ก่อนอื่น ขออนุญาติแนะนำตัวก่อนนะครับ เราอ่านเว็ปพันทิปมาหลายปีแล้วซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องกล้อง แกลเลอรี่ ห้องก้นครัว บลูแพลเน็ทและราชดำเนิน ไม่เคยเป็นสมาชิกพันทิปและคิดว่าจะไม่เป็นด้วย จนกระทั่ง ได้มีโอกาสเดินทางไปทริปยาว ๆ หลังปีใหม่ที่ผ่านมา และเมื่อกลับมาแล้ว สมาชิกที่ร่วมเดินทางแนะนำให้เขียนบันทึกการเดินทางไว้ในเว็ปพันทิป ก็เออๆ ออๆ ว่ากันไป สุดท้าย ก็มาฉุกคิดได้ภายหลังว่า การที่เราได้เดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้และประสบความสำเร็จตามโปรแกรมที่จัดไว้ ส่วนหนึ่ง ก็มาจากข้อมูลในเว็ปพันทิปแห่งนี้ หากเราเอาแต่รับไม่เคยให้ ก็น่าจะเป็นคนใจจืดใจดำเกินไป และอีกอย่างข้อมูลบางอย่างก็ค้นไม่พบในเว็ปพันทิป หากจะเขียนให้คนอื่น ๆ ได้รับทราบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์เช่นที่เราได้รับเช่นกัน จริงๆ แล้ว สิ่งที่กลัวมากกว่า คือ การเล่าเรื่องไม่เป็น กล้วว่าคนอื่นที่มาอ่านแล้วจะบอกว่า อีตานี่เขียนอะไรของมัน วกไปวนมา เอาเป็นว่า อย่าว่ากัน ในเมื่อตั้งใจที่จะเขียนแล้ว ก็อย่าไปกลัวคำติฉินนินทาเลย
ก่อนเริ่มต้นการเดินทาง
สำหรับ ทริป 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว เกิดขึ้น จากเมื่อปลายปี 56 เราได้มีโอกาสจัดทริปไปเขาค้อ ภูทับเบิก แล้วสมาชิกที่ร่วมเดินทางสนุกสนานและมีความสุขมาก ทำให้เกิดความคิดว่า ปีนี้ (หมายถึงคิดเมื่อตอนประมาณเดือน ตุลาคม 2557) น่าจะไปเที่ยวอีกซักแห่งตอนต้นปี 58 ในที่หนาว ๆ และเป้าหมายที่สำคัญคือจะไปไหว้พระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก พอดีแม่บ้านมีเพื่อนอยู่ตาก และเขาชวนให้ไปเที่ยวทางแถบนั้นหลายครั้งแล้ว ก็เลยมีไอเดียว่า เป้าหมายน่าจะเป็นพิษณุโลกแล้วเลยไปตาก เพราะเส้นทางแถบนั้น ไม่เคยเดินทางเที่ยวมาก่อน ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ไปทางตากแล้ววกกลับมาก็เสียเที่ยว ก็เลยลองเปิดแผนที่ดู อ๊ะ! อันที่จริงแล้ว เราสามารถเดินทางไปเที่ยวอยุธยาได้ แล้วเลยไปเที่ยวกำแพงเพชร ไปแม่สอด ตาก แล้ววิ่งเส้น Route 12 ผ่านสุโขทัยไปพิษณุโลก โขยกอีกนิดเดียวก็เข้าเขาค้อ รอไม่นานก็ถึงภูเรือ เบื่อๆ ก็เข้าเชียงคาน วิ่งผ่านมาทางชัยภูมิ ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ไม่เลวแฮะ
เอาแล้วไง งานเข้า ทริประยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ต้องใช้เวลา 9 - 10 วัน แล้วลูกบ้านจะยอมไปกันหรือ ก็ไม่เป็นไร อาจจะตัดทริปให้สั้นลงก็ได้ ลองพรีเซ็นต์ดูก่อน ปรากฏว่า จังหวะเหมาะเหม็ง แม่บ้านที่ทำงานมาหลายปี เจ้านายอนุญาติให้ลาออก เอ้ย ลางานได้ ลูกบ้านได้งานใหม่ กำลังจะยื่นใบลาออก น้องสาวก็ทำงานกงสี เกือบๆ จะเป็นเจ้าของกิจการ ก็บอกว่า โอเคซิกกาแล็ต ขอตามไปด้วยคน หลงจ่งทั้งหมดรวม 4 ชีวิต ก็พอดีกับรถคู่ชีพ ฮอนด้าซีตี้ นั่งกันสบาย ๆ ไม่อึดอัด จริงๆ แล้ว ครั้งที่ไปภูทับเบิกก็ใช้รถคันนี้เหมือนกัน สบายใจได้ ไม่ต้องขับเร็วมาก ใครจะแซงก็แซงไป ปลอดภัยไว้ก่อน ซีตี้คันนี้ขึ้นเขาลงห้วยสบาย และจุดเด่นของซีตี้คือ กระโปรงหลังจุสัมภาระได้เยอะมาก ๆ ขอบอก คิดดูว่า ไป 4 ชีวิต (หญิง 3 ชาย 1) 10 วัน ขนเสื้อผ้ารวมเสื้อกันหนาวยังกะจะไปบริจาค ยัดได้หมด
เมื่อผ่านขั้นตอนอนุมัติจาก ผบ. ทบ. ที่บ้านและทุกคนแล้ว ทีนี้ ก็มาจัดทริปกัน ก็เลยถือโอกาสนี้ ขอบคุณแหล่งข้อมูล 3 แหล่งใหญ่ ที่ทำให้ทริปนี้สำเร็จลงด้วยดี คือ
1. เว็ปพันทิป : ห้องก้นครัว บลูแพลนเน็ต กล้อง แกลเลอรี่ ที่ให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับร้านอาหารในต่างจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทาง และภาพถ่ายไว้อ้างอิง รวมทั้งห้องราชดำเนิน ไว้อัพเดทข่าวสาร ระหว่างการเดินทาง (ไม่พูดถึงห้องราชดำเนิน เดี๋ยวจะน้อยใจ)
2. Longdo Map ที่ใช้สืบค้นข้อมูลเส้นทางการเดินทางและคาดคะเนระยะทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง (จริงๆ ก็ใช้ Google map และเว็ป Map อื่นๆ ประกอบด้วย แต่ส่วนใหญ่ใช้ Longdo เพราะความคุ้นเคยและใช้ง่าย)
ตัวอย่างจากแผนที่ที่พิมพ์จาก Longdo map และมาทำเส้นเดินทางซึ่งจะเห็นว่า รูปเส้นทางออกมาเป็นสามเหลี่ยม
3. Agoda จริงๆ แล้ว ไม่มีความคิดเลยที่จะใช้ Agoda เพราะคิดเสมอว่าเขาน่าจะบวกค่าคอมลงไปในค่าโรงแรมที่พักทำให้ราคาที่พักแพง แล้วไม่รู้ว่า พอเราไปถึงโรงแรมที่จองไว้ เขาจะตั้งแง่ว่าจองผ่าน Agoda มาหรือเปล่า แต่บอกให้เลยว่า คิดผิด วันแรกที่เริ่มโทรหาโรงแรมที่พักสำหรับคืนแรก พนักงานโรงแรมบอกราคาพันกว่าบาท ไม่มีส่วนลด โดยอ้างว่ายังเป็นช่วงเทศกาล ก็ลองเปิดดูใน Agoda ปรากฏว่าราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็จองผ่าน Agoda เกือบทุกโรงแรม แล้วยังรูดบัตรเครดิตและจ่ายทีหลังได้อีก (นี่ไปเที่ยวมาแล้ว บัตรเครดิตยังไม่มาเรียกเก็บค่าโรงแรมเลย อิอิ) และที่ไปมาทุกโรงแรมที่จองผ่าน Agoda สะดวกมาก ไม่มีปัญหาอันใดเลย
ตัวอย่างเอกสารที่ได้รับจาก Agoda
ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกพยายามจัดการให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ทั้งจองโรงแรม หาร้านอาหาร จัดทำแผนที่เดินทาง (ไม่เคยเดินทางเส้นทางนี้มาก่อน กลัวหลง) จนได้เอกสารประมาณ 50 แผ่น จัดเป็นหมวดหมู่ แล้วเย็บเล่มไว้ ทำสำเนาให้สมาชิกได้อ่าน ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ที่จะได้ร่วมเดินทางในทริปนี้ ทุกคนเฝ้ารอให้ถึงวันเดินทาง ก่อนออกเดินทางประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็ตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง เผื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม สุดท้าย เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม คนพร้อม เงินพร้อม วันเดินทางพร้อม รถพร้อม (ก่อนออกเดินทาง 2-3 วัน ได้เอารถไปตรวจสภาพที่ศูนย์ฯ ซึ่งบังเอิญมีโปรโมชั่นตรวจสภาพรถ 20 รายการฟรี ก็ใช้บริการเขา ปรากฏพบว่า แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมและใบปัดน้ำฝนฉีกขาด ก็เลยได้โอกาสเปลี่ยนแบตใหม่และที่ปัดน้ำฝนใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยนไป อาจมีหวังได้ไปเข็นรถขึ้นภู หรือมองทางไม่เห็นจากระอองหมอกเพราะที่ปัดน้ำฝนไม่ดี) พวกเราก็พร้อมออกเดินทางตามหมายกำหนดการที่เตรียมไว้
(อ่านต่อคราวหน้านะครับ "เริ่มเดินทางวันแรก..อุทยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา" จะไปทำกับข้าวแล้ว)
รายละเอียดทริปที่เดินทาง
ปล. อ้อ ลืมไป จะบอกว่า จะขออนุญาติแท็ก 4 ห้องนะครับ คือ ห้องกล้อง (ใช้กล้อง Panasonic FZ100 เป็นส่วนใหญ่) ห้องแกลเลอรี่ (เพราะมีรูปวิวและวัดดีๆ สวยๆ มาให้ชม), ห้องก้นครัว (จะมารีวิวร้านอาหารให้ฟังกัน) และ ห้องบลูแพลนเน็ต (สำหรับให้คนที่จะเดินทางไปตามเส้นทางที่ทำทริปไว้เป็นข้อมูลในการเดินทางครั้งต่อไป)
[CR] เล่าเรื่องการเดินทาง 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว
ก่อนเริ่มต้นการเดินทาง
สำหรับ ทริป 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว เกิดขึ้น จากเมื่อปลายปี 56 เราได้มีโอกาสจัดทริปไปเขาค้อ ภูทับเบิก แล้วสมาชิกที่ร่วมเดินทางสนุกสนานและมีความสุขมาก ทำให้เกิดความคิดว่า ปีนี้ (หมายถึงคิดเมื่อตอนประมาณเดือน ตุลาคม 2557) น่าจะไปเที่ยวอีกซักแห่งตอนต้นปี 58 ในที่หนาว ๆ และเป้าหมายที่สำคัญคือจะไปไหว้พระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก พอดีแม่บ้านมีเพื่อนอยู่ตาก และเขาชวนให้ไปเที่ยวทางแถบนั้นหลายครั้งแล้ว ก็เลยมีไอเดียว่า เป้าหมายน่าจะเป็นพิษณุโลกแล้วเลยไปตาก เพราะเส้นทางแถบนั้น ไม่เคยเดินทางเที่ยวมาก่อน ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ไปทางตากแล้ววกกลับมาก็เสียเที่ยว ก็เลยลองเปิดแผนที่ดู อ๊ะ! อันที่จริงแล้ว เราสามารถเดินทางไปเที่ยวอยุธยาได้ แล้วเลยไปเที่ยวกำแพงเพชร ไปแม่สอด ตาก แล้ววิ่งเส้น Route 12 ผ่านสุโขทัยไปพิษณุโลก โขยกอีกนิดเดียวก็เข้าเขาค้อ รอไม่นานก็ถึงภูเรือ เบื่อๆ ก็เข้าเชียงคาน วิ่งผ่านมาทางชัยภูมิ ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ไม่เลวแฮะ
เอาแล้วไง งานเข้า ทริประยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ต้องใช้เวลา 9 - 10 วัน แล้วลูกบ้านจะยอมไปกันหรือ ก็ไม่เป็นไร อาจจะตัดทริปให้สั้นลงก็ได้ ลองพรีเซ็นต์ดูก่อน ปรากฏว่า จังหวะเหมาะเหม็ง แม่บ้านที่ทำงานมาหลายปี เจ้านายอนุญาติให้ลาออก เอ้ย ลางานได้ ลูกบ้านได้งานใหม่ กำลังจะยื่นใบลาออก น้องสาวก็ทำงานกงสี เกือบๆ จะเป็นเจ้าของกิจการ ก็บอกว่า โอเคซิกกาแล็ต ขอตามไปด้วยคน หลงจ่งทั้งหมดรวม 4 ชีวิต ก็พอดีกับรถคู่ชีพ ฮอนด้าซีตี้ นั่งกันสบาย ๆ ไม่อึดอัด จริงๆ แล้ว ครั้งที่ไปภูทับเบิกก็ใช้รถคันนี้เหมือนกัน สบายใจได้ ไม่ต้องขับเร็วมาก ใครจะแซงก็แซงไป ปลอดภัยไว้ก่อน ซีตี้คันนี้ขึ้นเขาลงห้วยสบาย และจุดเด่นของซีตี้คือ กระโปรงหลังจุสัมภาระได้เยอะมาก ๆ ขอบอก คิดดูว่า ไป 4 ชีวิต (หญิง 3 ชาย 1) 10 วัน ขนเสื้อผ้ารวมเสื้อกันหนาวยังกะจะไปบริจาค ยัดได้หมด
เมื่อผ่านขั้นตอนอนุมัติจาก ผบ. ทบ. ที่บ้านและทุกคนแล้ว ทีนี้ ก็มาจัดทริปกัน ก็เลยถือโอกาสนี้ ขอบคุณแหล่งข้อมูล 3 แหล่งใหญ่ ที่ทำให้ทริปนี้สำเร็จลงด้วยดี คือ
1. เว็ปพันทิป : ห้องก้นครัว บลูแพลนเน็ต กล้อง แกลเลอรี่ ที่ให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับร้านอาหารในต่างจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทาง และภาพถ่ายไว้อ้างอิง รวมทั้งห้องราชดำเนิน ไว้อัพเดทข่าวสาร ระหว่างการเดินทาง (ไม่พูดถึงห้องราชดำเนิน เดี๋ยวจะน้อยใจ)
2. Longdo Map ที่ใช้สืบค้นข้อมูลเส้นทางการเดินทางและคาดคะเนระยะทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง (จริงๆ ก็ใช้ Google map และเว็ป Map อื่นๆ ประกอบด้วย แต่ส่วนใหญ่ใช้ Longdo เพราะความคุ้นเคยและใช้ง่าย)
ตัวอย่างจากแผนที่ที่พิมพ์จาก Longdo map และมาทำเส้นเดินทางซึ่งจะเห็นว่า รูปเส้นทางออกมาเป็นสามเหลี่ยม
3. Agoda จริงๆ แล้ว ไม่มีความคิดเลยที่จะใช้ Agoda เพราะคิดเสมอว่าเขาน่าจะบวกค่าคอมลงไปในค่าโรงแรมที่พักทำให้ราคาที่พักแพง แล้วไม่รู้ว่า พอเราไปถึงโรงแรมที่จองไว้ เขาจะตั้งแง่ว่าจองผ่าน Agoda มาหรือเปล่า แต่บอกให้เลยว่า คิดผิด วันแรกที่เริ่มโทรหาโรงแรมที่พักสำหรับคืนแรก พนักงานโรงแรมบอกราคาพันกว่าบาท ไม่มีส่วนลด โดยอ้างว่ายังเป็นช่วงเทศกาล ก็ลองเปิดดูใน Agoda ปรากฏว่าราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็จองผ่าน Agoda เกือบทุกโรงแรม แล้วยังรูดบัตรเครดิตและจ่ายทีหลังได้อีก (นี่ไปเที่ยวมาแล้ว บัตรเครดิตยังไม่มาเรียกเก็บค่าโรงแรมเลย อิอิ) และที่ไปมาทุกโรงแรมที่จองผ่าน Agoda สะดวกมาก ไม่มีปัญหาอันใดเลย
ตัวอย่างเอกสารที่ได้รับจาก Agoda
ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกพยายามจัดการให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ทั้งจองโรงแรม หาร้านอาหาร จัดทำแผนที่เดินทาง (ไม่เคยเดินทางเส้นทางนี้มาก่อน กลัวหลง) จนได้เอกสารประมาณ 50 แผ่น จัดเป็นหมวดหมู่ แล้วเย็บเล่มไว้ ทำสำเนาให้สมาชิกได้อ่าน ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ที่จะได้ร่วมเดินทางในทริปนี้ ทุกคนเฝ้ารอให้ถึงวันเดินทาง ก่อนออกเดินทางประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็ตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง เผื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม สุดท้าย เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม คนพร้อม เงินพร้อม วันเดินทางพร้อม รถพร้อม (ก่อนออกเดินทาง 2-3 วัน ได้เอารถไปตรวจสภาพที่ศูนย์ฯ ซึ่งบังเอิญมีโปรโมชั่นตรวจสภาพรถ 20 รายการฟรี ก็ใช้บริการเขา ปรากฏพบว่า แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมและใบปัดน้ำฝนฉีกขาด ก็เลยได้โอกาสเปลี่ยนแบตใหม่และที่ปัดน้ำฝนใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยนไป อาจมีหวังได้ไปเข็นรถขึ้นภู หรือมองทางไม่เห็นจากระอองหมอกเพราะที่ปัดน้ำฝนไม่ดี) พวกเราก็พร้อมออกเดินทางตามหมายกำหนดการที่เตรียมไว้
(อ่านต่อคราวหน้านะครับ "เริ่มเดินทางวันแรก..อุทยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา" จะไปทำกับข้าวแล้ว)
รายละเอียดทริปที่เดินทาง
ปล. อ้อ ลืมไป จะบอกว่า จะขออนุญาติแท็ก 4 ห้องนะครับ คือ ห้องกล้อง (ใช้กล้อง Panasonic FZ100 เป็นส่วนใหญ่) ห้องแกลเลอรี่ (เพราะมีรูปวิวและวัดดีๆ สวยๆ มาให้ชม), ห้องก้นครัว (จะมารีวิวร้านอาหารให้ฟังกัน) และ ห้องบลูแพลนเน็ต (สำหรับให้คนที่จะเดินทางไปตามเส้นทางที่ทำทริปไว้เป็นข้อมูลในการเดินทางครั้งต่อไป)