สวัสดีค่า ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า เรื่องที่เค้าไล่เราเกิดเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่เเล้ว ตอนนี้เรื่องจบเเล้ว หย่าเรียบร้อยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเเล้วนะคะ เเต่อยากเเชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นวิทยาทาน สำหรับคนที่คิดจะแต่งงานค่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่า ขอย้อนไปซักหน่อยนะคะ
คือเราเจอเค้าในงานเเต่งของเพื่อนบ้านเราเมื่อปลายปี55 ซึ่งบังเอิญเป็นญาติเค้านะคะ (เรื่องตอนเริ่มเหมือนละครนิสนึง เเต่เป็นเรื่องจริงทั้งหมดค่ะ) คือเจ้าบ่าวโยนตุ๊กตาในงานเพื่อให้หนุ่มโสดเอามามอบให้สาวที่ตัวเองเล็งไว้ในงานเเต่ง ใช่เลย เค้าได้ตุ๊กตา เเล้วเอามาให้เรา เราตกใจมาก เพราะไม่รู้จักเค้าเลย อีกทั้งหน้าตา บุคลิกไม่เข้าสเป็คซักนิดเดียว ดูเชยๆ ดูซื่อๆ (เน้นว่า ดูจากภายนอกนะคะ555)เป็นอาเฮียๆอ้วนๆใส่เเว่น มารู้ทีหลังว่าเค้าอายุน้อยกว่า2ปีเเหนะ เราอายุ29ตอนเจอเค้า เรานึกว่าให้ขำๆก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ญาติเค้าก็มาเชียร์ คือจริงๆเเล้วเค้าขอให้ญาติช่วยเชียร์ เราก็ไม่ได้คบใครช่วงนั้นเเต่มีคุยๆก็เลยคุยด้วย เเล้วเค้าก็จีบเรามาเรื่อยๆ ประมาณ 3เดือนเราก็ตกลงเป็นเเฟน มารู้ทีหลังจากที่เค้าไล่เราออกมาเเล้ว ว่าจริงๆเค้ามีเเฟนอยู่อยู่เเล้วเเละถึงขั้นที่คุยเรื่องเเต่งงานเเล้วด้วย ตอนจีบเค้าเป็นคนดีมาก เทคเเคร์ดี ขับรถรับส่ง พาไปกินข้าวแพงๆ ระดับมิชลิน ถึงขั้นล้างเท้าให้เราเลยก็มี เว่อร์มากกกกก เเละด้วยความที่เราเป็นคนตรงๆจึงไม่คิดว่าเค้าจะปิดบังอะไรเหมือนกัน เค้าเป็นคนไม่เล่นเฟสบุ๊คค่ะ สาวๆระวังหน่อยนะคะ ถ้าใครไม่เล่นนี่ เช็คนิดนึงก็ดี เพราะจริงๆเเล้วเค้าเพิ่งปิดเฟสวันที่เราเจอกัน เเฟนเก่าเค้าบอกว่า เค้ายังไปดำน้ำ ไปอังกฤษด้วยกันอยู่เลยตอนที่เค้าจีบเราเเละเริ่มคบกัน เราไม่เอะใจเลยด้วยความไม่จุกจิกของเรา เพราะเชื่อคำเค้าตลอด ว่าไปดำน้ำคนเดียวอะไรเเบบนี้ จากนั้นไม่นานเค้าก็ถามเรื่องเเต่งงาน เราตกใจบอกว่าเราอยากอยู่เเบบนี้ ไม่ต้องเเต่งงาน เป็นเเฟนกันก็พอ ถ้า30เเล้วเราคงไม่เเต่ง สบายดี เค้าก็เอาเลยค่า ยกแม่เเละญาติผู้ใหญ่มาขอเลยคร่าาาาา (พ่อเสียไปนานเเล้ว) เราก็คิดนะว่าถ้าเค้าเป็นคนดีเเบบนี้ตลอดไปเราก็โอเค ดูๆจากหน้าที่การงานก็ดูมั่นคง เราก็ไม่ได้คิดจะเเต่งเพราะเค้ารวยหรือมีเงินเยอะเพราะเราก็ทำงาน เเต่ค่ะเเต่!!!!! มันไม่ใช่หนะสิคะ เพิ่งมารู้ตอนเเต่งเเล้วว่าเค้าไม่ใช่หุ้นส่วนหรือเจ้าของโรงงาน เเต่ด้วยความเป็นหลาน เค้าทำงานเป็นเซลล์เงินเดือน35,000 เเต่วางมาดเหมือนเป็นเจ้าของ ที่เเท้เบิกได้หมดค่ะ ค่าน้ำมัน ค่าข้าวเเพงๆ ค่าใช้จ่ายของเค้าโรงงานออกหมดตั้งเเต่รถยนต์ ค่าเล่าเรียน คือเลี้ยงดูเค้าเเทนพ่อเค้าที่เสียไปเลยเเหละ ตอนเเรกไม่รู้เราก็ชื่นชมเเม่เค้ามากเลยนะว่าเก่งมาก เเต่................ ช่างเเม่เค้าดีกว่า
ลืมบอกว่าเค้าไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยมีสังคม(ตอนนี้ไม่สงสัยละ ก่อเรื่องไว้เยอะนี่เอง) เรียนจบบัญชีมหาลัยอันดับต้นๆ ทำบัญชี เเละคิดเเต่เรื่องเงินทองตลอด เเถมเจ้าคิดเจ้าเเค้นญาติผู้ใหญ่ ไม่มีศิลปะตั้งเเต่การเลือกเสื้อผ้าหน้าผมยันของทุกอย่าง ต่างกับเราลิบลับ เราเป็นคนเปิดเผย เพื่อนเยอะ กิจกรรมเเยะ ติสเเตก บัญชีคิดไม่เป็นหรอก ซึ่งเราจะให้เค้าช่วยเหลือเรื่องนี้ตลอด เพราะคิดว่าเค้ารอบคอบกว่า
เราเเต่งงานกันปี56 ใช่ค่ะคบกันไม่นานเลย เวลาไม่สำคัญสำหรับเราค่ะ ตั้งเเต่เเต่งงานก็เพิ่งรู้ว่าครอบครัวเค้าไม่ใช่อย่างที่คิดค่ะ พูดจาไม่ดีใส่กัน ต่างจากบ้านเรา เรานี้คิดถึงบ้านมากกก ดีนะที่เเรกๆเเต่งไปยังกลับมาทำงานที่บ้านอยู่ อยู่ไปเค้าเริ่มเปลี่ยนทีละนิด จนเรารู้สึกว่าเค้าไม่เหมือนเดิมเลย เเต่เเม่เค้าก็จะย้ำตลอดว่า "อย่าคิดมากกกก ผู้ชายเเต่งงานเเล้วก็แบบนี้ ไม่เหมือนเดิมหรอก เราเป็นผู้หญิงอย่าเก่งเกิน อย่าข่มผัว "- -' คือ บังเอิญว่าเก่งกว่าในคนละด้าน เเต่มันเกี่ยวกันมั๊ย ความคิดโบราณจัง จนเราท้องค่ะ หลังจากที่เราท้องเค้าก็บอกให้เราประหยัด คือเราก็ประหยัดอยู่เเล้วนะ เพราะกำลังเก็บเงินเปิดร้านด้วย งานบ้านก็ต้องทำ ผ้าก็ต้องซัก งานก็ต้องทำ พอท้องเราก็เเพ้ท้องเเละหยุดทำงานตอนท้อง3เดือน เค้าก็มาด่าเราว่า "เธอมันเป็นคนไร้รายได้" เอ่อ คือ ตอนนั้นเสียใจมาก เเต่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราก็มีเงินเก็บเพียงพอเลยเเละยังมีรายได้เล็กๆน้อยๆพอใช้ได้สบายๆ โดยไม่ต้องขอเงินเค้าด้วย
เอาลูกเข้านอนก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อ
โดนสามีไล่ออกจากบ้าน เเละทวงสินสอดทองหมั้น ตอนตั้งท้อง4เดือน
คือเราเจอเค้าในงานเเต่งของเพื่อนบ้านเราเมื่อปลายปี55 ซึ่งบังเอิญเป็นญาติเค้านะคะ (เรื่องตอนเริ่มเหมือนละครนิสนึง เเต่เป็นเรื่องจริงทั้งหมดค่ะ) คือเจ้าบ่าวโยนตุ๊กตาในงานเพื่อให้หนุ่มโสดเอามามอบให้สาวที่ตัวเองเล็งไว้ในงานเเต่ง ใช่เลย เค้าได้ตุ๊กตา เเล้วเอามาให้เรา เราตกใจมาก เพราะไม่รู้จักเค้าเลย อีกทั้งหน้าตา บุคลิกไม่เข้าสเป็คซักนิดเดียว ดูเชยๆ ดูซื่อๆ (เน้นว่า ดูจากภายนอกนะคะ555)เป็นอาเฮียๆอ้วนๆใส่เเว่น มารู้ทีหลังว่าเค้าอายุน้อยกว่า2ปีเเหนะ เราอายุ29ตอนเจอเค้า เรานึกว่าให้ขำๆก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ญาติเค้าก็มาเชียร์ คือจริงๆเเล้วเค้าขอให้ญาติช่วยเชียร์ เราก็ไม่ได้คบใครช่วงนั้นเเต่มีคุยๆก็เลยคุยด้วย เเล้วเค้าก็จีบเรามาเรื่อยๆ ประมาณ 3เดือนเราก็ตกลงเป็นเเฟน มารู้ทีหลังจากที่เค้าไล่เราออกมาเเล้ว ว่าจริงๆเค้ามีเเฟนอยู่อยู่เเล้วเเละถึงขั้นที่คุยเรื่องเเต่งงานเเล้วด้วย ตอนจีบเค้าเป็นคนดีมาก เทคเเคร์ดี ขับรถรับส่ง พาไปกินข้าวแพงๆ ระดับมิชลิน ถึงขั้นล้างเท้าให้เราเลยก็มี เว่อร์มากกกกก เเละด้วยความที่เราเป็นคนตรงๆจึงไม่คิดว่าเค้าจะปิดบังอะไรเหมือนกัน เค้าเป็นคนไม่เล่นเฟสบุ๊คค่ะ สาวๆระวังหน่อยนะคะ ถ้าใครไม่เล่นนี่ เช็คนิดนึงก็ดี เพราะจริงๆเเล้วเค้าเพิ่งปิดเฟสวันที่เราเจอกัน เเฟนเก่าเค้าบอกว่า เค้ายังไปดำน้ำ ไปอังกฤษด้วยกันอยู่เลยตอนที่เค้าจีบเราเเละเริ่มคบกัน เราไม่เอะใจเลยด้วยความไม่จุกจิกของเรา เพราะเชื่อคำเค้าตลอด ว่าไปดำน้ำคนเดียวอะไรเเบบนี้ จากนั้นไม่นานเค้าก็ถามเรื่องเเต่งงาน เราตกใจบอกว่าเราอยากอยู่เเบบนี้ ไม่ต้องเเต่งงาน เป็นเเฟนกันก็พอ ถ้า30เเล้วเราคงไม่เเต่ง สบายดี เค้าก็เอาเลยค่า ยกแม่เเละญาติผู้ใหญ่มาขอเลยคร่าาาาา (พ่อเสียไปนานเเล้ว) เราก็คิดนะว่าถ้าเค้าเป็นคนดีเเบบนี้ตลอดไปเราก็โอเค ดูๆจากหน้าที่การงานก็ดูมั่นคง เราก็ไม่ได้คิดจะเเต่งเพราะเค้ารวยหรือมีเงินเยอะเพราะเราก็ทำงาน เเต่ค่ะเเต่!!!!! มันไม่ใช่หนะสิคะ เพิ่งมารู้ตอนเเต่งเเล้วว่าเค้าไม่ใช่หุ้นส่วนหรือเจ้าของโรงงาน เเต่ด้วยความเป็นหลาน เค้าทำงานเป็นเซลล์เงินเดือน35,000 เเต่วางมาดเหมือนเป็นเจ้าของ ที่เเท้เบิกได้หมดค่ะ ค่าน้ำมัน ค่าข้าวเเพงๆ ค่าใช้จ่ายของเค้าโรงงานออกหมดตั้งเเต่รถยนต์ ค่าเล่าเรียน คือเลี้ยงดูเค้าเเทนพ่อเค้าที่เสียไปเลยเเหละ ตอนเเรกไม่รู้เราก็ชื่นชมเเม่เค้ามากเลยนะว่าเก่งมาก เเต่................ ช่างเเม่เค้าดีกว่า
ลืมบอกว่าเค้าไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยมีสังคม(ตอนนี้ไม่สงสัยละ ก่อเรื่องไว้เยอะนี่เอง) เรียนจบบัญชีมหาลัยอันดับต้นๆ ทำบัญชี เเละคิดเเต่เรื่องเงินทองตลอด เเถมเจ้าคิดเจ้าเเค้นญาติผู้ใหญ่ ไม่มีศิลปะตั้งเเต่การเลือกเสื้อผ้าหน้าผมยันของทุกอย่าง ต่างกับเราลิบลับ เราเป็นคนเปิดเผย เพื่อนเยอะ กิจกรรมเเยะ ติสเเตก บัญชีคิดไม่เป็นหรอก ซึ่งเราจะให้เค้าช่วยเหลือเรื่องนี้ตลอด เพราะคิดว่าเค้ารอบคอบกว่า
เราเเต่งงานกันปี56 ใช่ค่ะคบกันไม่นานเลย เวลาไม่สำคัญสำหรับเราค่ะ ตั้งเเต่เเต่งงานก็เพิ่งรู้ว่าครอบครัวเค้าไม่ใช่อย่างที่คิดค่ะ พูดจาไม่ดีใส่กัน ต่างจากบ้านเรา เรานี้คิดถึงบ้านมากกก ดีนะที่เเรกๆเเต่งไปยังกลับมาทำงานที่บ้านอยู่ อยู่ไปเค้าเริ่มเปลี่ยนทีละนิด จนเรารู้สึกว่าเค้าไม่เหมือนเดิมเลย เเต่เเม่เค้าก็จะย้ำตลอดว่า "อย่าคิดมากกกก ผู้ชายเเต่งงานเเล้วก็แบบนี้ ไม่เหมือนเดิมหรอก เราเป็นผู้หญิงอย่าเก่งเกิน อย่าข่มผัว "- -' คือ บังเอิญว่าเก่งกว่าในคนละด้าน เเต่มันเกี่ยวกันมั๊ย ความคิดโบราณจัง จนเราท้องค่ะ หลังจากที่เราท้องเค้าก็บอกให้เราประหยัด คือเราก็ประหยัดอยู่เเล้วนะ เพราะกำลังเก็บเงินเปิดร้านด้วย งานบ้านก็ต้องทำ ผ้าก็ต้องซัก งานก็ต้องทำ พอท้องเราก็เเพ้ท้องเเละหยุดทำงานตอนท้อง3เดือน เค้าก็มาด่าเราว่า "เธอมันเป็นคนไร้รายได้" เอ่อ คือ ตอนนั้นเสียใจมาก เเต่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราก็มีเงินเก็บเพียงพอเลยเเละยังมีรายได้เล็กๆน้อยๆพอใช้ได้สบายๆ โดยไม่ต้องขอเงินเค้าด้วย
เอาลูกเข้านอนก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อ