สวัสดีค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ เป็นการรีวิวครั้งแรก อยากจะรีวิวประสบการณ์ การเที่ยวในแบบสะใจ
การเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ เกิดจากเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน
--- เช้ามากวันหนึ่ง ---
อืดด.... อืดด.....อืดด.... (เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น)
เอ้....??? คำแรกที่นังพูด “หญิงไปสิงค์โปรกัน ตอนนี้ตั๊วลดราคา จองภายในวันนี้
โดนส่วนตัวแล้วตัวเองเป็นคนที่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ก็เลย ตกลงทันที จองเลยเรื่องเงินว่ากันทีหลัง
จากนั้นก็ทำการจองที่พัก หาข้อมูลในการเที่ยว และ เดินทางในสิงค์โปร
--- คืนก่อนเดินทาง ---
เอ้เตรียมของเรียบร้อยนะ ตื่นเต้นจัง จะได้ไปเที่ยวด้วยตัวเอง พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเชียว เครื่องออก ตั้ง 7.15น. แหนะ
กลัวหลับแล้วไม่ตื่นจัง หญิงว่าหญิงจะไม่นอนดีกว่า กลัวไม่ตื่น บ้านก็อยู่สุวรรณภูมิ ขึ้นเครื่องดอนเมืองทุกทีเลย
และแล้วก็หลับไป
--- เช้าวันเดินทาง ---
ยังไม่เริ่มเดินทางก็มีเรื่องติ่นเต้นขึ้นแล้วสิ อย่างที่บอก เครื่องออก 7.15น. ดันตื่นสายซะงั้นแล้วบอกจะไม่นอน 555
หญิงสะดุ้งตื่น ตอน 6โมงเช้า ในใจคิด ตายหล่ะตรู รีบวิ่งผ่านน้ำ เก็บของออกทันที จากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง
ไม่ใช้ระยะทางใกล้ๆ โบกแท็กซี่ “ดอนเมืองค่ะพี่ รีบที่สุดในชีวิต” พี่แท็กซี่ใจดีเร่งให้ ระหว่างทางก้คุยกับเพื่อนตลอด
ลุ้นมากหายใจไม่ทั่วท้อง เอาแล้วสิเพื่อนเข้าไปข้างในแล้ว แต่ดีนะที่เจอพี่ที่รู้จัก เอ้เลยเช็คอินให้แล้วฝากเอกสารไว้
ส่วนเราถึงสนามบินในเวลา 7.00น. แต่เอ้ขึ้นไปรอบนเครื่องแล้ว ทำไงหล่ะ ต้องผ่านอีกหลายอย่าง ขอลัดคิวก็ทำ
นาทีนั้นไม่มีอายค่ะ ทั้งหอบของทั้งวิ่งเหนื่อยแบบอธิบายไม่ถูก การจะขึ้นเครื่อง Low cost ต้องนั้งรถออกไป
พอวิ่งมาถึงข้างล่างปุ๊บ รถรอบสุดท้ายออกไปแล้ว ทำไงหล่ะ...... ได้แต่ทำหน้าเศร้าแล้วบอกกับพนักงานว่า
” พี่ค่ะ ให้เค้าวนกลับมารับนู๋หน่อยนะค่ะ ด้วยสภาพหอบหมดแรง ” ได้ผลแฮะ เค้าวอให้รอตู้กลับมารับ
ยิ้มหน้าบานเลย จร้า ในที่สุดก้ได้เดินทางกันสักที
และนี้คือโฉมหน้าของผู้ร่วมชะตา
ติดตามต่อพรุ่งนี้นะค่ะ
ณ สนามบินสิงค์โปร์
วันที่ 1
เราก็ได้หาทางออกจากสนามบิน ระหว่างเดินกันอยู่นั้น เราก้ได้บิ้วตั้วเองกันว่า
“เห้ย!! เค้าว่าสิงคโปร์เป็นเมืองที่เข้ายากอยู่นะ ขนาดคนแต่งตัวดีๆ บางคนยังถูกส่งตัวกลับเลย”
ความกลัวได้เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว นี้ตรูจะขึ้นเครื่องไม่ทัน แล้วถ้าไม่ได้เข้าเมืองเข้าอีกละก็ ....
ก่อนอื่นเราต้องเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อน ซึ้งเราได้จองโรงแรมในย่านเกลัง ชื่อ โรงแรมฟราแกรนซ์ เอเมอรัลด์ (Fragrance Hotel - Emerald) เดินจากสถานีรถไฟฟ้า ประมาน 5 นาที อย่าคิดว่าไม่ไกลนะ เหงื่อแตกอยู่
แต่การจองโรงแรมของเรา 2 คนนั้น ก็ไม่ธรรมดา คืนแรกนอนโรงแรมนี้ อีกคืนย้ายไปอีก โรงแรง ซึ่งห่างกันประมาน
7 ชอย แล้วอีกคืนนึงกลับมานอนโรงแรมเดิม (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเอ้ทำไมจองแบบนี้ เพื่ออะไรรร...? )ต้องตามต่อ
การเดินทางในสิงค์โปร์ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรามีแผนที่ แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะไป ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็จะขึ้น
รถไฟฟ้า ไม่ก็รถบัส ( ซึ่งสบายและสะอาดกว่าบ้านเราเยอะ ) แต่ที่ยากกว่าการเดินทางนั้น คือ การคุยกับคนที่นั้น
แค่คุยภาษาอังกฤษก็ว่ายากอยู่แล้ว( เพราะเราไม่ค่อยได้ภาษา) แล้วต้องมาฟังสำเนียงคนสิงค์โปร์นะยากกว่า กว่าจะเดินทางไปถึงโรงแรมได้ เราต้องขึ้น – ลง รถไฟฟ้าหลายรอบมาก เพราะคนที่นั้นบอกมั่ว “ผมนี่มึนเลยครับ”
พอได้ลงสถานีที่ถูกต้องแล้ว ได้ทำการเดินไปโรงแรง ถาม 3คน บอกกันไปคนละทิศ เดินหลงทางอยู่นานกว่าจะเดินไปถึงโรงแรม
ถึงโรงแรมแล้วเราก้ได้ทำการฝากของ เพื่อที่จะไป Chaina town เพื่อซื้อตั๊ว USS และก็เดินเล่น หาอะไรกินในย่านนั้น
ซื้อตั๊ว USS
เดินเล่น
ขาดไม่ได้ข้าวมันไก่สิงค์โปร์ บะหมี่รสเด็ด กินเคล้า เบียร์ยามเย็น อุ๊ย!!! สดชื่น
เสร็จแล้ว เอาไงต่อหล่ะที่นี่
เรา 2 ก็ได้นั้งรถ ไม่แน่ใจว่ารถไฟหรือรถบัส มาคลาร์ก คีย์ (Clarke Quay) เป็นแหล่งท่องเที่ยง กิน-ดื่ม ที่นิยมกันมาก
ว่าจะไปหาร้านนั้งกินชิวๆซะหน่อย เสียใจค่ะ ร้านเต็มหมด เลยได้แค่เดินดู
แล้วเรา 2 คนก็กลับห้องพักผ่อน โดยรถบัส สะดวกกว่ารถไฟฟ้าเยอะ เดินใกล้ด้วย
วันที่ 2
เรา 2 คนตื่นแต่เช้า เพราะต้องเก็บของ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เพื่อไปเช็คอินอีกโรงแรม ซึ้งห่างกันประมาณ 7ซอย ที่เรา 2 คนต้องย้ายโรงแรมเพราะ วันนี้เต็ม เราจึงจำเป็นต้องย้ายไปอีกโรงแรมก่อน แต่ก็อีกหน่ะแหละ โรงแรมที่เราย้ายไปมีราคาแพงกว่าโรงแรมเดิม เราจึงย้ามกลับมาโรงแรมเดิมอีกครั้งในวันที่ 3 (เพรียนมากใช้มั้ยค่ะ 5555555)
พอเก็บของเสร็จวันนี้เราก้ไปตะลุย USS กัน เราขึ้นรถบัส จากหน้าปากซอยโรงแรมไปถึง USS เลยค่ะ สะดวกมาก วันนี้ทั้งวันเราให้เวลากับการอยู่ที่นี้ แต่เล่นไม่ครบนะค่ะ เพราะขี้เกรียจต่อคิว ของเล่นแต่ละอย่างต้องรอคิวนาน คนก็เยอะ
ก่อนกลับก็เลยหาอะไรรองท้องซะหน่อย อยากบอกว่าอร่อยเว่อร์ หรือหิวก็ไม่รู้ อิอิ
แล้วเราก้นั้งรถบัสกลับมาหาอะไรกินแถวโรงแรม เพราะใน USS ของแพงมาก สิ่งที่เอ้ลือกกินคือ โจ้กกบ
นังบอกว่าเป็นทีเด็ดของที่นี้ (เชิญตามสบายแล้วค่ะ เรากินไม่เป็น ) นังเลยซัดคนเดียวซะหมดหม้อเลย พร้อมกับเบียร์
อีก 1 ขวด
คนขับรถบัสชอบชวนคุย
โจ้กกบ

จบวันกลับห้องนอน
ทริปสะใจ กับ2สาว ในสิงค์โปร์ 3วัน4คืน
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ เป็นการรีวิวครั้งแรก อยากจะรีวิวประสบการณ์ การเที่ยวในแบบสะใจ
การเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ เกิดจากเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน
--- เช้ามากวันหนึ่ง ---
อืดด.... อืดด.....อืดด.... (เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น)
เอ้....??? คำแรกที่นังพูด “หญิงไปสิงค์โปรกัน ตอนนี้ตั๊วลดราคา จองภายในวันนี้
โดนส่วนตัวแล้วตัวเองเป็นคนที่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ก็เลย ตกลงทันที จองเลยเรื่องเงินว่ากันทีหลัง
จากนั้นก็ทำการจองที่พัก หาข้อมูลในการเที่ยว และ เดินทางในสิงค์โปร
--- คืนก่อนเดินทาง ---
เอ้เตรียมของเรียบร้อยนะ ตื่นเต้นจัง จะได้ไปเที่ยวด้วยตัวเอง พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเชียว เครื่องออก ตั้ง 7.15น. แหนะ
กลัวหลับแล้วไม่ตื่นจัง หญิงว่าหญิงจะไม่นอนดีกว่า กลัวไม่ตื่น บ้านก็อยู่สุวรรณภูมิ ขึ้นเครื่องดอนเมืองทุกทีเลย
และแล้วก็หลับไป
--- เช้าวันเดินทาง ---
ยังไม่เริ่มเดินทางก็มีเรื่องติ่นเต้นขึ้นแล้วสิ อย่างที่บอก เครื่องออก 7.15น. ดันตื่นสายซะงั้นแล้วบอกจะไม่นอน 555
หญิงสะดุ้งตื่น ตอน 6โมงเช้า ในใจคิด ตายหล่ะตรู รีบวิ่งผ่านน้ำ เก็บของออกทันที จากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง
ไม่ใช้ระยะทางใกล้ๆ โบกแท็กซี่ “ดอนเมืองค่ะพี่ รีบที่สุดในชีวิต” พี่แท็กซี่ใจดีเร่งให้ ระหว่างทางก้คุยกับเพื่อนตลอด
ลุ้นมากหายใจไม่ทั่วท้อง เอาแล้วสิเพื่อนเข้าไปข้างในแล้ว แต่ดีนะที่เจอพี่ที่รู้จัก เอ้เลยเช็คอินให้แล้วฝากเอกสารไว้
ส่วนเราถึงสนามบินในเวลา 7.00น. แต่เอ้ขึ้นไปรอบนเครื่องแล้ว ทำไงหล่ะ ต้องผ่านอีกหลายอย่าง ขอลัดคิวก็ทำ
นาทีนั้นไม่มีอายค่ะ ทั้งหอบของทั้งวิ่งเหนื่อยแบบอธิบายไม่ถูก การจะขึ้นเครื่อง Low cost ต้องนั้งรถออกไป
พอวิ่งมาถึงข้างล่างปุ๊บ รถรอบสุดท้ายออกไปแล้ว ทำไงหล่ะ...... ได้แต่ทำหน้าเศร้าแล้วบอกกับพนักงานว่า
” พี่ค่ะ ให้เค้าวนกลับมารับนู๋หน่อยนะค่ะ ด้วยสภาพหอบหมดแรง ” ได้ผลแฮะ เค้าวอให้รอตู้กลับมารับ
ยิ้มหน้าบานเลย จร้า ในที่สุดก้ได้เดินทางกันสักที
และนี้คือโฉมหน้าของผู้ร่วมชะตา
ติดตามต่อพรุ่งนี้นะค่ะ
ณ สนามบินสิงค์โปร์
วันที่ 1
เราก็ได้หาทางออกจากสนามบิน ระหว่างเดินกันอยู่นั้น เราก้ได้บิ้วตั้วเองกันว่า
“เห้ย!! เค้าว่าสิงคโปร์เป็นเมืองที่เข้ายากอยู่นะ ขนาดคนแต่งตัวดีๆ บางคนยังถูกส่งตัวกลับเลย”
ความกลัวได้เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว นี้ตรูจะขึ้นเครื่องไม่ทัน แล้วถ้าไม่ได้เข้าเมืองเข้าอีกละก็ ....
ก่อนอื่นเราต้องเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อน ซึ้งเราได้จองโรงแรมในย่านเกลัง ชื่อ โรงแรมฟราแกรนซ์ เอเมอรัลด์ (Fragrance Hotel - Emerald) เดินจากสถานีรถไฟฟ้า ประมาน 5 นาที อย่าคิดว่าไม่ไกลนะ เหงื่อแตกอยู่
แต่การจองโรงแรมของเรา 2 คนนั้น ก็ไม่ธรรมดา คืนแรกนอนโรงแรมนี้ อีกคืนย้ายไปอีก โรงแรง ซึ่งห่างกันประมาน
7 ชอย แล้วอีกคืนนึงกลับมานอนโรงแรมเดิม (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเอ้ทำไมจองแบบนี้ เพื่ออะไรรร...? )ต้องตามต่อ
การเดินทางในสิงค์โปร์ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรามีแผนที่ แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะไป ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็จะขึ้น
รถไฟฟ้า ไม่ก็รถบัส ( ซึ่งสบายและสะอาดกว่าบ้านเราเยอะ ) แต่ที่ยากกว่าการเดินทางนั้น คือ การคุยกับคนที่นั้น
แค่คุยภาษาอังกฤษก็ว่ายากอยู่แล้ว( เพราะเราไม่ค่อยได้ภาษา) แล้วต้องมาฟังสำเนียงคนสิงค์โปร์นะยากกว่า กว่าจะเดินทางไปถึงโรงแรมได้ เราต้องขึ้น – ลง รถไฟฟ้าหลายรอบมาก เพราะคนที่นั้นบอกมั่ว “ผมนี่มึนเลยครับ”
พอได้ลงสถานีที่ถูกต้องแล้ว ได้ทำการเดินไปโรงแรง ถาม 3คน บอกกันไปคนละทิศ เดินหลงทางอยู่นานกว่าจะเดินไปถึงโรงแรม
ถึงโรงแรมแล้วเราก้ได้ทำการฝากของ เพื่อที่จะไป Chaina town เพื่อซื้อตั๊ว USS และก็เดินเล่น หาอะไรกินในย่านนั้น
ซื้อตั๊ว USS
เดินเล่น
ขาดไม่ได้ข้าวมันไก่สิงค์โปร์ บะหมี่รสเด็ด กินเคล้า เบียร์ยามเย็น อุ๊ย!!! สดชื่น
เสร็จแล้ว เอาไงต่อหล่ะที่นี่
เรา 2 ก็ได้นั้งรถ ไม่แน่ใจว่ารถไฟหรือรถบัส มาคลาร์ก คีย์ (Clarke Quay) เป็นแหล่งท่องเที่ยง กิน-ดื่ม ที่นิยมกันมาก
ว่าจะไปหาร้านนั้งกินชิวๆซะหน่อย เสียใจค่ะ ร้านเต็มหมด เลยได้แค่เดินดู
แล้วเรา 2 คนก็กลับห้องพักผ่อน โดยรถบัส สะดวกกว่ารถไฟฟ้าเยอะ เดินใกล้ด้วย
วันที่ 2
เรา 2 คนตื่นแต่เช้า เพราะต้องเก็บของ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เพื่อไปเช็คอินอีกโรงแรม ซึ้งห่างกันประมาณ 7ซอย ที่เรา 2 คนต้องย้ายโรงแรมเพราะ วันนี้เต็ม เราจึงจำเป็นต้องย้ายไปอีกโรงแรมก่อน แต่ก็อีกหน่ะแหละ โรงแรมที่เราย้ายไปมีราคาแพงกว่าโรงแรมเดิม เราจึงย้ามกลับมาโรงแรมเดิมอีกครั้งในวันที่ 3 (เพรียนมากใช้มั้ยค่ะ 5555555)
พอเก็บของเสร็จวันนี้เราก้ไปตะลุย USS กัน เราขึ้นรถบัส จากหน้าปากซอยโรงแรมไปถึง USS เลยค่ะ สะดวกมาก วันนี้ทั้งวันเราให้เวลากับการอยู่ที่นี้ แต่เล่นไม่ครบนะค่ะ เพราะขี้เกรียจต่อคิว ของเล่นแต่ละอย่างต้องรอคิวนาน คนก็เยอะ
ก่อนกลับก็เลยหาอะไรรองท้องซะหน่อย อยากบอกว่าอร่อยเว่อร์ หรือหิวก็ไม่รู้ อิอิ
แล้วเราก้นั้งรถบัสกลับมาหาอะไรกินแถวโรงแรม เพราะใน USS ของแพงมาก สิ่งที่เอ้ลือกกินคือ โจ้กกบ
นังบอกว่าเป็นทีเด็ดของที่นี้ (เชิญตามสบายแล้วค่ะ เรากินไม่เป็น ) นังเลยซัดคนเดียวซะหมดหม้อเลย พร้อมกับเบียร์
อีก 1 ขวด
คนขับรถบัสชอบชวนคุย
โจ้กกบ
จบวันกลับห้องนอน