ไม่รู้จะตั้งหัวข้อกระทู้ว่าอะไรดี ......ชีวิตคู่ก็เงี้ย .....

สวัสดีค่ะ คือ มีเรื่องจะขอคำแนะนำค่ะ เป็นเรื่องที่ดิฉันคิดไว้นานละคะว่าจะตั้งกรุทู้ดีไหม คือถ้าสมมุติเราตั้งกระทู้ไปกลัวว่าถ้าเรื่องมันยังไม่จบแล้วเรากลับไปคืนดีกันเหมือนเดิมกลัวคนจะด่าอ่ะค่ะ (แหะๆ) แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้วเราควรจะหาทางออกหรือไม่ก็ขอคำแนะนำจากคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวหรือที่เรารู้จักอ่ะค่ะ(กลัวอ้ะค่ะ กลัวอีกละ) คือกลัวว่า ถ้าเราเอาเรื่องไปปรึกษาคนรู้จักหรือในครอบครัวเดี๋ยวเค้าจะไม่อยากยุ่งหรือให้คำแนะนะจริงๆอ่ะ(จากประสบการณ์โดยตรงตัวเองที่ผ่านมาค่ะ)

เอาเลยนะคะ อันนี้ย่อๆเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้แล้วกันนะคะ ตอนนี้ดิฉันเอ่อ....ขอใช้คำแทนตัวเองว่าหนูได้ไหมคะ ใช้ว่าดิฉันแล้วเหมือนคนมีอายุยังไงไม่รู้ เอาเป็นว่าขอใช้คำว่าหนูนะคะ .......
            หนูกับสามีอยู่กินกันมาราวๆ5 ปีเข้าปีที่6ได้แล้วค่ะ มีลูกสาว1คน เพิ่งแต่งงานงานได้ 8 เดือน 5555+ งงไหมคะ คือเราเพิ่งแต่งงานกันค่ะ มีลูกกันก่อน ปัญหาก็คือ เรากำลังจะเลิกกันค่ะ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง แต่ถ้าถามว่าตอนนี้หนูยังรักเค้าไหม ก็รักนะคะ แต่เหมือนเราอึกอัดอ่ะค่ะ หลายๆอย่าง เอาเป็นว่า จะแยกออกเป็นข้อๆเลยละกันนะคะ
1. เรื่องเงิน....(เรื่องใหญ่เลยนะคะ555+) เงินที่หนูไม่เคยมีสิทธิ์แม้แต่จะรู้ความเคลื่อนไหวหรือยอดเงินใน บช ที่เค้ามีอยู่อยู่ค่ะยกเว้นตอนไปข้างนอกกินข้าวหรือซื้อของจะเห็นเงินเค้าตอนเค้าควักออกจากกระเป๋า555+(ใช้สายตาประมาณการณ์คร่าวๆว่าเค้ามีเงินเท่าไหร่ จะได้ขอถูก 555+) หนูขอเงินเค้าใช้ค่ะ ขอจริงๆนะคะ ขอเหมือนลูกเลย ทุกครั้งจะได้ไม่เกิน 2-3 พันหรอกค่ะ หรือบางครั้งได้3พัน ถ้าได้ขนาดนี้โหหหหหห นานเป็นโขเลยล่ะค่ะ กว่าจะได้อีก5555+  ......และทุกครั้งที่ให้ จะได้ยินคำเดิมๆซ้ำว่า ใช้ให้ประหยัด ประหยัดหน่อย เดือนนี้เค้าหมดไปเยอะละ(ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่และลูกเค้าจะเป็นคนออกค่ะ)ด้วยเหตุผลหนูต้องขอเงินเค้าใช้เพราะว่า เงินเดือนเราต่างกันค่ะ หนูได้เงินเดือนน้อยกว่าเค้าครึงนึงเลยล่ะ หรืออาจจะมากกว่าครึ่ง (ไม่รู้จริงๆว่าแต่ละเดือนเค้าได้ยอดสุทธิเท่าไหร่ สลิปไม่เคยเห็นเป็นปีละค่ะ เค้าไม่เคยเอามาไห้ดู แล้วหนูก้อไม่ได้ขอดู)เรื่องค่าใช้จ่ายเค้าจะออกที่ๆคงที่ค่ะ ส่วนไม่คงที่ อย่างเช่น ค่านมลูก อุปกรณ์ ลูก ของกินลูก ของเล่นลูก อื่นๆ ที่เกี่ยวกะลูกหนูจะเป็นคนจ่ายค่ะ (คชจ ส่วนตัวหนูจะมีแค่ค่ารถยนต์ค่ะ)บางครั้งค่ากับข้าวหนูก้อออกค่ะ แต่ก้อเพราะคิดเสมอมาว่า มันคงถูกแล้วล่ะ แบ่งๆกันจ่าย5555+ แต่ประเด็นไหญ่ เค้าไม่ได้ให้เงินหนูทุกๆเดือนเหมือนคู่อื่นๆนะคะ ให้เฉพาะตอนที่หนูเอ่ยปากขอเท่านั้นค่ะ(เท่านั้นจริง)ไม่เอ่ยปากไม่ถามเลย ฮือๆๆๆ และอีกอย่าง มักจะได้ยินเวลาทะเลาะกันทุกครั้ง มันแบบ เจ็บใจมากค่ะไม่คิดว่าคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจะมาพูดแบบนี้ คือ “ เงินมึ....ก็ขอตรูใช้ มึ.....จะเอาอะไรอีก.......มึ..มีความสามารถหาเงินได้เยอะๆเหมือนตรูไหม ? เงินเดือนก็แค่นี้ “  เหอะๆๆ ” เงิบค่ะ ไปไม่ถูกเลย 55555 หลังจากนั้นมามันทำให้หนูรู้สึกเหมือนว่าไม่ใช่เมียเค้าเลยเหมือนคนใช้ที่คอยรับใช้ทำทุกอย่างให้เค้า ทั้งซักผ้า ทำโน่นทำนี่ ให้ แทนที่จะได้รับคำขอบคุณ กลับได้คำดูถูกแทน ซึ้งเลยยยยยค่ะ เหอะๆๆๆ .... จริงๆเรื่องเงินนี่ปัญหาใหญ่เลยนะคะ หนูคิดมาเสมอว่า ไม่เป็นไรถือว่า สมเหตุสมผลกันแล้ว เพราะงานบ้าน และ คอยดูแลลูก เราก็ทำ ส่วนเค้าก็ออก คชจ . ไป แต่พอมาคิดดูแล้ว หนูคิดผิดค่ะ มันเหมือนว่าเราอาศัยเค้าอยู่และไม่ใช่เมียเค้าเลยเหมือนคนใช้มากกว่า 5555+เรื่องนี้ทะเลาะกันหลายครั้งมาก จนหนูไม่อยากเอามาทะเลาะกันเลย เพราะพูดยังไงก็ได้คำตอบเหมือนเดิม ..... เฮ้อออออออออออออออ


2. เรื่องนี้ รองลงมาจากเรื่องเงินละกันนะคะ (เพราะคิดว่าเค้าคงเปลี่ยนได้) เรื่องเห็นแก่ตัว ค่ะ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนหรืออาจจะไม่เปลี่ยน ..... เห็นแก่ตัวยังไงหรอคะ อืมๆๆๆๆ ยกตัวอย่างๆเช่น ....หนูอยากทำธุรกิจหรือรายได้เสริมค่ะ มักจะได้คำตอบกลับมาว่า ทำไม่ได้หรอก มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก คือ หนูอยากเปิดร้านเสริมสวยค่ะ เลยขอคำปรึกษาเค้า เค้าบอกว่ามันไม่ง่ายนะ จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุน จะไปเปิดร้านที่ไหน บลาๆๆๆๆๆๆ หนูก็โอเค ยอม เชื่อเค้าค่ะ เพราะคิดว่าคงยังทำไม่ได้ตอนนี้ แต่พอเค้าจะทำบ้างค่ะ มาปรึกษาหนู หนูบอกไปเลยว่า อืมๆๆ ก็โอนะลองทำดู ทั้งที่ในใจมันเสี่ยงมากอยากเตือนเค้ามากแต่ก็ไม่อยากพูด (ธุรกิจของเค้าคือเปิด หจก.ค่ะ ทำมาได้สักพักแล้ว โดยการเปิด หจก.ใช้นามเพื่อนแต่เป็นของเค้าๆทำเองโดยหนูทำเรื่องบัญชีและเอกสารให้ )ที่บอกว่ามันเสี่ยงอ่ะหรอคะ คือ งี้ เค้าเปิด หจก.แต่ขายของให้ บ.ตัวเองค่ะ เพราะตัวเองเป็นจัดซื้อเลยขายได้ ตอนนี้มีลูกค้าเจ้าเดียวคือบ.เค้า แล้วสิ่งที่เค้าอยากให้หนูทำอีกคือ ให้วิ่งหาลูกค้าเพิ่มให้เพื่อจะไม่เป็นที่สงสัยเรื่องเอกสารหรือเปิด INV. ค่ะ เรื่องนี้เรากำลังจะทำช่วยค่ะ แต่พอมาคิดแล้ว ทำไปก็ปล่าวประโยชน์เพราะหนูไม่ได้มีสิทธิ์เรื่องเงินอะไรเลยไม่เคยได้เงินจากที่เค้าทำเลยสักบาท..... คือหนูมองแล้วทำไมเค้าเห็นแก่ตัวจัง


3 .เรื่องคำพูด เค้าจะเป็นคนที่พูดแล้วไม่ค่อยคิดค่ะ ไม่ค่อยคิดว่า เวลาคนที่ได้ยินจะรู้สึกยังไง มักจะพูดแบบไม่คิดไม่ถนอมน้ำใจหรือความรู้สึกคนฟังเลย เอาง่ายๆคือเป็นผู้ชายปากไวค่ะ และปากดี ...(หนูมักโดนประจำ5555+)
เอาเป็นว่าที่เรื่องใหญ่ๆก็ประมาณนี้แหละค่ะ จริงๆมีมากกว่านี้ด้วยซ้ำ หลายๆอย่างค่ะ ทั้งเรื่องเพิ่งจะแต่งงานกัน เรื่องลูก เรื่องหนูไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือนพอ หลายๆอย่างค่ะ
         มาประเด็นที่ว่าจะเลิกกันดีกว่าค่ะ เค้ามักจะคิดเสมอว่าหนูอยากเลิกกับเค้ามากหรอ อยากไปจากเค้ามากหรอ คือ เค้าถามมาทั้งๆที่คำตอบทั้งหมดมันก็อยู่ที่เค้านะคะ แต่หนูไม่รู้จะพูดยังไงให้เค้ารู้ตัวให้เค้ารู้สึกคะ ว่าระหว่างคำว่า อยากเลิกเพราะหมดรัก กับ ไม่ได้หมดรักแต่อยากเลิก มันต่างกันยังไง !!!
ไม่รู้สิ รู้สึกว่าหนูมันไม่มีอะไรดีเลย หนูคงยังมีความอดทนไม่พอมั้ง ที่จะสามารถอยู่กะเค้าได้ 5555+

มันหลายเรื่องมากสำหรับตัวเค้าเป็นและเหมือนเค้าไม่รู้สึกตัวเอง เค้าเหมือนจะเอาตัวเองเป็น ไอดอล เสมอ คือมักจะพูดเปรียบเทียบว่า เค้าอายุเท่านี้(27ย่าง28)มาได้ไกลแค่นี้ก็สุดๆแล้ว ดูดิ คนอื่นๆอายุเยอะกว่าเค้าๆยังต้องทำงานงกๆยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง ยังไม่มีเงิน เยอะเท่าเค้าเลย คือแบบ ฟังความคิดเค้าแล้ว เงิบ อีกรอบค่ะ เค้าคิดได้ยังไง ฟังแล้วช่างไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่เค้าพูดถึงเลย เอาง่ายๆนะคะ เค้าชอบอวดค่ะ ขี้โม้ในวงเหล้า ว่าตัวเองเก่ง มีรถแต่ง VIP มีโน่นนี่นั่น บลาๆๆ จนหนูไม่อยากไปข้างนอกสังสรรค์กับเค้าบ่อยคือ อายแทนอ่ะค่ะ 5555+
             หนูควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ จะเลิกเลยไหม แต่สงสารลูกค่ะ นี่คือคำที่สนทนากันเมื่อสักครู่นี้ ด้วยเหตุผลที่ ว่า หนูขอยืมเงินส่วนนึงเค้า(3600บาท)เพื่อไปลงครีมมาขายค่ะ รับครีมมาขายลองดูเผื่อจะมีรายได้เสริม แต่คำตอบที่ได้คือ เค้ายิงคำถามมาว่า
-ได้ลูกค้าแล้วหรอ
-มีคนสั่งแล้วหรอ
-หายอดให้ได้ก่อนแล้วค่อยสั่งขายดีกว่าไหม
-จะได้กำสักเท่าไหร่คุ้มกับค่าน้ำมันที่ต้องวิ่งส่งไหม
-คนเค้าจะสั่งหรอ
คือแบบ มันเป็นคำถามที่หาคำตอบไห้ไม่ได้บางส่วนอ่ะค่ะ เพราะครีมที่หนูจะรับมาหนูใช้อยู่ประจำและมีคนในห้องเช่าแม่เค้าสนใจอยากลองเลยต้องสั่งมาขาย (หนูตอบเค้าไปแล้วแต่ก้อยังมีคำถามเพิ่มอีก)ก็เลยยาวค่ะ เป็นประเด็นหาว่าเราโมฆดใส่เค้าด้วยที่ว่าเค้าไม่ให้เงินหนู เฮ้ออออออออออออออออออออ  แต่หนูก็ตอบไปว่า ช่างเหอะไม่เอาก้อได้ เค้ากลับตอบมาว่า แทนที่จะมาหาลูกค้าเพิ่มให้เค้า เอิ่มมมมมมมม เงิบ ไปไม่ถูกอีกแล้วววววววววว ฮือๆๆๆๆๆๆ(ร้องไห้ในใจรัวๆๆ)
จะทำยังไงดีคะ ควรเลิกไหม หรือ ให้คำแนะนำหน่อยได้ไหมคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ยังดีนะที่คุณก็ทำงานและมีรายได้อยู่บ้างแล้ว
คู่เราก็คล้ายคู่คุณค่ะ แต่ของเราแฟนวิ่งขายของค่ะแต่ไม่ได้เป็นจัดซื้อด้วย
ลักษณะคำพูดจาแน่นินว่าต่างกัน แต่ความหมายพอๆกันกับคู่คุณค่ะ
ลักษณะนิสัยของคุณกับแฟนก็น่าจะคล้ายๆเรากับแฟนอยู่นะ
ทีนี้มาแยกเป็นข้อกันเนอะ

1.แฟนคุณอีโก้สูงจัดเชียวล่ะ ถ้าเห็นว่าเขามี ขอเลยค่ะ
เขาพูดไปบ่นไปเท่านั้นแหละ ส่วนคุณก็แกร่งอยู่และก็เกรงใจเขาใช่มั้ยล่ะ
ขอไปเถอะ ทีละยิบย่อยก็ขอไป แล้วอย่าลืมเปิดบัญชีเก็บเงินไม่ให้แฟนรู้ด้วยนะคะ
แฟนคุณบ้าหาเงิน และอาจจะบ้าหมุนเงินด้วย มีเท่าไหร่หาเรื่องเอาไปหมุนหมดแน่ๆ
(เอาแฟนตัวเองเข้าเทียบล้วนๆค่ะ 555)

2. คุณน่าจะไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่า คือ เป็นคนที่พึ่งตัวเองได้ และมีเหตุผลพอสมควร
ผู้หญิงแบบนี้ผู้ชายเขากลัวใจค่ะ เพราะถ้าคิดจะเลิกกันก็ดูเหตุผลแล้วเลิกเลย
แต่ตราบที่ยังต้องพึ่งเขา เขาก็จะสบายใจได้ว่าถ้าคุณบวกลบคูณหารแล้ว
คุณจะไม่กล้าเลิกง่ายๆ

3. ช่างมันได้มั้ยคะ บางทีก็แค่สไตล์ของเขาน่ะค่ะ
ส่วนการลงทุนทำอะไรสักอย่าง ถ้าทุนน้อยไม่พอเผื่อขาดทุนไม่พอเผื่อหมุน
แฟนคุณพูดถูกค่ะ...ต้องตอบคำถามเขาให้ได้ทั้ง 3-4 ข้อก่อนถึงควรจะทำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่