สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ แต่ผมก็ขอยืนยันได้ว่า ทุกสิ่งที่ผมได้บอกเล่านั้นเกิดขึ้นกับตัวผมเองจริงๆ ไม่ได้แต่งขึ้นหรือเสริมเติมแต่งแต่อย่างใดครับ
ช่วงผมอายุ27 ราวๆปลายๆปี2556 ผมได้เดินทางไปหาแฟนเพราะอยู่คนละจังหวัดกัน ประกอบกับผมต้องทำธุรกิจส่วนตัวที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่อยู่ด้วย ทำให้ย้ายไปอยู่ไกล้ๆแฟนคนนี้ไม่ได้ ซึ่งเมื่อเคลียร์งานเรียบร้อยแล้วผมจะไปหาแฟนประมาณ3-4วัน ลืมเล่าไปว่าผมเป็นคนที่ชอบนั่งสมาธิอยู่เป็นทุนเดิม ว่างๆหรือก่อนนอนผมก็จะหาเวลานั่ง โดยการทำสมาธิของผมนั้น ผมทำทุกท่าทุกอิริยาบถครับไม่ว่าจะนั่งหรือนอนนั่งบนเก้าอี้หรือเดิน วันหนึ่งขณะที่ผมไปหาแฟนและได้เกิดปัญหากับแฟนมีทะเลาะกันนิดหน่อย แฟนผมเลยได้ไปนอนกับแม่ของเขา ผมก็กระวนกระวายใจนิดๆแต่ก็ไม่คิดมาก พอตกดึกช่วงประมาณ4-5ทุ่ม ผมก็คิดว่าจะนั่งสมาธิสักหน่อย เพราะคิดแค่ว่าจะช่วยให้ใจสงบในตอนนั้น หลังจากที่ผมนั่งสมาธิไปสักสี่ห้านาที ก็เกิดนิมิตรบกวนวูบวาบตามปกติ ผมก็ทำใจละวางไม่สนนิมิตนั้น ตามที่เคยทำเพื่อยกสมาธิให้ละเอียดขึ้น หลังจากนั้นครู่เดียว ผมก็วูบครับ ผมเห็นตัวผมเอง ใช่ครับเป็นตัวผมเอง มีความรู้สึกขณะที่นั่งสมาธิอยู่ครึ่งหนึ่ง และมีความรู้สึกอีกครึ่งหนึ่งในตัวผมอีกคนด้วย ภาพที่เห็นชัดมากๆ ผมเห็นตัวผมอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ผมก็ไม่เคยพบเจอมาก่อน ลักษณะสว่างๆแต่ไม่จ้ามาก ไม่มีดวงอาทิตย์ มีต้นไม้เล็กๆสีเหลืองทองบ้าง เขียวอ่อนๆบ้าง ใสๆบ้าง แต่ไม่มีไม้ใหญ่เลย ผมยืนอยู่แบบนั้นสักพัก แต่ขณะนั่งสมาธิก็รู้ตัวนะครับว่านั่งอยู่ เหมือนมันครึ่งๆกลางๆ รู้ตัวทั้งสองฝั่ง สักพักนึงผมก็เห็นสิ่งที่ทำให้ผมปิติมาก จนน้ำตาผมไหลพรากๆเลยเหมือนคนร้องไห้หนักๆเลยครับ เพราะในสมาธิผมเห็นตัวผมยืนอยู่หน้าผู้หญิงคนหนึ่ง สูงมาก ประมาณตึกสี่ห้าชั้น จนตัวผมในสมาธิสูงแค่ประมาณหน้าแข้งของผู้หญิงคนนั้น ผมรู้เหมือนมันผุดขึ้นมาเลยว่า นี่คือพระแม่กวนอิม ร่างกายท่านสีขาว เครื่องแต่งกายก็ขาวสีเหมือนหยกขาว เรื่องสีเปรียบเทียบยากครับ เอาว่าคล้ายสีน้ำนมแต่ใสกว่านิดหน่อยและสว่างกว่าเพราะเรืองๆแสงขาวๆด้วย แล้วผมก็กำหนดก้มกราบที่เท้าของพระแม่กวนอิม ตัวผมในสมาธิไม่มีน้ำตา แต่ตัวผมที่นั่งสมาธิอยู่น้ำตาไหลพรากๆๆ รู้สึกสุขมาก จนอยากนั่งสมาธิอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตัวผมในสมาธิก้มลงกราบนั้น.../// เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอยืดเส้นยืดสายสักแปป เพราะพิมพ์ในโทรศัพท์ปวดนิ้วมาก
เมื่อผมเจอพระเเม่กวนอิม. ผมต้องทำอย่างไร.? รบกวนสอบถามผู้รู้ครับ.
ช่วงผมอายุ27 ราวๆปลายๆปี2556 ผมได้เดินทางไปหาแฟนเพราะอยู่คนละจังหวัดกัน ประกอบกับผมต้องทำธุรกิจส่วนตัวที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่อยู่ด้วย ทำให้ย้ายไปอยู่ไกล้ๆแฟนคนนี้ไม่ได้ ซึ่งเมื่อเคลียร์งานเรียบร้อยแล้วผมจะไปหาแฟนประมาณ3-4วัน ลืมเล่าไปว่าผมเป็นคนที่ชอบนั่งสมาธิอยู่เป็นทุนเดิม ว่างๆหรือก่อนนอนผมก็จะหาเวลานั่ง โดยการทำสมาธิของผมนั้น ผมทำทุกท่าทุกอิริยาบถครับไม่ว่าจะนั่งหรือนอนนั่งบนเก้าอี้หรือเดิน วันหนึ่งขณะที่ผมไปหาแฟนและได้เกิดปัญหากับแฟนมีทะเลาะกันนิดหน่อย แฟนผมเลยได้ไปนอนกับแม่ของเขา ผมก็กระวนกระวายใจนิดๆแต่ก็ไม่คิดมาก พอตกดึกช่วงประมาณ4-5ทุ่ม ผมก็คิดว่าจะนั่งสมาธิสักหน่อย เพราะคิดแค่ว่าจะช่วยให้ใจสงบในตอนนั้น หลังจากที่ผมนั่งสมาธิไปสักสี่ห้านาที ก็เกิดนิมิตรบกวนวูบวาบตามปกติ ผมก็ทำใจละวางไม่สนนิมิตนั้น ตามที่เคยทำเพื่อยกสมาธิให้ละเอียดขึ้น หลังจากนั้นครู่เดียว ผมก็วูบครับ ผมเห็นตัวผมเอง ใช่ครับเป็นตัวผมเอง มีความรู้สึกขณะที่นั่งสมาธิอยู่ครึ่งหนึ่ง และมีความรู้สึกอีกครึ่งหนึ่งในตัวผมอีกคนด้วย ภาพที่เห็นชัดมากๆ ผมเห็นตัวผมอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ผมก็ไม่เคยพบเจอมาก่อน ลักษณะสว่างๆแต่ไม่จ้ามาก ไม่มีดวงอาทิตย์ มีต้นไม้เล็กๆสีเหลืองทองบ้าง เขียวอ่อนๆบ้าง ใสๆบ้าง แต่ไม่มีไม้ใหญ่เลย ผมยืนอยู่แบบนั้นสักพัก แต่ขณะนั่งสมาธิก็รู้ตัวนะครับว่านั่งอยู่ เหมือนมันครึ่งๆกลางๆ รู้ตัวทั้งสองฝั่ง สักพักนึงผมก็เห็นสิ่งที่ทำให้ผมปิติมาก จนน้ำตาผมไหลพรากๆเลยเหมือนคนร้องไห้หนักๆเลยครับ เพราะในสมาธิผมเห็นตัวผมยืนอยู่หน้าผู้หญิงคนหนึ่ง สูงมาก ประมาณตึกสี่ห้าชั้น จนตัวผมในสมาธิสูงแค่ประมาณหน้าแข้งของผู้หญิงคนนั้น ผมรู้เหมือนมันผุดขึ้นมาเลยว่า นี่คือพระแม่กวนอิม ร่างกายท่านสีขาว เครื่องแต่งกายก็ขาวสีเหมือนหยกขาว เรื่องสีเปรียบเทียบยากครับ เอาว่าคล้ายสีน้ำนมแต่ใสกว่านิดหน่อยและสว่างกว่าเพราะเรืองๆแสงขาวๆด้วย แล้วผมก็กำหนดก้มกราบที่เท้าของพระแม่กวนอิม ตัวผมในสมาธิไม่มีน้ำตา แต่ตัวผมที่นั่งสมาธิอยู่น้ำตาไหลพรากๆๆ รู้สึกสุขมาก จนอยากนั่งสมาธิอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตัวผมในสมาธิก้มลงกราบนั้น.../// เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอยืดเส้นยืดสายสักแปป เพราะพิมพ์ในโทรศัพท์ปวดนิ้วมาก