ถ้าพูดถึงช่างภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่ขึ้นชื่อว่าถ่ายทอดภาพหญิงสาวได้เซ็กซี่จนคุณละสายตาจากภาพไม่ได้แม้วินาทีเดียว
และหลายคนยกให้เป็นไอดอลในเรื่องการถ่ายภาพและไลฟ์สไตล์คงไม่พ้นชื่อของ
‘จอร์จ’ ธาดา วาริช
ช่างภาพที่สั่งสมประสบการณ์ในวงการมาถึง 19 ปีเต็มจนกลายเป็นช่างภาพแฟชั่นเซ็กซี่อันดับหนึ่งของเมืองไทย
เราจะมาคุยกับผู้ชายคนนี้ในหลายๆ แง่มุมของชีวิตที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
อัพเดทชีวิตช่วงนี้หน่อยครับ ?
เพิ่งสึกออกมาหลังจากบวชมาเดือนนึง งานช่วงหลังเป็นโฆษณาซะส่วนใหญ่ ส่วนงานหลักถ่ายให้นิตยสาร Vogue ครับ
หลังจากสึกออกมาชีวิตเป็นยังไงบ้างครับ?
ถ้าถามว่าบวชแล้วได้อะไรการบวชคือการปรับปรุงแปลงพัฒนาส่วนของภายใน การทำงานก็เหมือนเดิม
ซึ่งเวลาทำงานมันใช้สองส่วนคือการกระทำกับความคิด ถ้าเรามีมันสองส่วนในบาลานซ์ที่ดีเวลาเราทำงานจะออกมาดี
งานคือพาร์ทหลักของชีวิตหรือเปล่าครับ?
งานคือแค่พาร์ทนึงของการมีชีวิตอยู่ คือทุกคนเกิดมาเพื่อทำงานอยู่แล้ว ณ ตอนนี้ผมคิดว่าการทำงานไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดของชีวิต
ถ้าสิ่งที่ทำแล้วรู้สึกดีมีความสุขและมีรายรับมาเลี้ยงด้วยซึ่งผมว่ามันสมบูรณ์กว่า คือผมมองโลกค่อนข้างแง่ดี
ผมไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ทำไมถ้าไม่แฮปปี้
ดูเป็นคนจริงจังกับชีวิต?
ผมเป็นคนจริงจังกับชีวิตนะแต่การแสดงออกดูเหมือนจะไม่ อีกอย่างที่หลายคนบอกมาคือเป็นคนละเอียดถ้าคุณมีนิสัยอย่างใดอย่างนึง
มันจะเป็นกับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือการใช้ชีวิต
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว?
10 ปีที่แล้วผมก้าวร้าวกว่านี้ในแง่ของงาน เป็นศิลปินกว่านี้ ทำงานตามใจอารมณ์มากกว่านี้
แต่ทุกวันนี้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์คือระวังขึ้น ผมมองทุกอย่างสองด้านเป็นดาบสองคมเมื่อก่อนใช้ชีวิตผาดโผน
อยู่ระหว่างความเป็นความตายหลายครั้งแต่เดี๋ยวนี้ใช้ชีวิตอีกแบบไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า กลายเป็นอีกคนไปเลย
ในแง่ของงานเปลี่ยนไปในทิศทางไหนครับ?
แตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิงแต่ว่ามันก็ยังมีความเป็นตัวผมอยู่เพราะคนสร้างงานก็คนเดิม
พอตัวคนสร้างงานเปลี่ยนงานก็เปลี่ยนงานมันเป็นภาพสะท้อนของตัวเรา ผมบอกตัวเองว่าถ้าเราจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
คือดีกับตัวเราดีกับคนอื่นผมมองว่าคนเราแก่ปีขึ้นปีนึงถ้าโง่ลงมันแย่นะ ปีนึงใช้ชีวิตสามร้อยกว่าวันเจอนั่นเจอนี่
เราน่าจะเอาอะไรจากตรงนั้นมาพัฒนาตัวเองในทุกๆ ปี สมัยก่อนงานของผมดิบ เถื่อน ก้าวร้าว ไร้กฎเกณฑ์ซึ่งเป็นจุดขายของผมในยุคนั้น
มาตอนนี้ภาพผมก็ยังคงไม่มีกฎเกณฑ์แต่จะลึกขึ้น มันอยู่ที่จุดประสงค์การสร้างงานด้วย เมื่อก่อนผมอยากให้คุณดูแล้วร้องเฮ้ย!
หรือมีเอฟฟเฟ็คกับงานของผมจะชมหรือด่าก็ได้ งานที่คนชอบมากก็โดนด่ามาก แต่เราต้องดูด้วยว่าคนที่คอมเม้นท์งานเราคือใคร
คอมเม้นท์ในแง่ไหนต้องพิจารณาตรงนี้ด้วย
อุปกรณ์สำคัญต่อการทำงานขนาดไหน?
ผมไม่ใช่คนบ้าอุปกรณ์ เพราะมันไม่สามารถสร้างความเป็นตัวตนของเราได้ ทุกวันนี้ผมทดลองการถ่ายรูปแบบใหม่ๆ
แต่ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี ช่างภาพเหมือนศิลปินคนวาดรูป จริงๆ ดินสอแท่งเดียวก็สร้างงานได้ ไม่ได้วัดกันที่ใครใช้ดินสอแพงกว่ากัน
ผมตี 70-80 เปอร์เซ็นต์ศิลปินที่ประสบความสำเร็จคือคนไม่มีตังค์ คนพวกนี้จะมีความดิ้นรนความพยายามความอดทน
ไม่มีอะไรต้องเสีย ผิดกับคนที่เกิดมามีฐานะมันจะจะเซฟตัวกว่า พอทำงานปลอดภัยเกินไปก็ไม่มีความแปลกประหลาดอะไรขึ้นมา
จุดเปลี่ยนของชีวิต?
การที่เราไปอยู่อเมริกาเหมือนเปลี่ยนโลกทัศน์ เราอยู่กรุงเทพเหมือนแค่จุดเล็กๆ ของโลกใบนี้ ที่อเมริกาเราไปเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม
ความคิดคนตะวันตกที่แตกต่างกับเรามากมายซึ่งบางทีเราได้เห็นข้อดีข้อเสียทั้งจากบ้านเราและบ้านเค้า
แล้วเราก็พยายามใช้แต่ข้อดีของแต่ละสังคม
วงการช่างภาพบ้านเราเป็นยังไงบ้าง?
ผมพยายามปฎิวัติแนวคิดคนไทยนะ เพราะผมสงสารศิลปิน คนไทยไม่จ้างงานคนแก่ ในขณะที่โลกอีกฝั่งนึงถ้าคุณยังเก่งไปเรื่อยๆ
จนถึงอายุ 50 คุณคือเทพเจ้าขณะที่เมืองไทยคุณเป็นแค่คนแก่คนนึงที่ไร้ประโยชน์ ทุกวันนี้ผมทำงาน
มันมีวิธีเดียวคือทำให้เห็นว่าถึงแก่ลงแต่สมรรถภาพดีขึ้น นี่คือเป้าหมายของผม
ถ่ายผู้หญิงปัจจุบันให้เซ็กซี่ยากกว่าเมื่อก่อนมั้ย?
เมื่อ 10 ปีที่แล้วมันไม่มีการศัลยกรรมมากมาย เทรนด์เกาหลีก็ยังไม่มาเพราะฉะนั้นมันเป็นความท้าทายของผมว่าเราจะถ่ายเซ็กซี่ยังไง
เพราะว่านางแบบก็ไม่ได้สวยเพอร์เฟ็คหรือแต่งตัวโป๊เหมือนปัจจุบัน เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้คนสวยขึ้นเยอะมันไม่ตื่นเต้นแล้ว
ทำให้ทุกวันนี้ถ่ายงานเซ็กซี่น้อยลงและต้องหาช่องทางที่ตื่นเต้นมากกว่า คือคนทำงานจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยอะดรินาลีน
ต้องหาอะไรสักอย่างที่สามารถผลักดันเราได้ ผมถ่ายเซ็กซี่มา 10 ปี คิดว่าปีที่ 11 ผมไม่เบื่อเหรอ การสร้างงานถ้าทำอะไรซ้ำๆ
นานๆ มันก็จำเจคือทุกอย่างมันมีลิมิตของมัน ยกตัวอย่าง Rabbit มันก็ไม่ได้เซ็กซี่แบบดุดัน แต่ดูเบา สบาย
ไม่หยาบคายซึ่งตอนนั้นผมสร้างโจทย์ให้ตัวเอง ก็สำเร็จตามเป้าที่วางไว้
ซิกเนเจอร์ในงานที่แค่มองก็รู้ว่าเป็นงานของธาดา วาริช?
ช่างภาพแต่ละคนจะมีกฎกติกามารยาทอยู่ในหัวของตัวเองซึ่งบางทีมันอธิบายไม่ได้ มีทั้งการเลือกภาพสุดท้ายซึ่งสำคัญมาก
มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวมากของคนสร้างงาน ตรงนั้นจะบอกคาแร็คเตอร์ในงานออกมาได้ชัดเจนที่สุด องค์ประกอบภาพ โทนสี
อารมณ์ของตัวแบบ การเรียงลำดับภาพ โลเกชั่นแม้แต่สไตล์การแต่งหน้าทำผมแทบจะทุกอย่างรวมมาเป็นสไตล์ของช่างภาพคนนั้น
ได้เอาสไตล์ของตัวเองไปใช้ในงานโฆษณาบ้างมั้ยครับ?
ช่างภาพคือลูกจ้างคนนึง ผมมักจะเทียบตัวเองเป็นคนทำกับข้าวมากกว่า วันนี้มีคนสั่งต้มยำกุ้งเรามีหน้าที่ทำต้มยำกุ้งให้อร่อยในสูตรของเรา
สมมติว่าคนสั่งเป็นคนจีนชอบกินเค็มถามว่าเราปรับได้มั้ยเราทำได้ทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นได้
สมัยก่อนเรื่องงานผมดื้อทุกวันนี้ถ้าเป็นงานโฆษณาผมจะให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจะถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว
รูปที่สวยมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
ผมมองว่าภาพใดก็ตามมีประโยชน์ทางใดทางหนึ่งต่อผู้ดู ผมว่ามันเป็นภาพที่ดี คนดูมีหลายแบบบางคนชอบรูปวิว
บางคนชอบรูปผู้หญิง มีภาพอีกประเภทนึงน่าสนใจเรียกว่าภาพที่มีความหมาย หรือภาพที่มีประโยชน์ สมมติในโครงการสร้างเขื่อนใหญ่ๆ
ก็ต้องมีการถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานในการสร้างถ้าไม่มีภาพนี้เขื่อนอาจจะสร้างไม่เสร็จ หรือภาพของคุณยายที่เสียไปแล้ว
และมีภาพเดียวนี่คือเสน่ห์ของภาพที่ถึงจะไม่สวยแต่มีประโยชน์ต่อคนที่เกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แรงบันดาลใจหาได้จากที่ไหน?
แรงบันดาลใจของผมมันบ่มของมันเอง บางทีถ้ามันยังไม่มาเราก็สร้างขึ้นมาแทนที่จะออกไปหาหรือหาแล้วไม่เจอก็ไม่รอแล้วสร้างเองเลย
คิดจากสิ่งรอบตัวขึ้นมา เมื่อก่อนผมเป็นคนทำงานที่ขาดเพลงไม่ได้ติดเพลงมากและต้องเป็นเพลงที่อยากฟังเดี๋ยวนั้นด้วยนะ
มันกลายเป็นคำถามว่าเราจะไม่เจ๋งกว่าเหรอถ้าสามารถทำงานขณะที่องค์ประกอบการทำงานไม่ครบ
ผมพยายามไม่ยึดติดกับอะไรและท้าทายตัวเองตลอดเวลา
ความหมายของคำว่า ‘ศิลปะ’
งานศิลปะคือการแหกคอก การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิมตัดความเคยชินออกเหมือนเป็นการเปิดช่องให้ตัวเองนะ
คนส่วนใหญ่ยิ่งโตยิ่งทำงานเซฟขึ้นไม่เปิดช่องให้ตัวเองแต่ผมไม่ใช่ ผมพยายามทำตัวเองให้เลือกได้ถ้าวันไหนอยากทดลองอะไรใหม่ๆ
ก็ยังอยู่ในสแตนดาร์ดของเรา
วิธีดึงคาแร็คเตอร์ของนางแบบออกมาให้ชัดเจน ?
การพูดเป็นการเริ่มที่ดีแต่การเชื่อใจไม่ได้มาจากการพูดคุยเสมอไป พูดเยอะบางทีก็น่ารำคาญ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้ชายพูดเยอะ
จริงมั้ย? ซึ่งผมเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วตอนทำงาน ผมจะบอกกับลูกน้องเสมอว่าถ้าพวกหื่น นางแบบเขาดูออกนะ
ไม่ต้องพูดแค่สายตาก็มองออกแล้ว การทำงานร่วมกันต้องใช้จิตวิทยาสูงมาก มันเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราตัดเรื่องความคิดที่ไม่ดีออกไปทั้งหมด
บุคคลต้นแบบในการดำเนินชีวิต?
ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตนแต่ผมชอบหยิบเอาข้อคิดดีๆ ของแต่ละบุคคลมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จนะแม้แต่ลูกน้องผมก็กอปปี้เค้า อย่างประโยค ‘ยิ่งโตยิ่งเห็นความโง่ของตัวเอง’
ซึ่งจำไม่ได้ว่าใครพูดแต่เราจะเก็บไว้คอยเตือนใจตัวเอง
แฟชั่นเซ็ตที่สนุกทุกครั้งที่ได้ถ่าย?
เซ็ตที่ไม่น่าจะถ่ายออกมาได้สวย แต่ดันออกมาสวย เวลาถ่ายคนสวยแล้วออกมาสวยไม่รู้สึกอะไรแล้วกลายเป็นว่าบางทีสวยอยู่แล้ว
เราไม่สามารถถ่ายออกมาให้สวยกว่านี้ได้ แต่กับอีกเซ็ตนึงที่เห็นนางแบบแล้วไม่รอดแน่ๆ แต่เราต้องรับงานด้วยความจำเป็น
แต่ด้วยความที่เขาไม่สวยมากแต่มีนิสัยที่ดี มีสปริตในการทำงานเต็มที่พอถ่ายออกมามันสามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะตัวท้อปๆ ได้
งานแบบนี้จะมันส์มาก
อีกพาร์ทของชีวิตคือสะสมรถคลาสสิก?
ผมไม่ได้เป็นคนสะสมแต่นำมาใช้งานจริงทุกคัน ตอนนี้ที่มีใช้อยู่คือ Ford Mustang 1964 ,
Volkswagen Karmann Ghia 1960, Chevrolet 1957 อาจจะด้วยตัวผมเองเป็นคนละเอียดก็เลยชื่นชมงานละเอียด
ต้องยอมรับว่ารถคลาสสิกสมัยก่อนการออกแบบหรือแม้แต่การผลิตความใส่ใจมันคนละแบบกับปัจจุบัน
ทุกวันนี้รถจะเน้นเรื่องฟังก์ชั่นความสะดวกสบาย การที่ผมชอบรถคลาสสิกคือมันเป็นรถที่ไม่สะดวกสบาย ฟังก์ชั่นน้อย
ข้อดีของมันคือตัวถังแข็งแรง เรื่องงานดีไซน์ที่อะไรไม่รู้ประหลาด

แต่กูชอบว่ะ (หัวเราะ) อีกอย่างคือเป็นงานอดิเรกที่ได้ฝึกตัวเองด้วย
พยายาม อดทนกว่าจะหาอะไหล่บางชิ้นได้ มันเหมือนเวลาคุณจีบผู้หญิงคนนึงหัวโบราณกว่าจะได้แอ้มยากมาก
กับอีกคนสวยสุดๆ แต่ใจง่าย คุณค่ามันต่างกัน เป็นสมการที่เบสิกมาก
ทำไมถึงแอนตี้ความสบาย?
เหมือนคำที่ว่าคุณสบายวันนี้ทำให้ลำบากวันหน้าแต่ถ้าลำบากวันนี้จะสบายวันหน้าแน่นอน
คนเราต้องทำงานหนักจะประสบความสำเร็จมันเป็นสมการ ผมฝึกตัวเองไม่ให้เป็นคนรักสบายในทุกๆ
เรื่องเพราะว่าผมเห็นปัญหาต่างๆ มากมายจากการใช้ชีวิตของคนรอบตัวมากเยอะ
นอกจากรถคลาสสิกมีงานอดิเรกอย่างอื่นอีกมั้ยครับ?
ที่จริงรถคลาสสิกผมเลิกเล่นมา 4-5 ปีแล้ว ตอนนี้เก็บรถไว้ใช้งานอย่างเดียว ตอนนี้ที่สนอยู่เป็นเรื่องต้นไม้เพราะผมอาจใช้ชีวิตเร็ว
ไลฟ์สไตล์มันเปลี่ยนเร็ว อย่างปลูกต้นไม้ถ้าคนภายนอกมองคิดว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของคน 45 อัพ
แต่ผมรีบอยากรู้มันมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวว่าปลูกต้นไม้มันมีประโยชน์อะไรต่อเราและคนรอบข้างบ้าง
เคยสงสัยว่าทำไมแม่เราต้องปลูกต้นไม้ ทำไมนักธุรกิจสูงอายุหลายคนแทนที่จะใช้เวลาไปหาเงิน
แต่ต้องมาเสียเวลาปลูกต้นไม้วันละ 3- 4ชั่วโมง เราแค่สงสัยตรงจุดนี้
ฝากอะไรถึงคนที่ติดตามผลงานอยู่ ?
จะมีโฟโต้แกลเลอรี่อีกเล่มนึง เป็นงานดิบที่สุดในชีวิตของธาดา วาริช อารมณ์จริงของภาพสูงมาก
มันท้าทายตรงที่ว่าเราจะทำให้มันเป็นงานศิลปะได้ยังไงเพราะภาพและคอนเซ็ปต์มันต้องมาคู่กัน ปลายปีนี้น่าจะได้เห็นกันแน่นอน
ติดตามผลงานของ ธาดา วาริช ได้ที่
tadavarichworld.com
cr.
http://alure.mthai.com/variety/tada-varich/
พูดคุยกับ "ธาดา วาริช" ช่างภาพเซ็กซี่อันดับหนึ่งของเมืองไทย
และหลายคนยกให้เป็นไอดอลในเรื่องการถ่ายภาพและไลฟ์สไตล์คงไม่พ้นชื่อของ ‘จอร์จ’ ธาดา วาริช
ช่างภาพที่สั่งสมประสบการณ์ในวงการมาถึง 19 ปีเต็มจนกลายเป็นช่างภาพแฟชั่นเซ็กซี่อันดับหนึ่งของเมืองไทย
เราจะมาคุยกับผู้ชายคนนี้ในหลายๆ แง่มุมของชีวิตที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
อัพเดทชีวิตช่วงนี้หน่อยครับ ?
เพิ่งสึกออกมาหลังจากบวชมาเดือนนึง งานช่วงหลังเป็นโฆษณาซะส่วนใหญ่ ส่วนงานหลักถ่ายให้นิตยสาร Vogue ครับ
หลังจากสึกออกมาชีวิตเป็นยังไงบ้างครับ?
ถ้าถามว่าบวชแล้วได้อะไรการบวชคือการปรับปรุงแปลงพัฒนาส่วนของภายใน การทำงานก็เหมือนเดิม
ซึ่งเวลาทำงานมันใช้สองส่วนคือการกระทำกับความคิด ถ้าเรามีมันสองส่วนในบาลานซ์ที่ดีเวลาเราทำงานจะออกมาดี
งานคือพาร์ทหลักของชีวิตหรือเปล่าครับ?
งานคือแค่พาร์ทนึงของการมีชีวิตอยู่ คือทุกคนเกิดมาเพื่อทำงานอยู่แล้ว ณ ตอนนี้ผมคิดว่าการทำงานไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดของชีวิต
ถ้าสิ่งที่ทำแล้วรู้สึกดีมีความสุขและมีรายรับมาเลี้ยงด้วยซึ่งผมว่ามันสมบูรณ์กว่า คือผมมองโลกค่อนข้างแง่ดี
ผมไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ทำไมถ้าไม่แฮปปี้
ดูเป็นคนจริงจังกับชีวิต?
ผมเป็นคนจริงจังกับชีวิตนะแต่การแสดงออกดูเหมือนจะไม่ อีกอย่างที่หลายคนบอกมาคือเป็นคนละเอียดถ้าคุณมีนิสัยอย่างใดอย่างนึง
มันจะเป็นกับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือการใช้ชีวิต
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว?
10 ปีที่แล้วผมก้าวร้าวกว่านี้ในแง่ของงาน เป็นศิลปินกว่านี้ ทำงานตามใจอารมณ์มากกว่านี้
แต่ทุกวันนี้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์คือระวังขึ้น ผมมองทุกอย่างสองด้านเป็นดาบสองคมเมื่อก่อนใช้ชีวิตผาดโผน
อยู่ระหว่างความเป็นความตายหลายครั้งแต่เดี๋ยวนี้ใช้ชีวิตอีกแบบไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า กลายเป็นอีกคนไปเลย
ในแง่ของงานเปลี่ยนไปในทิศทางไหนครับ?
แตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิงแต่ว่ามันก็ยังมีความเป็นตัวผมอยู่เพราะคนสร้างงานก็คนเดิม
พอตัวคนสร้างงานเปลี่ยนงานก็เปลี่ยนงานมันเป็นภาพสะท้อนของตัวเรา ผมบอกตัวเองว่าถ้าเราจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
คือดีกับตัวเราดีกับคนอื่นผมมองว่าคนเราแก่ปีขึ้นปีนึงถ้าโง่ลงมันแย่นะ ปีนึงใช้ชีวิตสามร้อยกว่าวันเจอนั่นเจอนี่
เราน่าจะเอาอะไรจากตรงนั้นมาพัฒนาตัวเองในทุกๆ ปี สมัยก่อนงานของผมดิบ เถื่อน ก้าวร้าว ไร้กฎเกณฑ์ซึ่งเป็นจุดขายของผมในยุคนั้น
มาตอนนี้ภาพผมก็ยังคงไม่มีกฎเกณฑ์แต่จะลึกขึ้น มันอยู่ที่จุดประสงค์การสร้างงานด้วย เมื่อก่อนผมอยากให้คุณดูแล้วร้องเฮ้ย!
หรือมีเอฟฟเฟ็คกับงานของผมจะชมหรือด่าก็ได้ งานที่คนชอบมากก็โดนด่ามาก แต่เราต้องดูด้วยว่าคนที่คอมเม้นท์งานเราคือใคร
คอมเม้นท์ในแง่ไหนต้องพิจารณาตรงนี้ด้วย
อุปกรณ์สำคัญต่อการทำงานขนาดไหน?
ผมไม่ใช่คนบ้าอุปกรณ์ เพราะมันไม่สามารถสร้างความเป็นตัวตนของเราได้ ทุกวันนี้ผมทดลองการถ่ายรูปแบบใหม่ๆ
แต่ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี ช่างภาพเหมือนศิลปินคนวาดรูป จริงๆ ดินสอแท่งเดียวก็สร้างงานได้ ไม่ได้วัดกันที่ใครใช้ดินสอแพงกว่ากัน
ผมตี 70-80 เปอร์เซ็นต์ศิลปินที่ประสบความสำเร็จคือคนไม่มีตังค์ คนพวกนี้จะมีความดิ้นรนความพยายามความอดทน
ไม่มีอะไรต้องเสีย ผิดกับคนที่เกิดมามีฐานะมันจะจะเซฟตัวกว่า พอทำงานปลอดภัยเกินไปก็ไม่มีความแปลกประหลาดอะไรขึ้นมา
จุดเปลี่ยนของชีวิต?
การที่เราไปอยู่อเมริกาเหมือนเปลี่ยนโลกทัศน์ เราอยู่กรุงเทพเหมือนแค่จุดเล็กๆ ของโลกใบนี้ ที่อเมริกาเราไปเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม
ความคิดคนตะวันตกที่แตกต่างกับเรามากมายซึ่งบางทีเราได้เห็นข้อดีข้อเสียทั้งจากบ้านเราและบ้านเค้า
แล้วเราก็พยายามใช้แต่ข้อดีของแต่ละสังคม
วงการช่างภาพบ้านเราเป็นยังไงบ้าง?
ผมพยายามปฎิวัติแนวคิดคนไทยนะ เพราะผมสงสารศิลปิน คนไทยไม่จ้างงานคนแก่ ในขณะที่โลกอีกฝั่งนึงถ้าคุณยังเก่งไปเรื่อยๆ
จนถึงอายุ 50 คุณคือเทพเจ้าขณะที่เมืองไทยคุณเป็นแค่คนแก่คนนึงที่ไร้ประโยชน์ ทุกวันนี้ผมทำงาน
มันมีวิธีเดียวคือทำให้เห็นว่าถึงแก่ลงแต่สมรรถภาพดีขึ้น นี่คือเป้าหมายของผม
ถ่ายผู้หญิงปัจจุบันให้เซ็กซี่ยากกว่าเมื่อก่อนมั้ย?
เมื่อ 10 ปีที่แล้วมันไม่มีการศัลยกรรมมากมาย เทรนด์เกาหลีก็ยังไม่มาเพราะฉะนั้นมันเป็นความท้าทายของผมว่าเราจะถ่ายเซ็กซี่ยังไง
เพราะว่านางแบบก็ไม่ได้สวยเพอร์เฟ็คหรือแต่งตัวโป๊เหมือนปัจจุบัน เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้คนสวยขึ้นเยอะมันไม่ตื่นเต้นแล้ว
ทำให้ทุกวันนี้ถ่ายงานเซ็กซี่น้อยลงและต้องหาช่องทางที่ตื่นเต้นมากกว่า คือคนทำงานจะถูกหล่อเลี้ยงด้วยอะดรินาลีน
ต้องหาอะไรสักอย่างที่สามารถผลักดันเราได้ ผมถ่ายเซ็กซี่มา 10 ปี คิดว่าปีที่ 11 ผมไม่เบื่อเหรอ การสร้างงานถ้าทำอะไรซ้ำๆ
นานๆ มันก็จำเจคือทุกอย่างมันมีลิมิตของมัน ยกตัวอย่าง Rabbit มันก็ไม่ได้เซ็กซี่แบบดุดัน แต่ดูเบา สบาย
ไม่หยาบคายซึ่งตอนนั้นผมสร้างโจทย์ให้ตัวเอง ก็สำเร็จตามเป้าที่วางไว้
ซิกเนเจอร์ในงานที่แค่มองก็รู้ว่าเป็นงานของธาดา วาริช?
ช่างภาพแต่ละคนจะมีกฎกติกามารยาทอยู่ในหัวของตัวเองซึ่งบางทีมันอธิบายไม่ได้ มีทั้งการเลือกภาพสุดท้ายซึ่งสำคัญมาก
มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวมากของคนสร้างงาน ตรงนั้นจะบอกคาแร็คเตอร์ในงานออกมาได้ชัดเจนที่สุด องค์ประกอบภาพ โทนสี
อารมณ์ของตัวแบบ การเรียงลำดับภาพ โลเกชั่นแม้แต่สไตล์การแต่งหน้าทำผมแทบจะทุกอย่างรวมมาเป็นสไตล์ของช่างภาพคนนั้น
ได้เอาสไตล์ของตัวเองไปใช้ในงานโฆษณาบ้างมั้ยครับ?
ช่างภาพคือลูกจ้างคนนึง ผมมักจะเทียบตัวเองเป็นคนทำกับข้าวมากกว่า วันนี้มีคนสั่งต้มยำกุ้งเรามีหน้าที่ทำต้มยำกุ้งให้อร่อยในสูตรของเรา
สมมติว่าคนสั่งเป็นคนจีนชอบกินเค็มถามว่าเราปรับได้มั้ยเราทำได้ทุกอย่างสามารถยืดหยุ่นได้
สมัยก่อนเรื่องงานผมดื้อทุกวันนี้ถ้าเป็นงานโฆษณาผมจะให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจะถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว
รูปที่สวยมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
ผมมองว่าภาพใดก็ตามมีประโยชน์ทางใดทางหนึ่งต่อผู้ดู ผมว่ามันเป็นภาพที่ดี คนดูมีหลายแบบบางคนชอบรูปวิว
บางคนชอบรูปผู้หญิง มีภาพอีกประเภทนึงน่าสนใจเรียกว่าภาพที่มีความหมาย หรือภาพที่มีประโยชน์ สมมติในโครงการสร้างเขื่อนใหญ่ๆ
ก็ต้องมีการถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานในการสร้างถ้าไม่มีภาพนี้เขื่อนอาจจะสร้างไม่เสร็จ หรือภาพของคุณยายที่เสียไปแล้ว
และมีภาพเดียวนี่คือเสน่ห์ของภาพที่ถึงจะไม่สวยแต่มีประโยชน์ต่อคนที่เกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แรงบันดาลใจหาได้จากที่ไหน?
แรงบันดาลใจของผมมันบ่มของมันเอง บางทีถ้ามันยังไม่มาเราก็สร้างขึ้นมาแทนที่จะออกไปหาหรือหาแล้วไม่เจอก็ไม่รอแล้วสร้างเองเลย
คิดจากสิ่งรอบตัวขึ้นมา เมื่อก่อนผมเป็นคนทำงานที่ขาดเพลงไม่ได้ติดเพลงมากและต้องเป็นเพลงที่อยากฟังเดี๋ยวนั้นด้วยนะ
มันกลายเป็นคำถามว่าเราจะไม่เจ๋งกว่าเหรอถ้าสามารถทำงานขณะที่องค์ประกอบการทำงานไม่ครบ
ผมพยายามไม่ยึดติดกับอะไรและท้าทายตัวเองตลอดเวลา
ความหมายของคำว่า ‘ศิลปะ’
งานศิลปะคือการแหกคอก การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิมตัดความเคยชินออกเหมือนเป็นการเปิดช่องให้ตัวเองนะ
คนส่วนใหญ่ยิ่งโตยิ่งทำงานเซฟขึ้นไม่เปิดช่องให้ตัวเองแต่ผมไม่ใช่ ผมพยายามทำตัวเองให้เลือกได้ถ้าวันไหนอยากทดลองอะไรใหม่ๆ
ก็ยังอยู่ในสแตนดาร์ดของเรา
วิธีดึงคาแร็คเตอร์ของนางแบบออกมาให้ชัดเจน ?
การพูดเป็นการเริ่มที่ดีแต่การเชื่อใจไม่ได้มาจากการพูดคุยเสมอไป พูดเยอะบางทีก็น่ารำคาญ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้ชายพูดเยอะ
จริงมั้ย? ซึ่งผมเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วตอนทำงาน ผมจะบอกกับลูกน้องเสมอว่าถ้าพวกหื่น นางแบบเขาดูออกนะ
ไม่ต้องพูดแค่สายตาก็มองออกแล้ว การทำงานร่วมกันต้องใช้จิตวิทยาสูงมาก มันเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราตัดเรื่องความคิดที่ไม่ดีออกไปทั้งหมด
บุคคลต้นแบบในการดำเนินชีวิต?
ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตนแต่ผมชอบหยิบเอาข้อคิดดีๆ ของแต่ละบุคคลมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จนะแม้แต่ลูกน้องผมก็กอปปี้เค้า อย่างประโยค ‘ยิ่งโตยิ่งเห็นความโง่ของตัวเอง’
ซึ่งจำไม่ได้ว่าใครพูดแต่เราจะเก็บไว้คอยเตือนใจตัวเอง
แฟชั่นเซ็ตที่สนุกทุกครั้งที่ได้ถ่าย?
เซ็ตที่ไม่น่าจะถ่ายออกมาได้สวย แต่ดันออกมาสวย เวลาถ่ายคนสวยแล้วออกมาสวยไม่รู้สึกอะไรแล้วกลายเป็นว่าบางทีสวยอยู่แล้ว
เราไม่สามารถถ่ายออกมาให้สวยกว่านี้ได้ แต่กับอีกเซ็ตนึงที่เห็นนางแบบแล้วไม่รอดแน่ๆ แต่เราต้องรับงานด้วยความจำเป็น
แต่ด้วยความที่เขาไม่สวยมากแต่มีนิสัยที่ดี มีสปริตในการทำงานเต็มที่พอถ่ายออกมามันสามารถไต่ระดับขึ้นไปแตะตัวท้อปๆ ได้
งานแบบนี้จะมันส์มาก
อีกพาร์ทของชีวิตคือสะสมรถคลาสสิก?
ผมไม่ได้เป็นคนสะสมแต่นำมาใช้งานจริงทุกคัน ตอนนี้ที่มีใช้อยู่คือ Ford Mustang 1964 ,
Volkswagen Karmann Ghia 1960, Chevrolet 1957 อาจจะด้วยตัวผมเองเป็นคนละเอียดก็เลยชื่นชมงานละเอียด
ต้องยอมรับว่ารถคลาสสิกสมัยก่อนการออกแบบหรือแม้แต่การผลิตความใส่ใจมันคนละแบบกับปัจจุบัน
ทุกวันนี้รถจะเน้นเรื่องฟังก์ชั่นความสะดวกสบาย การที่ผมชอบรถคลาสสิกคือมันเป็นรถที่ไม่สะดวกสบาย ฟังก์ชั่นน้อย
ข้อดีของมันคือตัวถังแข็งแรง เรื่องงานดีไซน์ที่อะไรไม่รู้ประหลาด
พยายาม อดทนกว่าจะหาอะไหล่บางชิ้นได้ มันเหมือนเวลาคุณจีบผู้หญิงคนนึงหัวโบราณกว่าจะได้แอ้มยากมาก
กับอีกคนสวยสุดๆ แต่ใจง่าย คุณค่ามันต่างกัน เป็นสมการที่เบสิกมาก
ทำไมถึงแอนตี้ความสบาย?
เหมือนคำที่ว่าคุณสบายวันนี้ทำให้ลำบากวันหน้าแต่ถ้าลำบากวันนี้จะสบายวันหน้าแน่นอน
คนเราต้องทำงานหนักจะประสบความสำเร็จมันเป็นสมการ ผมฝึกตัวเองไม่ให้เป็นคนรักสบายในทุกๆ
เรื่องเพราะว่าผมเห็นปัญหาต่างๆ มากมายจากการใช้ชีวิตของคนรอบตัวมากเยอะ
นอกจากรถคลาสสิกมีงานอดิเรกอย่างอื่นอีกมั้ยครับ?
ที่จริงรถคลาสสิกผมเลิกเล่นมา 4-5 ปีแล้ว ตอนนี้เก็บรถไว้ใช้งานอย่างเดียว ตอนนี้ที่สนอยู่เป็นเรื่องต้นไม้เพราะผมอาจใช้ชีวิตเร็ว
ไลฟ์สไตล์มันเปลี่ยนเร็ว อย่างปลูกต้นไม้ถ้าคนภายนอกมองคิดว่าเป็นไลฟ์สไตล์ของคน 45 อัพ
แต่ผมรีบอยากรู้มันมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวว่าปลูกต้นไม้มันมีประโยชน์อะไรต่อเราและคนรอบข้างบ้าง
เคยสงสัยว่าทำไมแม่เราต้องปลูกต้นไม้ ทำไมนักธุรกิจสูงอายุหลายคนแทนที่จะใช้เวลาไปหาเงิน
แต่ต้องมาเสียเวลาปลูกต้นไม้วันละ 3- 4ชั่วโมง เราแค่สงสัยตรงจุดนี้
ฝากอะไรถึงคนที่ติดตามผลงานอยู่ ?
จะมีโฟโต้แกลเลอรี่อีกเล่มนึง เป็นงานดิบที่สุดในชีวิตของธาดา วาริช อารมณ์จริงของภาพสูงมาก
มันท้าทายตรงที่ว่าเราจะทำให้มันเป็นงานศิลปะได้ยังไงเพราะภาพและคอนเซ็ปต์มันต้องมาคู่กัน ปลายปีนี้น่าจะได้เห็นกันแน่นอน
ติดตามผลงานของ ธาดา วาริช ได้ที่ tadavarichworld.com
cr. http://alure.mthai.com/variety/tada-varich/