[CR] Review บินไปเที่ยวเชียงราย 3 วัน 2 คืน พักFull House Resort และ Rasa Boutique Hotel Chiang Rai

สวัสดีค่ะเพื่อนชาวพันทิป ห้องบลูแพลนเน็ตทุกคน กลับมาทำรีวิวอีกแล้ว ช่วงนี้รีวิวออกถี่ทั้งที่ดองเอาไว้เพิ่งมาลงและ เพิ่งไปเที่ยวมาสดๆร้อนๆ เนื่องจากช่วงนี้ว่างงานค่ะ ว่างนานๆจิตตกเลยหาที่เที่ยวก่อน เลยเกิดเป็นทริปเชียงราย 3 วัน 2 คืน ขึ้นมา เพราะว่าอยากจะไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งหรือ ซากุระเมืองไทย แต่เชียงใหม่ก็เพิ่งไปมาแถมไปมา 3-4 เที่ยวแล้ว เลยคิดว่าไปเชียงรายดีกว่าค่ะ แต่ว่าไปเชียงรายนี้ก็ครั้งที่ 3 แล้วนะคะ แต่ก็มีอีกหลายที่ ที่ยังไม่เคยไป เลยสรุปเลือกจองตั๋วพร้อมโรงแรมลุยเชียงรายกันเลยค่ะ อมยิ้ม01

เราจองตั๋วพร้อมโรงแรม 1 คืนกับทาง แอร์เอเชียโกนะคะ โดยอีกคืนเราไปจองแยกผ่านบุคกิ้งดอทคอมแทนค่ะ เลยไม่มีโปรดีๆเด็ดเลย อมยิ้ม08 ทำไงได้วางแผนเที่ยวแบบอยากไปไปเลย ไม่ได้จองล่วงหน้าดีๆ แต่ราคาก็ไม่แพงมากเท่าไรคะพอไหว

ตารางเที่ยวบินที่ใช้
DMK-CEI  10:35 - 11:50  FD 3209
CEI -DMK 16:00 - 17:20  FD 3208
โรงแรมที่จองพร้อมตั๋วคือ Full House Resort 1 คืน รวมราคา 2 คนอยู่ที่ ฿5,535.93 เฉลี่ยคนละ 2,768 บาทค่ะ
โรงแรมอีกคืนที่จองแยกคือ Rasa Boutique Hotel Chiang Rai จองผ่านบุคกิ้งดอทคอมค่ะ ราคาคืนละ 1,800 บาท เฉลี่ยคนละ 900 บาทค่ะ

พร้อมแล้วก็เดินทางเลยค่ะ
วันแรก มาถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว ก็เช็คอินมารอที่ประตูขึ้นเครื่องเลยค่ะ

ช่วงนี้สนามบินคนเยอะนะคะ เพื่อเวลาเอาไว้หน่อยเพื่อรถติดกันด้วยนะคะ และก็ถึงเวลาเครื่องออกแล้ว ขึ้นเครื่องกันเลยค่ะ

จากนั้นเราก็ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม. 15 นาที ระหว่างทางผ่านสภาพอากาศแปรปรวนบ้าง แต่อยากให้ทุกคนมั่นใจการเดินทางโดยทางเครื่องบินนะคะ เพราะว่าทุกครั้งที่เครื่องจะทำการบิน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อทุกคนจะต้องมั่นใจ 100% ถึงจะนำเครื่องTake off อย่ากลัวจนทำให้ความต้องการเปิดโลกกว้างต้องหยุดแค่ความคิดกันนะคะ อมยิ้ม01
ขณะนี้เราได้นำท่านเดินทางมาถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยอุณหภูมิภาคพื้นดินวันนี้อยู่ที่ 17 องศา (เสียงกัปตันแจ้ง ขนาดตอน เกือบเที่ยงยังแค่ 17 องศาเอง อากาศดีจริงๆค่ะ)

มาถึงแล้วเราก็ส่งข้อความหาพี่คนขับรถที่เราจองเอาไว้ จะบอกว่าส่งข้อความจริงๆค่ะ เพราะความสะเพร่าของเราเองไม่ได้จดเบอร์หรือเซฟเบอร์เอาไว้คุยกันผ่านอีเมล์และเฟสบุคค่ะ อมยิ้ม07 เลยส่งข้อความแจ้งพี่เค้าว่ามาถึงแล้วนะคะ และพี่เค้าก็โทรเข้ามาหาเราแทนค่ะ เราเลือกเช่ารถพร้อมคนขับไปเลยค่ะ เพราะถ้าคนติดตามอ่านรีวิวเราจะทราบดีว่า ข้อสำคัญที่สุดคือ เราขับรถไม่เป็น 555 เลยเอาสะดวกไปเลยดีกว่า

ซึ่งราคารถเช่าพร้อมคนขับรวมน้ำมันพี่เค้าคิดที่วันละ 1,800 บาทค่ะ รวม 3 วันก็ 5,400 บาท เฉลี่ยมาแค่สองคน ตกคนละ 2,700 บาทค่ะ
รายการเที่ยวของเรานะคะ เราจะเน้นกลับโรงแรมไม่เย็นเกินไปค่ะ เพราะอยากไปพักผ่อนไม่อยากเหนื่อยเกินไป
Day1 (11-1-15) FD3209 11.50 กินเที่ยง - วัดร่องขุน - เช็คอินที่พัก ฟูลเฮ้าส์ รีสอร์ท เวียงป่าเป้า
Day2 (12-1-15) ออกจากที่พัก(เวียงป่าเป้า ประมาณ 8 โมง) วัดมิ่งเมือง-วัดพระสิงห์-วัดพระแก้ว-กินเที่ยง-พิพิธภัณฑ์บ้านดำ-ไร่บุญรอด-เช็คอินที่พัก (ประมาณ 4 โมง)โรงแรม รสา บูทีค รีสอร์ท
Day3 (13-1-15) ออกจากที่พัก(ประมาณ 8 โมง)-ดอยแม่สลอง- กินเที่ยง- ดอยตุงพระตำหนัก สวนแม่ฟ้าหลวง ส่งสนามบิน FD3208 16.00
แต่ว่าเราก็หามาหลายเจ้านะคะไม่แน่ใจว่าถูกที่สุดไหมแต่เจ้าอื่นมาแพงกว่าค่ะ บางที่คิด 1,500 บาทไม่รวมน้ำมัน ซึ่งเราคิดว่าเติมเองคงเกินแน่ๆ ส่วนอีกเจ้าคิด 3 วัน 7,500 บาท เราเลยเลือกเจ้าที่ถูกสุดค่ะ แน่นอนใครจะเลือกเจ้าแพงใช่ไหมคะอิอิ

มาดูรถที่เค้านำมารับเรานะคะ เป็นรถฮอนด้า ซิตี้ ค่ะ รูปนี้เป็นตอนขึ้นดอยแม่สลองค่ะ

ซึ่งเราไป 2 คน นั่งก็สบายๆอยู่แล้วค่ะ รูปภายในนะคะ อุปกรณ์เยอะไปหมดทั้งขาตั้งกล้อง ทั้งเลนส์ -*-

มาถึงสนามบินเชียงรายก็ เที่ยงพอดีเลยต้องไปหาอะไรรับประทานกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ พี่เค้าพามาที่ร้านข้าวซอยวิจิตตรา

ซึ่งพี่คนขับชาวเชียงรายแนะนำให้มาลองชิมค่ะ ร้านนี้มี 3 สาขาแล้วนะคะ ซึ่งเรามารับประทานที่ สาขาแรกค่ะ
แล้วเราก็สั่งข้าวซอยไก่น่องค่ะ ราคา 50 บาท

ที่เด็ดอีกอย่างที่ในคนเชียงรายไปทานแล้วบอกว่าอร่อยก็คือผัดไทค่ะ เราก็สั่งนะคะ จานนี้ราคา 55 บาท ยังมีอาหารอื่นๆอีกนะคะ ทั้งขนมจีนน้ำเงี้ยว

ท้องอิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันค่ะ จากตัวเมืองมาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงวัดร่องขุ่นค่ะ

วัดร่องขุ่น ออกแบบและก่อสร้างโดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2540 โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือโบสถ์ที่ทาสีขาว อันหมายถึงพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า

ปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายค่ะ และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติในนาม "White Temple"


และเราก็เดินทางไปเวียงป่าเป้า เพื่อไปที่พักของเราที่โรงแรม Full House Resort เพราะเราอยากพักแบบใกล้ชิดธรรมชาติ 1 คืนแต่ก็ไม่อยากธรรมชาติมากขนาดกางเต้นท์ เลยสรุปมาเลือกพักที่นี้ค่ะ ใช้เวลาเดินทางต่ออีกประมาณ 1 ชม. 30 นาทีนะคะ อากาศที่เวียงป่าเป้าเย็นสบาย หนาวกว่าในตัวเมืองค่ะ มาดูที่พักกันนะคะ

ซึ่งมาถึงจุดแรกจะเป็นล็อบบี้นะคะ และเป็นร้านกาแฟด้วย ส่วนข้างขวามือในรูปจะเป็นสระว่ายน้ำคะและชั้นสองจะเป็นร้านอาหาร

และเราก็เข้าไปทำการเช็คอินค่ะ

ภายในก็มีเก้าอี้สวยๆให้นั่งรอระหว่างทำการเช็คอินนะคะ

เมื่อได้กุญแจห้องแล้วเราก็ไปดูที่พักกันเลยค่ะ

รีสอร์ทแบบบูติค โดยห้องพักจะเป็นห้องละหลังทาสีสันสวยงาม ไม่ติดกันนะคะ ดูเป็นส่วนตัวดีและมีไม่กี่ห้องค่ะ

ก่อนเข้าห้องพักค่ะ ตุ๊กตาไม้รูปสุนัขน่ารักจังเลยเหมือนดีค่ะ อมยิ้ม16

มาดูภายในห้องพักกันนะคะ ห้องเราเป็นห้องหมายเลข 7 ค่ะ

โดยภายในห้องนั้นจะมีการตกแต่งลวดลายภาพวาดฝาผนังที่แตกต่างกันไปในแต่ละห้องนะคะ

ผนังแบบปูนเปลือย และการเล่นสีสันทำให้ห้องพักดูสวยงามคะ ห้องหมายเลข 7 จะวาดภาพลวดลายพระพิฆเนศคะ

มีทีวีและมุมสำหรับแต่งตัว ซึ่งวาดลวดลายเป็นช้างกำลังลากซุงคะ

ภายในห้องน้ำก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ อากาศหนาวแต่ก็พออาบน้ำไหว แต่จะบอกว่าเครื่องนี้ทำน้ำอุ่นสู้ความเย็นของน้ำไม่ได้ค่ะ เปิดสุดๆ ยังแค่น้ำอุณหภูมิเกือบอุ่นคือไม่ร้อนเหมือนระบบโรงแรมดีๆนะคะ

ของใช้ในห้องน้ำที่มีให้ก็จะเป็นสบู่ ยาสระผม หมวกคลุมอาบน้ำ แต่ไม่มีไดร์เป่าผมนะคะ สระทีรอแห้งก็หนาวดีค่ะ

แล้วเราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นที่ด้านนอกห้องพักกันค่ะ รดน้ำต้นไม้ ต้นไม้ถึงกับแห้งเหี่ยวเลย

ถ่ายกับด้านหน้าโรงแรมหน่อย ตรงกันข้ามจะเป็นนาข้าวนะคะ แต่ช่วงนี้เก็บเกี่ยวหมดแล้ว

และเราก็ขึ้นมาสั่งอาหารกันค่ะเพราะแค่ 5 โมงลมหนาวก็มาแรงมาก หนาวจะทนแทบไม่ไหวเลยค่ะ ดึๆคืนนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ 13-15 องศาเองรีบกินข้าวก่อนดีกว่า มาดูบรรยากาศของชั้นสองที่เป็นโซนร้านอาหารนะคะ

มีเก้าอี้นั่งชมทัศนีย์ภาพพร้อมจิบเบียร์ แต่หนาวเกินแม้กลางคืนจะมีดนตรีสดแต่เราก็ขอฟังจากห้องพักนะคะ หนาวไม่ไหวจริงๆ

ถ้ามองลงไปอีกด้านก็จะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ระบบน้ำเกลือด้วย แต่หนาวขนาดนี้ ไม่มีใครว่ายเลย หนาวเกินไปแค่อาบน้ำยังทำใจต้องนาน

และแล้วอาหารที่สั่งก็มาค่ะ เราสั่งข้าวผัดผงกะหรี่ทะเล  

อีกคนมาด้วยสั่งข้าวหมูทอดกรอบ (ซุบแป้งทอดมานั้นเอง) พร้อมไข่ดาวค่ะ

และก็สั่งยำหมูยอมากินเป็นกับเพิ่มอีกอย่าง รวมสามอย่าง น้ำเปล่า 1 ขวด โค้ก 1 กระป๋อง 225 บาทค่ะ

เมื่อท้องอิ่มก็กลับไปพักผ่อน หลับฝันดี อมยิ้ม12

เช้าวันที่สองของการเดินทาง เรานัดพี่คนขับรถมารับที่โรงแรมตอน 8 โมงเช้าค่ะ เช็คเอ้าท์แล้วก็ออกเดินทางไปยังไร่บุญรอดกันเลย

ไร่บุญรอดหรือ สิงห์ปาร์ค เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ ซึ่งมีรถรางบริการชมด้วยนะคะ แต่เราแค่ถ่ายรูปด้านหน้าคะ

ซึ่งภายในหากนั่งรถรางเข้าไปจะเสียค่าใช้จ่าย 50 บาท ซึ่งรถของทางไร่จะพาเที่ยวชมฟารม์ด้านในค่ะ แต่อยากที่บอกว่าเราชมเพียงด้านนอกซึ่งให้ชมฟรีค่ะ

ดอกไม้สวยมาก ท้องฟ้าวันนี้ก็สวยเช่นกันคะ

ขนาดชมแค่ด้านหน้านี้ ยังใช้เวลาไป เกือบ 2 ชม. เน้นไปที่การถ่ายรูปอย่างเดียว

เสร็จแล้วเราก็เดินทางเข้ามาในตัวเมืองเชียงรายกันนะคะ แวะรับประทานอาหารเที่ยงกันก่อน ที่ร้านสหรส

เราก็สั่งก๋วยจั๊บน้ำใส เส้นจะใสมากๆเลยค่ะ ไม่เหมือนเส้นแถวกรุงเทพเลย

และก็สั่งต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย ซึ่งร้านนี้คนที่มากินจะมีวิธีที่แปลกนิดหนึ่งนะคะ คือเค้าจะให้ถ้วยเล็กๆมาให้เราใส่เครื่องปรุง และจิ้มกิน ไม่ได้ปรุงรสลงไปในชามก๋วยจั๊บหรือต้มเลือกหมูเลย ซึ่งเราก็งงในตอนแรก แต่จากการสังเกตุโต๊ะข้างถึงได้ทราบขั้นตอยการกินของคนที่นี้ค่ะ


อิ่มแล้วเดี๋ยวเรามาเที่ยวกันต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเชียงราย 3 วัน 2 คืน เช่ารถพร้อมคนขับ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่