ด้วยไม่รู้บุญพาหรือวาสนาส่ง หลังจากที่เป็นติ่งวงนี้ได้จบครบขวบปี ด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่น ทำให้ในที่สุดแล้ว ผมและชาวคณะผู้คลั่งไคล้ BABYMETAL เข้าเส้นก็ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสคอร์นเสิร์ตของวงนี้แบบเต็มๆและถือเป็นคอร์นเสิร์ตใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยจัดมา กับ Legend 2015 -New Year Fox Festival- , BABYMETAL live at Saitama Super Arena เมื่อวันที่ 10/1/2015 ที่ผ่านมา (ซึ่งตั๋วทั้งหมดของผู้เข้าชมนั้นจะเป็นระบบ Lottery คือต้องลงทะเบียนไว้ก่อน แล้วจึงจะมีการสุ่มว่าใครจะมีสิทธิ์ซื้อตั๋วอีกที โหดมาก)
โดยการเดินด้วยสายการบินโลว์คอส (แบบนั่งหลังขดหลังแข็ง) ไปถึงญี่ปุ่นก่อนหน้าวันงาน 1 วัน (9 มกราคม) และสลบไสลเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ในวันรุ่งขึ้น (10 มกราคม) ซึ่งเป็นวันงาน ผมและเพื่อนชาวคณะอีก 5 คนก็มุ่งตรงจากโตเกียวไปยังสถานี Saitama Shintoshin ที่ติดกับ SSA ช่วงสายๆ โดยทันทีที่ไปถึงก็ต้องพบกับกองทัพฝูงชนที่กำลังเข้าคิวซื้อของที่ระลึกหน้าคอร์นเสิร์ต
จากที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือมานานถึงการเข้าคิวระดับ "มหาโหด" ของชาวญี่ปุ่น วันนี้ ผมกับชาวคณะได้ก็ได้มีโอกาสลองลิ้มชิมรสกับแบบเต็มๆแล้ว ด้วยการไปต่อท้ายแถวซื้อของซึ่งต้องวนรอบอารีน่า 2 รอบ และยืนหลังขดหลังแข็งอีกกว่า 4 ชม.กว่าจะไปถึงจุดซื้อของซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสามนาที (เพราะไม่ต้องเสียเวลาเลือกอะไร บอกแค่ว่า "เอาหมดนี่อย่างละชิ้น จนหมดไป 30 กิโลเยนกว่าๆเลยทีเดียว)
ของที่ระลึกหน้าคอร์นเสิร์ต ซึ่งในนี้เองที่ทางผมและคณะเอาเป็นของรางวัลสำหรับการตอบคำถามในเพจกลุ่ม BABYMETAL ✖ THAILAND แฟนเพจของน้องๆที่ช่วยๆกันตั้งขึ้นมาครับ
หลังจากได้ถลุงเงินเยนจนหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่ได้มาเดินดูบรรยากาศรอบๆงานบ้าง บอกได้เลยว่าคอร์นเสิร์ต BABYMETAL นั้นน่าจะเป็นคอร์นเสิร์ตที่มีกลุ่มคนดูแปลกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจากที่เห็น มีทั้งเมทั่ลเฮดผมยาวที่สวมใส่กั๊กติดแพ็ทกางเกงยีนเดฟรัดรูป หนุ่ม-สาวอีโมผมเป๋ กลุ่มโวตะที่มาพร้อมกับแท่งไฟหลากสีแะลชุดเชียร์แบบเต็มยศ คอสเพลเย่อร์ คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยายที่เดินจูงเด็กตัวเล็กๆ รวมถึงหนุ่มสาวนักเรียนนักศึกษาทั่วไป เรียกว่ามีทุกอย่างที่ไม่น่าจะมาอยู่ในที่เดียวกันกลับมาอยู่ในทีเดียวกันได้อย่างน่าแปลกประหลาดเลยทีเดียว
และก่อนที่คอร์นเสิร์ตจะเริ่มให้มีการตั้งแถวก็มีไฮไลต์ที่น่าใจเกิดขึ้นด้วย นั่นคือกลุ่มที่เรียกว่า "The Chosen One" หรือผู้ถูกเลือกซึ่งเป็นสมาชิกของเว็ปไซต์เมมเบอร์ซึ่งได้รับเลือกจากการสุ่มให้เป็นกลุ่มแรกที่ได้เข้าฮอลล์ก่อน ซึ่ง...พวกเขาก็ไม่ได้เข้าก่อนเฉยๆ แต่มาแบบมี "ขบวนแห่" ให้ด้วย โดยทุกคนในขบวนแห่นั้นจะได้รับผ้าคลุมพิเศษ และหนึ่งในคนจากในนั้นทีได้หน้ากากสีทองจะได้รับสิทธิ์ "ขึ้นเกี้ยว" นำขบวนชาว The Chosen One เข้าฮอลล์ไป เป็นภาพที่ดูแล้วแฟนๆธรรมดาต้องอิจฉาตาร้อนไปตามๆกัน (แต่ส่วนตัวผมเฉยๆ เพราะแค่ได้มานี่ก็เกินบรรยายแล้ว 555+)




ขบวนการ The One ที่มีขบวนแห่ไปรอบๆก่อนเข้าฮอลล์ เป็นภาพที่ทำให้แฟนๆหลายคนอิจฉามากเลยทีเดียว
หลังจากขบวนของ The Chosen One ผ่านไป ก็ถึงเวลาที่แฟนธรรมดาๆอย่างพวกผมและชาวคณะต้องเข้าคิวกันบ้าง พวกผมทั้งหมดอยู่ในโซนยืนที่เรียกว่า Mosh'sh Pit Zone (หรือโซนตะลุมบอน 555+) แต่โชคไม่ดีนักที่ทุกคนไม่ได้อยู่โซนเดียวกันหมด โดยผมและอีก 2 คนได้โซน A สาวๆอีก 2 คนได้โซน B กับพี่อีกท่านที่ได้โซน C ซึ่งในที่นี้ ขออธิบายลักษณะการจัดเวทีด้านในฮอลล์ไปในตัวด้วยแล้วกันว่าการจัดเวทีของงานครั้งนี้จะแบ่งโซนยืนเป็น แถวหน้าติดเวทีเป็น A-B ซ้าย-ขวา และโซนด้านหลัง C-D หลัง ทว่ากึ่งกลางจะมีซับเสตจอีกเวทีซึ่งน้องๆออกมาเต้นตรงนี้บ่อยมาก โดยฉากบนเวทีด้านหลังนั้นทำเป็นรูปโบสถ์โบราณซึ่งสวยมากๆ อีกทั้งยังมีสะพานญี่ปุ่นซึ่งใช้ไปเป็นทางเชื่อมระหว่างเวทีด้านซ้าย-ขวา รวมถึงตรงกลาง (ซึ่งยกขึ้นยกลงได้) ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่โซนไหนของ Mosh'sh Pit Zone ทุกคนก็มีโอกาสได้เห็นน้องๆจากระยะประชิดพอๆกันเลยทีเดียว

เวทีอย่างที่บอก นอกจากเวทีด้านหน้าแล้ว ยังมีเวทีซ้าย-ขวา รวมถึงตรงกลางด้วย เรียกว่าใครอยู่ Mosh'sh Pit Zone นี่มีโอกาสได้เห็นจากระยะประชิดหมด
เริ่มคอร์นเสิร์ต
ราว 18.30 น. หลังจากที่วอร์มเครื่องด้วยเพลงเมทั่ลมันๆกันไปชุดใหญ่ ก็ถึงเวลาสำหรับการโชว์ โดยโชว์ครั้งนี้ BABYMETAL นั้นใช้วิดีโอคั่นโชว์เพียงสองตัวคือ Intro ที่กล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมากับก่อนเพลงสุดท้ายที่กล่าวถึงการต่อสู้ของเหล่า The One ในสงครามแห่ง Metal Resistance (และเป็นวิดีโอเกริ่น Wall of Death ใหม่ซึ่งมี Gimmick ที่เจ๋งมากที่เดียว ไว้จะพูดถึงทีหลังแล้วกันนะครับ) นอกนั้นวิดีโอสองตัวนี้แล้วที่เหลือในเวลาประมาณ 2 ชม.นี้คือไลฟ์คอร์นเสิร์ตเน้นๆล้วนๆไม่มีอย่างอื่นเจอปน เริ่มต้นเสียงครวญถึง Kitsune พร้อมกับการประโคมโหมโรงให้กับบนเวทีซึ่งปรากฎรูปโลงศพสามโลงแบบเลเซอร์กราฟฟิค 3 มิติ (สวยมาก) ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏตัวของ SU-METAL,YUIMETAL และ MOAMETAL ในชุดกิโมโนสีดำเดินข้ามสะพานที่ยกลงมาไปยังเวทีกลาง ซึ่งทำให้ทุกคนในมอซพิซโซพากันวิ่งเข้าหาศูนย์กลางกันหมดเพราะต้องการจะดูน้องๆให้ชัดๆเต็มๆตา (ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน 5555+)
และทันทีที่ทั้งสามถอดเสื้อคลุมและการให้จังหวะจากคามิแบนด์ที่ด้านหลัง โชว์ก็เริ่มต้นด้วยเพลงเอกระดับหัวหอก Megitsune! ที่ทำเอาทั้งฮอลล์สะเทือนด้วยการกระโดดพร้อมกันของคนที่อยู่ทั้งข้างบนข้างล่าง ตามด้วยความอลหม่านสุดเหวี่ยงของมอซพิทซ์ที่โผล่มาก็ซัดกันไม่ยั้ง ทำเอาคนที่ยังไม่ทันเตรียมใจมาต้องวิ่งหลบกันจ้าละหวั่นเลยทีเดียว แล้วเสียงร้องในท่อน Sore! Sore! Sore! เองก็แทบจะถูกกลบมิดด้วยเสียงจากคนดูที่พร้อมใจกันตะโกนแบบไม่กลัวคอแตก
สิ้นเพลงแรกไม่ทันถึงสิบวิ พวกเธอและคามิแบนด์ก็ไม่ปล่อยให้คนดูได้มีเวลาพักด้วย Iine! ที่ทำให้คนทั้งฮอลล์ทั้งร้องทั้งเต้นตามกันอย่างสุดเหวี่ยงแบบไม่ขาดตอน โดยเพลงนี้ในท่อนกลางนั้นแอบมีเซอร์ไพรซ์ด้วยการแร็ปซึ่งไม่ได้ทำมาเสียนานก่อนจะ Call & Respond จากคนดูซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก และยิ่งมากไปอีกขั้นด้วยการต่อด้วยเพลงใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ (แต่มีชื่อเรียกจากแฟนๆว่า Bubble Dreamer) ที่มีท่าเต้นน่ารักมากๆ โดยเฉพาะท่าเต้น "อุ้มแตงโม" ซึ่งเข้ากับดนตรีที่เป็นเพลงเมทั่ลร็อคสนุกๆได้เป็นอย่างดี ทำเอาคนดูทั้งยิ้มทั้งหัวเราะแล้วก็กรี๊ดกันไม่ขาด
ผ่านไปสามเพลงสำหรับการเล่นเป็นกรุ๊ปก็มาถึงคราวของโซโล่กันบ้าง เริ่มด้วยเพลงของ SU-META: ลีดเดอร์ของวงอย่าง Akatuski (มาเร็วเกิคาด) เพลงในแบบ Japanese Metal ซึ่งอินโทรด้วยเปียโนก่อนจะเข้าสู่เมทั่ลพาร์ท(ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึง X-Japan) ซึ่งในเพลงนี้นอกจากการร้องที่โดดเด่นแล้ว สิ่งที่มองข้ามไม่ได้และถือเป็นไฮไลต์ของเพลงก็คือทวินโซโล่ของคามิแบนด์ (ในวันนั้นคือ Leda กับ Ohmura) และพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนผิดหวัง ด้วยสำเนียงเฉพาะตัวของแต่ละคนที่ไม่มีใครยอมใครช่วยฉุดอารมณ์ของคนดูให้พุ่งติดเพดาน มีหลายคนทำแอร์กีตาร์ด้วยอารมณ์ที่สุดจะซี๊ด และที่ไม่แพ้กันเลยคือกระแทกกระเดื่องของ Aoyama มือกลองที่สะท้านใจเอาไปเลยเต็มสิบ ยืนฟังนี่เหมือนโดนไม้กระทุ้งอกเลยทีเดียวครับ
ไม้วิ่งถูกผลัด หลังจากโซโล่ผ่านไปก็ถึงคราวของดูโอกับ Onedari Daisuken แร็ปเมทั่ลสไตล์ Limp Bizkit ที่ใครไม่กระโดดตามนี่ตายด้านแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีสาวน้อยน่ารักถึงสองคนคอยเชียร์และกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ ก่อนจะตามมาด้วยเพลงที่เปิดโอกาสให้คามิแบนมด์ที่เป็นแบ็กอัพได้โชว์ของอย่าง Catch me if you และ Uki Uki Midnight ที่มีโชว์ท่าเต้นแมงมุมกับแสงเลเซอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ในท่อนกลาง เรียกว่าเล่นเพลงไหนมาคนดูก็เฮรับได้หมด ไม่มีทีท่าว่าจะดร็อปลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งในเพลงต่อมาซึ่งเป็น Duo อย่าง 4 no uta ที่ทั้ง MOAMETAL และ YUIMETAL ต่างวิ่งพล่านไปทั้งเวที โดยเฉพาะในท่อนกลางที่พวกเธอวิ่งข้ามสะพานไปทั้งเวทีด้านซ้ายหรือขวา รวมถึงเวทีตรงกลางเพื่อเรียกเสียงคนดู ตรงจุดนี้หลายที่ทำท่าหมดแรงเหมือนกำลังจะตายยังต้องโกงความตายลุกขึ้นจากหลุมมาแหกปากมอซเซิร์ฟกันต่อแบบไม่ห่วงอนาคต เรียกว่ามันสุดๆไปเลยครับช่วงนี้ โดยเฉพาะท่อนที่ร้อง Yon Yon นั้น คนดูร้องตามกันกระหึ่ม (อีกแล้ว) จริงๆ
(ต่อ Part 2)
Trip นี้ใจสั่งมา - ประสบการณ์คอร์นเสิร์ตครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกับ BABYMETAL ที่ SSA (10/1/2015)
โดยการเดินด้วยสายการบินโลว์คอส (แบบนั่งหลังขดหลังแข็ง) ไปถึงญี่ปุ่นก่อนหน้าวันงาน 1 วัน (9 มกราคม) และสลบไสลเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ในวันรุ่งขึ้น (10 มกราคม) ซึ่งเป็นวันงาน ผมและเพื่อนชาวคณะอีก 5 คนก็มุ่งตรงจากโตเกียวไปยังสถานี Saitama Shintoshin ที่ติดกับ SSA ช่วงสายๆ โดยทันทีที่ไปถึงก็ต้องพบกับกองทัพฝูงชนที่กำลังเข้าคิวซื้อของที่ระลึกหน้าคอร์นเสิร์ต
จากที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือมานานถึงการเข้าคิวระดับ "มหาโหด" ของชาวญี่ปุ่น วันนี้ ผมกับชาวคณะได้ก็ได้มีโอกาสลองลิ้มชิมรสกับแบบเต็มๆแล้ว ด้วยการไปต่อท้ายแถวซื้อของซึ่งต้องวนรอบอารีน่า 2 รอบ และยืนหลังขดหลังแข็งอีกกว่า 4 ชม.กว่าจะไปถึงจุดซื้อของซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสามนาที (เพราะไม่ต้องเสียเวลาเลือกอะไร บอกแค่ว่า "เอาหมดนี่อย่างละชิ้น จนหมดไป 30 กิโลเยนกว่าๆเลยทีเดียว)
ของที่ระลึกหน้าคอร์นเสิร์ต ซึ่งในนี้เองที่ทางผมและคณะเอาเป็นของรางวัลสำหรับการตอบคำถามในเพจกลุ่ม BABYMETAL ✖ THAILAND แฟนเพจของน้องๆที่ช่วยๆกันตั้งขึ้นมาครับ
หลังจากได้ถลุงเงินเยนจนหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่ได้มาเดินดูบรรยากาศรอบๆงานบ้าง บอกได้เลยว่าคอร์นเสิร์ต BABYMETAL นั้นน่าจะเป็นคอร์นเสิร์ตที่มีกลุ่มคนดูแปลกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจากที่เห็น มีทั้งเมทั่ลเฮดผมยาวที่สวมใส่กั๊กติดแพ็ทกางเกงยีนเดฟรัดรูป หนุ่ม-สาวอีโมผมเป๋ กลุ่มโวตะที่มาพร้อมกับแท่งไฟหลากสีแะลชุดเชียร์แบบเต็มยศ คอสเพลเย่อร์ คุณพ่อคุณแม่ คุณตาคุณยายที่เดินจูงเด็กตัวเล็กๆ รวมถึงหนุ่มสาวนักเรียนนักศึกษาทั่วไป เรียกว่ามีทุกอย่างที่ไม่น่าจะมาอยู่ในที่เดียวกันกลับมาอยู่ในทีเดียวกันได้อย่างน่าแปลกประหลาดเลยทีเดียว
และก่อนที่คอร์นเสิร์ตจะเริ่มให้มีการตั้งแถวก็มีไฮไลต์ที่น่าใจเกิดขึ้นด้วย นั่นคือกลุ่มที่เรียกว่า "The Chosen One" หรือผู้ถูกเลือกซึ่งเป็นสมาชิกของเว็ปไซต์เมมเบอร์ซึ่งได้รับเลือกจากการสุ่มให้เป็นกลุ่มแรกที่ได้เข้าฮอลล์ก่อน ซึ่ง...พวกเขาก็ไม่ได้เข้าก่อนเฉยๆ แต่มาแบบมี "ขบวนแห่" ให้ด้วย โดยทุกคนในขบวนแห่นั้นจะได้รับผ้าคลุมพิเศษ และหนึ่งในคนจากในนั้นทีได้หน้ากากสีทองจะได้รับสิทธิ์ "ขึ้นเกี้ยว" นำขบวนชาว The Chosen One เข้าฮอลล์ไป เป็นภาพที่ดูแล้วแฟนๆธรรมดาต้องอิจฉาตาร้อนไปตามๆกัน (แต่ส่วนตัวผมเฉยๆ เพราะแค่ได้มานี่ก็เกินบรรยายแล้ว 555+)
ขบวนการ The One ที่มีขบวนแห่ไปรอบๆก่อนเข้าฮอลล์ เป็นภาพที่ทำให้แฟนๆหลายคนอิจฉามากเลยทีเดียว
หลังจากขบวนของ The Chosen One ผ่านไป ก็ถึงเวลาที่แฟนธรรมดาๆอย่างพวกผมและชาวคณะต้องเข้าคิวกันบ้าง พวกผมทั้งหมดอยู่ในโซนยืนที่เรียกว่า Mosh'sh Pit Zone (หรือโซนตะลุมบอน 555+) แต่โชคไม่ดีนักที่ทุกคนไม่ได้อยู่โซนเดียวกันหมด โดยผมและอีก 2 คนได้โซน A สาวๆอีก 2 คนได้โซน B กับพี่อีกท่านที่ได้โซน C ซึ่งในที่นี้ ขออธิบายลักษณะการจัดเวทีด้านในฮอลล์ไปในตัวด้วยแล้วกันว่าการจัดเวทีของงานครั้งนี้จะแบ่งโซนยืนเป็น แถวหน้าติดเวทีเป็น A-B ซ้าย-ขวา และโซนด้านหลัง C-D หลัง ทว่ากึ่งกลางจะมีซับเสตจอีกเวทีซึ่งน้องๆออกมาเต้นตรงนี้บ่อยมาก โดยฉากบนเวทีด้านหลังนั้นทำเป็นรูปโบสถ์โบราณซึ่งสวยมากๆ อีกทั้งยังมีสะพานญี่ปุ่นซึ่งใช้ไปเป็นทางเชื่อมระหว่างเวทีด้านซ้าย-ขวา รวมถึงตรงกลาง (ซึ่งยกขึ้นยกลงได้) ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่โซนไหนของ Mosh'sh Pit Zone ทุกคนก็มีโอกาสได้เห็นน้องๆจากระยะประชิดพอๆกันเลยทีเดียว
เวทีอย่างที่บอก นอกจากเวทีด้านหน้าแล้ว ยังมีเวทีซ้าย-ขวา รวมถึงตรงกลางด้วย เรียกว่าใครอยู่ Mosh'sh Pit Zone นี่มีโอกาสได้เห็นจากระยะประชิดหมด
เริ่มคอร์นเสิร์ต
ราว 18.30 น. หลังจากที่วอร์มเครื่องด้วยเพลงเมทั่ลมันๆกันไปชุดใหญ่ ก็ถึงเวลาสำหรับการโชว์ โดยโชว์ครั้งนี้ BABYMETAL นั้นใช้วิดีโอคั่นโชว์เพียงสองตัวคือ Intro ที่กล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมากับก่อนเพลงสุดท้ายที่กล่าวถึงการต่อสู้ของเหล่า The One ในสงครามแห่ง Metal Resistance (และเป็นวิดีโอเกริ่น Wall of Death ใหม่ซึ่งมี Gimmick ที่เจ๋งมากที่เดียว ไว้จะพูดถึงทีหลังแล้วกันนะครับ) นอกนั้นวิดีโอสองตัวนี้แล้วที่เหลือในเวลาประมาณ 2 ชม.นี้คือไลฟ์คอร์นเสิร์ตเน้นๆล้วนๆไม่มีอย่างอื่นเจอปน เริ่มต้นเสียงครวญถึง Kitsune พร้อมกับการประโคมโหมโรงให้กับบนเวทีซึ่งปรากฎรูปโลงศพสามโลงแบบเลเซอร์กราฟฟิค 3 มิติ (สวยมาก) ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏตัวของ SU-METAL,YUIMETAL และ MOAMETAL ในชุดกิโมโนสีดำเดินข้ามสะพานที่ยกลงมาไปยังเวทีกลาง ซึ่งทำให้ทุกคนในมอซพิซโซพากันวิ่งเข้าหาศูนย์กลางกันหมดเพราะต้องการจะดูน้องๆให้ชัดๆเต็มๆตา (ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน 5555+)
และทันทีที่ทั้งสามถอดเสื้อคลุมและการให้จังหวะจากคามิแบนด์ที่ด้านหลัง โชว์ก็เริ่มต้นด้วยเพลงเอกระดับหัวหอก Megitsune! ที่ทำเอาทั้งฮอลล์สะเทือนด้วยการกระโดดพร้อมกันของคนที่อยู่ทั้งข้างบนข้างล่าง ตามด้วยความอลหม่านสุดเหวี่ยงของมอซพิทซ์ที่โผล่มาก็ซัดกันไม่ยั้ง ทำเอาคนที่ยังไม่ทันเตรียมใจมาต้องวิ่งหลบกันจ้าละหวั่นเลยทีเดียว แล้วเสียงร้องในท่อน Sore! Sore! Sore! เองก็แทบจะถูกกลบมิดด้วยเสียงจากคนดูที่พร้อมใจกันตะโกนแบบไม่กลัวคอแตก
สิ้นเพลงแรกไม่ทันถึงสิบวิ พวกเธอและคามิแบนด์ก็ไม่ปล่อยให้คนดูได้มีเวลาพักด้วย Iine! ที่ทำให้คนทั้งฮอลล์ทั้งร้องทั้งเต้นตามกันอย่างสุดเหวี่ยงแบบไม่ขาดตอน โดยเพลงนี้ในท่อนกลางนั้นแอบมีเซอร์ไพรซ์ด้วยการแร็ปซึ่งไม่ได้ทำมาเสียนานก่อนจะ Call & Respond จากคนดูซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก และยิ่งมากไปอีกขั้นด้วยการต่อด้วยเพลงใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ (แต่มีชื่อเรียกจากแฟนๆว่า Bubble Dreamer) ที่มีท่าเต้นน่ารักมากๆ โดยเฉพาะท่าเต้น "อุ้มแตงโม" ซึ่งเข้ากับดนตรีที่เป็นเพลงเมทั่ลร็อคสนุกๆได้เป็นอย่างดี ทำเอาคนดูทั้งยิ้มทั้งหัวเราะแล้วก็กรี๊ดกันไม่ขาด
ผ่านไปสามเพลงสำหรับการเล่นเป็นกรุ๊ปก็มาถึงคราวของโซโล่กันบ้าง เริ่มด้วยเพลงของ SU-META: ลีดเดอร์ของวงอย่าง Akatuski (มาเร็วเกิคาด) เพลงในแบบ Japanese Metal ซึ่งอินโทรด้วยเปียโนก่อนจะเข้าสู่เมทั่ลพาร์ท(ทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึง X-Japan) ซึ่งในเพลงนี้นอกจากการร้องที่โดดเด่นแล้ว สิ่งที่มองข้ามไม่ได้และถือเป็นไฮไลต์ของเพลงก็คือทวินโซโล่ของคามิแบนด์ (ในวันนั้นคือ Leda กับ Ohmura) และพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนผิดหวัง ด้วยสำเนียงเฉพาะตัวของแต่ละคนที่ไม่มีใครยอมใครช่วยฉุดอารมณ์ของคนดูให้พุ่งติดเพดาน มีหลายคนทำแอร์กีตาร์ด้วยอารมณ์ที่สุดจะซี๊ด และที่ไม่แพ้กันเลยคือกระแทกกระเดื่องของ Aoyama มือกลองที่สะท้านใจเอาไปเลยเต็มสิบ ยืนฟังนี่เหมือนโดนไม้กระทุ้งอกเลยทีเดียวครับ
ไม้วิ่งถูกผลัด หลังจากโซโล่ผ่านไปก็ถึงคราวของดูโอกับ Onedari Daisuken แร็ปเมทั่ลสไตล์ Limp Bizkit ที่ใครไม่กระโดดตามนี่ตายด้านแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีสาวน้อยน่ารักถึงสองคนคอยเชียร์และกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ ก่อนจะตามมาด้วยเพลงที่เปิดโอกาสให้คามิแบนมด์ที่เป็นแบ็กอัพได้โชว์ของอย่าง Catch me if you และ Uki Uki Midnight ที่มีโชว์ท่าเต้นแมงมุมกับแสงเลเซอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ในท่อนกลาง เรียกว่าเล่นเพลงไหนมาคนดูก็เฮรับได้หมด ไม่มีทีท่าว่าจะดร็อปลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งในเพลงต่อมาซึ่งเป็น Duo อย่าง 4 no uta ที่ทั้ง MOAMETAL และ YUIMETAL ต่างวิ่งพล่านไปทั้งเวที โดยเฉพาะในท่อนกลางที่พวกเธอวิ่งข้ามสะพานไปทั้งเวทีด้านซ้ายหรือขวา รวมถึงเวทีตรงกลางเพื่อเรียกเสียงคนดู ตรงจุดนี้หลายที่ทำท่าหมดแรงเหมือนกำลังจะตายยังต้องโกงความตายลุกขึ้นจากหลุมมาแหกปากมอซเซิร์ฟกันต่อแบบไม่ห่วงอนาคต เรียกว่ามันสุดๆไปเลยครับช่วงนี้ โดยเฉพาะท่อนที่ร้อง Yon Yon นั้น คนดูร้องตามกันกระหึ่ม (อีกแล้ว) จริงๆ
(ต่อ Part 2)