อ้ะ แฮ่มมม
"วันวาเลนไทน์ = แล้วไง มันแค่วันธรรมดาวันนึง" อุ้ต้ะ ! เหตุผลยอดฮิตที่แสนเฉ๊ยเฉยยย ที่คนโสด ทั้งหลายล้วนเคยได้ยินและ(อาจจะ)ใช้คำนี้ ในวันนั้น(เกือบ)ทั้งนั้น - 0-
อ้ะๆ ใจเยนๆ เราไม่ได้มาหาเรื่อง เพียงแต่เราจะมาเล่าอะไรให้ฟังๆ ขอเกริ่นก่อนว่า วันวาเลนไทน์ มันคือวันแห่งความรัก !!???
เอ . . . ฟังๆ ดูคำนี้มันสั้นและก็ใช่ความหมายของมันแล่ะเนอะ หลายๆ คนเข้าใจว่า มันเป็นวันที่คนมีคู่จะจู๋จี๋ๆ อ้ะฮ้าๆ กัน หรือเป็นวันฤกษ์งามยามดี ที่จะได้ขอคนนู้นนี้ เป็นแฟน และเป็นวันที่คนโสดจะหาอะไรทำ แล้วก้บอกกับตัวเองว่า "หึ ความรักเจ้าเอ๋ย ไม่มีเจ้าข้าก้อยู่ได้ I don't careeeeeeee !! "
แต่ความจริงแล้ว มันคือ "วันแห่งการแสดงออกซึ่งความรัก" ครับผม
คนที่อ่านกระทู้นี้อยู่ ผมเชื่อว่า ล้วนเคยโสดกันมาทั้งนั้น (หรือบางคนยังติดใจเป็นอยู่) และบางคนเคยอกหักในวันนี้ . . . หึหึหึหึ
ผมก้เคยครับ ขอเล่าแยกๆ เป็นปีๆ(ที่สำคัญ) นะครับ
""ถึงแม้รักแท้แพ้ระยะทาง แต่รักข้างๆมันก้แพ้ คนที่เธอรักนั่นละว้า""
ผมเคยจีบเด็กผุ้หญิง คนนึงครับ เราเรียนพิเศษที่เดียวกัน ผมจำได้ว่าวันนั้นก่อนวันวาเลนไทน์ ผมหาซื้อดอกไม้(เป็น100ดอก) เตรียมไว้เซอไพรส์เธอครับ
วัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีนั้น ผมไปดักรอเธอ (เตรียมของขวัญวางไว้ตำแหน่งที่คาดการณ์ กะจะเซอไพรส์และขอเป็นแฟน) แล้ะแอ๊บทำเนียนชวนคุยไปเรื่อยๆ อารมณ์แบบว่า #ตื่นเต้นจังวุ้ย ก่อนหน้าที่จะถึง ผมถามคำถามนึงครับว่า "เข้าไปเรียนที่กรุงเทพ เสา-อาทิต ไม่เหงาแย่หรอ" (น่านนน แย๊บๆดูก่อน) เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วก้มองมาที่ผมพร้อมกับบอกว่า "ไม่เหงาหรอก" ผมนี่ใจเต้นตึกตักๆ เลยครับ เลยถามต่อไปว่า "ทำไมหรอ ?"

น่านนน ฮุคขวาเข้าไปแล้ว) รอบนี้เธอเขินเล็กน้อย ยิ้มกว้าง แล้ะมองมาที่ผมตาไม่กระพริบแล้วบอกว่า "ก็ อxxx โทรมาหาเราทุกวันเลยนี่นา เนี่ยะ พึ่งขอเราเป็นแฟนเมื่อตอนเที่ยงคืนของวันนี้เอง แหม อxxx เนี่ยะโรแมนติกใช่ป้ะ" โอ้โห โรแมนติกสาสๆ ขอสาวเป็นแฟนในวันนี้ เกือบจะดีแล้วแต่ว่า ม่างเป็นใครว๊าาาาา !!?????
วาเลนไทน์ ในปีนั้นก้ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.ดอกกุหลาบแจกเพื่อนทุกคนตามระเบียบครับ)
"นี่สิ่น้ะ คนแรกของข้า"
2 ปีเต็มมม เหยดดดดดดดด 2ปีเต็มครับ ผมตามจีบเธอคนนี้อยู่ แต่ไม่กล้าบอกรักหรือทำอะไรกะตุกกะตัก(เอ้ะ?) เพราะเธอมีชายอื่นครอบครองเธออยู่น่ะสิ่ครับ แน่นอนผมจีบก่อน ผมแห้วก่อน แล้ะเหมือนยังคอยเธออยู่(หน้าด้านครับ555555) จนวันนึง ซึ่งเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นข่าวที่ผมอ่านเจอผ่านหน้า เฟรสสสสสบุ๊คคึ! เธอเลิกกันแล้ว . . . ผมนี่ใจหายวาบเพราะสงสารเธอเลยครับ(คนมันรักนี่ครับ แม้ไม่ได้ครอบครองก้ยังอยากเหนเธอมีความสุข) ผมก้เลยเป็นที่ปรึกษาให้เธอทุกอย่าง จนวันนั้นมาถึง 14 กุมภาพันธ์ ปีนั้นแล ตอนกลางคืนผมโทรคุยกับเธอครับ(เหยดดดด รอบนี้ได้โทรคุยวุ้ย) ก้คุยไปเรื่อยเปื่อยครับ จนสุดท้ายผมเลยตัดสินใจ "เรารักเธอน้ะ รักมานานแล้วด้วย เป็นแฟนกับเราได้ไหม เราไม่อยากเห็นเธอต้องเป็นทุกข์อีกแล้ว ถ้าหัวใจเธอมันพังไปเพราะคนนั้น คนๆนี้จะซ่อมมันเอง ซ่อมจนกว่ามันจะกลับมาพองโตเหมือนเดิม" อื้อหือออออ ผมนี่ลุกขึ้นพูดว่าเสี่ยวสรัสเลยครับ (แต่พูดไปประมาณนี้แล่ะ) เธอเงียบไป 3-5 วิ จนผมต้องพูดฮัลโหลครับ เธอก้ตอบผมกลับมาว่า "อื้อ ! ได้สิ่ แต่ว่าตอนนี้ขอเราทำใจแปปนึงน้ะ เรายังทำใจจากคนนั้นไม่ค่อยได้เลย ไม่นานหรอก ช่วยรอหน่อยน้ะ" โอ้ว โหรววววววววววววววววววววว ผมนี่ลุกขึ้นปีนขึ้นไปขยับจานสัญญาณโทรทัศน์เลยครับ หลังจากคำนั้นผมบอกเธอว่าเดียวมาแปปนึงน้ะ แล้วก้กระโดดรอบเต้นไปทั่วบ้าน พร้อมกับพูดประมาณว่า "กุจะมีแฟนแล้วเว้ยยยยย" บอกตรงๆวินาทีนั้นดีใจมากครับ หลังจากที่ไม่มีแฟนมานานโข หลังจากวันนั้นครับ . . . เธอหายไป . . . ห้ะ !??? ก็บอกว่าเธอหายไปไงร๊าาาา ห๊าาาา !!????? เธอหายไปเลยครับ โทรไปไม่รับ เฟสไปอ่านไม่ตอบ โอ้วจอร์ หอร์น จ๊อด ผมโดนเซอไพรส์กลับครับ หัวใจผมนี่พังแทนเลยครับ ผมเลยสืบทุกวิถีทางว่าเกิดอะไรขึ้น ก้ไม่ทราบได้เลยครับ แน่นอนว่าเธอไม่ได้กลับไปคบกับคนเก่าแน่ๆ เพราะฟังจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มาครับ
ปีนั้นข้าพเจ้าก้ยังถือของครองตัวโสดไปต่อ ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.หลังจากนั้น1ปีกว่าผมก้กลับมาเป็นเพื่อนกันแต่ก้ไม่เคยถามถึงเรื่องนั้นอีกเลยครับ)
""ผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่มุ้งมิ้ง แล้ะ..... ""
หลังจากเรื่องก่อนหน้านี้ผ่านไปได้ เกือบ 2 ปี ตอนนั้นผมจีบเด็กผู้หญิงอีกคนนึงอยู่ครับ และไปได้ดีสะด้วย เพราะเธอโสดอยู่และคุยกับผมคนเดียว เธอบอกว่า "สบายใจและมีความสุข ที่ได้คุยกับผม" ก่อนหน้าวันๆนั้น ผมเตรียมของขวัญเป็นตุ๊กตาหมีสีขาวฟรุ้งฟริ้งครับใส่กล่องเตรียมไว้อย่างดี พร้อมกับดอกไม้อีกนิดหน่อย และแล้ววันนั้นก็มาถึง 14 กุมภาพันธ์ ผมเตรียมของไว้ในห้องเรียน กะว่าตอนกลางวันจะเอาไปให้ผมนี่เดินไปสำรวจก่อนเลยครับ ว่าเธอมาเรียนไหมน๊าาา(แอ๊บเดินไปดูก่อน หุหุ) ก้ไปถามๆ เพื่อนเธอครับเพราะไปตอนนั้นผมไม่เจอเธอ พอฟังจากเพื่อนเธอ ผมก้อ้า โอเครคับ เธอไม่ได้มาโรงเรียน . . . . .
เหยดดดดดดดดดดดดดดเขร้ อดให้ครัช เลยไม่กล้าสารภาพรักเลย สุดท้ายทอมได้เธอไปครอบครองสมใจ
ปีนั้นข้าพเจ้า ก็แห้วกระป๋อง ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.บางครั้งผมก้ยังแอบๆคุยกันบ้าง แต่ก้ตกลงเป็นพี่น้องกันครับ)
""ความไม่แน่ไม่นอน มันเป็นเสน่ห์ของชีวิต""
ผมโดนปฏิเสธ แต่ผลไม่เป็นไปตามนั้นครับ ใช่ครับทุกครั้งที่เราโดนปฏิเสธ ใช่ว่าเราจะหมดหวังทุกครั้งไป ความรักบางครั้งก็ทดสอบเราเสมอๆครับ
จนวันนี้ใกล้จะครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันแล้วครับ
เรื่องนี้ข้อไม่ลงรายละเอียดนะครับ เนื่องจากเสี่ยงต่อชีวิตผม หุหุ
"แต่เอาไว้ถ้ากระทู้นี้ได้เป็นกระทู้แนะนำและทำให้แฟนคนปัจจุบันผมเห็นได้" ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียด พร้อมกับความจริง และความในใจทั้งหลายให้ฟังนะครับ
สรุปแล้ว มันเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่เรามีให้กันครับ บางครั้งมันอาจไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ ก็ได้อาจจะเป็นคำพูดดีๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกดีก็พอครับ และอาจไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน ก้ได้ครับที่เราจะแสดงความรักออกไป (แต่ต้องไม่ใช่แฟนคนอื่นนะ ไม่งั้นเดียวหัวแตก) ผมเคยเชื่อว่า การรักกันต้องแสดงออก โดยผ่านทางวัตถุ แต่ตอนนี้เราสองคนก้รักกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีวัตถุใดๆ มาเป็นสื่อกลางครับ แน่นอนว่า คนมีคู่ ล้วนเคยเป็นคนโสด ซึ่งแปลว่า คนโสดในวันนี้ จะกลายเป็นคนมีคู่ในวันหน้า หากท่านท้อแท้ ผิดหวัง หมดหวัง ในเรื่องใดๆ ก็ตามแต่ ผม และพ่อแม่ของท่าน จะคอยเป็นกำลังใจให้นะครับ
ปล.เรื่องที่เล่า โคตรชีวิตจริงของผมเลยครับ
ปล1.คนโสดอย่าเศร้า ไปเลย หึหึหึหึหึ ซักวันก้มีคู่เองแร่ะครับ ไม่ได้เยาะเย้ยเยยน้าาา
ปล2.ใครขี้เกียจอ่านเพราะมันเยอะ เลยกะเลื่อนมาอ่านคอมเม้นหรือสรุปตอนท้าย เดะจับดีดหูเลยครับ
ปล3.จะวันวาเลนไทน์ แล้วเว้ยยย คิคิ ไปเตรียมของขวัญให้แฟนแปปปปปปปป
วาเลนไทน์แล้วไง คนโสดไม่ต้องเศร้า เพราะคนมีคู่จะเล่าให้ฟัง
"วันวาเลนไทน์ = แล้วไง มันแค่วันธรรมดาวันนึง" อุ้ต้ะ ! เหตุผลยอดฮิตที่แสนเฉ๊ยเฉยยย ที่คนโสด ทั้งหลายล้วนเคยได้ยินและ(อาจจะ)ใช้คำนี้ ในวันนั้น(เกือบ)ทั้งนั้น - 0-
อ้ะๆ ใจเยนๆ เราไม่ได้มาหาเรื่อง เพียงแต่เราจะมาเล่าอะไรให้ฟังๆ ขอเกริ่นก่อนว่า วันวาเลนไทน์ มันคือวันแห่งความรัก !!???
เอ . . . ฟังๆ ดูคำนี้มันสั้นและก็ใช่ความหมายของมันแล่ะเนอะ หลายๆ คนเข้าใจว่า มันเป็นวันที่คนมีคู่จะจู๋จี๋ๆ อ้ะฮ้าๆ กัน หรือเป็นวันฤกษ์งามยามดี ที่จะได้ขอคนนู้นนี้ เป็นแฟน และเป็นวันที่คนโสดจะหาอะไรทำ แล้วก้บอกกับตัวเองว่า "หึ ความรักเจ้าเอ๋ย ไม่มีเจ้าข้าก้อยู่ได้ I don't careeeeeeee !! "
แต่ความจริงแล้ว มันคือ "วันแห่งการแสดงออกซึ่งความรัก" ครับผม
คนที่อ่านกระทู้นี้อยู่ ผมเชื่อว่า ล้วนเคยโสดกันมาทั้งนั้น (หรือบางคนยังติดใจเป็นอยู่) และบางคนเคยอกหักในวันนี้ . . . หึหึหึหึ
ผมก้เคยครับ ขอเล่าแยกๆ เป็นปีๆ(ที่สำคัญ) นะครับ
""ถึงแม้รักแท้แพ้ระยะทาง แต่รักข้างๆมันก้แพ้ คนที่เธอรักนั่นละว้า""
ผมเคยจีบเด็กผุ้หญิง คนนึงครับ เราเรียนพิเศษที่เดียวกัน ผมจำได้ว่าวันนั้นก่อนวันวาเลนไทน์ ผมหาซื้อดอกไม้(เป็น100ดอก) เตรียมไว้เซอไพรส์เธอครับ
วัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีนั้น ผมไปดักรอเธอ (เตรียมของขวัญวางไว้ตำแหน่งที่คาดการณ์ กะจะเซอไพรส์และขอเป็นแฟน) แล้ะแอ๊บทำเนียนชวนคุยไปเรื่อยๆ อารมณ์แบบว่า #ตื่นเต้นจังวุ้ย ก่อนหน้าที่จะถึง ผมถามคำถามนึงครับว่า "เข้าไปเรียนที่กรุงเทพ เสา-อาทิต ไม่เหงาแย่หรอ" (น่านนน แย๊บๆดูก่อน) เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วก้มองมาที่ผมพร้อมกับบอกว่า "ไม่เหงาหรอก" ผมนี่ใจเต้นตึกตักๆ เลยครับ เลยถามต่อไปว่า "ทำไมหรอ ?"
วาเลนไทน์ ในปีนั้นก้ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.ดอกกุหลาบแจกเพื่อนทุกคนตามระเบียบครับ)
"นี่สิ่น้ะ คนแรกของข้า"
2 ปีเต็มมม เหยดดดดดดดด 2ปีเต็มครับ ผมตามจีบเธอคนนี้อยู่ แต่ไม่กล้าบอกรักหรือทำอะไรกะตุกกะตัก(เอ้ะ?) เพราะเธอมีชายอื่นครอบครองเธออยู่น่ะสิ่ครับ แน่นอนผมจีบก่อน ผมแห้วก่อน แล้ะเหมือนยังคอยเธออยู่(หน้าด้านครับ555555) จนวันนึง ซึ่งเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นข่าวที่ผมอ่านเจอผ่านหน้า เฟรสสสสสบุ๊คคึ! เธอเลิกกันแล้ว . . . ผมนี่ใจหายวาบเพราะสงสารเธอเลยครับ(คนมันรักนี่ครับ แม้ไม่ได้ครอบครองก้ยังอยากเหนเธอมีความสุข) ผมก้เลยเป็นที่ปรึกษาให้เธอทุกอย่าง จนวันนั้นมาถึง 14 กุมภาพันธ์ ปีนั้นแล ตอนกลางคืนผมโทรคุยกับเธอครับ(เหยดดดด รอบนี้ได้โทรคุยวุ้ย) ก้คุยไปเรื่อยเปื่อยครับ จนสุดท้ายผมเลยตัดสินใจ "เรารักเธอน้ะ รักมานานแล้วด้วย เป็นแฟนกับเราได้ไหม เราไม่อยากเห็นเธอต้องเป็นทุกข์อีกแล้ว ถ้าหัวใจเธอมันพังไปเพราะคนนั้น คนๆนี้จะซ่อมมันเอง ซ่อมจนกว่ามันจะกลับมาพองโตเหมือนเดิม" อื้อหือออออ ผมนี่ลุกขึ้นพูดว่าเสี่ยวสรัสเลยครับ (แต่พูดไปประมาณนี้แล่ะ) เธอเงียบไป 3-5 วิ จนผมต้องพูดฮัลโหลครับ เธอก้ตอบผมกลับมาว่า "อื้อ ! ได้สิ่ แต่ว่าตอนนี้ขอเราทำใจแปปนึงน้ะ เรายังทำใจจากคนนั้นไม่ค่อยได้เลย ไม่นานหรอก ช่วยรอหน่อยน้ะ" โอ้ว โหรววววววววววววววววววววว ผมนี่ลุกขึ้นปีนขึ้นไปขยับจานสัญญาณโทรทัศน์เลยครับ หลังจากคำนั้นผมบอกเธอว่าเดียวมาแปปนึงน้ะ แล้วก้กระโดดรอบเต้นไปทั่วบ้าน พร้อมกับพูดประมาณว่า "กุจะมีแฟนแล้วเว้ยยยยย" บอกตรงๆวินาทีนั้นดีใจมากครับ หลังจากที่ไม่มีแฟนมานานโข หลังจากวันนั้นครับ . . . เธอหายไป . . . ห้ะ !??? ก็บอกว่าเธอหายไปไงร๊าาาา ห๊าาาา !!????? เธอหายไปเลยครับ โทรไปไม่รับ เฟสไปอ่านไม่ตอบ โอ้วจอร์ หอร์น จ๊อด ผมโดนเซอไพรส์กลับครับ หัวใจผมนี่พังแทนเลยครับ ผมเลยสืบทุกวิถีทางว่าเกิดอะไรขึ้น ก้ไม่ทราบได้เลยครับ แน่นอนว่าเธอไม่ได้กลับไปคบกับคนเก่าแน่ๆ เพราะฟังจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มาครับ
ปีนั้นข้าพเจ้าก้ยังถือของครองตัวโสดไปต่อ ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.หลังจากนั้น1ปีกว่าผมก้กลับมาเป็นเพื่อนกันแต่ก้ไม่เคยถามถึงเรื่องนั้นอีกเลยครับ)
""ผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่มุ้งมิ้ง แล้ะ..... ""
หลังจากเรื่องก่อนหน้านี้ผ่านไปได้ เกือบ 2 ปี ตอนนั้นผมจีบเด็กผู้หญิงอีกคนนึงอยู่ครับ และไปได้ดีสะด้วย เพราะเธอโสดอยู่และคุยกับผมคนเดียว เธอบอกว่า "สบายใจและมีความสุข ที่ได้คุยกับผม" ก่อนหน้าวันๆนั้น ผมเตรียมของขวัญเป็นตุ๊กตาหมีสีขาวฟรุ้งฟริ้งครับใส่กล่องเตรียมไว้อย่างดี พร้อมกับดอกไม้อีกนิดหน่อย และแล้ววันนั้นก็มาถึง 14 กุมภาพันธ์ ผมเตรียมของไว้ในห้องเรียน กะว่าตอนกลางวันจะเอาไปให้ผมนี่เดินไปสำรวจก่อนเลยครับ ว่าเธอมาเรียนไหมน๊าาา(แอ๊บเดินไปดูก่อน หุหุ) ก้ไปถามๆ เพื่อนเธอครับเพราะไปตอนนั้นผมไม่เจอเธอ พอฟังจากเพื่อนเธอ ผมก้อ้า โอเครคับ เธอไม่ได้มาโรงเรียน . . . . .
เหยดดดดดดดดดดดดดดเขร้ อดให้ครัช เลยไม่กล้าสารภาพรักเลย สุดท้ายทอมได้เธอไปครอบครองสมใจ
ปีนั้นข้าพเจ้า ก็แห้วกระป๋อง ด้วยประการละ ฉะนี้แล (ปล.บางครั้งผมก้ยังแอบๆคุยกันบ้าง แต่ก้ตกลงเป็นพี่น้องกันครับ)
""ความไม่แน่ไม่นอน มันเป็นเสน่ห์ของชีวิต""
ผมโดนปฏิเสธ แต่ผลไม่เป็นไปตามนั้นครับ ใช่ครับทุกครั้งที่เราโดนปฏิเสธ ใช่ว่าเราจะหมดหวังทุกครั้งไป ความรักบางครั้งก็ทดสอบเราเสมอๆครับ
จนวันนี้ใกล้จะครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันแล้วครับ
เรื่องนี้ข้อไม่ลงรายละเอียดนะครับ เนื่องจากเสี่ยงต่อชีวิตผม หุหุ
"แต่เอาไว้ถ้ากระทู้นี้ได้เป็นกระทู้แนะนำและทำให้แฟนคนปัจจุบันผมเห็นได้" ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียด พร้อมกับความจริง และความในใจทั้งหลายให้ฟังนะครับ
สรุปแล้ว มันเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่เรามีให้กันครับ บางครั้งมันอาจไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ ก็ได้อาจจะเป็นคำพูดดีๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกดีก็พอครับ และอาจไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน ก้ได้ครับที่เราจะแสดงความรักออกไป (แต่ต้องไม่ใช่แฟนคนอื่นนะ ไม่งั้นเดียวหัวแตก) ผมเคยเชื่อว่า การรักกันต้องแสดงออก โดยผ่านทางวัตถุ แต่ตอนนี้เราสองคนก้รักกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีวัตถุใดๆ มาเป็นสื่อกลางครับ แน่นอนว่า คนมีคู่ ล้วนเคยเป็นคนโสด ซึ่งแปลว่า คนโสดในวันนี้ จะกลายเป็นคนมีคู่ในวันหน้า หากท่านท้อแท้ ผิดหวัง หมดหวัง ในเรื่องใดๆ ก็ตามแต่ ผม และพ่อแม่ของท่าน จะคอยเป็นกำลังใจให้นะครับ
ปล.เรื่องที่เล่า โคตรชีวิตจริงของผมเลยครับ
ปล1.คนโสดอย่าเศร้า ไปเลย หึหึหึหึหึ ซักวันก้มีคู่เองแร่ะครับ ไม่ได้เยาะเย้ยเยยน้าาา
ปล2.ใครขี้เกียจอ่านเพราะมันเยอะ เลยกะเลื่อนมาอ่านคอมเม้นหรือสรุปตอนท้าย เดะจับดีดหูเลยครับ
ปล3.จะวันวาเลนไทน์ แล้วเว้ยยย คิคิ ไปเตรียมของขวัญให้แฟนแปปปปปปปป