หลังจากใช้เวลาอู้รีวิวกระทู้ภาคต่อมาครบ 1 เดือนเต็ม...
ก็ได้เวลาปิดฉากการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นย่าน Shinjuku / Harajuku และ Akihabara (เปลี่ยนแผนฉับพลัน) กันซักที
สำหรับคนที่อยากรู้ที่มาที่ไป 3 วันแรก ย้อนกลับไปติดตามได้ทาง
โรงแรมติด metro–ตลาดปลา–กินข้าวหน้าปลาไหลอาซากุสะ–Ueno–ฟูจิ front view
http://pantip.com/topic/32935800
This trip hi-light!!
Day 4: Hotel Vintage in Shinjuku (wifi ในห้อง)– ซูซิคุณลุงร้าน Ougi Sushi – Big Camera Shinjuku - Coffee Prince ผู้ชายร้านกาแฟหล่อบอกด้วย – ร้านราเมงเปิดดึก
*ค่าเงินตอนนั้นที่แลกอยู่ที่ 28.56 / 100 เยนนะคะ
หลังจากกลับจากทริปกิน-นอน พักผ่อนสบายๆ 1 วันดูวิวภูเขาไฟฟูจิที่ Kawaguchiko กันแล้ว ก็กลับตะลุยแสงสีกันต่อที่ Shinjuku ค่ะ เหตุผลที่เลือกเปลี่ยนโรงแรมในคืนวันที่ 4-5 ของทริป เพราะมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เลยอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันของแต่ละที่ดู อีกเหตุผลคือเผื่อโชคร้ายได้โรงแรมไม่ดี จะได้ไม่ต้องทนทรมานอยู่ที่เดิมๆ 4-5 คืน หลังจากที่ 2 คืนแรกเลือกโรงแรมติด metro เพื่อเที่ยวตามโซนตะวันออกของโตเกียวแล้ว คราวนี้กลับจากฟูจินั่ง JR เข้า Shinjuku เลยหาที่พักแถวนี้เพื่อเที่ยวย่าน Shinjuku-Harajuku-Yokoyama (ซึ่งมาเปลี่ยนแผนเอาตอนหลัง) น่าจะสะดวกกว่า
พอนั่ง JR มาสถานี Shinjuku เราก็ไป check-in เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Hotel Vintage Shinjuku ซึ่งผิดพลาดเล็กน้อย เพราะดูจาก map เข้าใจว่าสามารถต่อ metro จาก Shinjuku ได้เลยจองที่นี่ พอลองเช็กกับ hyperdia อีกครั้งสรุปว่าต้องเดินค่ะ แต่ก็เดินไม่ไกลนะคะ คือเดินออกมาจาก south gate ประตู 1 ประมาณ 12 นาที โรงแรมจะเงียบสงบอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ทางเดินมี family mart 2 ที่ค่ะ ขนาดวันกลับเรา check out ออกตี 5 ยังมีคนเดิน ไม่เปลี่ยว ไม่มืดเลย
แผนที่
ดองไว้นานก็เลยทำ map โรงแรมหายค่ะ ไปขุดมาจากเว็บฯ
ง่ายๆ เลยค่าออกจากประตู 1 มาเดินทางไปจะเจอร้านกาแฟ Bore Cafe และร้านผลไม้อยู่ตรงไปในซอยข้ามถนนเลี้ยวซ้าย จะเจอถนนที่มีป้ายทางเข้าแบบนี้ ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอโรงพยาบาลซ้ายมือ โรงแรม Hotel Vintage อยู่ด้านขวาค่ะ
โรงแรม Hotel Vintage Shinjuku
ราคาเฉลี่ย 3,084 บาท/คืน
สภาพสวย ใหม่ ไม่โทรมเหมือนรูปใน agoda หรือโบร์ชัวร์ของโรงแรมด้านหน้าดูดีมากๆ แถมสามารถเล่น wifi ได้ในห้องอีกด้วยค่ะ เข้าไปในห้องก็สะอาด เราแจ้งว่าขอห้องไม่สูบบุหรี่ high floor ก็สมใจเพราะได้ชั้น 7 เห็นวิวเล็กน้อยแบบไม่โดนตึกบัง ห้องน้ำสะอาด มีไดร์เป่าผม กาน้ำร้อน ตามปกติค่ะ (เราเข้า check-in ตอนบ่ายโมงนิดๆ กระเป๋ามาถึงแล้ว พนักงานก็ให้ขึ้นห้องได้เลย)
หลังจากเก็บของเสร็จแล้วเริ่มหิว เดินดูร้านอาหารไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่อยากจะมากินหลากหลายเมนูไก่ที่หาใน talebog ว่าขึ้นชื่อของย่านนี้ เลยขอฝากท้องกับร้านซูชิ Ougi Sushi ดีกว่า ราคากำลังดีด้วย (ร้านจะอยู่ซอยด้านหลัง shop Yahoo mobile เล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กับร้านราเมงที่มีบ้านภาษาไทย)
ร้านนี้จะอร่อยสด แต่ไม่หวือหวามากนะคะ
ด้านหน้ากับภายในร้าน
เราสั่งเซทซูชิ 980 เยน ประมาณเกือบ 300 บาท จะสั่งเยอะกว่านี้ก็กลัวกินคนเดียวไม่ไหว อร่อยทุกคำเลยค่ะ
ส่วนของแฟนเป็นข้าวหน้าซาซึมิ (จำราคาไม่ได้ค่ะ)
ด้วยความที่อยากกิน Uni ก็เลยสั่งมา 1 คำ กับซูชิอีก 1 คุณลุงแอบแถมชิ้นเล็กๆ มาให้ด้วย 5555
เมนูของทางร้านนะคะ
อิ่มแล้วก็มาเดินเล่นกันต่อค่ะ ช่วงช้อปปิ้งไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาก พอดีแฟนต้องซื้อไปฝากน้องชายค่ะ เลยเอาแผนที่ Shinjuku ที่ได้จากงานไทยเที่ยวไทยมาฝากนะคะ ในแผนที่บอกได้คร่าวๆ เลยค่ะ มีเปลี่ยนแปลงคือร้าน GU ที่อยู่ใกล้ๆ กับอิเซตัน ตอนนี้เปลี่ยนเป็น MK แล้วค่ะ
แนะนำแหล่งช้อปปิ้งไปที่ตึก Big Camera เลยนะคะ มีของทั้ง GU แบรนด์เครือลูกของ Unico ที่ราคาถูกมาก เราซื้อ heat tech ราคาไม่เกิน 200 บาท รองเท้าผ้าราคา 170 บาท เสื้อเชิ้ตให้น้องชายราคา 300 บาท จะซื้อ Gandum ที่นี่ใช้บัตร VISA จะลดอีก 5% ถ้าซื้อครบ 10,000 เยนเท่านั้นนะคะ แต่ถ้าเน้นซื้อ Gandum ไป Akihabara น่าจะถูกใจกว่า ราคาอาจมีถูกกว่าแพงกว่านิดหน่อยค่ะ
ส่วนร้าน Matsumoto KiYoshi แนะนำให้ไปซื้อแถว Ueno จะดีกว่าเพราะถ้าซื้อครบ 8,000 เยนจะ Free Tax 8% ค่ะ ลองเข้าไปซื้อย่าน Shinjuku แล้วไม่มีโปรโมชั่นนี้ สำหรับร้านแบรนด์เนมมือสอง แนะนำร้าน Komehyo ที่อยู่ตรงข้ามกับอิเชตันนะคะ ดูของแล้วสวยและราคาดีกว่า brand off ค่ะ (ความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ดูราคามานะคะ)
บันทึกการกิน แวะชิมของอร่อยสไตล์เฮ้ลท์ตี้
Facebook:
https://www.facebook.com/healthfactory.hf
IG:
http://instagram.com/healthfactory_hf
[CR] Part 2:เที่ยวโตเกียว 6 วัน 5 คืนบิน TG –รร.ย่าน Shinjuku-Coffee Prince ผู้ชายหล่อบอกด้วย-ข้าวหน้าปลาดิบ Akihabara
ก็ได้เวลาปิดฉากการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นย่าน Shinjuku / Harajuku และ Akihabara (เปลี่ยนแผนฉับพลัน) กันซักที
สำหรับคนที่อยากรู้ที่มาที่ไป 3 วันแรก ย้อนกลับไปติดตามได้ทาง
โรงแรมติด metro–ตลาดปลา–กินข้าวหน้าปลาไหลอาซากุสะ–Ueno–ฟูจิ front view
http://pantip.com/topic/32935800
This trip hi-light!!
Day 4: Hotel Vintage in Shinjuku (wifi ในห้อง)– ซูซิคุณลุงร้าน Ougi Sushi – Big Camera Shinjuku - Coffee Prince ผู้ชายร้านกาแฟหล่อบอกด้วย – ร้านราเมงเปิดดึก
*ค่าเงินตอนนั้นที่แลกอยู่ที่ 28.56 / 100 เยนนะคะ
หลังจากกลับจากทริปกิน-นอน พักผ่อนสบายๆ 1 วันดูวิวภูเขาไฟฟูจิที่ Kawaguchiko กันแล้ว ก็กลับตะลุยแสงสีกันต่อที่ Shinjuku ค่ะ เหตุผลที่เลือกเปลี่ยนโรงแรมในคืนวันที่ 4-5 ของทริป เพราะมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เลยอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันของแต่ละที่ดู อีกเหตุผลคือเผื่อโชคร้ายได้โรงแรมไม่ดี จะได้ไม่ต้องทนทรมานอยู่ที่เดิมๆ 4-5 คืน หลังจากที่ 2 คืนแรกเลือกโรงแรมติด metro เพื่อเที่ยวตามโซนตะวันออกของโตเกียวแล้ว คราวนี้กลับจากฟูจินั่ง JR เข้า Shinjuku เลยหาที่พักแถวนี้เพื่อเที่ยวย่าน Shinjuku-Harajuku-Yokoyama (ซึ่งมาเปลี่ยนแผนเอาตอนหลัง) น่าจะสะดวกกว่า
พอนั่ง JR มาสถานี Shinjuku เราก็ไป check-in เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Hotel Vintage Shinjuku ซึ่งผิดพลาดเล็กน้อย เพราะดูจาก map เข้าใจว่าสามารถต่อ metro จาก Shinjuku ได้เลยจองที่นี่ พอลองเช็กกับ hyperdia อีกครั้งสรุปว่าต้องเดินค่ะ แต่ก็เดินไม่ไกลนะคะ คือเดินออกมาจาก south gate ประตู 1 ประมาณ 12 นาที โรงแรมจะเงียบสงบอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ทางเดินมี family mart 2 ที่ค่ะ ขนาดวันกลับเรา check out ออกตี 5 ยังมีคนเดิน ไม่เปลี่ยว ไม่มืดเลย
แผนที่
ดองไว้นานก็เลยทำ map โรงแรมหายค่ะ ไปขุดมาจากเว็บฯ
ง่ายๆ เลยค่าออกจากประตู 1 มาเดินทางไปจะเจอร้านกาแฟ Bore Cafe และร้านผลไม้อยู่ตรงไปในซอยข้ามถนนเลี้ยวซ้าย จะเจอถนนที่มีป้ายทางเข้าแบบนี้ ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอโรงพยาบาลซ้ายมือ โรงแรม Hotel Vintage อยู่ด้านขวาค่ะ
โรงแรม Hotel Vintage Shinjuku
ราคาเฉลี่ย 3,084 บาท/คืน
สภาพสวย ใหม่ ไม่โทรมเหมือนรูปใน agoda หรือโบร์ชัวร์ของโรงแรมด้านหน้าดูดีมากๆ แถมสามารถเล่น wifi ได้ในห้องอีกด้วยค่ะ เข้าไปในห้องก็สะอาด เราแจ้งว่าขอห้องไม่สูบบุหรี่ high floor ก็สมใจเพราะได้ชั้น 7 เห็นวิวเล็กน้อยแบบไม่โดนตึกบัง ห้องน้ำสะอาด มีไดร์เป่าผม กาน้ำร้อน ตามปกติค่ะ (เราเข้า check-in ตอนบ่ายโมงนิดๆ กระเป๋ามาถึงแล้ว พนักงานก็ให้ขึ้นห้องได้เลย)
หลังจากเก็บของเสร็จแล้วเริ่มหิว เดินดูร้านอาหารไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่อยากจะมากินหลากหลายเมนูไก่ที่หาใน talebog ว่าขึ้นชื่อของย่านนี้ เลยขอฝากท้องกับร้านซูชิ Ougi Sushi ดีกว่า ราคากำลังดีด้วย (ร้านจะอยู่ซอยด้านหลัง shop Yahoo mobile เล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กับร้านราเมงที่มีบ้านภาษาไทย)
ร้านนี้จะอร่อยสด แต่ไม่หวือหวามากนะคะ
ด้านหน้ากับภายในร้าน
เราสั่งเซทซูชิ 980 เยน ประมาณเกือบ 300 บาท จะสั่งเยอะกว่านี้ก็กลัวกินคนเดียวไม่ไหว อร่อยทุกคำเลยค่ะ
ส่วนของแฟนเป็นข้าวหน้าซาซึมิ (จำราคาไม่ได้ค่ะ)
ด้วยความที่อยากกิน Uni ก็เลยสั่งมา 1 คำ กับซูชิอีก 1 คุณลุงแอบแถมชิ้นเล็กๆ มาให้ด้วย 5555
เมนูของทางร้านนะคะ
อิ่มแล้วก็มาเดินเล่นกันต่อค่ะ ช่วงช้อปปิ้งไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาก พอดีแฟนต้องซื้อไปฝากน้องชายค่ะ เลยเอาแผนที่ Shinjuku ที่ได้จากงานไทยเที่ยวไทยมาฝากนะคะ ในแผนที่บอกได้คร่าวๆ เลยค่ะ มีเปลี่ยนแปลงคือร้าน GU ที่อยู่ใกล้ๆ กับอิเซตัน ตอนนี้เปลี่ยนเป็น MK แล้วค่ะ
แนะนำแหล่งช้อปปิ้งไปที่ตึก Big Camera เลยนะคะ มีของทั้ง GU แบรนด์เครือลูกของ Unico ที่ราคาถูกมาก เราซื้อ heat tech ราคาไม่เกิน 200 บาท รองเท้าผ้าราคา 170 บาท เสื้อเชิ้ตให้น้องชายราคา 300 บาท จะซื้อ Gandum ที่นี่ใช้บัตร VISA จะลดอีก 5% ถ้าซื้อครบ 10,000 เยนเท่านั้นนะคะ แต่ถ้าเน้นซื้อ Gandum ไป Akihabara น่าจะถูกใจกว่า ราคาอาจมีถูกกว่าแพงกว่านิดหน่อยค่ะ
ส่วนร้าน Matsumoto KiYoshi แนะนำให้ไปซื้อแถว Ueno จะดีกว่าเพราะถ้าซื้อครบ 8,000 เยนจะ Free Tax 8% ค่ะ ลองเข้าไปซื้อย่าน Shinjuku แล้วไม่มีโปรโมชั่นนี้ สำหรับร้านแบรนด์เนมมือสอง แนะนำร้าน Komehyo ที่อยู่ตรงข้ามกับอิเชตันนะคะ ดูของแล้วสวยและราคาดีกว่า brand off ค่ะ (ความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ดูราคามานะคะ)
บันทึกการกิน แวะชิมของอร่อยสไตล์เฮ้ลท์ตี้
Facebook: https://www.facebook.com/healthfactory.hf
IG: http://instagram.com/healthfactory_hf