เพิ่งได้ไปเก็บสตอเบอร์รี่ที่บ้านขอบด้ง อ่างขางมา เมื่อวันที่ 23/1/58
ยังมีลูกใหญ่ๆเหลือให้เก็บอีกเยอะเลย
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆที่มีโปรแกรมจะไปอ่างขาง
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้าง
ขอเล่าย้อนความก่อนที่จะได้ไปเก็บสตอเบอร์รี่ด้วยตัวเองนิดนึง
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เคยได้ขึ้นไปอ่างขาง โดยใช้บริการของ2แถวมาแล้วครั้งนึง
อยากไปชมความสวยงามของธรรมชาติ และไร่สตอเบอร์รี่ที่อ่างขางตามคำล่ำลือ
แต่สุดท้าย ก็ได้ลงมาจากดอยแบบมึนๆ โดยไม่ได้ดูไร่สตอเบอร์รี่เลย
เพราะตอนนั้นที่ได้ไป 2แถวบอกว่า เค้าเก็บขายกันหมด ไม่เหลือให้ดูแล้ว
ครั้งนี้เราต้องไปเห็นการเติบโตของสตอเบอร์รี่ให้ได้
จึงขับรถไปเที่ยวที่อ่างขางเองอีกครั้ง
เราขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงชายแดนไทย-พม่าบ้านนอแล
ด้วยความหวังที่จะเจอป้ายไร่สตอเบอร์รี่นำทางพาเราไปได้บ้าง
แต่ไม่มีเลย จนเราขับย้อนกลับมาถึงจุดชมวิวบ้านขอบด้งอีกครั้ง
เราจึงแวะถามชาวบ้านที่ขายอาหารที่จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
เค้าแนะนำให้เราไปที่ ไร่สตอเบอร์รี่ บ้านขอบด้ง
จากจุดชมวิว มุ่งหน้าไปทาง บ้านนอแล สังเกตุทางขวา
เราจะเจอ โรงเรียนบ้านขอบด้ง และเห็นแยกทางขวามือ เป็นทางคอนกรีต
เลี้ยวไปตามทางเลย ขับไปสักระยะ ก็จะเจอเพิงเล็กๆ ไว้ขายของอยู่ทางขวามือ
ตอนเราไป ไม่มีของขายเลย เป็นเพิงโล่งๆ
เราจอดรถ มองลงไปด้านล่าง เราเจอไร่สตอเบอร์รี่ กับยายที่กำลังรดน้ำสตอเบอร์รี่อยู่
เราลุยลงไปหายาย เพื่อถามว่า
เรา : คุณยายคะ มีสตอเบอร์รี่ขายมั๊ยคะ
ยาย : มี ขายโลละ 350 บาท ลูกโตๆ
เรา : ไม่มีถูกกว่านั้นเหรอยาย
(ก่อนที่เราจะขึ้นอ่างขาง เราแวะไปซื้อของกินที่ตลาดวโรรส(กาดหลวง)
เลยได้ถามราคาสตอเบอร์รี่ลูกโต ราคากก.ละ400บาท)
ยายทำท่างอนนิดๆ ก่อนบอกว่า
ยาย : ถ้าถูกกว่านี้ ก็ไปซื้อโน่น (ยายชี้นิ้วไปอีกทาง)
ไอ้เราก็พาซื่อ ถามยายต่อว่า ทางโน้นมีคนขายอีกเหรอคะ 555
ยายก็เงียบไป รดน้ำต้นไม้ต่อแบบไม่สนใจเรา
เราถึงนึกขึ้นได้ว่ายายแกคงประชดเรา
เรา : ยาย หนูซื้อยายแหละ เอาลูกโตๆนะ
ยาย เดินปีนเขาขึ้นไปอย่างคล่องแคล่วหยิบถุงพลาสติก บนบ้านมาให้เรา
ยายให้เราเก็บเอง เลือกเอง ยายก็ช่วยเก็บด้วยส่วนนึง
ตอนแรกเราก็ไม่กล้าเด็ด กลัวทำสตอเบอร์รี่ยายตาย ถ้าเด็ดผิดวิธี
เราสังเกตุ ยายเด็ดมาแบบไม่มีก้านเลย
เราเลยถาม ยายต้องเด็ดแบบไม่มีก้านเหรอ
ยายบอกเอาก้านก็ได้ ยายก็เอาเล็บจิกตรงก้าน หยิบส่งให้เรา
เราก็ลุยเลย เลือกลูกโตๆ สีขาวๆ เพื่อที่จะได้เอากลับบ้านได้ โดยไม่ช้ำ
เอากลับมาบ้านมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สุก กินได้พอดี
และเลือกลูกแดงๆหน่อย เพราะเราจะล้างแล้วชิมเลยด้วย
เลือกเสร็จ ยายก็ปีนขึ้นไป ที่เพิงขายของริมทาง
เราก็ค่อยๆปีนขึ้นตาม กลัวพลาดท่ากลิ้งทับไร่สตอเบอร์รี่ยายจริงๆ
ถุงที่ยายเก็บมีปนลูกเล็กอยู่หลายลูก ยายให้เราหยิบออกได้
เลือกเอาแต่ลูกใหญ่ที่เราอยากได้ แล้วยายก็ช่างกิโล
เรา : ยายลดให้หน่อยซิ โลละ 300 นะยายนะ
ยาย : ยายขายอยู่ 350 อ่ะๆ 300 ก็ได้
ช่างแล้วได้ 1โล2ขีด จ่ายยายไป 360 บาท
ยายยิ้มดีใจ ยกมือไหว้เรา พร้อมกับให้สตอเบอร์รี่ลูกเล็กเป็นของแถม
ผิดเป็นคนละคน กับตอนที่ยายงอนเรา แล้วชี้ให้เราไปซื้อเจ้าอื่นเลย
ถึงตอนนี้ เราไม่รู้หรอกนะ ว่าที่เราซื้อยาย มันแพงหรือไม่แพง
เรารู้แต่ว่า เราดีใจ ที่เห็นยายดีใจ ราคาที่ยายขายผ่านคนกลางคงได้น้อยกว่านี้
แล้วเราก็ดีใจ ที่ได้ประสบการณ์เป็นชาวไร่เก็บสตอเบอร์รี่ด้วยตัวเอง แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม
ปล.เราไม่ได้ว่าพ่อค้าคนกลางไม่ดีนะ เพราะคนกลางก็เป็นอีกอาชีพ ที่ทำให้เราได้กินสตอเบอร์รี่แบบไม่ต้องลำบากไปเก็บเอง
แปลงร่างเป็นชาวไร่ เก็บสตอเบอร์รี่ ที่บ้านขอบด้ง อ่างขาง
เพิ่งได้ไปเก็บสตอเบอร์รี่ที่บ้านขอบด้ง อ่างขางมา เมื่อวันที่ 23/1/58
ยังมีลูกใหญ่ๆเหลือให้เก็บอีกเยอะเลย
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆที่มีโปรแกรมจะไปอ่างขาง
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้าง
ขอเล่าย้อนความก่อนที่จะได้ไปเก็บสตอเบอร์รี่ด้วยตัวเองนิดนึง
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เคยได้ขึ้นไปอ่างขาง โดยใช้บริการของ2แถวมาแล้วครั้งนึง
อยากไปชมความสวยงามของธรรมชาติ และไร่สตอเบอร์รี่ที่อ่างขางตามคำล่ำลือ
แต่สุดท้าย ก็ได้ลงมาจากดอยแบบมึนๆ โดยไม่ได้ดูไร่สตอเบอร์รี่เลย
เพราะตอนนั้นที่ได้ไป 2แถวบอกว่า เค้าเก็บขายกันหมด ไม่เหลือให้ดูแล้ว
ครั้งนี้เราต้องไปเห็นการเติบโตของสตอเบอร์รี่ให้ได้
จึงขับรถไปเที่ยวที่อ่างขางเองอีกครั้ง
เราขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงชายแดนไทย-พม่าบ้านนอแล
ด้วยความหวังที่จะเจอป้ายไร่สตอเบอร์รี่นำทางพาเราไปได้บ้าง
แต่ไม่มีเลย จนเราขับย้อนกลับมาถึงจุดชมวิวบ้านขอบด้งอีกครั้ง
เราจึงแวะถามชาวบ้านที่ขายอาหารที่จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
เค้าแนะนำให้เราไปที่ ไร่สตอเบอร์รี่ บ้านขอบด้ง
จากจุดชมวิว มุ่งหน้าไปทาง บ้านนอแล สังเกตุทางขวา
เราจะเจอ โรงเรียนบ้านขอบด้ง และเห็นแยกทางขวามือ เป็นทางคอนกรีต
เลี้ยวไปตามทางเลย ขับไปสักระยะ ก็จะเจอเพิงเล็กๆ ไว้ขายของอยู่ทางขวามือ
ตอนเราไป ไม่มีของขายเลย เป็นเพิงโล่งๆ
เราจอดรถ มองลงไปด้านล่าง เราเจอไร่สตอเบอร์รี่ กับยายที่กำลังรดน้ำสตอเบอร์รี่อยู่
เราลุยลงไปหายาย เพื่อถามว่า
เรา : คุณยายคะ มีสตอเบอร์รี่ขายมั๊ยคะ
ยาย : มี ขายโลละ 350 บาท ลูกโตๆ
เรา : ไม่มีถูกกว่านั้นเหรอยาย
(ก่อนที่เราจะขึ้นอ่างขาง เราแวะไปซื้อของกินที่ตลาดวโรรส(กาดหลวง)
เลยได้ถามราคาสตอเบอร์รี่ลูกโต ราคากก.ละ400บาท)
ยายทำท่างอนนิดๆ ก่อนบอกว่า
ยาย : ถ้าถูกกว่านี้ ก็ไปซื้อโน่น (ยายชี้นิ้วไปอีกทาง)
ไอ้เราก็พาซื่อ ถามยายต่อว่า ทางโน้นมีคนขายอีกเหรอคะ 555
ยายก็เงียบไป รดน้ำต้นไม้ต่อแบบไม่สนใจเรา
เราถึงนึกขึ้นได้ว่ายายแกคงประชดเรา
เรา : ยาย หนูซื้อยายแหละ เอาลูกโตๆนะ
ยาย เดินปีนเขาขึ้นไปอย่างคล่องแคล่วหยิบถุงพลาสติก บนบ้านมาให้เรา
ยายให้เราเก็บเอง เลือกเอง ยายก็ช่วยเก็บด้วยส่วนนึง
ตอนแรกเราก็ไม่กล้าเด็ด กลัวทำสตอเบอร์รี่ยายตาย ถ้าเด็ดผิดวิธี
เราสังเกตุ ยายเด็ดมาแบบไม่มีก้านเลย
เราเลยถาม ยายต้องเด็ดแบบไม่มีก้านเหรอ
ยายบอกเอาก้านก็ได้ ยายก็เอาเล็บจิกตรงก้าน หยิบส่งให้เรา
เราก็ลุยเลย เลือกลูกโตๆ สีขาวๆ เพื่อที่จะได้เอากลับบ้านได้ โดยไม่ช้ำ
เอากลับมาบ้านมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สุก กินได้พอดี
และเลือกลูกแดงๆหน่อย เพราะเราจะล้างแล้วชิมเลยด้วย
เลือกเสร็จ ยายก็ปีนขึ้นไป ที่เพิงขายของริมทาง
เราก็ค่อยๆปีนขึ้นตาม กลัวพลาดท่ากลิ้งทับไร่สตอเบอร์รี่ยายจริงๆ
ถุงที่ยายเก็บมีปนลูกเล็กอยู่หลายลูก ยายให้เราหยิบออกได้
เลือกเอาแต่ลูกใหญ่ที่เราอยากได้ แล้วยายก็ช่างกิโล
เรา : ยายลดให้หน่อยซิ โลละ 300 นะยายนะ
ยาย : ยายขายอยู่ 350 อ่ะๆ 300 ก็ได้
ช่างแล้วได้ 1โล2ขีด จ่ายยายไป 360 บาท
ยายยิ้มดีใจ ยกมือไหว้เรา พร้อมกับให้สตอเบอร์รี่ลูกเล็กเป็นของแถม
ผิดเป็นคนละคน กับตอนที่ยายงอนเรา แล้วชี้ให้เราไปซื้อเจ้าอื่นเลย
ถึงตอนนี้ เราไม่รู้หรอกนะ ว่าที่เราซื้อยาย มันแพงหรือไม่แพง
เรารู้แต่ว่า เราดีใจ ที่เห็นยายดีใจ ราคาที่ยายขายผ่านคนกลางคงได้น้อยกว่านี้
แล้วเราก็ดีใจ ที่ได้ประสบการณ์เป็นชาวไร่เก็บสตอเบอร์รี่ด้วยตัวเอง แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม
ปล.เราไม่ได้ว่าพ่อค้าคนกลางไม่ดีนะ เพราะคนกลางก็เป็นอีกอาชีพ ที่ทำให้เราได้กินสตอเบอร์รี่แบบไม่ต้องลำบากไปเก็บเอง