เราควรเก็บภาษีสัตว์เลี้ยงดีไหมครับ ? จะได้มีเงินไปจัดการสัตว์จรจัด ไม่ต้องปล่อยแบบนี้

คือตอนนี้ มีสัตว์จรจัด ที่มีคนให้ข้าว แต่ไม่มีคนรับผิดชอบดูแล ทั้งในเรื่องพื้นที่การเลี้ยงดู การทำหมัน ฉีดวัคซีน การควบคุมพฤติกรรมก้าวร้าว โรคติดต่อ การถ่ายไม่เป็นที่ทาง ฯลฯ

คือพูดง่ายๆว่า สัตว์จรจัด มีจำนวนมากมาย ที่คนไปรับผิดชอบได้ไม่ทุกตัว

ส่วนนึงคือ "เงินไม่พอ" ในการจัดการสิ่งเหล่านี้
ถ้าเรามีเงิน ก็จะมีการจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วย เช่น จ้างคนมาดูแล มีเงินซื้ออาหาร มีสถานที่เลี้ยงดูอย่างเป็นระเบียบ
ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าไม่มีเงินดูแลสัตว์จรจัด และมี พรบ.สัตว์ออกมาแล้ว
เราควรจะมีการเก็บภาษีสัตว์เลี้ยงด้วย เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปดูแลสัตว์อื่นๆที่ไม่มีเจ้าของให้ปลอดภัยอยู่เป็นที่เป็นทาง

เหมือนเราเก็บภาษีรถ ก็ไปซ่อมถนนให้รถวิ่ง
เก็บประกันสังคม ก็ไปช่วยจ่ายค่ารักษาให้คนที่ป่วย
แต่เงินดูแลสัตว์ กลับไม่มี ต้องไปเจียดเอาเงินรัฐส่วนกลางมาช่วยดูแล หรือ ออกรับเงินบริจาค ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง
ซ้ำร้ายบางคนยังเอาเรื่องสัตว์ไปเอาผลประโยชน์หาตนเองอีกดังที่เห็นกันหลายรายมาแล้ว
เหมือนเป็นไฟไหม้ฟาง ระดมทุนช่วยแป๊บๆ ก็เงียบ แล้วสัตว์ที่ไม่มีข่าวไม่ได้ลงเฟส จะเอาเงินที่ไหนไปดูแล ?

ถ้ามีการเก็บภาษีสัตว์เลี้ยงก็ให้กำหนดไปชัดเจนเลยว่า บ้านไหนมี หมาแมว กี่ตัว ฝังชิป มีบาร์โค๊ด มีปลอกคอ มีใบรับเกิดใบตายชัดเจน
ถ้าเจอหมาไปกัดคนอื่นก็เอาผิดเจ้าของได้ทันที ทั้งทางแพ่งและอาญา
แต่ถ้าเจอหมาแมวไม่มีข้อมูลเจ้าของให้ทำการไปกักขังได้ทันที แต่ไม่ได้ฆ่าทิ้ง เพราะมีเงินภาษีสัตว์เลี้ยงได้ตลอดชีวิตอยู่

ไม่แน่ใจว่าเมืองนอกเค้าทำแบบนี้หรือเปล่า เค้าเลยมีสัตว์จรจัดน้อยมากๆ หรือไม่มีเลย
การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่แค่ซื้อมาเลี้ยงอย่างเดียว เบื่อก็ทิ้ง เกิดเป็นปัญหาตามมา ต้องรับผิดชอบทุกสิ่งด้วย จะได้คิดมากๆก่อนหามาเลี้ยง
เก็บภาษีสัตว์เลี้ยง แมวปีละ 200 บาท หมา 300 บาท ฯลฯ จะได้มีเงินไปช่วยเหลือตัวอื่นๆด้วยและมีทะเบียนชัดเจน
บ้านไหนคลอดลูกมากี่ตัวก็ต้องทำทะเบียนทุกตัว ใครทำเป็นฟาร์ม ก็ต้องเสียภาษีเพิ่มอีกต่างหาก เพราะทำรายได้จากสัตว์ ไม่ใช่เลี้ยงเพื่อส่วนตัว

คนรักสัตว์จะได้สบายใจ ว่าเสียภาษีแล้ว มีเงินช่วยเหลือเป็นกองกลางแล้ว ไม่ต้องมาระดมทุนให้โดนหลอกอีก