ประวัติความเป็นมากิจการวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย



ได้มาจาก http://www.qsl.net/e20tcm/index.html ปัจจุบันหยุดให้บริการแล้ว เห็นว่าน่าสนใจสำหรับนักวิทยุรุ่นหลังๆอ่านดูนะครับ เนื้อหาบางส่วนอาจตัดทิ้งไปบ้าง

ขออนุญาตและขออภัยเจ้าของข้อมูลด้วยครับ

   
21 เมษายน 2426
ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ - ITU [http://www.itu.int]
1 พฤศจิกายน 2455
ประดิษฐ์สัญญาณโทรเลขอักษรไทยขึ้นใช้ สัญญาณอักษรไทยนี้มิได้กำหนดขึ้น ประจำทุกตัวอักษรในภาษาไทย หากมีแต่อักษรบางตัวที่สำเนียงคล้ายกันก็กำหนดให้

ใช้สัญญาณเดียวกัน เช่น ด กับ ฎ ส กับ ษ หรือ ศ เป็นต้น
2457
รัฐบาลประกาศใช้ "พระราชบัญญัติวิทยุโทรเลข พ.ศ. 2457" เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการวิทยุฉบับแรก ให้กรมไปรษณีย์โทรเลขมีอำนาจหน้าที่ในการตั้งเครื่องและใช้

วิทยุโทรเลข โทรศัพท์
18 มิถุนายน 2479
เพิ่มเติมไม้ยะมก (ๆ) ขึ้นอีก 1 สัญญาณในรหัสสัญญาณโทรเลขภาษาไทย
23 พฤษภาคม 2479
นายเสงี่ยม เผ่าทองศุข, HS1PJ หัวหน้าแผนกช่างวิทยุ ทดลองวิทยุสื่อสารแบบนักวิทยุสมัครเล่นด้วยเครื่องส่งทำเองแบบ Frequency Doupler จาก Oscillator

7.1MHz เป็น 14.2 MHz กับ ON4UU [CQ #16 น. 22]
2479
"กิจการวิทยุสมัครเล่น" เริ่มต้นเมื่อหัวหน้าแผนกช่างวิทยุ ได้ทดลองติดต่อสื่อสารทางวิทยุสมัครเล่นและสามารถติดต่อกับต่างประเศได้ เป็นผลสำเร็จ
2480
อาจารย์เสงี่ยม เผ่าทองศุข เป็นพนักงานวิทยุสมัครเล่นไทยคนแรก ที่เข้าแข่งขันติดต่อทางไกล DEUTSCHER JAHRES Contest 1937 ของสมาคมวิทยุสมัครเล่น

แห่งประเทศเยอรมัน และได้รับรางวัลที่ 1 ในกลุ่มประเทศเอเซีย

22 มกราคม 2498
รัฐบาลได้ยกเลิกพระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร พ.ศ.2478 และประกาศใช้พระราชบัญญัติใหม่ 2 ฉบับคือ
1) พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ให้อำนาจกรมไปรษณีย์โทรเลขควบคุมการใช้ความถี่วิทยุ ความคุมเครื่องส่งวิทยุ และเครื่องรับวิทยุคมนาคม   
2) พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498

2504
แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 โดยออกเป็น พรบ.วิทยุคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504
27 พฤศจิกายน 2506
นายโรเบิต อี. เลียว (Robert E. LEO ) ยื่นขอจดทะเบียนสมาคมต่อ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอจัดตั้ง "สมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย" อักษรย่อ ส.ว.ส.ท.
5 สิงหาคม 2507
ส.ว.ส.ท. ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมจากกระทรวงศึกษาธิการ
10 พฤศจิกายน 2507
ส.ว.ส.ท. ได้รับอนุมัติจากกรมตำรวจในการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
2507
ส.ว.ส.ท. เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพ IARU [? CQ #35 น. 72]
11 มกราคม 2508
ส.ว.ส.ท. เปิดประชุมใหญ่สามัญครั้งแรก
2511
ส.ว.ส.ท. สมัครเข้าเป็นสมาชิก ITU สังกัด IARU Region III
2512
ทหารอเมริกันประจำฐานทัพต่างๆ ในประเทศไทยได้ยื่นความจำนงขอตั้ง/ใช้วิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย แต่กระทรวงคมนาคมไม่อนุมัติ เพราะตามกฎหมายอนุญาต

ให้เฉพาะผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น
2514
มีการจัดตั้งกลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ขึ้นเรียกว่า South East Network Convention (SEANET Convention) มีการประชุมครั้งแรกวันที่ 30-31

ธันวาคม 2514 ณ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย
1 มกราคม 2515
ส.ว.ส.ท. เปลี่ยนชื่อย่อจาก STAR (Society of Thai Amateur Radio) เป็น RAST (Radio Amateur Society of Thailand)
2517
กรมฯ นำเรื่องการสมัครสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่น เสนอที่ประชุม " คณะกรรมการประสานงานและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ (กบถ.)" ที่

ประชุมมีมติให้เสนอเรื่องให้สภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาในแง่ความมั่น คงแห่งชาติต่อไป
21 กุมภาพันธ์ 2518
สภาความมั่นคงแห่งชาติมีมติว่ายังไม่สมควรอนุญาตให้มีการจัดตั้งวิทยุสมัคร เล่น เพราะในขณะนั้นกรมฯ ยังมีขีดความสามารถจำกัดในการควบคุมวิทยุสมัครเล่น และ

ให้กรมฯตักเตือนผู้ที่ดำเนินการผิดกฏหมาย หากหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฏหมายโดยเคร่งครัด และให้จัดทำร่างระเบียบการควบคุมวิทยุสมัครเล่นให้

รัดกุมแล้ว เสนอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
2518 (?)
ครม. มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุ และได้มีประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุ พ.ศ. 2518

ออกมาใช้บังคับด้วย [วันสื่อสารแห่งชาติ 2527]
2519
กบถ.ได้พิจารณาร่างระเบียบว่าด้วยวิทยุสมัครเล่น พ.ศ.2518 แล้วมีมติว่ายังไม่สมควรอนุญาตให้มีกิจการวิทยุสมัครเล่น ขึ้นในประเทศไทยในขณะนั้น เนื่องจาก

สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่น่าไว้วางใจ และให้กรมฯ ตักเตือนและปราบปรามผู้กระทำผิดกฏหมาย เมื่อใดที่กรมฯมีความพร้อมด้านอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์

ตรวจสอบและ ควบคุมได้ดีก็ให้เสนอร่างระเบียบว่าด้วยวิทยุสมัครเล่นมาให้พิจาณาใหม่
2520
RAST จัดงาน SEANET Convention ณ โรงแรมเอราวัณ
6-10 ตุลาคม 2521
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม IARU Region III Conference ครั้งที่ 4 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ มีผู้เข้าร่วมประชุม 200 คนเศษ
2521
กรมฯ มีดำริที่จะนำเอากิจการวิทยุสมัครเล่นมาส่งเสริม เพื่อให้มีนักค้นคว้าทดลองด้านวิทยุ และที่สำคัญเพื่อให้เกิดการพัฒนาเครื่องวิทยุคมนาคมรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะ

เป็นประโยชน์สำหรับประเทศชาติในอนาคตด้วย
2522
พล.ต.ต. สุชาติ เผือกสกนธ์ อธิบดีกรมฯ และคณะ ร่วมด้วย RAST ส่งผู้แทนร่วมประชุม World Administrative Radio Conference (WARC) ของ ITU
19 มิถุนายน 2524
กรมฯ ประกาศให้ผู้ที่มีเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์สำหรับกิจการวิทยุสมัครเล่น ต้องขออนุญาตมีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครอง
กันยายน 2524
กรมฯ ร่างระเบียบว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่นเสนอคณะกรรมการประสานงานของสภาความ มั่นคงแห่งชาติพิจารณา
4 กันยายน 2524
อธิบดีกรมฯ ประกาศระเบียบกรมฯว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ.2524
8 พฤศจิกายน 2524
กรมฯ เปิดสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้นเป็นครั้งแรก เป็นข้อสอบปรนัย มีผู้สมัครสอบ 552 คน เข้าสอบ 510 คน สอบได้ 312 คน
16 พฤศจิกายน 2524
กรมฯ ก่อตั้ง "ชมรมวิทยุอาสาสมัคร" (Voluntary Radio Club) กำหนดสัญญาณเรียกขานให้สมาชิกว่า VR....(หมายเลข) โดยใช้ความถี่ 144.000-146.000 MHz
5 ธันวาคม 2524
ทูลเกล้าฯถวายสัญญาณเรียกขาน VR009 แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเปิดศูนย์ชมรมวิทยุอาสาสมัครที่ซอยสายลม
30 มกราคม 2525
กรมฯ เปิดสอบเพื่อรับประกาศฯพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น ครั้งที่สอง เป็นข้อสอบปรนัย มีผู้สมัครสอบ 967 คน สอบได้ 719 คน
11 พฤษภาคม 2525
กรมฯ ประกาศว่าจะไม่ออกใบอนุญาตให้นำเข้า มี หรือใช้วิทยุคมนาคมเพื่อกิจการวิทยุอาสาสมัคร ที่มีคุณลักษณะผิดจากระเบียบที่วางไว้ คือใช้กำลังส่งได้สูงกว่า 10

วัตต์และมีความถี่ใช้งานเกินย่าน 144-146 เมกกะเฮิร์ต ส่วนผู้ที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ขอให้ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตโดยเคร่งครัดด้วย
26 มิถุนายน 2525
กรมฯ เปิดสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น ครั้งที่สาม เป็นข้อสอบอัตนัย มีผู้สมัครสอบ 1,171 คน สอบได้ 297 คน
15 สิงหาคม 2525
กรมฯ แจกประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นต้นให้แก่ผู้ผ่านการสอบรุ่นที่ สาม
2525
RAST จัดงาน SEANET Convention ครั้งที่ 12 ณ โรงแรมอิมพีเรียล
15-30 มิถุนายน 2526
กรมฯ เปิดรับสมัครสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นต้น รุ่นที่สี่
4 สิงหาคม 2526
รัฐบาลกำหนดให้วันที่ 4 สิงหาคม ของทุกปีเป็น "วันสื่อสารแห่งชาติ" เริ่มตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นไป เพื่อระลึกถึงวันสถาปนากรมไปรษณีย์และกรมโทรเลขขึ้นในประเทศ

ไทย ได้จัดงาน "วันสื่อสารแห่งชาติ" เป็นครั้งแรก ร่วมกับงาน "ครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนากรมไปรษณีย์โทรเลข" และการ เฉลิมฉลอง "ปีการสื่อสารโลก" ของ

สหประชาชาติ โดยจัดขึ้นที่ กรมไปรษณีย์โทรเลข
3 พฤศจิกายน 2526
คณะอนุกรรมการชมรมวิทยุอาสาสมัคร จดทะเบียนจัดตั้ง "สมาคมนักวิทยุอาสาสมัคร - ส.ว.อ. - VRA (Voluntrary Radio Association)" นายถาวร เยาวขันธ์ เป็น

นายกสมาคมฯ วัตถุประสงค์หลักคือ เป็นศูนย์รวมนักวิทยุอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสังคมและสาธารณประโยชน์
16 พฤศจิกายน 2526
ที่ประชุม กบถ. ชี้แจงว่าสาเหตุที่ยังไม่สมควรอนุญาตให้มีการจัดตั้งสถานีวิทยุสมัครเล่น อย่างเป็นทางการ เพราะปัญหาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ
10 พฤศจิกายน 2527
RAST จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี ที่โรงแรมไฮแอท เซ็นทรัล
2527
กรมฯ จัดตั้งศูนย์ควบคุมข่ายเฉพาะพื้นที่ (Area Network Control) เพื่อเสริมโครงข่ายของชมรมวิทยุอาสาสมัคร ให้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
21 มกราคม 2528
นายมหิดล จันทรางกูร อธิบดีกรมฯ มีหนังสือถึงเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขอให้นำเรื่อง "กิจการวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย" เสนอคณะกรรมการประสาน

งานของสภาความมั่นคงฯ [CQ #10 น.29]
25 ธันวาคม 2528
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เห็นชอบในหลักการให้มีกิจการวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทย
2528
กรมฯ ออกระเบียบว่าด้วยชมรมวิทยุอาสาสมัคร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528
2528
ยกเลิกการใช้รหัสมอร์สสำหรับการรับส่ง-โทรเลข และยกเลิกการสอนรหัสมอร์สในโรงเรียนการไปรษณีย์
พฤศจิกายน 2529
"ซีคิว" นิตยสารรายเดือนฉบับแรกเพื่อนักวิทยุสมัครเล่น ฉบับปฐมฤกษ์ออกวางแผง ราคา 25 บาท มีคุณวิชาญ วุฒิฐานทวีกิจ, , เป็นบรรณาธิการบริหาร   ร.ท.จำลอง

เชื้อไทย ร.น., HS1AAM เป็นผู้อำนวยการ
2529
กรมฯ อนุญาตให้ RAST จัดตั้งสถานีวิทยุสมัครเล่นชั่วคราว เพื่อฝึกอบรมสมาชิกทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2529
17 มกราคม 2530
Club Station ของ RAST, HS0B, ออกอากาศในย่าน HF เป็นครั้งแรก [CQ #5 น.72]
17 กุมภาพันธ์ 2530
ศูนย์ควบคุมข่ายย่านความถี่วิทยุสมัครเล่น (สายลม) จัดให้มีการทดลองการเช็คเน็ทตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงเวลาประมาณ 20.20-20.30 น. ที่ความถี่ช่องเรียกขาน

145.00 MHz
22 กุมภาพันธ์ 2530
VRA จัดสอบเพื่อรับประกาศฯขั้นต้น มีผู้เข้าสอบ 120 คน สอบได้ 72 คน [CQ #5 น.64]
4 สิงหาคม 2530
กบถ. ประกาศใช้ "ระเบียบคณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ ว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2530" มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม

2531
18 กันยายน 2530
กรมฯ ประกาศเรื่อง "กำหนดความถี่วิทยุสำหรับวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น" กำหนดให้ใช้ความถี่ย่าน VHF จำนวน 11 ช่อง เริ่มตั้งแต่ 144.500 MHz - 145.000 MHz มีช่อง

ความถี่ห่างกัน 50 kHz
3 ธันวาคม 2530
กรมฯ ประกาศเรื่องออกใบอนุญาตพนักงานวิทยุอาสาสมัครเล่นและกำหนดสัญญาณเรียกขาน เป็นการให้นักวิทยุอาสาสมัครผู้ได้รับสัญญาณเรียกขานของกรมฯ มา

ติดต่อยื่นคำขอใบอนุญาตพนักงานวิทยุสมัครเล่นพร้อมสัญญาณเรียกขาน
20 ธันวาคม 2530
กรมฯ จัดให้มีการอบรมเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้นเป็นกรณี พิเศษขึ้นครั้งแรก สำหรับนักวิทยุอาสาสมัครและข้าราชการบริหารระดับสูง

ของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ
29 ธันวาคม 2530
กรมฯ อนุญาตให้มีเครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อกิจการวิทยุสมัครเล่นได้ไม่จำกัดจำนวน
30 ธันวาคม 2530
กรมฯ ประกาศเรื่องจำกัดสถานที่ใช้เครื่องวิทยุคมนาคมสำหรับนักวิทยุสมัครเล่นขั้น ต้น ให้ใช้ใน 11 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี

พระนครศรีอยุธยา ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
1 มกราคม 2531
ระเบียบของ กบถ. ว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่น พ.ศ. 2530 มีผลบังคับใช้, ชมรมวิทยุอาสาสมัครของกรมฯ ถูกยกเลิก นักวิทยุอาสาสมัคร เปลี่ยนเป็นนักวิทยุสมัครเล่น,

มีจำนวนนักวิทยุสมัครเล่น 2,953 คน
20 กุมภาพันธ์ 2531
กรมฯ จัดอบรมเพื่อรับประกาศขั้นต้นเป็นกรณีพิเศษ ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ฝึกอบรมการไปรษณีย์แห่งเอเชียและแปซิฟิค ถ.แจ้งวัฒนะ มีผู้ผ่านการอบรม 99 คน
21 สิงหาคม 2531
กรมฯ จัดสอบขั้นต้นครั้งที่ 1/2531รุ่นที่ 7 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผู้สมัคร 15,734 คน สอบได้ 9,513 คน [CQ #22 น.25]
2531
ปีงบประมาณ 2531 กรมฯ มีรายได้เฉพาะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่างๆ ของวิทยุสมัครเล่นรวม 8,453,465 บาท [CQ #35 น.10]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่