ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร?.... หากเพิ่งรู้ว่าแฟนเล่นยา และ ติดเชื้อ ในวันที่คุณรักเขา จนหมดหัวใจ??

ก่อนอื่นต้องบอกว่า นี้เป็นการเขียนกระทู้แรกในชีวิตของผม ตัดสินใจอยู่นานว่าจะโพสต์ดีหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมา บางทีอาจจะยังมีคนอีกหลายคน ที่เผชิญเรื่องราวแบบนี้ เหมือนผมก็ได้....
เรื่องราวที่เกิด ขอรับรองว่ามันคือเรื่องจริง ที่เกิดในชีวิตผม และผมจะเก็บมันไว้ในความทรงจำ ตลอดไปไม่มีวันลืม....

ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ !!!!

เมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน ผมเล่นโปรแกรมหาคู่ ใน social network ของชาวสีม่วง ของชายรักชาย โปรแกรมหนึ่ง ความรู้สึกตอนนั้น คือ ผมอยากหาแฟน อยากหาคนที่จะจริงใจต่อกัน แต่ผมก็พอรู้ ว่า การเล่นอะไรแบบนี้ มันก็มีแค่ sex และ one night stand ไม่มีใครผ่านเข้ามาแล้วคิดจะจริงจังกับมันหรอก แต่ผมกลับคิดต่าง... ผมยังคิดว่าผมอาจจะเจอคนที่เค้าหาอะไรแบบนี้เหมือนกันก็ได้...

และผมก็ได้เจอ ผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ แบงค์(นามสมมติ) ขาว ตี๋ ตามแบบชาวเหนือ ไม่ได้หล่อมาก แต่เขาดูมีเสน่ห์จริงๆ ผมยอมรับเลย... ว่าผมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ผมก็รู้สึกดีใจมาก ที่เขาเองก็ดูๆ เหมือนจะโอเคกับผมเหมือนกัน หลังจากวันนั้นมา เราก็จากกันไป แลกเบอร์โทร แลก line id.... ต่างคนต่างไปมีชีวิตตามทางของตัวเอง ผมเองก็เกือบลืมไปแล้วนะครับว่า... เราเคยคุยกับเขาอยู่
จนประมาณ 2 อาทิตย์ต่อมา ผมว่างๆ นั่งcheck line กะว่าจะเคลียร์ contact list ก็บังเอิญ ไปเจอ line แบงค์พอดี ลองทักไป .... เขาตอบกลับมาด้วย จากนั้นเราก็เริ่มสร้างสัมพันธ์กันเรื่อยๆ มา จากคุยกัน อาทิตย์ละครั้ง เป็น 2-3 วันครั้ง เป็นทุกวันก่อนนอน แล้วสุดท้ายเราก็นัดออกเดทกันครั้งแรก
ผมจำวันออกเดทครั้งแรกของเราได้ไม่ลืมเลย มันเป็นวันที่มีแต่รอยยิ้ม ความสุข เราพูดกันไปมา ชมกันไปมา เรานั่งเล่าเรื่องราวของเรา เปิดใจให้กันจนกระทั้งผ่านไป ผมรู้เรื่องราวชีวิตของเขา เขาเรียนรู้ชีวิตของผม เรารู้จักกันมากขึ้น เรานั่งที่นั้นจน Starbuck ปิด อารมณ์ที่เรายังไม่อยากจากกันเลย แต่ก็รู้สึกดี พอกลับบ้านไป ผมเหมือนคนบ้า เห็นอะไรก็ยิ้มไปหมด โลกทั้งโลก เหมือนสร้างมาให้ผม ว่าในที่สุดผมก็ได้เจอ รักแท้ ผมพูดกับตัวเอง ว่าผมจะดูแลรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ให้เค้าจากไปจริง ( ดูคลั่งๆ มั้ยครับ?55 )
จากนั้นผมกับเขาไปมาหาสู่กับบ่อยขึ้น ผมมากกว่าซิที่จะไปหาเขาที่บ้าน ไปใช้เวลาอยู่ด้วยกัน โอ้ยๆๆ ชีวิตตอนนั้นมันประเสริฐมากที่สุดและครับ....
ทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่มีอะไร... กำลังไปได้สวย!! จนวันนั้น เราอยู่บนห้องนอนกันสองคน เราจับมือเขา เราสบตากัน.... ผมถอดเสื้อเขาออก เขาถอดเสื้อผมออกผมจูบเขา เราจูบกัน ตามองตา แต่!!! เขาผลักผมออก แล้วพูดกับผมว่า " น๊อต(ชื่อผมเอง นามสมมติ) แบงค์ว่าเราอย่าทำแบบนี้เลย... เราไม่อยากเกินเลยไปมากกว่านี้ เวลาที่แบงค์เริ่มรู้สึกดีกับใคร จะมีเรื่องความหวั่นไหวเข้ามาเสมอ " ตอนนั้นผมเองก็ยังงงๆ ว่ากูแค่จูบปาก ดูดนม มันน่าเสียใจตรงไหน ทำเหมือนราวกับว่า เป็นผู้ชายคนแรกของเขา ซะอย่างนั้น อันนี่ในใจผมคิด...
สักพัก น้ำตาเขาไหล ไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง แล้วพูดว่า " แบงค์ เสพยาครับ " (ในหมู่เกย์ จะใช้คำว่า ไฮ , บิน , น้ำแข็ง ) ผมเคยได้ยินมาอยู่บ้าง แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเอง จะได้เจอจริงจังขนาดนั้น แบงค์เล่าผ่านน้ำตาที่อาบทั้งสองแก้ม " แบงค์เสพยาได้สี่ปีกว่าแล้ว อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ เวลาเสพกะจะเล่นกันเป็นกลุ่ม เล่นกันเป็นหมู่ มันให้ความรู้สึก มัน เสียว ปลดปล่อยมาก ทุกคนมีอิสระต่อกัน เอากันได้ ผลัดกันไปมาทั้งวัน ทั้งคืน พอเสพจนได้ที่ ความสุขก็จะเข้ามา ทำให้ลืมทุกอย่าง แต่หลังเลิกยา มันจะค้าง มันจะเศร้า และรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปมาก .... " ตอนนั้นผมฟัง ปนอึ้งๆ รู้สึกว่า ยิ้มมาก แล้วความฝันที่ผมอยากจะรักษาความรักครั้งนี้มันให้ดีล่ะ แล้วเราจะทิ้งเขาไว้ให้ทรมาน กับสิ่งเสพติดแบบนี้หรอ ???

ถ้าคุณเป็นผมวันนั้น สถานการณ์ตรงนั้น คุณจะทำอย่างไร ????

สำหรับผม.... ผมเลือกที่จะเข้าไปกอดเค้าแน่นๆ ผมกอดเขาอยู่นานมาก ประมาณ 5 นาที และกระซิบบอกเค้าข้างๆ หู ว่า "อย่าทิ้งน๊อตไปไหนนะครับ .... แบงค์อยู่ข้างๆ น๊อตนะ น๊อตจะหาทุกทางทำให้คุณหาย ให้คุณเลิกยาให้ได้ เราจะเดินไปด้วยกัน "
เขาร้องไห้ " เขาขอบคุณผม เขาบอกว่า เขาจะรักษารักครั้งนี้ให้ดีที่สุด " คืนนั้น เรานั่งคุยกันจนเกือบตีสาม ผมนั่งลบ line id ของคนที่เสี่ยงที่เขาจะไปเล่นยาด้วย ลบเบอร์ contact list ทุกเบอร์ที่เล่นยา ( เค้าจะเซฟ คำว่า ic ไว้หลังชื่อเล่น ) ลบทุกสื่อที่คิดว่าจะกระตุ้นอารมณ์ความยากที่ทำให้เข้าไปเล่นยาได้... รวมๆ แล้วผมว่า สัก 300 เบอร์เศษเห็นจะได้... เฮ้ออออ!!! ชีวิตผมไม่เคยคิดเลย ว่าโลกที่ผมอยู่ เป็นโลกของเกย์ที่ไร้เดียงสามากๆ โลกเกย์ที่ไม่เคยรู้เลย ว่าจะมีอีกด้านที่เป็นแบบนี้ด้วย
ผมหอบอุปกรณ์ ที่ใช้สำหรับการเสพยาของเขา ขว้างทิ้งมันไปให้หมด ในกระเป๋า ผมเจอ "เกร็ดยาไอซ์ อยู่อีก สอง เกร็ด ลักษณะเหมือนสารส้ม " ผมตกใจมาก เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นของจริง ปนตกใจเล็กน้อยว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ "ผมทำตามความรัก" ตอนนี้ผมรักเขามาก ผมอยากให้เขาออกมาจากตรงนั้นให้ได้
ถึงเวลาตรงนี้เราคบกันได้ประมาณ 3 เดือนเศษและครับ ชีวิตผมเปลี่ยนไปหน่อย... ผมมักจะชอบคิดเสมอ กลัวว่าเขาจะแอบไปเล่นยา กลัวว่าเขาจะทำใจออกห่างจากมันไม่ได้ แต่ผมอยากให้เขารู้ ว่าผมพร้อมที่จะอยู่ข้างๆ เสมอ หากเขาต้องการ ผมทำทุกอย่าง ทุกชั่วโมงผมโทรcheck ว่าอยู่ไหนทำอะไร (เค้าทำงานเป็น sale ) เขาต้องไปหาลูกค้าหลายที่ ที่โน้น ที่นี้ ผมให้วิธี facetime ให้check ว่าอยู่ตรงไหนจริง ให้ถ่ายรูปมาแล้วทำตามคำสั่งผม เช่น ถ่ายรูปพร้อมชูมือ 3 นิ้ว อะไรเป็นต้น เผื่อให้เขาโกหกเราไม่ได้ ตกกลางคืน ก็facetime ก่อนนอน... ^^ (บางคืน facetime คาไว้ยันเช้าเลย ) เพราะ คนที่เล่นยาส่วนใหญ่ชอบเล่นวันศุกร์กลางคืน จะได้เล่นยากันวันศุกร์ แล้วเสพ ว่างกัน แล้วมีอะไรกันได้จนถึง คืนวันเสาร์ เสพแล้ว เสพอีก มั่วแล้ว มั่วอีก จนวันอาทิตย์ก็แยกย้ายกันพักผ่อน ถอนจากยา เพราะถ้าผมไม่เปิดค้างไว้เค้าอาจจะเผลอใจไปใช้มันตอนที่ผมว่างสายก็ได้
ยอมรับเลยครับ ว่าเข้าสู่ เดือนที่ 3 นี้ผมก็เริ่มเหนื่อยแต่ก็ยังคงมีความสุข และมีหวัง อยากให้เค้าเปลี่ยนแปลวตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งเข้าก็บอกว่า สองสามอาทิตย์แรกที่ผมโทรจิก ผมช่วยเค้าไว้ได้เยอะมากช่วยเค้าให้ไม่ไปเล่นมันได้ดีมากๆเลย... ผมว่าชีวิตเรากำลังลงตัวนะครับ ทุกครั้งที่เขาและผมอยู่ด้วยกัน แค่กอดกันผมมีความสุขมากๆๆ เลยครับ
จนผ่านอีก 2 สัปดาห์ วันศุกร์ เย็นวันนั้นผมติดงาน ไม่ค่อยได้โทรหา มีline เด้งขึ้นมา เป็นรูปหน้าจอที่เค้า capture หน้าจอตัวเองมาให้ แล้วบอกว่า รูปสัญญาณโทรศัพท์จะหมดนะ ตามที่รูปที่ส่งมา เหลือ 6% ไม่ได้เอาที่ชาร์ตแบตมา และเดี๋ยวเขาจะออกไป กินข้าวกับพี่สาวที่เยาวราชนะครับ แบงค์บอกผม "ตัวเองไม่ต้องรอนะ หลับไปเลยย เดี๋ยวเค้ากลับมาโทรหา " หลังจากนั้นเราก็ขาดการติดต่อกันไปเลย ผมเองก็เข้าใจว่า แบตหมดจริงๆ
เรื่องราวมันควรจะหยุดอยู่แค่นั้น แต่ผมไม่
19.00 ผมโทรไป ปิดเครื่องอยู่
20.00 ผมโทรไปยังปิดเครื่องอยู่
21.00 ผมโทรไป ก็ยังฝากข้อความอยู่
22.00 ผมโทรไป ก็ยังปิดเครื่อง
เริ่มชักยังงัยแล้วครับ อารมณ์ฟุ้งซ่านของผมบังเกิด ทั้งๆ ที่จริงแล้วเขาอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เราคิดมากไปเอง เขาอาจจะรถติดหนักอยู่แถวเยาวราชด้วยซ้ำ
23.00 ผมโทรไป ก็ยังปิดเครื่องอยู่ดี เท่านั้นแหละ ผมคว้ากุญแจรถ และ มุ่งหน้าไปบ้านเค้าเลย

ผมไปถึง ประมาณเที่ยงคืน เค้าเองเพิ่งถึงบ้านเหมือนกัน... ผมล้มตัวนอนลงบนโซฟา สายตามองไปที่เขาอย่างไม่กระพริบ ... คำถามแรก ก็คือ "หายไปไหนมา ครับ " เขาหงุดหงิดใส่ผม "ก็บอกแล้วว่างัย ว่าไปเยาวราช กับพี่สาว จะถามอะไรมากมายเนี้ย?? " เค้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมก็ยังไม่เลิกรา ผมล้มลงนอนที่ sofa เขาล้มตัวเข้ามากอดผม... หน้าอกข้างซ้ายของเขา โดนมือผมพอดี "หัวใจเค้าเต้นเรวมากๆ ใบหน้าแดงเส้นเลือดขยายตัว คัดจมูกอยู่ตลอดเวลา "
ผมถามอีกครั้ง "แบงค์ ไปเล่นยามาใช่ไหม ?" เค้านิ่งไม่ตอบ "พยักหน้า... แล้วก็บอกกับผมว่า "น๊อตผมขอโทษ ผมขาดมันไม่ได้ " แล้วผมถามว่า "คุณไปเล่นมันกับใครมา" แบงค์ตอบ "เป็นพี่ที่เคยใช้กันอยู่... เดินเจอเขาที่ 7-11 ใต้ออฟฟิต เลยนัดกันไปต่อที่คอนโดใกล้ๆ แล้วก็ไปมีอะไรกัน แบงค์พยายามแล้วแต่ใจยังไม่แข็งพอ.... " พอเค้าพูดจบผมว่าเขาไปเป็นชุด เขานิ่งไม่พูดอะไร เขาเข้าใจผม เขาอยากเปลี่ยนแต่ห้ามใจไม่ไหว
ตอนนั้นผมนำ้ตาซึมๆ ที่ผิดหวังที่เขาผิดสัญญา... ตอนนั้นผมจะเดินออกมาก็ได้ แต่ใจที่ยังรักมันสั่งให้ผมอยู่ต่อ อยู่เผื่อหวังว่าเขาจะดีขึ้น แบงค์ร้องไห้หนักกว่า แล้วพูดมาอีกครั้ง " น๊อต น๊อตฟังแบงค์ดีๆนะ เมื่อปี 49 แบงค์เกิดอุบัติเหตุ รถคว่ำที่จันทบุรี ผมเข้าผ่าตัดหลังฉุกเฉิน... หมอเอาเลือดผมไปตรวจ น๊อต "แบงค์ติดเชื้อครับ???" ตอนนี้แบงค์กินยาต้านมา เกือบ7-8 ปีแล้ว เขาอึ้ง!!! ผมก็อึ้ง!!! (เชื่อดิถ้าคุณอยู่ที่นั้นตอนนั้นก็อึงเหมือนผมแหละ

มาถึงตอนนี้ ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำงัยต่อ จะรักเค้ามั้ย??? จะอยู่ หรือ จะไป ในวันที่ผ่านอะไรมาด้วยกัน!


ยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่