พอดีเปิดไปเจอกระทู้ที่ถามว่า ทำไมเจอคนที่ชอบแล้วต้องเขิน
ก็เลยนึกไปถึงเรื่องของตัวเองสมัยเรียนมัธยม ตอนอายุ 17 (ปัจจุบัน 32 แล้วครับ)
เลยอยากถ่ายทอดความรู้สึกตอนนั้นออกมาตั้งเป็นกระทู้แรกของตัวเองซักหน่อย ^^
ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.5 ครับ ที่โรงเรียนประจำจังหวัด
แล้วก็แอบชอบเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันคนหนึ่ง
แต่ทีแรกผมก็เนียนๆครับ ปกปิดความรู้สึกชอบด้วยการที่ถ้ามีโอกาสได้พูดกัน ก็จะพูดจากวนทีนเค้า
เนียนๆทำตัวเหมือนเพื่อน เพราะกลัวถ้าเค้ารู้ว่าชอบ แล้วจะเปลี่ยนไป หรือทำตัวหนีห่าง (เคยกลัวเหมือนผมกันใช่ไหมครับ ^^)
ตอนนั้นทุกครั้งที่เห็นเค้าเดินมาไกลๆ
ใจนึงก็อาย ประหม่า อยากเดินหนี (จะหนีทำไมวะ เค้าไม่ได้เดินมาทวงเงินเรา 55555)
แต่อีกใจก็อยากเห็นหน้าเค้าใกล้ๆ เลยตัดสินใจยืนอยู่ต่อ ^^
พอเธอเดินใกล้เข้ามา มือผมนี่หมุนสายนาฬิกาข้อมือโดยอัติโนมัติ ประมาณว่าไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน
หมุนอยู่นั่นแหละ ถ้าใครสังเกตเห็นคงคิดว่า ไอ้บ้านี่มันยืนหมุนนาฬิกาข้อมือทำไมของมัน
พอสาวเดินผ่านมาใกล้ ใจไม่ถึง หันหน้าหนีเค้าอีกซะงั้น (ซึ่งทำให้หลายครั้งพลาดโอกาสที่จะได้พูดคุยกัน)
หรือบางครั้งที่เธอเห็นผมแล้วทัก ถ้าไม่พูดจากวนๆไป ก็จะตอบได้แค่ อืมๆออๆ พูดอะไรไม่ออก ไม่เป็นธรรมชาติ
แต่สุดท้ายก็กลั้นใจหาทางข่มความประหม่า แล้วเข้าไปใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ทำเป็นซื้อขนมไปฝาก แรกๆเธอก็งงเหมือนกันว่า เอามาให้ทำไม(วะ)
ผมก็แถไปเรื่อย ว่าขอบคุณที่ให้ยืมสมุดจดมาลอก
ช่วงนั้นผมก็เนียนขอเข้ากลุ่มทำรายงานกับกลุ่มเธอด้วย (ลงทุนชิ่งกลุ่มเพื่อนผู้ชายกันเลยทีเดียว)
เพื่อจะได้เอางานกลุ่มมาเป็นข้ออ้างในการเข้าไปตีซี้เพื่อนๆเธอ และนัดเจอกันเสาร์อาทิตย์เพื่อทำงานกลุ่ม
จนวันนึงได้ไปเดินห้างกันเป็นกลุ่ม เห็นเธอไม่สบาย ก็ช่วยถือกระเป๋านักเรียนให้ (ใบใหญ่อย่างกับตู้เย็น)
คืนนั้นก็โทรหาเธอ ถามอาการป่วย อยู่ๆเธอก็ถามว่า แกจีบเราเหรอ ผมสตั๊นท์ไปแป๊บ แล้วกลั้นใจตอบไปว่า อือ... จีบได้เปล่าล่ะ
เธอบอก..ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ตอนนั้นไม่รู้ผมรวบรวมความกล้ามาจากไหน ก็เลยบอกเธอไปว่า วันนี้ไม่ชอบเราไม่เป็นไร
แต่ให้โอกาสเราหน่อยได้ไหม ขอเราทำคะแนนไปเรื่อยๆ
ถ้าเราทำดี ก็ให้คะแนนเราในใจ แล้วถึงร้อยเมื่อไหร่ บอกเราทีนะ
(กลัวถูกปฏิเสธเหมือนกัน ไม่รู้พูดออกไปได้ยังไง จริงๆหัวตื้อตั้งแต่เธอถามแล้ว รู้แต่ว่าต้องพูดอะไรซักอย่างเพื่อให้ได้มีโอกาส)
เธอตอบตกลงครับ :')
วันรุ่งขึ้นพอต้องมาเจอหน้าเธอผมนี่เขินมาก แต่ก็ย้ำๆไปว่า อย่าลืมนับคะแนนให้เราด้วยนะ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มคุยกับเธอมากขึ้น
ซื้อขนมที่เธอชอบจากสหกรณ์โรงเรียนมาฝากบ่อยๆ วิ่งไปจองที่นั่งโต๊ะใต้พัดลมให้เธอ
(ห้องเรียนสมัยนั้นพัดลมเพดานมีไม่กี่ตัว เวลาอากาศร้อนๆ ใครได้นั่งใต้พัดลมก็จะสบายหน่อย ^^)
แลกกันถือกระเป๋านักเรียนกับเธอ
(เด็กผู้ชายสมัยนั้น นิยมเอาตัวหนีบมาหนีบใต้กระเป๋าให้มันบาง กระเป๋าผมก็จะบางมาก ส่วนของเธอหนาตั้บ
เพราะเธอเป็นเด็กเรียน จริงๆผมก็เด็กเรียน แต่เล่มไหนหนาๆจะไม่เอามา แล้วขอดูกับเพื่อน)
แล้วพอถึงช่วงหนึ่งเค้าจะมีให้ฝึกงานที่โรงพยาบาล สำหรับคนที่อยากจะเข้าเรียนต่อหมอ
ซึ่งเธอมีความตั้งใจอยากจะเรียนหมอ ส่วนผมตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยแน่ใจชีวิตตัวเองเท่าไหร่
ก็เลยตามเธอไปฝึกงานในโรงพยาบาล
(ตอนนั้นได้ทำหลายอย่างเลยครับ เพราะต้องไปอยู่หลายๆแผนก)
ซึ่งในช่วงท้ายๆของการฝึกงานนั้นเอง
เย็นวันหนึ่งเธอก็โทรหาผม ผมถามว่ามีอะไร
เธอบอกว่า เราชอบแกนะ......
ผมบรรยายความรู้สึกไม่ถูกเลยครับ มันดีใจมาก แล้วที่เค้าบอกว่า แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ผมก็เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นแบบไหนก็วันนี้เอง
ผมก็ถามเธอซ้ำ ว่าพูดว่าอะไรนะ ???
เธอก็บอกว่า "เค้าชอบแก" แล้วเธอก็รีบตัดบทไป ไม่คุยอะไรกับผมมาก คิดว่าคงจะเขินเหมือนกัน
หลังวางสาย ผมนี่ดีใจเหมือนคนบ้า วิ่งออกไปนอกบ้าน ตรงไปที่ที่สนามบาสที่เล่นอยู่ประจำ แล้วก็นั่งตากลมยิ้มอยู่คนเดียว
ถึงแม้สุดท้ายเราสองคนจะเลิกกันในวันนึง แต่ก็เป็นป๊อปปี้เลิฟที่ย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อไหร่ก็สวยงามครับ ^___^
ป.ล.ทุกวันนี้เธอแต่งงานมีครอบครัวที่มีความสุข และเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ
แฟนคนแรกของผม ^___^
ก็เลยนึกไปถึงเรื่องของตัวเองสมัยเรียนมัธยม ตอนอายุ 17 (ปัจจุบัน 32 แล้วครับ)
เลยอยากถ่ายทอดความรู้สึกตอนนั้นออกมาตั้งเป็นกระทู้แรกของตัวเองซักหน่อย ^^
ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.5 ครับ ที่โรงเรียนประจำจังหวัด
แล้วก็แอบชอบเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันคนหนึ่ง
แต่ทีแรกผมก็เนียนๆครับ ปกปิดความรู้สึกชอบด้วยการที่ถ้ามีโอกาสได้พูดกัน ก็จะพูดจากวนทีนเค้า
เนียนๆทำตัวเหมือนเพื่อน เพราะกลัวถ้าเค้ารู้ว่าชอบ แล้วจะเปลี่ยนไป หรือทำตัวหนีห่าง (เคยกลัวเหมือนผมกันใช่ไหมครับ ^^)
ตอนนั้นทุกครั้งที่เห็นเค้าเดินมาไกลๆ
ใจนึงก็อาย ประหม่า อยากเดินหนี (จะหนีทำไมวะ เค้าไม่ได้เดินมาทวงเงินเรา 55555)
แต่อีกใจก็อยากเห็นหน้าเค้าใกล้ๆ เลยตัดสินใจยืนอยู่ต่อ ^^
พอเธอเดินใกล้เข้ามา มือผมนี่หมุนสายนาฬิกาข้อมือโดยอัติโนมัติ ประมาณว่าไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน
หมุนอยู่นั่นแหละ ถ้าใครสังเกตเห็นคงคิดว่า ไอ้บ้านี่มันยืนหมุนนาฬิกาข้อมือทำไมของมัน
พอสาวเดินผ่านมาใกล้ ใจไม่ถึง หันหน้าหนีเค้าอีกซะงั้น (ซึ่งทำให้หลายครั้งพลาดโอกาสที่จะได้พูดคุยกัน)
หรือบางครั้งที่เธอเห็นผมแล้วทัก ถ้าไม่พูดจากวนๆไป ก็จะตอบได้แค่ อืมๆออๆ พูดอะไรไม่ออก ไม่เป็นธรรมชาติ
แต่สุดท้ายก็กลั้นใจหาทางข่มความประหม่า แล้วเข้าไปใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ทำเป็นซื้อขนมไปฝาก แรกๆเธอก็งงเหมือนกันว่า เอามาให้ทำไม(วะ)
ผมก็แถไปเรื่อย ว่าขอบคุณที่ให้ยืมสมุดจดมาลอก
ช่วงนั้นผมก็เนียนขอเข้ากลุ่มทำรายงานกับกลุ่มเธอด้วย (ลงทุนชิ่งกลุ่มเพื่อนผู้ชายกันเลยทีเดียว)
เพื่อจะได้เอางานกลุ่มมาเป็นข้ออ้างในการเข้าไปตีซี้เพื่อนๆเธอ และนัดเจอกันเสาร์อาทิตย์เพื่อทำงานกลุ่ม
จนวันนึงได้ไปเดินห้างกันเป็นกลุ่ม เห็นเธอไม่สบาย ก็ช่วยถือกระเป๋านักเรียนให้ (ใบใหญ่อย่างกับตู้เย็น)
คืนนั้นก็โทรหาเธอ ถามอาการป่วย อยู่ๆเธอก็ถามว่า แกจีบเราเหรอ ผมสตั๊นท์ไปแป๊บ แล้วกลั้นใจตอบไปว่า อือ... จีบได้เปล่าล่ะ
เธอบอก..ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ตอนนั้นไม่รู้ผมรวบรวมความกล้ามาจากไหน ก็เลยบอกเธอไปว่า วันนี้ไม่ชอบเราไม่เป็นไร
แต่ให้โอกาสเราหน่อยได้ไหม ขอเราทำคะแนนไปเรื่อยๆ
ถ้าเราทำดี ก็ให้คะแนนเราในใจ แล้วถึงร้อยเมื่อไหร่ บอกเราทีนะ
(กลัวถูกปฏิเสธเหมือนกัน ไม่รู้พูดออกไปได้ยังไง จริงๆหัวตื้อตั้งแต่เธอถามแล้ว รู้แต่ว่าต้องพูดอะไรซักอย่างเพื่อให้ได้มีโอกาส)
เธอตอบตกลงครับ :')
วันรุ่งขึ้นพอต้องมาเจอหน้าเธอผมนี่เขินมาก แต่ก็ย้ำๆไปว่า อย่าลืมนับคะแนนให้เราด้วยนะ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มคุยกับเธอมากขึ้น
ซื้อขนมที่เธอชอบจากสหกรณ์โรงเรียนมาฝากบ่อยๆ วิ่งไปจองที่นั่งโต๊ะใต้พัดลมให้เธอ
(ห้องเรียนสมัยนั้นพัดลมเพดานมีไม่กี่ตัว เวลาอากาศร้อนๆ ใครได้นั่งใต้พัดลมก็จะสบายหน่อย ^^)
แลกกันถือกระเป๋านักเรียนกับเธอ
(เด็กผู้ชายสมัยนั้น นิยมเอาตัวหนีบมาหนีบใต้กระเป๋าให้มันบาง กระเป๋าผมก็จะบางมาก ส่วนของเธอหนาตั้บ
เพราะเธอเป็นเด็กเรียน จริงๆผมก็เด็กเรียน แต่เล่มไหนหนาๆจะไม่เอามา แล้วขอดูกับเพื่อน)
แล้วพอถึงช่วงหนึ่งเค้าจะมีให้ฝึกงานที่โรงพยาบาล สำหรับคนที่อยากจะเข้าเรียนต่อหมอ
ซึ่งเธอมีความตั้งใจอยากจะเรียนหมอ ส่วนผมตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยแน่ใจชีวิตตัวเองเท่าไหร่
ก็เลยตามเธอไปฝึกงานในโรงพยาบาล
(ตอนนั้นได้ทำหลายอย่างเลยครับ เพราะต้องไปอยู่หลายๆแผนก)
ซึ่งในช่วงท้ายๆของการฝึกงานนั้นเอง
เย็นวันหนึ่งเธอก็โทรหาผม ผมถามว่ามีอะไร
เธอบอกว่า เราชอบแกนะ......
ผมบรรยายความรู้สึกไม่ถูกเลยครับ มันดีใจมาก แล้วที่เค้าบอกว่า แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ผมก็เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นแบบไหนก็วันนี้เอง
ผมก็ถามเธอซ้ำ ว่าพูดว่าอะไรนะ ???
เธอก็บอกว่า "เค้าชอบแก" แล้วเธอก็รีบตัดบทไป ไม่คุยอะไรกับผมมาก คิดว่าคงจะเขินเหมือนกัน
หลังวางสาย ผมนี่ดีใจเหมือนคนบ้า วิ่งออกไปนอกบ้าน ตรงไปที่ที่สนามบาสที่เล่นอยู่ประจำ แล้วก็นั่งตากลมยิ้มอยู่คนเดียว
ถึงแม้สุดท้ายเราสองคนจะเลิกกันในวันนึง แต่ก็เป็นป๊อปปี้เลิฟที่ย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อไหร่ก็สวยงามครับ ^___^
ป.ล.ทุกวันนี้เธอแต่งงานมีครอบครัวที่มีความสุข และเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ