เมื่อวานวันอาทิตย์ ตั้งใจจะไปดูซากุระเมืองไทยที่ขุนช้างเคี่ยน เจอรถติดตั้งแต่แยกถนนห้วยแก้วเลยครับ ติดอยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมง ยาวไปถึง ม.ช. ผ่านม.ช.เห็นว่ามีการซ้อมรับปริญญากัน หลุดจาก ม.ช.ขึ้นดอยสุเทพ รถค่อนข้างเยอะ ไปหาข้าวกินที่ดอยสุเทพ วนหาที่จอดรถ 3 รอบ หาไม่เจอไม่มีที่ว่างเลย
เลยไปหาข้าวกินที่บ้านม้งดอยปุย ก่อนถึงแยกไปบ้านม้ง เจอแยกไปขุนช้างเคียนก่อน มองไปเห็นรถกำลังติดกันสุดลูกหูลูกตา กะว่าไม่ไปก็ได้ หรือว่าเหมารถไป ถามรถ 2 แถวที่บ้านม้งคิดคนละ 300 บาท เห็นว่าระยะทางแค่ 7 กิโลไม่คุ้มค่ากับ 300 x 4 คน แต่พอกลับมาจากบ้านม้ง เห็นถนนเข้าขุนช้างเคี่ยนโล่งเพราะเป็นเวลาบ่ายเเล้ว ไม่มีรถซักคัน เลยเปลี่ยนใจ เข้าไปเลย
เข้าไปสักพักก็เจอแบบนี้ครับ

2 ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเอง เอามาจากในอินเตอร์เน็ตครับ เพราะขับไปไม่มีอารมณ์ถ่าย เพราะหวาดเสียว มือไม้สั่น 555+
ลักษณะถนนเป็นแบบนี้ครับ
ถนนเป็นเลนเดียว บางช่วงมีไหล่ทาง บางช่วงก็ไม่มี ถ้าไปเจอกันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงถอย อาจจะเจอแบบถอยยาวๆ หวาดเสียวเพราะอีกข้างเป็นเหวลึกด้วย ถ้ามีใหล่ ใหล่ก็จะสูงบ้าง ต่ำบ้าง
ไม่เเนะให้ขับรถเก๋งไปครับ สงสารรถ เพราะเจอครูดใต้ท้องแน่ๆ จะครูดกี่รอบเท่านั้นหละ
รถกระบะ รถ SUV, PPV มอเตอร์ไซค์ ไปได้ครับ แต่ต้องระวังเวลาสวนกัน บางครั้งถึงกับกระจกเบียดกันถ้าลืมพับกระจก
เข้าไปแล้วที่จอดก็หาได้ยากยิ่งเหมือนกัน มีอาหารเครื่องดื่มบริการข้างใน อาหารจานละ 45-50 บาท น้ำเปล่าสิงห์ขวดเล็ก 15 บาทครับ
วันอาทิตย์คนเยอะมาก เหมือนงานอะไรซักอย่างเลย

เวลานี้กำลังบานเต็มที่ครับ เห็นบอกว่าประมาณไม่ถึงสิ้นเดือนก็จะหมดเเล้ว ใบจะโผล่มาแทนดอก
นอกจากที่สถานีวิจัยแล้ว บนเขารอบๆยังมีบานอีกหลายตันครับ บรรยากาศถือว่าเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย อากาศเย็นสบาย ดูป่าเปลี่ยนสี
สรุปว่า สวยคุ้มค่า (ถ้ารถคุณไม่เป็นรอยนะครับ) ส่วนท่านใดที่จะเหมารถ หรือขึ้นรถ แนะนำให้ติดต่าคิวรถที่หน้าวัดพระธาติดอยสุเทพเลยครับ ถูกว่าไปติดต่อที่บ้านม้งดอบปุย
ข้อมูลการเดินทางไปดูพญาเสือโคร่งที่ขุนช้างเคี่ยนครับ เพิ่งไปมาเมื่อวาน
เลยไปหาข้าวกินที่บ้านม้งดอยปุย ก่อนถึงแยกไปบ้านม้ง เจอแยกไปขุนช้างเคียนก่อน มองไปเห็นรถกำลังติดกันสุดลูกหูลูกตา กะว่าไม่ไปก็ได้ หรือว่าเหมารถไป ถามรถ 2 แถวที่บ้านม้งคิดคนละ 300 บาท เห็นว่าระยะทางแค่ 7 กิโลไม่คุ้มค่ากับ 300 x 4 คน แต่พอกลับมาจากบ้านม้ง เห็นถนนเข้าขุนช้างเคี่ยนโล่งเพราะเป็นเวลาบ่ายเเล้ว ไม่มีรถซักคัน เลยเปลี่ยนใจ เข้าไปเลย
เข้าไปสักพักก็เจอแบบนี้ครับ
2 ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเอง เอามาจากในอินเตอร์เน็ตครับ เพราะขับไปไม่มีอารมณ์ถ่าย เพราะหวาดเสียว มือไม้สั่น 555+
ลักษณะถนนเป็นแบบนี้ครับ
ถนนเป็นเลนเดียว บางช่วงมีไหล่ทาง บางช่วงก็ไม่มี ถ้าไปเจอกันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงถอย อาจจะเจอแบบถอยยาวๆ หวาดเสียวเพราะอีกข้างเป็นเหวลึกด้วย ถ้ามีใหล่ ใหล่ก็จะสูงบ้าง ต่ำบ้าง
ไม่เเนะให้ขับรถเก๋งไปครับ สงสารรถ เพราะเจอครูดใต้ท้องแน่ๆ จะครูดกี่รอบเท่านั้นหละ
รถกระบะ รถ SUV, PPV มอเตอร์ไซค์ ไปได้ครับ แต่ต้องระวังเวลาสวนกัน บางครั้งถึงกับกระจกเบียดกันถ้าลืมพับกระจก
เข้าไปแล้วที่จอดก็หาได้ยากยิ่งเหมือนกัน มีอาหารเครื่องดื่มบริการข้างใน อาหารจานละ 45-50 บาท น้ำเปล่าสิงห์ขวดเล็ก 15 บาทครับ
วันอาทิตย์คนเยอะมาก เหมือนงานอะไรซักอย่างเลย
เวลานี้กำลังบานเต็มที่ครับ เห็นบอกว่าประมาณไม่ถึงสิ้นเดือนก็จะหมดเเล้ว ใบจะโผล่มาแทนดอก
นอกจากที่สถานีวิจัยแล้ว บนเขารอบๆยังมีบานอีกหลายตันครับ บรรยากาศถือว่าเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย อากาศเย็นสบาย ดูป่าเปลี่ยนสี
สรุปว่า สวยคุ้มค่า (ถ้ารถคุณไม่เป็นรอยนะครับ) ส่วนท่านใดที่จะเหมารถ หรือขึ้นรถ แนะนำให้ติดต่าคิวรถที่หน้าวัดพระธาติดอยสุเทพเลยครับ ถูกว่าไปติดต่อที่บ้านม้งดอบปุย