอกว่าพวกเราไม่มีโทรศัพท์  พี่ตำรวจคนแรกถอนหายใจยิ้มๆ  พี่แกโทรให้ค่ะ ให้เราคุยกับคนที่โรงแรมซึ่งบอกให้ไปรอที่หน้าร้านอะไรไม่รู้ ฟังแล้วงงๆ อ่ะ เลยบอกว่าเดี๋ยวรอเรียกแท็กซี่อีกที จะให้แท็กซี่คุยด้วย   สามสาวและพี่ตำรวจช่วยกันเรียกแท็กซี่ตรงสามแยก  แท็กซี่ไม่จอดค่ะ  ในวินาทีนั้นเอง  พี่ตำรวจคนหล่อที่เงียบอยู่นานก็เดินถือกุญแจรถออกมาแล้วกวักมือ “ให้-ขึ้น-รถ”  เอาซี่!!!  ต่างด้าวกรี๊ดกร๊าดสุดหัวใจ  ร้องเซี่ยะเซี่ยะ พี่ตำรวจคนแรกหันขวับ ทำตาโต ชี้หน้าเป็นเชิงว่า “พวกแกพูดได้นี่นา” 555  ได้แค่นี้แหละพี่ขา  พอปิดประตูรถ พี่คนหล่อก็เปิดไฟไซเรนและบีบแตรเสียงดังอลังการ - มาก!!!  (ในวิดีโอได้ยินเสียงแตรแค่ครั้งเดียว แต่เชื่อฉันเถอะ พี่แกบีบแตรทุกๆ สามสิบวินาที 555)

รับชมวิดีโอมืดๆ

https://www.facebook.com/video.php?v=10204223644766179

รถของคุณพี่ตำรวจ



เส้นทางไม่ซับซ้อนค่ะ  ประมาณห้านาทีเราก็ถึงทางเข้าเมืองโบราณเฟิ่งหวง  แก! คนมองทั้งบาง 555 อย่างกับอิพวกนี้ไปทำอะไรผิดมาแล้วต้องนั่งรถตำรวจอ่ะ  พวกเราโบกมือลาพร้อมบอก “เซี่ยะเซี่ยะเกอเก่อ” (ขอบคุณค่ะพี่) คุณตำรวจอายม้วนอ่ะแก มารู้จากเพื่อนทีหลังว่า เกอเก่อ มักจะใช้เรียกพี่ชายที่สนิทกัน  ปกติเรียกชื่อตามด้วย เก่อ เฉยๆ อีกอย่างผู้หญิงมีน้อย ไม่ค่อยมีใครมาเรียกเขาแบบนี้ 555  

งานช้างงานต่อไปคือบอกให้คนที่โรงแรมมารับ  พวกเรายืนอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตรงข้ามเคเอฟซี   ยึกยักกันสักพักโอลิเวอร์เจ้าเก่าก็ดึงกระดาษจองโรงแรมไปถามคนที่นั่งอยู่แถวนั้น  เขารัวภาษาจีนใส่ไฟแล่บ  เราสามคนพร้อมใจ “ไท่กั๋ว” อะเกน  พี่ๆ เขาทำท่าชกมวยใส่แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรให้  โอยยย คนเมืองนี้ใจดีมาก น่ารักมากจริงๆ  ภาษาไม่ใช่อุปสรรคของน้ำใจเลยค่ะ  พอโทรเสร็จพี่เขาชวนนั่ง แต่เก้าอี้ไม่พอ ยังอุตส่าห์เข้าไปยกเก้าอี้ไม้อันใหญ่ๆ ในร้านมาให้ *ปริ่มใจโคตร*  เขาชวนคุยด้วยนะ ถามว่าไท่กั๋วถึงฉางซาเนี่ย บินมาใช่มั้ย พร้อมทำท่ากางปีกบิน 555 ตลกดี   ไม่ถึงสองนาทีคนของโรงแรมก็เดินมารับ  แกเป็นทอมหน้าตาน่ารักเลยแหละ  พูดภาษาอังกฤษไม่ได้  ใช้โปรแกรมแปลในโทรศัพท์สื่อสารเอา  ที่พักซับซ้อนมากค่ะ แต่ถ้าเดินมาถึงแล้วก็จะจำทางได้เอง  เราจองโรงแรม Fenghuang Encounter Inn ผ่าน agoda ค่ะ  (ที่พักที่เดียวกับคุณ neju11) คืนละประมาณ 680 บาท จองสองคืน  ห้องเราน่านอนทีเดียว  ห้องน้ำสะอาดใช้ได้ ส้วมหลุม มีน้ำอุ่น (ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เออ นี่ก็มาด่าตัวเองทีหลังว่าทำไมไม่ถ่าย 555) ไม่มีอาหารเช้า แต่มีกาน้ำร้อนให้ต้มมาม่า  มีน้ำเปล่าให้เราเอาขวดมากรอกด้วย

ห้องนอนของโอลิเวอร์



นามบัตรที่พัก



ประมาณสามทุ่มก็พากันออกไปเดินชมเมือง  คนจีนชอบประดับไฟนะ  ประดับได้สวยมากจริงๆ  (ค่ำๆ นี่ผับพรึ่บ!)  







ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวเฟิ่งหวง จางเจียเจี้ย ฉางซา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่