สวัสดีครับทุกท่าน
เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ที่ผ่านมา ท่านใดไปปั่นเทสต์ Audax 600 กม. เส้นทางพัทยา - ตราด มาบ้างครับ มาแชร์ข้อมูลกันหน่อยเพื่อเป็นกรณีศึกษาซึ่งงานนี้ผมปั่นเดี่ยวครับ ปกติปั่น Audax ผมชอบปั่นเดี่ยวอยู่แล้ว ที่ผ่านมาปั่นเดี่ยวตลอด เพราะผมไม่อยากเป็นภาระใครในกรณีที่แรงขาไม่เท่ากันจะเป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ผ่านแล้ว ส่วนตัวผมไม่ผ่านครับ เลยขอสรุปปัญหาของส่วนตัวผมและขอแชร์เพื่อนๆ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลเอาไว้เป็นกรณีศึกษาครับ
สรุปปัญหา
1. ข้อศอกเจ็บได้หนึ่งอาทิตย์จากการเล่นเทนนิส เพราะเป็น Tennis elbow ทำให้ประคองรถได้ไม่ดี ยิ่งเจอทางชันๆ หรือขึ้นเนินนี่ขึ้นโยกไม่ไหวเลย ทำความเร็วได้ไม่ดีสำหรับการปั่นจับเวลาแบบนี้ ดังนั้น ต้องระวังเรื่องการป่วยเจ็บใดๆ ก่อนการปั่น
2. หลงตอนจะเข้าเช็กพอยต์ที่แหลมงอบ จ.ตราดตอนห้าทุ่มกว่า ปั่นวนไปตั้งนาน ขนาดไปกับนักปั่นเจ้าถิ่นชาวจังหวัดระยองที่เผอิญไปเจอกันที่ cp.2 แล้วออกมาด้วยกัน ทำให้วนอยู่แถวนั้นตั้งนาน หลงจนไปถึงเส้นทางกลับไประยองตอนเข้า cp. อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ผมก็เลยคิดว่าคงไปไม่ทัน cp. แหลมงอบแล้ว ต้องปั่นกลับออกไปทางวัดคลองปูนกลับพร้อมนักปั่นเสือจากระยองเลย แล้วค่อยๆ ปั่นประคองรถกลับพัทยา แวะไปนอนพักที่ cp.2 ที่อำเภอแกลงตอนตีสี่ จากนั้นเอาจักรยานขึ้นสองแถวจากแกลงไประยอง แล้วขึ้นรถหกล้อประจำทางจากระยองไปมาบตาพุด จากนั้นก็ต่อรถสองแถวสีส้มจากมาบตาพุดไปสัตหีบ กะว่าจะต่อรถสองแถวสีขาวจากสัตหีบไปพัทยาแต่คนขับบอกว่าคนจะขึ้นเยอะ ผมก็เลยทนปั่นประคองไปเองจนถึงพัทยาเวลาเที่ยงกว่าๆ
3. อาการตะคริวที่เริ่มเป็นตั้งแต่ออก cp.2 จนไปถึง secret point ที่ระยะ 200 กม. บนเนินนางพญา จากนั้นได้นักปั่นชาวจีนมาเลย์ที่ให้สเปรย์แก้ตะคริวมากระป๋องหนึ่งเลย ซึ่งก็ช่วยได้มากเลย และอีกท่านที่รถล้มจนหลังกับไหล่เจ็บที่ให้เม็ดอมิโนมากินแก้ตะคริว ก็ช่วยได้มากๆ เช่นกันครับ
ลักษณะเส้นทาง
บอกได้เลยว่ามีครบทุกชาติ ตั้งแต่เนินซึมๆ ให้วอร์มขาตั้งแต่ออกจากพัทยาไปจนถึง cp.1 ที่สัตหีบ จากนั้นเจอเนินเต็มๆ ขึ้นลงๆ ไปจนถึง secret point ที่ร้านกาแฟ ขนาดผมเปลี่ยนเฟืองเป็น 11-32 เตรียมไว้แล้วยังรู้สึกว่ามีกว่านี้ก็จะใช้ให้หมดล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ แต่หลังจากนี้เส้นทางก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วครับ
ในส่วนกระแสลม ออกจากพัทยาก็เจอลมต้านเอื่อยๆ และเนินซึมๆ ที่ไม่สูงเท่าไหร่ แต่หลังจาก cp1. เป็นต้นไปลมต้านเต็มๆ ยิ่งเจอกับเนินและแสงแดดที่ร้อนแรง ช่วงนี้ถือเป็นไฮไลท์ของปัญหาที่ต้องผ่านไปให้ได้ครับ
นอกจากนี้ เนินที่จังหวัดตราดเป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงจริงๆ ยิ่งต้องไปเจอตอนมืดๆ แล้วนี่ อันตรายมากๆ ตอนไต่เนินยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนลงนี่สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะโค้งหักศอกซ้ายตรงแขมหนูก่อนข้ามสะพาน ผมว่าขนาดปั่นกลางวันยังมีหวาดเสียวเลยครับ แต่นี่ผมไปเจอกลางคืนด้วย ดีที่ได้คุณเค๊น นักปั่นผู้พิชิต Audax มาหลายที่แล้วปั่นตามมาแล้วตะโกนบอกทางไว้ จากนี้น้าเค้ายังต้องปั่นกลับไปรับน้องๆ ที่มีทั้งสาวทั้งหนุ่มอีกสี่ท่านให้มาด้วยกัน สุดยอดในน้ำใจจริงๆ ครับ
วิธีแก้ไขปัญหา
สำหรับท่านๆ ที่สนใจจะไปครั้งหน้า เดือนมิถุนายน ผมถามคนในพื้นที่แล้วเขาบอกไว้ว่าดังนี้ครับ
1. ช่วงเดือนมิถุนายน ฝนจะเริ่มมาแล้ว ถ้าฝนไม่มาช่วงนั้นก็ถือว่าดี แต่ถ้ามาจะเจอทั้งปัญหาลมฝนและเนินที่สูงๆ ทางจะลื่นมาก ทำให้ทำความเร็วได้ไม่มาก
2. เพิ่มกำลังขาให้ไปถึงตราดก่อนมืด เพื่อให้ไม่ต้องเสี่ยงกับเส้นทางชันๆ และเนินโค้งสูงๆ
3. เตรียมรถของเราให้พร้อม เพื่อนผมแต่อยู่คนละกลุ่มเอารถพับไป พังกลางทางเลยครับ แต่ตอนที่ผมผ่านไม่เห็นมีรถท่านใดยางแตกหรือต้องซ่อมกลางทางเหมือนเส้นทางอื่นเลย ถือว่าเส้นทางใช้ได้ครับ
4. เช็กแผนที่ให้แม่นยำ เพราะเส้นทางนี้ได้ปั่นตอนมืดๆ แน่นอน ถ้ามี GPS ก็ดีไป แต่ก็ต้องเตรียมแหล่งจ่ายไฟสำรองไปด้วย ของผมใช้ Garmin 1000 แบตหมดตั้งแต่ cp.2 จะรอชาร์ตไฟด้วย powerbank ก็ต้องรอจนถึง cp. จะชาร์ตตอนปั่นก็ดูแผนที่ลำบากอีก ทำไมนะ Garmin ไม่ทำแบบรุ่นที่มีแบตสำรองให้เปลี่ยนได้ด้วย
5. คนในพื้นที่อัธยาศัยดีครับ เวลาผมแวะซื้อเสบียงก็พูดคุยกันตลอด เขาก็บอกเส้นทางและชวนคุยดี เด็กแว๊นซ์มีบ้างแต่ก็ไม่ก่อกวนอะไรครับ
6. เตรียมเรื่องอาหารการกินให้พร้อม ไม่ควรกินผิดเวลา เนื่องจากผมกับเพื่อนกินข้าวผิดเวลา แต่ไปซัดเจลลี่เกลือแร่ซองละสิบบาที่ขายในเซเว่น กินเข้าไปแล้วปวดท้องเพราะท้องว่าง ต้องแวะเข้าห้องน้ำที่ตรงสะพานแขมหนู ต้องผัดกันเข้าเพราะต้องเฝ้ารถ (ไปกันสองคนกับนักปั่นเจ้าถิ่นระยอง) ทำให้เสียเวลาไปอีกเกือบยี่สิบนาที)
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ
- ทีมงาน Audax ทุกท่านทุก cp ที่ได้ผ่านสำหรับการจัดเสบียงอาหารไว้เพียบพร้อมและอร่อยทุกที่ พร้อมทั้งได้ให้ข้อมูลดีๆ ตลอดเวลา
- คุณเค๊น (ผมไม่แน่ใจว่าน้าแกมีล๊อกอินที่พันทิปหรือเปล่า) ที่ช่วยบอกเรื่องโค้งซ้ายหักศอกลงเขาตรงแขมหนู ผมเคยเจอน้าแกตอนเอาจักรยานขึ้นรถไฟที่แก่งคอย น้าเค้าอัธยาศัยดีมากๆ และให้ความรู้หลายอย่างเลยสำหรับการปั่น
- นักปั่นร่างใหญ่จากมาเลเซียที่จริงๆ ผมเคยเจอมาแล้วตอนไปปั่น Audax ที่สงขลา ไม่นึกว่ายังจำกันได้ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมถามทางไปครั้งเดียวเองและนึกว่าแกเป็นคนไทย พอได้คุยกันจึงรู้ว่าเป็นนักปั่นชาวจีนมาเลย์ สำหรับสเปรย์แก้ตะคริวนั้น ใช้งานได้ดีมากๆ เลยครับ
- น้านักปั่นที่ล้มแล้วบาดเจ็บแล้วแบ่งเม็ดอมิโนให้ผมสี่เม็ดแก้ตะคริว และได้อาศัยเกาะมาจนถึงแหลมสิงห์
กระทู้นี้มาขอข้อมูลท่านๆ ที่ไปปั่นมาครับ ทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน ผมจะได้เอาไว้เป็นกรณีศึกษาเพื่อใช้ในการปั่น 600mm ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน รวมทั้งท่านอื่นๆ ที่มีข้อมูลดีๆ มาแชร์กันครับผม
ขอบคุณมากครับ
ท่านใดไปปั่น Audax 600 กม. มาครับ มาแชร์ข้อมูลกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ที่ผ่านมา ท่านใดไปปั่นเทสต์ Audax 600 กม. เส้นทางพัทยา - ตราด มาบ้างครับ มาแชร์ข้อมูลกันหน่อยเพื่อเป็นกรณีศึกษาซึ่งงานนี้ผมปั่นเดี่ยวครับ ปกติปั่น Audax ผมชอบปั่นเดี่ยวอยู่แล้ว ที่ผ่านมาปั่นเดี่ยวตลอด เพราะผมไม่อยากเป็นภาระใครในกรณีที่แรงขาไม่เท่ากันจะเป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ผ่านแล้ว ส่วนตัวผมไม่ผ่านครับ เลยขอสรุปปัญหาของส่วนตัวผมและขอแชร์เพื่อนๆ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลเอาไว้เป็นกรณีศึกษาครับ
สรุปปัญหา
1. ข้อศอกเจ็บได้หนึ่งอาทิตย์จากการเล่นเทนนิส เพราะเป็น Tennis elbow ทำให้ประคองรถได้ไม่ดี ยิ่งเจอทางชันๆ หรือขึ้นเนินนี่ขึ้นโยกไม่ไหวเลย ทำความเร็วได้ไม่ดีสำหรับการปั่นจับเวลาแบบนี้ ดังนั้น ต้องระวังเรื่องการป่วยเจ็บใดๆ ก่อนการปั่น
2. หลงตอนจะเข้าเช็กพอยต์ที่แหลมงอบ จ.ตราดตอนห้าทุ่มกว่า ปั่นวนไปตั้งนาน ขนาดไปกับนักปั่นเจ้าถิ่นชาวจังหวัดระยองที่เผอิญไปเจอกันที่ cp.2 แล้วออกมาด้วยกัน ทำให้วนอยู่แถวนั้นตั้งนาน หลงจนไปถึงเส้นทางกลับไประยองตอนเข้า cp. อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ผมก็เลยคิดว่าคงไปไม่ทัน cp. แหลมงอบแล้ว ต้องปั่นกลับออกไปทางวัดคลองปูนกลับพร้อมนักปั่นเสือจากระยองเลย แล้วค่อยๆ ปั่นประคองรถกลับพัทยา แวะไปนอนพักที่ cp.2 ที่อำเภอแกลงตอนตีสี่ จากนั้นเอาจักรยานขึ้นสองแถวจากแกลงไประยอง แล้วขึ้นรถหกล้อประจำทางจากระยองไปมาบตาพุด จากนั้นก็ต่อรถสองแถวสีส้มจากมาบตาพุดไปสัตหีบ กะว่าจะต่อรถสองแถวสีขาวจากสัตหีบไปพัทยาแต่คนขับบอกว่าคนจะขึ้นเยอะ ผมก็เลยทนปั่นประคองไปเองจนถึงพัทยาเวลาเที่ยงกว่าๆ
3. อาการตะคริวที่เริ่มเป็นตั้งแต่ออก cp.2 จนไปถึง secret point ที่ระยะ 200 กม. บนเนินนางพญา จากนั้นได้นักปั่นชาวจีนมาเลย์ที่ให้สเปรย์แก้ตะคริวมากระป๋องหนึ่งเลย ซึ่งก็ช่วยได้มากเลย และอีกท่านที่รถล้มจนหลังกับไหล่เจ็บที่ให้เม็ดอมิโนมากินแก้ตะคริว ก็ช่วยได้มากๆ เช่นกันครับ
ลักษณะเส้นทาง
บอกได้เลยว่ามีครบทุกชาติ ตั้งแต่เนินซึมๆ ให้วอร์มขาตั้งแต่ออกจากพัทยาไปจนถึง cp.1 ที่สัตหีบ จากนั้นเจอเนินเต็มๆ ขึ้นลงๆ ไปจนถึง secret point ที่ร้านกาแฟ ขนาดผมเปลี่ยนเฟืองเป็น 11-32 เตรียมไว้แล้วยังรู้สึกว่ามีกว่านี้ก็จะใช้ให้หมดล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ แต่หลังจากนี้เส้นทางก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วครับ
ในส่วนกระแสลม ออกจากพัทยาก็เจอลมต้านเอื่อยๆ และเนินซึมๆ ที่ไม่สูงเท่าไหร่ แต่หลังจาก cp1. เป็นต้นไปลมต้านเต็มๆ ยิ่งเจอกับเนินและแสงแดดที่ร้อนแรง ช่วงนี้ถือเป็นไฮไลท์ของปัญหาที่ต้องผ่านไปให้ได้ครับ
นอกจากนี้ เนินที่จังหวัดตราดเป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงจริงๆ ยิ่งต้องไปเจอตอนมืดๆ แล้วนี่ อันตรายมากๆ ตอนไต่เนินยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนลงนี่สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะโค้งหักศอกซ้ายตรงแขมหนูก่อนข้ามสะพาน ผมว่าขนาดปั่นกลางวันยังมีหวาดเสียวเลยครับ แต่นี่ผมไปเจอกลางคืนด้วย ดีที่ได้คุณเค๊น นักปั่นผู้พิชิต Audax มาหลายที่แล้วปั่นตามมาแล้วตะโกนบอกทางไว้ จากนี้น้าเค้ายังต้องปั่นกลับไปรับน้องๆ ที่มีทั้งสาวทั้งหนุ่มอีกสี่ท่านให้มาด้วยกัน สุดยอดในน้ำใจจริงๆ ครับ
วิธีแก้ไขปัญหา
สำหรับท่านๆ ที่สนใจจะไปครั้งหน้า เดือนมิถุนายน ผมถามคนในพื้นที่แล้วเขาบอกไว้ว่าดังนี้ครับ
1. ช่วงเดือนมิถุนายน ฝนจะเริ่มมาแล้ว ถ้าฝนไม่มาช่วงนั้นก็ถือว่าดี แต่ถ้ามาจะเจอทั้งปัญหาลมฝนและเนินที่สูงๆ ทางจะลื่นมาก ทำให้ทำความเร็วได้ไม่มาก
2. เพิ่มกำลังขาให้ไปถึงตราดก่อนมืด เพื่อให้ไม่ต้องเสี่ยงกับเส้นทางชันๆ และเนินโค้งสูงๆ
3. เตรียมรถของเราให้พร้อม เพื่อนผมแต่อยู่คนละกลุ่มเอารถพับไป พังกลางทางเลยครับ แต่ตอนที่ผมผ่านไม่เห็นมีรถท่านใดยางแตกหรือต้องซ่อมกลางทางเหมือนเส้นทางอื่นเลย ถือว่าเส้นทางใช้ได้ครับ
4. เช็กแผนที่ให้แม่นยำ เพราะเส้นทางนี้ได้ปั่นตอนมืดๆ แน่นอน ถ้ามี GPS ก็ดีไป แต่ก็ต้องเตรียมแหล่งจ่ายไฟสำรองไปด้วย ของผมใช้ Garmin 1000 แบตหมดตั้งแต่ cp.2 จะรอชาร์ตไฟด้วย powerbank ก็ต้องรอจนถึง cp. จะชาร์ตตอนปั่นก็ดูแผนที่ลำบากอีก ทำไมนะ Garmin ไม่ทำแบบรุ่นที่มีแบตสำรองให้เปลี่ยนได้ด้วย
5. คนในพื้นที่อัธยาศัยดีครับ เวลาผมแวะซื้อเสบียงก็พูดคุยกันตลอด เขาก็บอกเส้นทางและชวนคุยดี เด็กแว๊นซ์มีบ้างแต่ก็ไม่ก่อกวนอะไรครับ
6. เตรียมเรื่องอาหารการกินให้พร้อม ไม่ควรกินผิดเวลา เนื่องจากผมกับเพื่อนกินข้าวผิดเวลา แต่ไปซัดเจลลี่เกลือแร่ซองละสิบบาที่ขายในเซเว่น กินเข้าไปแล้วปวดท้องเพราะท้องว่าง ต้องแวะเข้าห้องน้ำที่ตรงสะพานแขมหนู ต้องผัดกันเข้าเพราะต้องเฝ้ารถ (ไปกันสองคนกับนักปั่นเจ้าถิ่นระยอง) ทำให้เสียเวลาไปอีกเกือบยี่สิบนาที)
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ
- ทีมงาน Audax ทุกท่านทุก cp ที่ได้ผ่านสำหรับการจัดเสบียงอาหารไว้เพียบพร้อมและอร่อยทุกที่ พร้อมทั้งได้ให้ข้อมูลดีๆ ตลอดเวลา
- คุณเค๊น (ผมไม่แน่ใจว่าน้าแกมีล๊อกอินที่พันทิปหรือเปล่า) ที่ช่วยบอกเรื่องโค้งซ้ายหักศอกลงเขาตรงแขมหนู ผมเคยเจอน้าแกตอนเอาจักรยานขึ้นรถไฟที่แก่งคอย น้าเค้าอัธยาศัยดีมากๆ และให้ความรู้หลายอย่างเลยสำหรับการปั่น
- นักปั่นร่างใหญ่จากมาเลเซียที่จริงๆ ผมเคยเจอมาแล้วตอนไปปั่น Audax ที่สงขลา ไม่นึกว่ายังจำกันได้ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมถามทางไปครั้งเดียวเองและนึกว่าแกเป็นคนไทย พอได้คุยกันจึงรู้ว่าเป็นนักปั่นชาวจีนมาเลย์ สำหรับสเปรย์แก้ตะคริวนั้น ใช้งานได้ดีมากๆ เลยครับ
- น้านักปั่นที่ล้มแล้วบาดเจ็บแล้วแบ่งเม็ดอมิโนให้ผมสี่เม็ดแก้ตะคริว และได้อาศัยเกาะมาจนถึงแหลมสิงห์
กระทู้นี้มาขอข้อมูลท่านๆ ที่ไปปั่นมาครับ ทั้งที่ผ่านและไม่ผ่าน ผมจะได้เอาไว้เป็นกรณีศึกษาเพื่อใช้ในการปั่น 600mm ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน รวมทั้งท่านอื่นๆ ที่มีข้อมูลดีๆ มาแชร์กันครับผม
ขอบคุณมากครับ