[CR] เล่าเรื่องการเดินทาง 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว ตอนที่ 9.การเดินทางวันที่ 9..เชียงคาน สวนหินผางาม

ตอนที่ 9..เชียงคาน สวนหินผางาม

กำหนดการการเดินทางในวันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2558 ภาคเช้า ตักบาตรข้าวเหนียวหน้าโรงแรม แล้วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก แก่งคุดคู้ อาหารเช้า ทานที่โรงแรม (รวมในราคาที่พัก) และออกเดินทางไปสวนหินผางาม ทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารในสวนหินฯ เที่ยวภูป่าเปาะ แวะภูกระดึง อาหารเย็น ร้านข้าวต้มใบเตย

ก่อนอื่น มีอะไรติดค้างคาใจอยู่เรื่องนึงเมื่อตอนที่แล้ว คือจำชื่อวัดในลาวไม่ได้ ลองเข้าไปสืบค้นในอากู๋ ก็หาไม่ได้ ก็เลยไปเปิดดูรูปภาพที่ถ่ายมา ไล่ดูใหม่ (ทั้งหมดกว่า 3,300 รูป!)  ไปเจอภาพที่ถ่ายหน้าวัดไว้ ก็เลยจัดการซูมให้เห็นชื่อชัด ๆ และนำมาถามเพื่อน ๆ นักภาษาศาสตร์ลาวว่า วัดนี้ชื่ออะไร  น่าจะอ่านว่าวัดสีพูนประดิษฐาราม หรือเปล่า เชิญชมภาพครับ :


เวลาตี 5 แล้ว เจ้าไก่ตัวเดิมก็ส่งเสียงร้อง...เอกอิเอ้กเอ้ก ปลุกให้ทุกคนตื่น หลังจากทำธุระเสร็จ ยังง่วงอยู่เลย ก็ลงมานั่งพนมมือป้อสับผงกอยู่หน้าโรงแรมที่พัก เพราะว่า เช้านี้ทางโรงแรมจัดพานอาหารคาวหวานและข้าวเหนียวมาให้พวกเราได้ตักบาตรพระกัน (ก็แจ้งทางโรงแรมว่าเราต้องการกี่ชุดก่อนสองทุ่มเมื่อคืน ทางโรงแรมเขาก็จะจัดให้ โดยคิดค่าบริการพานละ 50 บาท)  ประมาณ 6 โมงเช้า พระองค์แรกก็เริ่มโผล่พ้นขอบถนนมา เดินมาอย่างสำรวม จนถึงที่ที่เรานั่งพนมมือป้อตั้งแต่เช้ามืด  ต่างคนต่างกุลีกุจอหยิบอาหารคาวหวาน ขนมนมเนย และที่สำคัญ ตวัดข้าวเหนียวในกระติ๊บหนึ่งกำมือเล็ก ๆ ปั้น ปั้น ปั้น (ไม่รู้คนอื่นปั้นหรือเปล่า) แล้วใส่ลงในบาตรพระ พนมมือรับพร ก็ปฏิบัติอย่างนี้จนทุกอย่างหมดจากพานก็เป็นอันเสร็จพิธี เชิญชมภาพครับ :

ทางโรงแรมจัดวางให้เป็นชุด ๆ หน้าโรงแรม

ดอกไม้ซื้อต่างหาก ชุดละ 10 บาท




ใช้เวลาไม่มากในการตักบาตร เพราะพระเดินมาเป็นกลุ่ม ๆ หลังจากนั้น ก็ออกเดินทางไปภูทอก ตั้งความหวังที่จะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในสายหมอก  ขับไปไม่ไกลและทางไม่สูงชันครับ ไปเรื่อย ๆ มีป้ายบอกทาง ถึงเท้าภู (ตีน ไม่สุภาพอีกแล้วนะครับ) ก็หาที่จอดรถ คันละ 20 บาท ที่จอดเยอะแยะ แล้วเดินไปที่จอดรถกระบะพาขึ้นภูทอก ค่าขึ้นภูต่อคน 20 บาท   เมื่อถึงยอดภูทอก ภาพเดียวกับยอดภูเรือก็ผุดขึ้นมาให้เห็น คือ คน..คน..และคน เต็มไปหมด  อากาศเช้าวันนี้ไม่แจ่มใสนัก มีเมฆมาก ทำให้ไม่เกิดหมอกและพระอาทิตย์ก็ขี้เกียจฉายแสงตะวันเช้า ก็เลยอดเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติบนภูทอกแห่งนี้ ผิดหวังครับ ไม่เห็นทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น เชิญชมภาพครับ :



เครดิตภาพจากกล้อง ปัจจัย 6+ ของแม่บ้าน:


รถกระบะ ขนคนขึ้น-ลง ไม่ขาดระยะ


ด้านล่างภูทอก มีของขายเพียบ ไม่ต้องกลัวอด:



สังสัย หน้าพุทรา ขนมาเป็นค้นรถเลย:


ลงจากภูทอกก็เดินทางไปยังแก่งคุดคู้ ไม่ไกลมากมีป้ายบอกทางชัดเจน ไปถึงยังเช้าอยู่ ตลาดยังไม่เปิด ก็เดินถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันแล้วก็เดินทางกลับมาที่โรงแรม ทานอาหารเช้า จริง ๆ แล้ว โรงแรมไม่มีห้องอาหารไว้รองรับแขกที่มาพัก เขาแจกคูปอง 50 บาทต่อคน ให้เดินข้ามถนนไปทานที่ร้านลุกโภชนา  ดูเหมือนร้านอยู่ไกล๊ไกล แต่ร้านอาหารอยู่ตรงข้ามห่างไปแค่ช่วงถนนซอย (กว้างประมาณแค่รถสองคันสวนกันได้) คูปองคนละ 50 บาทไม่พอ ต้องจ่ายเพิ่มไปอีก 120 บาท สบายตัวไป เชิญชมภาพครับ :



เครดิตภาพจากกล้องปัจจัย 6+ ของแม่บ้าน:


ร้านค้ายังปิดอยู่:



ร้านอาหารตรงข้ามโรงแรม:

อาหารเช้า:


อุณหภูมิเช้านี้บนชั้น 2 ของโรงแรม:


อันที่จริง โรงแรมมีจักรยานให้ขี่เล่นฟรี แต่ไม่มีโอกาส ไว้คราวหน้าจะมาขี่ให้หนำใจ:


อิ่มแล้ว ก็เก็บสัมภาระ ออกเดินทางแต่เช้า เพราะวันนี้ ระยะทางจากเชียงคานถึงชัยภูมิมากกว่า 300 กิโลเมตร (รวมแวะเที่ยวระหว่างทางด้วย) เดี๋ยวจะไปถึงชัยภูมิมืดค่ำ การเดินทางจะลำบาก ก็ถือโอกาสบอกเพิ่มเติมเลยครับว่า การทำแผนการเดินทางในครั้งนี้ พยายามอย่างยิ่งที่จะเลี่ยงการเดินทางกลางคืน เพราะไม่เคยใช้เส้นทางเหล่านี้ และไม่คุ้นชิน ไม่รู้ว่าถนนไหนมีไฟฟ้าหรือไม่มีไฟฟ้า (ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือ ตอนที่ขึ้นไปยอดภูเรือ มืดและหมอกหนามาก โชคดีที่ได้ขึ้นไปก่อนหน้านั้นวันนึง พอนึกเส้นทางออก ไม่งั้น คงกลัวมากกว่านี้แน่)  ก็ไม่มีอะไรมาก เพื่อความปลอดภัยครับ

ออกจากเชียงคาน ดูเข็มไมล์อยู่ที่ 1,493 กิโลเมตร เดินทางผ่านจังหวัดเลย ไปอำเภอวังสะพุง กิ่งอำเภอหนองหิน ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ทางขวามือ มีป้ายบอกทางเข้า สวนหินผางาม เลี้ยวตามเข้าไป ก็วิ่งโขยกเขยกขึ้น-ลงเขาคดเคี้ยวไปมาพอสมควร น่าจะประมาณ 15 กิโลเมตร ก็ถึงสวนหินผางาม จอดรถเสร็จก็เดินไปคำนับสุขาก่อน เสร็จแล้วก็มาติดต่อที่สำนักงาน ทางสำนักงานก็จัดหาเจ้าหน้าที่ เป็นไกด์นำเที่ยว 1 คน พลขับรถอีแต็กอีก 1 คนให้ ก็เดินไปที่รถ ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ที่เกิดมาไม่เคยได้นั่งรถอีแต็ก ก็ถ่ายรูปกันเป็นพัลวัน  เชิญชมภาพครับ :


เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่พาเที่ยว:


รถอีแต็กที่ขับพาเที่ยวสวนหินผางาม:



ขึ้นรถได้ คนขับก็สตาร์ทเครื่องดัง แตก แตก แตก แตก (สมชื่อรถอีแตกจริง ๆ) ขับเข้าไปในสวนหินฯ ไม่ไกล ไกด์ก็บรรยายสรรพคุณของสวนหินให้ฟังว่า..แน๊ อยากรู้ละซิ ไม่เอา ไม่บอก ไปเที่ยวเอง  พอไปถึงเชิงเขา ไกด์ก็พาเดินขึ้นบันไดเหล็กแคบ ๆ ไปยังยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพของสวนหินผางาม หรือคุนหมิงเมืองไทยของเรา เชิญชมภาพครับ :

เขาลูกนี้มีชื่อเรียกแต่จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าเขามีรู:


ทางขึ้นเป็นบันไดเหล็ก:


ไกด์บอกให้ช่วยมองหาเต่ากัน ว่าอยู่ที่ไหน:


คุนหมิงเมืองไทย เครดิตภาพจากกล้อง ปัจจัย 6+ ของแม่บ้าน:


ยืนชื่นชมความงามกันสักพัก ก็เดินทางกลับลงมา จริง ๆ แล้ว ทางลงยังมีอีกทางเป็นเขาวงกต ต้องให้ไกด์นำทางให้ ใช้เวลาเดินในนั้นประมาณ 45 นาที พวกเราไม่มีเวลาขนาดนั้น ก็ออกตัวว่าไว้คราวหน้าแล้วกัน ขับรถอีแต็กกลับมาถึงที่จอดรถเกือบเที่ยง ก็เลยแวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านในระแวกนั้นซึ่งมีอยู่หลายร้าน อิ่มแล้วจึงเดินข้ามไปเดินเล่นในสวน  เชิญชมภาพครับ :

อาหารตามสั่งง่าย ๆ ทั้งหมด 280 บาท:




ออกจากสวนหินผางาม จะไปภูป่าเปาะ ทางไกด์บอกว่าอย่าไปเลยวันนี้  เสียเวลาเปล่า ฟ้าปิด หมอกมาก ยังไงก็ไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิเมืองไทย  ก็ฟังผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นแล้วกัน จึงขับรถกลับมาทางเดิม วิ่งไปสู่จุดหมายต่อไป นั่นคือ ภูกระดึง
ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เมื่อถึงภูกระดึง ดีใจมาก หามุมถ่ายรูปที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มาพิชิตเท้าภูกระดึง (คนอื่นเขาพิชิตยอดภูกัน เรามักน้อย ขอแค่เท้าภูก็พอ แหะ แหะ) เชิญชมภาพครับ :

ถึงแล้ว เท้าบันไดภูกระดึง (ก็ตีนบันไดไงครับ เห็นไหมเอ่ย):


ออกจากภูกระดึง ก็ร่ายยาวรวดเดียวเข้าตัวเมืองชัยภูมิ (เกือบมืดค่ำ)  Check in ที่โรงแรมต้นคูณ สะดวกดีอยู่ติดถนนใหญ่ แล้วพร้อมกันออกไปทานอาหารค่ำที่ร้าน ข้าวต้มใบเตย  ทีแรกกะว่าจะสั่งเป็นกับข้าวทานกับข้าวต้ม แต่ไหงลงท้ายกลายเป็นกับข้าวทานกับข้าวสวยไป แต่จุดเด่นที่สำคัญที่ซู๊ดดดดด...คือ เบียร์วุ้น ชื่นนนนใจ๋ชื่นใจจริง ๆ หลังจากขับรถมาทั้งวัน เชิญชมภาพครับ :



ของดีร้านข้าวต้มใบเตย ก็ต้องร้องเพลง "....ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ ให้มันลึกซึ้ง....":


บรรยากาศร้าน:


หนังท้องตึง หนังตาหย่อน  “อ้าว..ไม่ได้เหรอ” ถูกลากให้ไปเดินเล่นตรงวงเวียน ตอนขับผ่านมา เห็นเขาจัดงานเหมือนงานวัด เอ้า ไปก็ไปกัน เลือดสุพรรณ  เรียกเก็บตัง ทั้งหมด 690 บาท (รวมเบียร์วุ้น 2 ขวด ราคาน่าคบหาจริง ๆ อร่อยด้วย)  เชิญชมภาพครับ :




ถึงบางอ้อ ว่าเป็นงานอะไร:

ผลไม้ขายเกลื่อน มีหลายราคาหลายคุณภาพให้เลือก:


กลับถึงโรงแรม สะโหลสะเหล ถึงเตียงนอน โดดขึ้นเตียง หลับกลางอากาศซะนี่ นอนหลับฝันดี

คราวหน้าเป็นตอนสุดท้ายของการเดินทางแล้วครับ เป็นการเดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ระหว่างทาง ได้มีโอกาสแวะนมัสการหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ด้วยครับ
ชื่อสินค้า:   ภูทอก แก่งคุดคู้ สวนหินผางาม ภูกระดึง ชัยภูมิ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่