ทำยังไงดีครับ มีภรรยาโง่ (มีโอกาสทำให้ลูกบาดเจ็บ) ผมท้อมาก

ขออนุญาติซ่อน ข้อความสักระยะน่ะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านจบแล้วรู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะคะ และเข้าใจจขกท.ในระดับนึง
ตัวเราเองเป็นคนคิดอะไรรอบด้านเพราะมาจากครอบครัวที่พ่อทำธุรกิจ ไม่มีเวลาเลี้ยงดูเลยจริงๆ
ทุกอย่างในชีวิตเราจึงต้องทำและตัดสินใจเองตั้งแต่เด็กๆ กินอะไร เรียนอะไร เลือกอะไร แก้ปัญหาอย่างไร
เวลาโตขึ้นมาเห็นคนรอบข้างทำอะไรผิดพลาดบ่อยๆ  เราก็หงุดหงิดเหมือนกัน  
เราพอเข้าใจว่าการอยู่กับคนที่คิดแต่อะไรง่ายๆ  และทำเรื่องผิดพลาดอยู่ตลอดเวลามันรู้สึกแย่แค่ไหน


เมื่อเกือบ4ปีก่อน เราเคยเจอคนๆนึง เขาคิดและทำอะไรคนละด้านกับเราสุดๆ บางอย่างที่เรามองเห็นไกลๆแล้วว่า ผลลัพท์ของมันต้องแย่แน่ๆ
แต่คุณเชื่อมั้ย คนนั้นเขาเดินหน้าทำต่อไปอย่างไม่รู้เรื่อง และก็พังแบบที่เราคาดการณ์ทุกที บางทีก็มีวิธีการคิดแบบแปลกๆ บอกไม่ถูก
มีวันนึงเราเอาแบบทดสอบจิตวิทยาที่เกี่ยวกับบทบาททางสังคมให้เขาทำเล่นๆ  
ปรากฏว่าเขาทำได้ mechanic มีความหมายถึง คนที่ทำตามคำสั่งได้ดี คนที่ถนัดทำตาม
สุดท้ายเราตัดสินใจไม่เกี่ยวข้องกับคนๆนี้ เพราะรู้สึกว่า มีเรื่องขัดแย้งกันมากเกินไปเกินจะปรับและแก้ไข เหมือนสมองคนละขด
ประสบการณ์ชีวิตก็แตกต่าง ความคิดฝันในอนาคตก็คนละเส้น  จึงไม่รู้จะคุยกันต่อไปทำไมให้มีแต่เรื่องบาทหมางใจกันเปล่าๆ


ที่เล่ามาจนถึงตอนนี้ เราอยากจะสรุปว่า จริงๆแล้วภรรยาจขกท. เธอไม่ได้โง่หรอกค่ะ แต่เธอเป็นคนที่มีชุดความคิดอีกแบบ
มีกลไกในสมองที่ใช้ตัดสินใจอะไรๆในแบบของเธอ คนเรามันต่างกัน การที่ใครเลือกทำเลือกคิดต่างจากเราไม่ได้หมายความว่าโง่
แต่อาจเรียกได้ว่าเธอขาดประสบการณ์ การตั้งครรถ์แบบไม่คาดคิด มีลูกโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน ทำให้แผนในชีวิตเธอเปลี่ยนไปทั้งหมด


มองให้ลึกๆเราว่าคุณเองก็ผิดพลาดพอๆกับภรรยานะ ต้องมีส่วนปรับจูนด้วยกันทั้งคู่
และการแก้ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่คุณคอยเลือก หรือคอยบงการให้ภรรยาทำอะไร ทำด้วยวิธีไหน

เพราะถ้าใช้วิธีนี้เสมอ ภรรยาคุณจะรู้สึกเหมือนถูกลดคุณค่าในตัวตนลง คำตำหนิด่าว่าก็เช่นกัน ต้องเลิกพูด


เราอยากให้ลองใช้วิธีนี้แทน  

1. ให้ภรรยาเรียนรู้ที่จะวางแผน และคิดอะไรเป็นขั้นตอน ลองแนะนำให้เธอเห็นจุดบกพร่องของการทำอะไรผิดพลาด
   พูดดีๆกับเธอให้มองเห็นในจุดนั้น หลีกเลี่ยงการตำหนิ หรือคำว่าถูกหรือผิด ให้ใช้คำพูดกลางๆที่เป็นกำลังใจให้  ทำให้เธอเห็นว่าคุณคาดหวัง
   และให้กำลังใจเธอ

2. เพิ่มประสบการณ์ความรู้ให้ จากที่อ่านดูเหมือนภรรยาคุณจะเลี้ยงเด็กได้ไม่ดีนัก ลองพาไปเข้าครอสกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับแม่-ลูก
    หรือทำอารมณ์ดีๆสักวันในวันหยุด พาไปร้านหนังสือดูหมวดเลี้ยงลูก หนังสือจิตวิทยาเด็ก ของเล่นเด็ก หาอะไรที่เป็นแรงบรรดาลใจ
    ในการเป็นแม่ที่มีความสุข

3. ข้อนี้ปรับที่ตัวคุณเอง ลองทบทวนดูว่าก่อนหน้านี้คุณทำอะไรให้ภรรยามีความสุขน้อยลงหรือไม่ ให้เกียรติน้อยลงหรือไม่ ดูแลเอาใจใส่
   หรือถนอมน้ำใจเธอน้อยลงหรือไม่ ลองมองดูข้อเสียและสิ่งไม่ดีของตนเองดูบ้าง เปิดใจและพูดขอโทษภรรยาบ้าง หลังจากนี้จะอยู่กันต่อ
   หรือเลิกกันจะได้ไม่มีปัญหาที่ติดค้างในใจ

เราเขียนมายาวไปสักหน่อย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณนะคะ และขอให้หาทางออกที่ดีได้ละกัน ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 8
ภรรยาคุณถูกเลี้ยงดูมาแบบ มีอะไรใครทำให้หมด (ลูกคุณหนู) และที่ทำผิด ๆ ไม่ใช่เพราะโง่ แต่เพราะเขาไม่เคยทำ และ ทำไม่เป็นจริง ๆ คุณเป็นสามี จะมาคิดว่า เขาทำเป็นทุกเรื่องไม่ได้ คุณสั่งอย่างไร เขาก็พยายามทำอย่างนั้น คุณต้องบอกละเอียดทุกขั้นตอน คุณหนู ที่ไม่เคยทำอะไรเอง บางทีก็ไม่รู้ว่า ทำแบบนั้นแล้วมันผิด (เพราะไม่เคยทำ และ ไม่มีใครว่า) อย่าเช่น กางเกงใน ผ้าอนามัย วางที่บ้าน เดี๋ยวก็มีคนรับใช้ คอยตามเก็บ คอยเอาไปตาก เอาไปรีด พับใส่ตู้ไว้ให้ แต่พอมากับคุณ ก็เคยตัว คุณต้องค่อย ๆ สอนว่า ตอนนี้คุณ ออกมามีสามีแล้ว ออกมาอยู่แบบไม่มีเงินเหมือนเดิมแล้ว จะคอยเอาคนรับใช้ หรือ พ่อแม่มาบริการไม่ได้แล้ว คุณต้องค่อย  ๆ หัดทำงานบ้าง ค่อย ๆ ฝึก บอกเขาละเอียดทุกเรื่อง ไม่ใช่คอยแต่โมโห และ ต่อว่าว่าภรรยาโง่ตลอด คนมันไม่เคย บางทีไม่ได้โง่ครับ ผมว่าคุณมีส่วนผิดที่เอาเขาแล้วไม่ป้องกัน ทำให้เขาต้องมาใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ถ้าคุณป้องกัน เขาก็ไม่ท้อง และ ก็ไม่ได้แต่งกับคุณ​เขาอาจจะไปเจอคนที่ระดับใกล้เคียงกัน และ สามารถใช้ชีวิตแบบเดิมแบบลูกคุณหนูต่อไปในบ้านสามีที่ใกล้เคียงกันได้ แต่ในเมื่อคุณ ทำเขาจนมีลูกแล้ว คุณต้องพัฒนาเขาไปอีกขั้นหนึ่ง ของแบบนี้มันฝึกกันได้ครับ ไม่ใช่ว่า ทุกคนจะรู้ บางคนถูกเลี้ยงมาโดยไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ทำมันผิดครับ คุณต้องคุยกับเขา สอนเขาครับ ไม่ใช่คิดเองว่าเขาจะรู้ครับ อ้อ ...​ถ้าเลิกกัน ลูกเป็นสิทธิ์ของภรรยาครับ คุณไม่มีสิทธิ์ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่