สมมุติว่าไทยเราเข้าชิงบอลโลกได้สำเร็จเจอกับเยอรมัน ระหว่างชนาธิปและลีซอ คุณจะเลือกใครลง

โดยทำการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ 2 จุด คือการเข้ามาของชนาธิปและ เจย์ โบทรอย โดยเฉพาะเจย์ โบ ต้องบอกว่าเป็นการลงทุนที่โคตรคุ้มค่าของสโมสร จึงเป็นสุดยอดดีลประจำปีของ J1 เลยก็ว่าได้ ส่วนชนาธิปของเรา ยังไม่เป็

กลาง3คน วรชิต ชนาธิป พีรดล ตัวรุก2 และ b2b 1 เมื่อคืน จึงไม่มีคนคุมจังหวะเลย เพราะชนาธิปและ วรขิต ดันขึ้นสูงไปเล่นเกมรุกเต็มตัว ภาระหนักจึงตกมาอยู่ที่ พีรดล ที่ไม่ได้ถนัดทั้งจ่ายบอลบุก และ ไม่ได้ถนัด

ถึงแม้ชนาธิปเราตอนนี้อาจจะยังห่างไกลกับนักเตะระดับโลกอย่างเมสซี่ก็จริงอยู่ แต่ด้วยศักยภาพของชนาธิปก็พร้อมที่จะยกระดับให้มีอาวุธครบมือได้ไม่ยาก สิ่งที่ต่างกันคือ.. เมสซี่ตัวจริง เล่นด้วยสภาพแวดล้

เล่นกันไม่ละเอียดเลยสักนิด โค้ชเปลี่ยนตัวแบบบุกหมดเลย แดนกลางหายไม่มีตัวดีเลย์เกม ชนาธิปและโคมาอิลงมาช่วยดีเลย์เกมและตัดเกมช่วยแดนหลังเยอะมาก(จังหวะชนาธิปทำเสียจุดโทษก็มาจากจากวิ่งลงมาช่วยแดนหลัง) รว

1. เอเลียส ดอเลาะ จากนัดเยือนมาเลเซีย ตามแท็คติคของไทยที่นิชิโนะได้วางไว้คือ ให้สามตัวหน้าทำการเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ซึ่งในช่วงแรก ๆ เราสามารถกดดันให้เค้าคืนบอลให้ผู้รักษาประตู เพื่อให้เขาวางบอลยาว แล้

เนียนตามากจังหวะเกมรุก ผ่านบอลไม่มีพลาด สั้นยาว เกมรับตัดบอลหลายจังหวะ กับตำแหน่งที่เคยถนัด มิดฟิวตัวรุก

ชนาธิปไม่ค่อยกล้าพาบอลเลย ได้บอลแล้วรีบส่ง บางทีแทบไม่ได้ก้าววิ่ง ก็ส่งบอลแล้ว คือเล่นกองหน้าน่าจะเล่นง่ายกว่ากองกลางนะ ดวนแค่กองหลัง กล้าพาบอลสักหน่อย ชนาธิปชอบยืนหันหลังให้ประตู เวลาได้บอลเลยเสียเปร

การได้ไปเล่นลีคชั้นนำของเอเซียอย่างเจลีค ทำให้สปีดบอลของชนาธิปเหนือกว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่ระดับหนึ่ง ตอนนี้เจได้ยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว เมื่อกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยก็เลยดูเหนือ

https://www.youtube.com/watch?v=bQM5yBYuR2s