"เคหาสน์ดาว" ละครที่ไม่มีนางร้ายปากแดง แต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ด ร้องกรี๊ดวี้ดว้าย

ละครเรื่องเคหาสน์ดาว ตอนเห็นทีเซอร์ก็คิดว่าจะลองดูสักหน่อย แต่ลืมวันออนแอร์ จนกระทั่งละครฉายไปได้ 4 วันแล้ว ก็เพิ่งจะได้ดูย้อนหลังแบบรวดเดียว Ep.1 - EP.4 ซึ่งระหว่างที่ดูก็คิดว่าจะต้องแนะนำพวกพ้องให้ดูเรื่องนี้ ปรากฏว่าบางคนก็ดูอยู่แล้ว พอมาดูในพันทิป อ้าว กระแสเงียบๆแฮะ

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือ มันดู "เรียล" เป็นชีวิตคนจริงๆ (ผสมกับความเป็นละครบ้าง)

1. สะท้อนชีวิตชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องทำมาหากิน มีภาระทางครอบครัว เรื่องราวของมนุษย์ออฟฟิศ เรื่องราวของซิงเกิลมัม นอกเหนือจากนี้ก็มีจิกกัดสภาพสังคมเล็กน้อย เช่น ตำรวจ วินมอไซค์ ความเป็นดารา ชีวิตคู่รัก

2. แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ อุปสรรคขวากหนามของละครไม่ใช่ตัวร้าย เพราะเรื่องนี้ไม่มีนางร้ายปากแดง แต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ด ร้องกรี๊ดวี้ดว้าย วางแผน แย่งชิง ก่อการชั่ว แล้วก็ให้ข้อคิดบทสรุปสุดท้ายของเรื่องว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แต่อุปสรรคของเรื่องนี้ คือ ทัศนคติ นิสัย ไลฟ์สไตล์ของแต่ละตัวละคร ที่ไม่ลงรอยและพอดีกับคู่รักของตัวเอง
บางทีก็สงสัยว่า ละครหลายๆเรื่อง ทำไมต้องเป็นเรื่องราวของการเริ่มต้นด้วยการที่พระเอก-นางเอกไม่มีสถานะความสัมพันธ์ในแบบคู่รักกัน เรื่องราวดำเนินไปพร้อมๆกับการพบรักกัน ตกหลุมรักกัน และจบลงด้วยการเป็นคู่รักกัน แต่งงานกัน ลงเอยกันด้วยดี (ทั้งๆที่ในชีวิตจริง การแต่งงานมันคือจุดเริ่มต้นของชีวิต) แต่เรื่องนี้ เริ่มต้นเรื่องก็เห็นเรื่องราวชีวิตความรักของคน 3 คู่ แล้ว
- คู่แรก ทวน-เหมียว (อัค-แกรนด์) : คู่นี้เห็นได้ทั่วไปในหมู่เพื่อนฝูงเลย ผู้หญิงเป็นชะนีฟรุ้งฟริ้ง โลกหมุนรอบตัวเอง ส่วนผู้ชายก็ ผู้ช้ายยยผู้ชาย ต้องยอมโอนอ่อนตามใจแฟน ถ้าขัดใจก็ทะเลาะ และเป็นฝ่ายง้ออยู่ดี และคู่นี้ตกลงปลงใจแต่งงานกันแล้ว เรื่องราวเริ่มตั้งแต่การวางแผนและเตรียมการงานแต่งงาน  
- คู่สองและคู่สาม เขียว-แสน (นิว-ยิบซี), ปู-จ๋อม (โย่ง-แป้งโกะ): สองคู่นี้คือ คนนึงชอบ/เป็นอย่างนึง อีกคนชอบ/เป็นอย่างนึง จะหาความพอดีที่ตรงไหน ฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่ายิ่งรักกันยิ่งอึดอัด จะทำยังไง แล้วให้บังเอิญว่า ฝ่ายหนึ่งไปชอบอีกคน ทั้งๆที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว แล้วคนที่ชอบก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่โคตรจะคลิกกัน คุยถูกคอกัน จะทำยังไง
ส่วนอีกคู่ เข้ม-เจน (แดน-แป้ง) ไม่ได้คู่กันแต่แรก เป็นเพื่อนบ้านกัน ผู้หญิงเป็นซิงเกิลมัม ที่ดิ้นรนและเข้มแข็งเพื่อลูก ผู้ชายก็เกรียนๆซึนๆ สอดส่องเพื่อนบ้านจนกลายเป็นความเป็นห่วงเป็นใย  

3. การเล่นมุกสด รับ-ส่งกันนอกเหนือจากบท โดยเฉพาะในหมู่แก๊งผู้ชาย เข้ม-เขียว-ทวน-บาง มันเลยดูเป็นธรรมชาติๆ ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง (ส่วนใหญ่ฮา) แต่ก็ทำให้ละครดูมีสีสันมีชีวิตชีวาขึ้นมา

4. สาระสำคัญของเรื่องนี้ เปรียบ "การสร้างบ้าน" คือ การสร้างครอบครัว ว่าต้องเกิดจากการ "ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน" มันต้องตกลงกันได้ว่าจะเอาห้องครัวสไตล์ ครัวไทยของท้าวทองกีบม้า กับ ครัวฝรั่งของมาร์ธา สจ๊วต ให้เข้ากันได้ยังไง

อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ติ ก็มีบ้างในเรื่องการแสดงของตัวละครบางตัว ที่เยอะไป จนทำให้ละครฟีลกู๊ด สบายๆ กลายเป็นน่ารำคาญได้เหมือนกัน หรือบางตัวละครอาจจะเล่นไม่ถึง จนทำให้คนดูไม่ค่อยอินเท่าไร

ละครเรื่องนี้อาจจะอยู่นอกสายตา และเป็นละครนอกกระแส แต่ถ้าสนใจก็ลองดูได้ค่ะ รู้ว่าเรื่องนี้เป็นละครรีเมค แต่ไม่เคยดูเวอร์ชันก่อน และไม่เคยอ่านนิยายหรือเรื่องย่อมาก่อน แต่เข้าใจว่าละครเวอร์ชันนี้ มีการตีความและเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ถ้าใครที่ยกเวอร์ชันก่อนขึ้นหิ้ง ก็อาจจะไม่ชอบเวอร์ชันนี้มั้งคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่