สวัสดีครับ ผมเป็นลูกค้าผู้ซึ่งเป็นเจ้าของ Samsung รุ่น Galaxy note 3 LTE และยังคงมีประกันเหลือไว้อยู่จนถึงเดือน พฤษภาคมที่จะถึงนี้ สิ่งที่อยากจะมาระบายให้ทุกท่านรวมทั้งตัวคุณวิชัยในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Samsung ให้ได้ฟังในวันนี้คือ
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานั้น ในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เจ้า note 3 LTE ของผมจู่ๆก็เกิดอาการ ไม่สามารถ touch screen ด้วย “นิ้ว” ที่หน้าจอได้ครับ ใช้ได้แต่เพียงปากกา S PEN ในตอนแรกนั้น ผมคิดว่าอาจเพราะมันค้างธรรมดา คงไม่มีอะไรมาก เลยได้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
- ปิดเครื่องและเปิดใหม่ – ผลคือ ก็กลับมา touch ได้สักพักครับ แต่พอผ่าน 1-2 นาที ก็ไม่ได้เหมือนเดิม ผมจึงลองวิธีต่อไปนี้
- รีเซตค่าโรงงาน โดยยอมให้ข้อมูลที่มีเล็กน้อย เช่น แอพ หรือ เสียงบันทึกที่อัดเสียงอาจารย์เผื่อฟังตอนสอบนั้นหายไป เพราะไม่ได้เรียนแล้ว – ยัง touch ด้วยนิ้วไม่ได้อยู่ดีครับ ผมจึง
- โทรหาศูนย์บริการครับ ว่า อาการแบบนี้ พอมีวิธีแก้ไหม เค้าก็แนะนำให้ ลองทำนั่นนี่ด้วยวิธีทั้งหมดเท่าที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ผลคือ ก็ยังไม่ได้ครับ ผมเลยต้องรอจนกว่าจะสึกเพื่อจะได้เอาเข้าศูนย์ครับ
และศูนย์ที่ใกล้ที่สุด คือ “เซียร์ รังสิต” ***
วันที่ 9 มกราคม 2558 หลังจากสึกเรียบร้อยแล้ว ผมเดินทางไปที่เซียร์ รังสิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูให้ เจ้าหน้าที่ขอเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อต้องการ reset software แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มันยังคง touch screen ไม่ได้เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่เลยขอให้ผมทิ้งเครื่องไว้ เพื่อให้ช่างเปลี่ยน “จอและกรอบ” ให้ และบอกว่า...
“ถ้าซ่อมเสร็จ ทางเราจะติดต่อให้มารับนะคะ” นั่นคือ คำกล่าวสุดท้ายของพนักงานของคุณครับ
โดยปกติ ระยะเวลาที่เราต้องรอบริการจากศูนย์จะอยู่ที่ 3-5 วัน ผมรอจนครบ 3 วันไม่มีใครโทรมา ผมจึงโทรเข้าเบอร์ของศูนย์บริการกลาง “ด้วยตัวเอง” เพื่อสอบถามสถานะงานซ่อม จึงทราบด้วยตนเองว่า “ซ่อมเสร็จแล้ว” ถามย้ำว่า เสร็จใช้การได้จริงๆแน่นะครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้แล้ว แต่....
ในวันที่ 13 หลังจากที่ได้โทรเพื่อสอบถามด้วยตัวเองและรู้ว่าเสร็จแล้วนั้น ผมเข้าไปที่เซียร์ รังสิตอีกครั้ง ด้วยความหวังว่า มันจะใช้การได้ แต่ปรากฏว่า “ยังคง touch screen ไม่ได้เหมือนเดิมครับ” ในตอนรับเครื่อง มัน touch ได้ สักพัก ก็ไม่ได้ ผมเลย ต้องเดินวกกลับเข้าไปที่ศูนย์ เพื่อรายงานปัญหาอีกครั้ง คราวนี้ เจ้าหน้าที่ถือวิสาสะ...
- ถอดฝาหลัง แล้วดึง memory card ออก พอเธอถอดออก มันก็ touch screen ได้ เธอเลยอวดภูมิด้วยตัวเองว่า “เพราะ memory card มันเสีย เครื่องเลยพยายามหา เลยรวน touch screen ไม่ได้น่ะค่ะ”
ผมเหมือนจะเข้าใจนะครับ แต่พอเดินจากมา นิดเดียว ก็ “กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
มันจึงไม่ใช่ที่ memory card อะไรนั่นแล้วกระมังครับ
เลยทีนี้ต้องวกเข้าศูนย์ เพื่อแจ้งซ่อมอีกครั้งครับ โดยทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะ
“เปลี่ยนจอให้อีกรอบนึง” โดยรับใบซ่อมและคุณพนักงานก็ทิ้งท้ายเหมือนเดิมว่า
“เราจะโทรรายงานเรื่อยๆนะคะ” ...
นับจากวันนั้นจนวันนี้ 11 วันแล้ว ครับที่ผมไม่ได้รับโทรศัพท์จากซัมซุงเลย ในวันนี้ 22 มกราคม 2558 ผมจึงตัดสินใจโทรเข้าศูนย์บริการกลางด้วยตัวเองเพื่อสอบถามสถานะงานซ่อม คุณเจ้าหน้าที่พนักงานศูนย์กลางท่านบอกว่า
“สถานะงานซ่อมเสร็จแล้วค่ะ” ผมจึงให้เธอโอนสายไปที่เซียร์ รังสิตให้ เพื่อต้องการจะคุยกับเจ้าหน้าที่ที่สาขานั้นให้แน่ใจจริงๆ ผลปรากฏว่า...
“ทางช่างเปลี่ยนจอให้อีกรอบ ยังใช้การไม่ได้นะคะ เราเลยขอเวลาอีก 3 วัน เพื่อรออะไหล่ ช่างจะเปลี่ยนบอร์ดใหม่ให้ค่ะ”
นั่นคือ สิ่งที่ Samsung มอบให้ผมครับ ผมมีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่ไม่กี่เรื่อง อยากระบายให้เพื่อนๆในนี้ฟังรวมทั้ง ถ้าคุณวิชัย พรพระตั้ง ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Samsung ประเทศไทยได้มาอ่านจะได้ทราบว่า ลูกค้าของคุณมีฟีดแบ็กกลับการบริการอย่างไรดังนี้ครับ
1. “เจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่าจะโทรบอกเมื่อซ่อมเสร็จ” แต่ไม่ได้โทรมาเลย ผมต้องเป็นฝ่ายตามด้วยตัวเอง ถึง 2 ครั้ง ถ้าไม่โทรหา ก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง และต้องทำตัวอย่างไร จริงๆข้อนี้ ผมไม่ได้อะไรมากเพราะเราต้องรับผิดชอบสิทธิ์ของเรา จะให้ใครมาคอยตามให้ก็ใช่เรื่อง แต่พนักงานเป็นคนบอกเองว่า ถ้ายังไงเราจะโทรบอก ผมในฐานะลูกค้า เราก็รอ และ รอมา 11 วันโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
2. “ช่างเปลี่ยนจอให้ผมถึง 2 รอบ” ซึ่งผมงงว่า ถ้ารอบแรกเปลี่ยนแล้วมันไม่ได้ จะเสียของเปลี่ยนให้อีกรอบทำไม พอเปลี่ยนให้อีกรอบ สรุป ยังคงใช้การไม่ได้ ช่างเลยจะเปลี่ยน บอร์ดให้ สรุป เครื่องผมโดนแงะ รวม ----- 3 รอบ ----- แล้วของมันก็เป็นของใหม่ เพิ่งซื้อมา ผมไม่อยากจะคิดสภาพของมือถือผมตอนนี้ว่ามันจะเยินแค่ไหน ทั้งข้างใน ข้างนอก ตรงนี้ผมควรทำอย่างไรครับ ?
3. สมมติผมมีมือถือแค่เจ้า note 3 เครื่องเดียว ถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมจะเอามือถือที่ไหนใช้ครับ สมมติว่าเราตัดตัวแปรเรื่องความสามารถในการจ่าย สมมติผมไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อมือถือสำรองใช้งานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน --- 11 วันที่ผ่านมานี้ ผมจะทำยังไงครับ – แต่ดีที่ผมมี iphone 5s อีกเครื่องครับ ปัญหาผมเลยไม่มีเท่าไร แต่สมมติผมไม่มี ผมควรทำไงครับ ?
4. ค่ารถ การเสียความรู้สึก ที่ผมต้องเดินทางมาในรอบแรก โดยเจ้าหน้าที่แจ้งในระบบว่า ซ่อมเสร็จแล้ว ซึ่งผมก็ถามแล้วว่า เสร็จใช้งานได้แน่ๆนะ เธอก็ยืนยันว่า “ได้” แต่พอมาถึง ก็ยังใช้การไม่ได้ตรงนี้นี่จะจัดการกับระบบอย่างไรครับ ? มาเสียที เสียเที่ยว เสียเวลา เสียความรู้สึก
ผมเป็นลูกค้าของมือถือ Samsung มา 4 ปี ใช้มาตั้งแต่ S3 คอมโน้ตบุคผมก็ Samsung คือ ผมก็รู้สึกดีกับสินค้านะครับ แต่เพิ่งมาเจอประสบการณ์นี้กับตัวเองครั้งแรก..
.. รู้สึกเคว้งคว้างครับ ไม่โกรธมาก ยังทนได้ แต่ แบบ คุณปล่อยให้ลูกค้า เคว้งคว้างจริงๆครับ
อย่างที่บอกว่าผมมีสองเครื่อง ยังดีที่ระหว่างซ่อมมันเลยไม่ได้กระทบอะไรเท่าไรแต่..
ผมคิดถึงเจ้า Note 3 ของผมมากๆครับ และผมรักมันมากกว่า iphone 5s ครับ
ปล. ประกันผมยังเหลือเต็ม อาการที่เกิดขึ้นคือ จู่ๆใช้นิ้วตัวเองเนี่ย touch screen ไม่ได้ ใช้ได้แต่เจ้าปากกา ไม่เคยตก ไม่มีรอย ไม่มีการเอาไปใช้ในที่ชื้นอะไรทั้งนั้น ยังดีที่พนักงานพูดจาดี ยิ้มแย้ม ในข้อเสียก็มีข้อดีครับ
ยังไง ฝากเพื่อนๆในนี้ช่วยกันแนะนำผมด้วยนะครับ เผื่อผมจะคิดเองเออเองมากไป ผมเชื่อว่ามีหลายท่านที่โดนเหมือนกัน และยังรออยู่เหมือนกันไม่มากก็น้อยครับ
หรือผมอาจจะโง่เองก็ได้ ที่ใช้สินค้าของค่ายนี้
***แก้ไขเพิ่มเติมครับ
หลังจากเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ที่ผ่านมาที่ได้เขียนกระทู้นี้ และ ได้ทราบว่า ต้องรออะไหล่อีก 3 วัน
แต่เมื่อเช้าวันนี้ 23 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่จากศูนย์ได้โทรมาแจ้งว่า ซ่อมเสร็จแล้ว และ ช่างได้ทดสอบเครื่องแล้ว ไม่พบอาการแล้ว ผมจึงเข้าไปรับในเวลา 18.45 น. แล้วก็ได้ลองทดสอบเล่นสักพัก ก็ไม่พบอาการ Touch screen ไม่ได้แล้ว ใช้งานได้ตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเพิ่มเติมว่า
1. ได้เปลี่ยน บอร์ด ให้ใหม่ และไมไ่ด้เปลี่ยนจอให้อีกรอบตามที่แจ้งไปในครั้งก่อน
2. ได้เปลี่ยนแบตเตอรรี่ให้ใหม่ แม้ว่า จะหมดการรับประกันแล้ว แต่ก็ยินดีจะเปลี่ยนให้ โดยแจ้งว่า เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่แบตเตอรี่เสื่อม ทำให้ไฟไปเลี้ยงจอไม่พอ (ผมรับข้อมูลมาแบบนี้)
หลังจากรับเครื่องเสร็จ ในเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้โทรมาขอโทษ เพราะทราบเรื่องจากทางศูนย์ว่า ผมได้เขียนกระทู้เพื่อร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า ผิดที่ไม่ได้โทรแจ้งให้ทราบเลยจริงๆ
***ถึงตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วครับ ขอบคุณที่กระตือรือร้นในการซ่อมให้เสร็จและทำให้ผมไม่ต้องรออีกต่อไป ขอบคุณที่แสดงการรับผิดชอบด้วยการเคลมแบตเตอรี่โดยที่ผมไม่ต้องเสียเงินซื้อมัน ขอบคุณที่โทรมาเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ได้โกรธอะไรอยู่แต่แรก เพียงแต่ แค่รู้สึกเคว้งคว้างตามที่บอก ถ้าเป็นลูกค้าท่านอื่น อาจจะโมโหเดือดไปแล้วเพราะ เครื่องโดนแกะ โดนแงะไม่รู้กี่รอบ และรอมาตั้ง 11 วันแบบ งงๆ ***
ยังไงก็อยากให้ Samsung ให้ความสำคัญกับลูกค้าให้มากๆแบบนี้กับทุกคนนะครับ
ขอบคุณมากครับ
ประสบการณ์ในการถูกปล่อยให้ลูกค้าเคว้งคว้างของ Samsung ครับ : อยากให้คุณวิชัย พรพระตั้งในฐานะ CEO มาอ่านจังเลยครับ
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานั้น ในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เจ้า note 3 LTE ของผมจู่ๆก็เกิดอาการ ไม่สามารถ touch screen ด้วย “นิ้ว” ที่หน้าจอได้ครับ ใช้ได้แต่เพียงปากกา S PEN ในตอนแรกนั้น ผมคิดว่าอาจเพราะมันค้างธรรมดา คงไม่มีอะไรมาก เลยได้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
- ปิดเครื่องและเปิดใหม่ – ผลคือ ก็กลับมา touch ได้สักพักครับ แต่พอผ่าน 1-2 นาที ก็ไม่ได้เหมือนเดิม ผมจึงลองวิธีต่อไปนี้
- รีเซตค่าโรงงาน โดยยอมให้ข้อมูลที่มีเล็กน้อย เช่น แอพ หรือ เสียงบันทึกที่อัดเสียงอาจารย์เผื่อฟังตอนสอบนั้นหายไป เพราะไม่ได้เรียนแล้ว – ยัง touch ด้วยนิ้วไม่ได้อยู่ดีครับ ผมจึง
- โทรหาศูนย์บริการครับ ว่า อาการแบบนี้ พอมีวิธีแก้ไหม เค้าก็แนะนำให้ ลองทำนั่นนี่ด้วยวิธีทั้งหมดเท่าที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ผลคือ ก็ยังไม่ได้ครับ ผมเลยต้องรอจนกว่าจะสึกเพื่อจะได้เอาเข้าศูนย์ครับ
และศูนย์ที่ใกล้ที่สุด คือ “เซียร์ รังสิต” ***
วันที่ 9 มกราคม 2558 หลังจากสึกเรียบร้อยแล้ว ผมเดินทางไปที่เซียร์ รังสิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูให้ เจ้าหน้าที่ขอเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อต้องการ reset software แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มันยังคง touch screen ไม่ได้เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่เลยขอให้ผมทิ้งเครื่องไว้ เพื่อให้ช่างเปลี่ยน “จอและกรอบ” ให้ และบอกว่า...
“ถ้าซ่อมเสร็จ ทางเราจะติดต่อให้มารับนะคะ” นั่นคือ คำกล่าวสุดท้ายของพนักงานของคุณครับ
โดยปกติ ระยะเวลาที่เราต้องรอบริการจากศูนย์จะอยู่ที่ 3-5 วัน ผมรอจนครบ 3 วันไม่มีใครโทรมา ผมจึงโทรเข้าเบอร์ของศูนย์บริการกลาง “ด้วยตัวเอง” เพื่อสอบถามสถานะงานซ่อม จึงทราบด้วยตนเองว่า “ซ่อมเสร็จแล้ว” ถามย้ำว่า เสร็จใช้การได้จริงๆแน่นะครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้แล้ว แต่....
ในวันที่ 13 หลังจากที่ได้โทรเพื่อสอบถามด้วยตัวเองและรู้ว่าเสร็จแล้วนั้น ผมเข้าไปที่เซียร์ รังสิตอีกครั้ง ด้วยความหวังว่า มันจะใช้การได้ แต่ปรากฏว่า “ยังคง touch screen ไม่ได้เหมือนเดิมครับ” ในตอนรับเครื่อง มัน touch ได้ สักพัก ก็ไม่ได้ ผมเลย ต้องเดินวกกลับเข้าไปที่ศูนย์ เพื่อรายงานปัญหาอีกครั้ง คราวนี้ เจ้าหน้าที่ถือวิสาสะ...
- ถอดฝาหลัง แล้วดึง memory card ออก พอเธอถอดออก มันก็ touch screen ได้ เธอเลยอวดภูมิด้วยตัวเองว่า “เพราะ memory card มันเสีย เครื่องเลยพยายามหา เลยรวน touch screen ไม่ได้น่ะค่ะ”
ผมเหมือนจะเข้าใจนะครับ แต่พอเดินจากมา นิดเดียว ก็ “กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
มันจึงไม่ใช่ที่ memory card อะไรนั่นแล้วกระมังครับ
เลยทีนี้ต้องวกเข้าศูนย์ เพื่อแจ้งซ่อมอีกครั้งครับ โดยทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะ
“เปลี่ยนจอให้อีกรอบนึง” โดยรับใบซ่อมและคุณพนักงานก็ทิ้งท้ายเหมือนเดิมว่า
“เราจะโทรรายงานเรื่อยๆนะคะ” ...
นับจากวันนั้นจนวันนี้ 11 วันแล้ว ครับที่ผมไม่ได้รับโทรศัพท์จากซัมซุงเลย ในวันนี้ 22 มกราคม 2558 ผมจึงตัดสินใจโทรเข้าศูนย์บริการกลางด้วยตัวเองเพื่อสอบถามสถานะงานซ่อม คุณเจ้าหน้าที่พนักงานศูนย์กลางท่านบอกว่า
“สถานะงานซ่อมเสร็จแล้วค่ะ” ผมจึงให้เธอโอนสายไปที่เซียร์ รังสิตให้ เพื่อต้องการจะคุยกับเจ้าหน้าที่ที่สาขานั้นให้แน่ใจจริงๆ ผลปรากฏว่า...
“ทางช่างเปลี่ยนจอให้อีกรอบ ยังใช้การไม่ได้นะคะ เราเลยขอเวลาอีก 3 วัน เพื่อรออะไหล่ ช่างจะเปลี่ยนบอร์ดใหม่ให้ค่ะ”
นั่นคือ สิ่งที่ Samsung มอบให้ผมครับ ผมมีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่ไม่กี่เรื่อง อยากระบายให้เพื่อนๆในนี้ฟังรวมทั้ง ถ้าคุณวิชัย พรพระตั้ง ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Samsung ประเทศไทยได้มาอ่านจะได้ทราบว่า ลูกค้าของคุณมีฟีดแบ็กกลับการบริการอย่างไรดังนี้ครับ
1. “เจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่าจะโทรบอกเมื่อซ่อมเสร็จ” แต่ไม่ได้โทรมาเลย ผมต้องเป็นฝ่ายตามด้วยตัวเอง ถึง 2 ครั้ง ถ้าไม่โทรหา ก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง และต้องทำตัวอย่างไร จริงๆข้อนี้ ผมไม่ได้อะไรมากเพราะเราต้องรับผิดชอบสิทธิ์ของเรา จะให้ใครมาคอยตามให้ก็ใช่เรื่อง แต่พนักงานเป็นคนบอกเองว่า ถ้ายังไงเราจะโทรบอก ผมในฐานะลูกค้า เราก็รอ และ รอมา 11 วันโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
2. “ช่างเปลี่ยนจอให้ผมถึง 2 รอบ” ซึ่งผมงงว่า ถ้ารอบแรกเปลี่ยนแล้วมันไม่ได้ จะเสียของเปลี่ยนให้อีกรอบทำไม พอเปลี่ยนให้อีกรอบ สรุป ยังคงใช้การไม่ได้ ช่างเลยจะเปลี่ยน บอร์ดให้ สรุป เครื่องผมโดนแงะ รวม ----- 3 รอบ ----- แล้วของมันก็เป็นของใหม่ เพิ่งซื้อมา ผมไม่อยากจะคิดสภาพของมือถือผมตอนนี้ว่ามันจะเยินแค่ไหน ทั้งข้างใน ข้างนอก ตรงนี้ผมควรทำอย่างไรครับ ?
3. สมมติผมมีมือถือแค่เจ้า note 3 เครื่องเดียว ถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผมจะเอามือถือที่ไหนใช้ครับ สมมติว่าเราตัดตัวแปรเรื่องความสามารถในการจ่าย สมมติผมไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อมือถือสำรองใช้งานแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน --- 11 วันที่ผ่านมานี้ ผมจะทำยังไงครับ – แต่ดีที่ผมมี iphone 5s อีกเครื่องครับ ปัญหาผมเลยไม่มีเท่าไร แต่สมมติผมไม่มี ผมควรทำไงครับ ?
4. ค่ารถ การเสียความรู้สึก ที่ผมต้องเดินทางมาในรอบแรก โดยเจ้าหน้าที่แจ้งในระบบว่า ซ่อมเสร็จแล้ว ซึ่งผมก็ถามแล้วว่า เสร็จใช้งานได้แน่ๆนะ เธอก็ยืนยันว่า “ได้” แต่พอมาถึง ก็ยังใช้การไม่ได้ตรงนี้นี่จะจัดการกับระบบอย่างไรครับ ? มาเสียที เสียเที่ยว เสียเวลา เสียความรู้สึก
ผมเป็นลูกค้าของมือถือ Samsung มา 4 ปี ใช้มาตั้งแต่ S3 คอมโน้ตบุคผมก็ Samsung คือ ผมก็รู้สึกดีกับสินค้านะครับ แต่เพิ่งมาเจอประสบการณ์นี้กับตัวเองครั้งแรก..
.. รู้สึกเคว้งคว้างครับ ไม่โกรธมาก ยังทนได้ แต่ แบบ คุณปล่อยให้ลูกค้า เคว้งคว้างจริงๆครับ
อย่างที่บอกว่าผมมีสองเครื่อง ยังดีที่ระหว่างซ่อมมันเลยไม่ได้กระทบอะไรเท่าไรแต่..
ผมคิดถึงเจ้า Note 3 ของผมมากๆครับ และผมรักมันมากกว่า iphone 5s ครับ
ปล. ประกันผมยังเหลือเต็ม อาการที่เกิดขึ้นคือ จู่ๆใช้นิ้วตัวเองเนี่ย touch screen ไม่ได้ ใช้ได้แต่เจ้าปากกา ไม่เคยตก ไม่มีรอย ไม่มีการเอาไปใช้ในที่ชื้นอะไรทั้งนั้น ยังดีที่พนักงานพูดจาดี ยิ้มแย้ม ในข้อเสียก็มีข้อดีครับ
ยังไง ฝากเพื่อนๆในนี้ช่วยกันแนะนำผมด้วยนะครับ เผื่อผมจะคิดเองเออเองมากไป ผมเชื่อว่ามีหลายท่านที่โดนเหมือนกัน และยังรออยู่เหมือนกันไม่มากก็น้อยครับ
หรือผมอาจจะโง่เองก็ได้ ที่ใช้สินค้าของค่ายนี้
***แก้ไขเพิ่มเติมครับ
หลังจากเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ที่ผ่านมาที่ได้เขียนกระทู้นี้ และ ได้ทราบว่า ต้องรออะไหล่อีก 3 วัน
แต่เมื่อเช้าวันนี้ 23 มกราคม 2558 เจ้าหน้าที่จากศูนย์ได้โทรมาแจ้งว่า ซ่อมเสร็จแล้ว และ ช่างได้ทดสอบเครื่องแล้ว ไม่พบอาการแล้ว ผมจึงเข้าไปรับในเวลา 18.45 น. แล้วก็ได้ลองทดสอบเล่นสักพัก ก็ไม่พบอาการ Touch screen ไม่ได้แล้ว ใช้งานได้ตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเพิ่มเติมว่า
1. ได้เปลี่ยน บอร์ด ให้ใหม่ และไมไ่ด้เปลี่ยนจอให้อีกรอบตามที่แจ้งไปในครั้งก่อน
2. ได้เปลี่ยนแบตเตอรรี่ให้ใหม่ แม้ว่า จะหมดการรับประกันแล้ว แต่ก็ยินดีจะเปลี่ยนให้ โดยแจ้งว่า เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่แบตเตอรี่เสื่อม ทำให้ไฟไปเลี้ยงจอไม่พอ (ผมรับข้อมูลมาแบบนี้)
หลังจากรับเครื่องเสร็จ ในเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้โทรมาขอโทษ เพราะทราบเรื่องจากทางศูนย์ว่า ผมได้เขียนกระทู้เพื่อร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า ผิดที่ไม่ได้โทรแจ้งให้ทราบเลยจริงๆ
***ถึงตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วครับ ขอบคุณที่กระตือรือร้นในการซ่อมให้เสร็จและทำให้ผมไม่ต้องรออีกต่อไป ขอบคุณที่แสดงการรับผิดชอบด้วยการเคลมแบตเตอรี่โดยที่ผมไม่ต้องเสียเงินซื้อมัน ขอบคุณที่โทรมาเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ได้โกรธอะไรอยู่แต่แรก เพียงแต่ แค่รู้สึกเคว้งคว้างตามที่บอก ถ้าเป็นลูกค้าท่านอื่น อาจจะโมโหเดือดไปแล้วเพราะ เครื่องโดนแกะ โดนแงะไม่รู้กี่รอบ และรอมาตั้ง 11 วันแบบ งงๆ ***
ยังไงก็อยากให้ Samsung ให้ความสำคัญกับลูกค้าให้มากๆแบบนี้กับทุกคนนะครับ
ขอบคุณมากครับ