วันนี้พาคุณย่าไปฉีดยาที่แผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รังสี วชิรพยาบาล หมอนัด 07:30 - 08:00 น. บ้านอยู่บางพลัด ถ.จรัญสนิทวงศ์
ต้องตื่นตี5 จัดแจงตัวเองและย่าเสร็จก็ 06:30 น. ย่านอนได้ นั่งได้ แต่เดินไม่ได้ แต่ไม่ใช่อัมพาต ย่าไม่เดินตั้งแต่หกล้มเมื่อวันที่ 5/12/57 หาสาเหตุอาการที่ย่าไม่ยืน ไม่เดินไม่ได้ X-ray แล้วกระดูกไม่หัก แต่ไม่เข้าใจทำไหมย่าไม่ยืน ไม่เดิน ยืนทีก็ร้องเจ็บ นิ้วเท้าจิกเกร็งไม่ยอมยืน เวลานอนจะตะแคงตัวทีร้องซะน่ากลัวเลย เหมือนเจ็บปวดมากๆ

คุณหมอศัลยกรรมกระดูก ก็เลยส่งฉีดสีแทน เพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง
จัดแจงย่าเสร็จเอาขึ้นรถเพื่อไปวชิรพยาบาลเวลาก็ปาเข้าไป 06:45 น. รีบให้แม่กับคุณชายขับรถไปโรงพยาบาล ส่วนตัวเราก็ขี่มอเตอร์ไซด์ตามไป มอเตอร์ไซด์คล่องตัวกว่าจะได้ไปยื่นบัตรทัน ถ้านั่งรถไปด้วยต้องไม่ทันเวลาแน่ๆ หรืออาจทันแต่แบบพอดิบพอดี และที่สำคัญวันนี้ย่าจะกลับไปบ้านนครปฐม ส่วนเราก็จะต้องไปทำงานต่อ ขี่มอเตอร์ไซด์ไปเองสะดวกสุดๆ

ไชโยถึงโรงพยาบาล 07:14 น. จอดรถมอเตอร์ไซด์ตรงตึกเหลือง เดินขึ้นบันไดมองขวาจะเห็นศาลใหญ่ เลี้ยวซ้ายเจอห้องทะเบียนเวชไปยื่นสิทธิและไปวางบัตรนัดเรียบร้อย มีเวลาไปซื้อชา-กาแฟ ให้แม่,คุณชาย ดีกว่า
บุคลากรแผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รังสี น่ารักทุกท่านเลยคะ เสร็จจากแผนกเวชศาสตร์ฯ รังสี ก็ปาเข้าไป11:50 น. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะขอไปตรวจต่อที่แผนกอายุรกรรม เพื่อดูว่าตุ่มไตตรงก้นย่าใช่ฝีหรือเปล่า
ไปที่แผนกอายุรกรรมเจ้าหน้าที่บอกว่าเครสนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแผนกเขา และส่งต่อไปที่แผนกศัลยกรรม รอประวัติ เรามีเวลาอีกเพราะติดเที่ยง เราเลยไปแผนกสูตินารีทำธุระส่วนตัวหน่อย เดินจากตึกอำนวยการผ่านศาลใหญ่ผ่านแผนกกระดูกเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปแผนกสูตินารี
ระหว่างเดินผ่านศาลหันไปดูที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ว่ารถเยอะไหม รถเยอะเหมือนเคย แต่เอ๊ะรถคันนั้นผ้าที่พลาดอยู่ที่แฮนด์รถสีผ้าเหมือนเสื้อคลุมของเราเลย เอ๊ะทรงเหมือนรถเราเลย เอ๊ะสีรถเหมือนของเราเลย ลงไปดูหน่อยดีกว่า เอ้ยๆๆ นั้นรถเรานี่ อ้าวๆๆ หมวกกันน๊อกฉันหละ ไม่มี ไม่มี ไม่มีหมวกกันน๊อก ทั้งๆที่ล็อกไว้กับเบาะรถ(เปิดเบาะเอาที่ล็อกค้างที่เป็นเหล็กไปคล่องกับตัวเกี่ยวในตัวรถแล้วก็ปิดเบาะล็อกแล้วเรียบร้อย ลองดึงถึง 3 ครั้งก่อนเดินออกจากตัวรถ ไม่คิดว่าจะมีใครเอาไปได้ เอาหละซิ เอาหละซิ แล้วฉันจะทำอย่างไร แจ้งๆๆๆใครหว่า ร.ป.ภ.ซิ ถามร.ป.ภ.ซิ ว่าต้องแจ้งใคร อะไร ที่ไหน
ณ เคาน์เตอร์ ร.ป.ภ. ตึกเพชรรัตน์
เรา “เจ้าหน้าที่คะ จอดรถมอเตอร์ไซด์อยู่ที่จอดข้างศาลตรงตึกอำนวยการ(ชี้ทิศทางให้ร.ป.ภ.ด้วย) แล้วก็ถอดหมวกกันน๊อกล็อกไว้กับตัวเบาะ แต่ตอนนี้หมวกกันน๊อกหายไปแล้ว อย่างนี้ต้องแจ้งที่ไหน”
คุณร.ป.ภ.นั่งเอนตัวอย่างสบายยิ้มๆ หัวเราะ เหมื่อนเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีสาระใดๆ เป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว เป็นเหตุที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พูดไปยิ้มไปหัวเราะไป นั่งเอนตัวสบาย ทำท่าทำทางไม่สนใจ ทำตัวสบายๆ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรให้เห็นภาพอย่างที่เราเห็น เป็นท่าทางที่สุดย้วยยวนอารมณ์โกรธอย่างมาก “จอดตรงไหนหละ ตรงนั้นหมวกกันน๊อกหายเป็นประจำ ขนาดตรงป้อมยามหน้าประตูทางเข้าโรงบาล หมวกกันน๊อกยังหายปล่อยๆ แล้วก็จับใครไม่ได้ ตรงนั้น(ศาลข้างทางเดิน)ก็มีไม่มีร.ป.ภ.ประจำอยู่”
เรา “แล้วอย่างนี้จะให้ประชาชนที่มาใช้บริการของโรงบาลแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ต้องทำอย่างไร ปล่อยไปเฉยๆ ไม่ต้องแจ้งอะไรให้ทางโรงบาลได้รับรู้เลยเหรอ ทั้งๆที่เขาเอารถมาจอดในเขตของโรงบาลๆ ไม่รับผิดชอบอะไรเลยเหรอ ไม่มีที่ให้ร้องเรียนด้วยเหรอ” ฉุนสุดๆ กับคำตอบและท่าทางจะไม่ไว้แล้วนะ
คุณร.ป.ภ.ยังคงหัวเราะ ยิ้มระรื่นเห็นทุกข์ของผู้อื่นเป็นเรื่องสุข สนุกสนาน รื่นรมย์ “ถ้าจะร้องเรียนติดต่อที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เลยครับ”
ได้คำตอบแบบนี้ถ้าเป็นคุณๆ จะหยุดแค่แจ้งให้ทางโรงบาลทราบว่าหมวกกันน๊อกหายอย่างเดียว หรือเปล่า ถ้าใช่ คุณเป็นคนใจดีมากกกกกกกกกก แต่กับเราไม่ใช่!!!! ตอนที่รู้ว่าหมวกกันน๊อก ตัวเองหาย OK หายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ “จบ” ทางโรงบาลคงไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้เราแน่ แต่ก็ควรแจ้งให้ทางโรงบาลทราบเรื่องไว้ดีกว่า เพื่อทางโรงบาลจะได้หาวิธีป้องกันหรือมีการเตือนผู้มาใช้บริการระวังทรัพย์สินของตนให้มากกว่านี่ (แต่เรื่องของเราๆ ก็ป้องกันดีแล้วนะ ตรวจสอบก่อนที่จะเดินจากรถด้วยว่าเราล็อกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ลืมบอกไปเราพับเสื้อคลุมใส่ไว้ในหมวกกันน๊อกด้วย หมวกหายแต่เสื้อไม่หายแถบพลาดให้ด้วย สุดยอดคุณขโมย )
เราร้องเรียนกับทางโรงบาลแล้ว และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า จะให้เราติดตามเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ วันที่ 30/1/58 เรามีตรวจอีก มันจะเป็นการเร็วไปหรือไม่ถ้าจะกลับมาติดตามผลอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ขอเบอร์โทรแล้วแจ้งว่าทางโรงพยาบาลจะติดต่อกลับหาเราเองซึ่งได้ขอเบอร์โทรติดต่อเราแล้ว ทางโรงพยาบาลก็จะกล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวต่อไป แต่เราแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องว่าเราไม่ยอม เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบในความเสียหายต่อทรัพย์สินของเรา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งต่อว่าถ้าเราต้องการตามนั้นเรื่องนี้จะนำเสนอตามท่านคณบดีต่อไป(ถ้าฟังตำแหน่งไม่ผิด) ก็ต้องใช้เวลาอย่างไรทางเรา(โรงบาล)จะติดกับหาพี่เอง(เรา)
ถ้าเป็นคุณๆจะทำอย่างไร
หมวกกันน๊อกหายที่วชิรพยาบาล แจ้งร.ป.ภ. ๆ หัวเราะขำบอกว่า"มันเป็นแบบเนี้ยะแหละ" ถ้าคุณเป็นเจ้าของ คุณจะขำออกไหม?
ต้องตื่นตี5 จัดแจงตัวเองและย่าเสร็จก็ 06:30 น. ย่านอนได้ นั่งได้ แต่เดินไม่ได้ แต่ไม่ใช่อัมพาต ย่าไม่เดินตั้งแต่หกล้มเมื่อวันที่ 5/12/57 หาสาเหตุอาการที่ย่าไม่ยืน ไม่เดินไม่ได้ X-ray แล้วกระดูกไม่หัก แต่ไม่เข้าใจทำไหมย่าไม่ยืน ไม่เดิน ยืนทีก็ร้องเจ็บ นิ้วเท้าจิกเกร็งไม่ยอมยืน เวลานอนจะตะแคงตัวทีร้องซะน่ากลัวเลย เหมือนเจ็บปวดมากๆ
จัดแจงย่าเสร็จเอาขึ้นรถเพื่อไปวชิรพยาบาลเวลาก็ปาเข้าไป 06:45 น. รีบให้แม่กับคุณชายขับรถไปโรงพยาบาล ส่วนตัวเราก็ขี่มอเตอร์ไซด์ตามไป มอเตอร์ไซด์คล่องตัวกว่าจะได้ไปยื่นบัตรทัน ถ้านั่งรถไปด้วยต้องไม่ทันเวลาแน่ๆ หรืออาจทันแต่แบบพอดิบพอดี และที่สำคัญวันนี้ย่าจะกลับไปบ้านนครปฐม ส่วนเราก็จะต้องไปทำงานต่อ ขี่มอเตอร์ไซด์ไปเองสะดวกสุดๆ
ไชโยถึงโรงพยาบาล 07:14 น. จอดรถมอเตอร์ไซด์ตรงตึกเหลือง เดินขึ้นบันไดมองขวาจะเห็นศาลใหญ่ เลี้ยวซ้ายเจอห้องทะเบียนเวชไปยื่นสิทธิและไปวางบัตรนัดเรียบร้อย มีเวลาไปซื้อชา-กาแฟ ให้แม่,คุณชาย ดีกว่า
บุคลากรแผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รังสี น่ารักทุกท่านเลยคะ เสร็จจากแผนกเวชศาสตร์ฯ รังสี ก็ปาเข้าไป11:50 น. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะขอไปตรวจต่อที่แผนกอายุรกรรม เพื่อดูว่าตุ่มไตตรงก้นย่าใช่ฝีหรือเปล่า
ไปที่แผนกอายุรกรรมเจ้าหน้าที่บอกว่าเครสนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของแผนกเขา และส่งต่อไปที่แผนกศัลยกรรม รอประวัติ เรามีเวลาอีกเพราะติดเที่ยง เราเลยไปแผนกสูตินารีทำธุระส่วนตัวหน่อย เดินจากตึกอำนวยการผ่านศาลใหญ่ผ่านแผนกกระดูกเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปแผนกสูตินารี
ระหว่างเดินผ่านศาลหันไปดูที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ว่ารถเยอะไหม รถเยอะเหมือนเคย แต่เอ๊ะรถคันนั้นผ้าที่พลาดอยู่ที่แฮนด์รถสีผ้าเหมือนเสื้อคลุมของเราเลย เอ๊ะทรงเหมือนรถเราเลย เอ๊ะสีรถเหมือนของเราเลย ลงไปดูหน่อยดีกว่า เอ้ยๆๆ นั้นรถเรานี่ อ้าวๆๆ หมวกกันน๊อกฉันหละ ไม่มี ไม่มี ไม่มีหมวกกันน๊อก ทั้งๆที่ล็อกไว้กับเบาะรถ(เปิดเบาะเอาที่ล็อกค้างที่เป็นเหล็กไปคล่องกับตัวเกี่ยวในตัวรถแล้วก็ปิดเบาะล็อกแล้วเรียบร้อย ลองดึงถึง 3 ครั้งก่อนเดินออกจากตัวรถ ไม่คิดว่าจะมีใครเอาไปได้ เอาหละซิ เอาหละซิ แล้วฉันจะทำอย่างไร แจ้งๆๆๆใครหว่า ร.ป.ภ.ซิ ถามร.ป.ภ.ซิ ว่าต้องแจ้งใคร อะไร ที่ไหน
ณ เคาน์เตอร์ ร.ป.ภ. ตึกเพชรรัตน์
เรา “เจ้าหน้าที่คะ จอดรถมอเตอร์ไซด์อยู่ที่จอดข้างศาลตรงตึกอำนวยการ(ชี้ทิศทางให้ร.ป.ภ.ด้วย) แล้วก็ถอดหมวกกันน๊อกล็อกไว้กับตัวเบาะ แต่ตอนนี้หมวกกันน๊อกหายไปแล้ว อย่างนี้ต้องแจ้งที่ไหน”
คุณร.ป.ภ.นั่งเอนตัวอย่างสบายยิ้มๆ หัวเราะ เหมื่อนเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีสาระใดๆ เป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว เป็นเหตุที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พูดไปยิ้มไปหัวเราะไป นั่งเอนตัวสบาย ทำท่าทำทางไม่สนใจ ทำตัวสบายๆ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรให้เห็นภาพอย่างที่เราเห็น เป็นท่าทางที่สุดย้วยยวนอารมณ์โกรธอย่างมาก “จอดตรงไหนหละ ตรงนั้นหมวกกันน๊อกหายเป็นประจำ ขนาดตรงป้อมยามหน้าประตูทางเข้าโรงบาล หมวกกันน๊อกยังหายปล่อยๆ แล้วก็จับใครไม่ได้ ตรงนั้น(ศาลข้างทางเดิน)ก็มีไม่มีร.ป.ภ.ประจำอยู่”
เรา “แล้วอย่างนี้จะให้ประชาชนที่มาใช้บริการของโรงบาลแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ต้องทำอย่างไร ปล่อยไปเฉยๆ ไม่ต้องแจ้งอะไรให้ทางโรงบาลได้รับรู้เลยเหรอ ทั้งๆที่เขาเอารถมาจอดในเขตของโรงบาลๆ ไม่รับผิดชอบอะไรเลยเหรอ ไม่มีที่ให้ร้องเรียนด้วยเหรอ” ฉุนสุดๆ กับคำตอบและท่าทางจะไม่ไว้แล้วนะ
คุณร.ป.ภ.ยังคงหัวเราะ ยิ้มระรื่นเห็นทุกข์ของผู้อื่นเป็นเรื่องสุข สนุกสนาน รื่นรมย์ “ถ้าจะร้องเรียนติดต่อที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เลยครับ”
ได้คำตอบแบบนี้ถ้าเป็นคุณๆ จะหยุดแค่แจ้งให้ทางโรงบาลทราบว่าหมวกกันน๊อกหายอย่างเดียว หรือเปล่า ถ้าใช่ คุณเป็นคนใจดีมากกกกกกกกกก แต่กับเราไม่ใช่!!!! ตอนที่รู้ว่าหมวกกันน๊อก ตัวเองหาย OK หายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ “จบ” ทางโรงบาลคงไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้เราแน่ แต่ก็ควรแจ้งให้ทางโรงบาลทราบเรื่องไว้ดีกว่า เพื่อทางโรงบาลจะได้หาวิธีป้องกันหรือมีการเตือนผู้มาใช้บริการระวังทรัพย์สินของตนให้มากกว่านี่ (แต่เรื่องของเราๆ ก็ป้องกันดีแล้วนะ ตรวจสอบก่อนที่จะเดินจากรถด้วยว่าเราล็อกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ลืมบอกไปเราพับเสื้อคลุมใส่ไว้ในหมวกกันน๊อกด้วย หมวกหายแต่เสื้อไม่หายแถบพลาดให้ด้วย สุดยอดคุณขโมย )
เราร้องเรียนกับทางโรงบาลแล้ว และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า จะให้เราติดตามเรื่องนี้ได้เมื่อไหร่ วันที่ 30/1/58 เรามีตรวจอีก มันจะเป็นการเร็วไปหรือไม่ถ้าจะกลับมาติดตามผลอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ขอเบอร์โทรแล้วแจ้งว่าทางโรงพยาบาลจะติดต่อกลับหาเราเองซึ่งได้ขอเบอร์โทรติดต่อเราแล้ว ทางโรงพยาบาลก็จะกล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวต่อไป แต่เราแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องว่าเราไม่ยอม เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบในความเสียหายต่อทรัพย์สินของเรา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งต่อว่าถ้าเราต้องการตามนั้นเรื่องนี้จะนำเสนอตามท่านคณบดีต่อไป(ถ้าฟังตำแหน่งไม่ผิด) ก็ต้องใช้เวลาอย่างไรทางเรา(โรงบาล)จะติดกับหาพี่เอง(เรา)
ถ้าเป็นคุณๆจะทำอย่างไร