สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากมาเล่าเรื่องของผมให้ฟังมันอาจจะไม่เท่าไรนัก แต่ผมก็อยากเล่าให้ฟัง...
ตอนนี้ผมอายุจะ 18 ปีแล้วและกำลังจะจบ ม.6 จากโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด
เมื่อก่อนนี้ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ ม.4 ม.5 คนที่บ้าน (ในที่นี้หมายถึง แม่ พี่ น้า และป้า) ชอบพูดอยู่เสมอว่า จบ ม.6 แล้วไปสอบเข้าหมอนะ
จบมาเรียนต่อเกี่ยวกับศัลยกรรมใบหน้า จะได้มาศัลยกรรมให้//ง่ายๆคือจะได้ไม่เสียเงิน ซึ่งผมก็อือ...ออตามไปด้วย
คือที่บ้านมีฐานะไม่รวยมาก เป็นชนชั้นกลาง พอเริ่มเข้า ม.5 ม.6 ทุกคนก็ชอบเข้ามาถามว่าอยากเรียนอะไร อยากสอบอะไร
อยากเรียนที่ไหน ตอนนั้นคิดได้เพียงคำเดียวว่า "ไม่รู้สิครับ ยังไม่ได้คิดเลย"
พอพูดแบบนี้ทุกคนก็ชอบมาว่าโตจนป่านนี้แล้วทำไมไม่รู้จะเรียนอะไรอีก... ใครมาถามก็จะตอบแบบนี้
ถามว่าเมื่อก่อนตอน ม.4 เคยคิดนะว่าอยากเรียนแพทย์เพราะสังคมตอนนั้นทั้งครอบครัว และเพื่อนๆมาพาไป
ใครๆก็อยากเรียนหมอ ผมก็เลยอยากเรียนบ้างเท่านั้น แต่พอมาปลายๆ ม.5 ผมเริ่มคิดได้แล้วว่าหมอยังไงๆมันก็ไม่ใช่ และไม่เคยชอบด้วย
ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในโรงพยาบาลทุกที คิดแล้วคิดอีก...สุดท้ายก็ไม่เอาแล้วพอ เลิกคิด!!!
จากที่ตอนแรกตอบว่าไม่รู้ไป คราวนี้คนที่บ้านก็เข้ามาถามคำถามเดิมๆ แต่คราวนี้เราตอบได้แล้วว่าอยากเรียนอะไร ซึ่งก็ตอบไปว่าบัญชี อยากเป็น Audit
//เพราะมาดูตัวเองแล้วผมเป็นคนไม่คิดอะไรออกนอกกรอบเลย เป็นคนยังไงก็ยังนั่น ชอบเรื่องเงินๆทองๆ จนหลังๆหันมาบันทึกรายรับ รายจ่ายทุกๆวัน พอทำๆไปแล้วมันเริ่มชอบมากขึ้นไปอีก แล้วเป็นคนที่เรียนวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยเข้าหัว คิดอะไรนอกกรอบไม่เป็น แต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ 3.7-3.8 ตลอด...//
กลับมาที่คำถามเมื่อกี้หลังจากที่ตอบบัญชีไป ก็โดนว่ากลับมาว่า ทำไมไม่เรียนหมอเงินดีนะ เปิดคลีนิคอีกก็รวย อีกทั้งจะได้มาศัลบกรรมให้ได้อีก พอบอกไม่เอาหมอ พี่ก็บอกทันตะก็ได้นะรวยดี เปิดคลีนิกเข้า แถมเอาโทรศัพท์มาเปิดอันดับเงินเดือนของแต่ละอาชีพให้ดู สรุปง่ายๆอยากให้ผมเป็นหมอว่างั้นเถอะ ตอนนั้นใจไม่ได้อยู่ที่หมออีกแล้ว พูดเท่าไรๆก็ไม่ฟัง แม่ก็เข้าข้างพี่อีก พอมาตอน ม.6 เราก็เริ่มหาลู่ทางไปสอบเข้าบัญชีแล้ว ใจอยากเข้าธรรมศาสตร์มาก เลยไปสมัครสอบ SMART-I พอโทรบอกแม่เท่านั้นแหละ บอกว่าลูกชอบเหรอ อยากเรียนเหรอ อาชีพนี้ทำงานหนักนะ เราก็สวนกลับไปว่าแล้วอาชีพหมอไม่ทำงานหนักเหรอ มันเหนื่อยนะแม่ ลูกเรียนไม่ไหวหรอก สุดท้ายแม่เลยยอมให้สมัคร พอสอบได้คะแนนก็พอใช้ได้เกือบพอยื่นและ แต่คงไม่ติด ทีนี้โควต้า มช. มน.มา สมัครเองเลยครับ เลือกอันดับหนึ่งบัญชี อันดับสอบเศรษฐศาสตร์ ไม่บอกคนในครอบครัวเลย ผลประกาศออกมาติดทั้ง 2 ที่ คราวนี้โทรไปบอกแม่ว่าเอามน.นี้แหละ ยอมทิ้ง มช. ลูกติดบัญชีนะเลือกแบบนี้ไว้ ตอนแรกๆก็เลือกนะอยากไปจุฬา ธรรมศาสตร์ แต่คิดไปคิดมาอยู่ใกล้บ้านก็ดีแล้ว ที่ไหนก็คงเหมือนกัน อีกอย่างไม่รอแอดแล้ว เหนื่อยๆ แม่ตอบกลับมาว่ายินดีด้วยนะเราก็ดีใจ แต่ประโยคถัดไปนี่บอกว่า " ติดอันนี้แล้วมันยังมีสอบอีกรอบไหม " ผมก็ตอบกลับไปว่าสรุปจะให้ลูกเรียนหมออีกใช่มั้ย ลูกบอกแล้วว่าลูกไม่เอา แม่จะบังคับทำไมอีก คุยกันเป็นชั่วโมงกว่าจะยอมได้ สุดท้ายก็ได้บัญชี มน. สมใจ จบไปก็จะสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี...
อยากจะบอกว่าจงเรียนในคณะที่ใช่คณะที่ชอบ สถาบันไหนก็เหมือนกัน จบออกมาก็มีงานทำเหมือนกัน มันอยู่ที่ตัวเราว่าตั้งใจเรียนให้มากแค่ไหน จบออกมาดีใครเค้าก็อยากเอาตัวมาทำงานให้ ไม่จำเป็นว่าจบจากที่ไหน แต่สิ่งที่จำเป็นมากกว่านั้นคือ ความรู้กับวุฒิที่เราได้รับมาต่างหาก...
ทุกคนที่บ้านอยากให้เป็นหมอ แต่ผมไม่ได้อยากเป็น...
ตอนนี้ผมอายุจะ 18 ปีแล้วและกำลังจะจบ ม.6 จากโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด
เมื่อก่อนนี้ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ ม.4 ม.5 คนที่บ้าน (ในที่นี้หมายถึง แม่ พี่ น้า และป้า) ชอบพูดอยู่เสมอว่า จบ ม.6 แล้วไปสอบเข้าหมอนะ
จบมาเรียนต่อเกี่ยวกับศัลยกรรมใบหน้า จะได้มาศัลยกรรมให้//ง่ายๆคือจะได้ไม่เสียเงิน ซึ่งผมก็อือ...ออตามไปด้วย
คือที่บ้านมีฐานะไม่รวยมาก เป็นชนชั้นกลาง พอเริ่มเข้า ม.5 ม.6 ทุกคนก็ชอบเข้ามาถามว่าอยากเรียนอะไร อยากสอบอะไร
อยากเรียนที่ไหน ตอนนั้นคิดได้เพียงคำเดียวว่า "ไม่รู้สิครับ ยังไม่ได้คิดเลย"
พอพูดแบบนี้ทุกคนก็ชอบมาว่าโตจนป่านนี้แล้วทำไมไม่รู้จะเรียนอะไรอีก... ใครมาถามก็จะตอบแบบนี้
ถามว่าเมื่อก่อนตอน ม.4 เคยคิดนะว่าอยากเรียนแพทย์เพราะสังคมตอนนั้นทั้งครอบครัว และเพื่อนๆมาพาไป
ใครๆก็อยากเรียนหมอ ผมก็เลยอยากเรียนบ้างเท่านั้น แต่พอมาปลายๆ ม.5 ผมเริ่มคิดได้แล้วว่าหมอยังไงๆมันก็ไม่ใช่ และไม่เคยชอบด้วย
ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในโรงพยาบาลทุกที คิดแล้วคิดอีก...สุดท้ายก็ไม่เอาแล้วพอ เลิกคิด!!!
จากที่ตอนแรกตอบว่าไม่รู้ไป คราวนี้คนที่บ้านก็เข้ามาถามคำถามเดิมๆ แต่คราวนี้เราตอบได้แล้วว่าอยากเรียนอะไร ซึ่งก็ตอบไปว่าบัญชี อยากเป็น Audit
//เพราะมาดูตัวเองแล้วผมเป็นคนไม่คิดอะไรออกนอกกรอบเลย เป็นคนยังไงก็ยังนั่น ชอบเรื่องเงินๆทองๆ จนหลังๆหันมาบันทึกรายรับ รายจ่ายทุกๆวัน พอทำๆไปแล้วมันเริ่มชอบมากขึ้นไปอีก แล้วเป็นคนที่เรียนวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยเข้าหัว คิดอะไรนอกกรอบไม่เป็น แต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ 3.7-3.8 ตลอด...//
กลับมาที่คำถามเมื่อกี้หลังจากที่ตอบบัญชีไป ก็โดนว่ากลับมาว่า ทำไมไม่เรียนหมอเงินดีนะ เปิดคลีนิคอีกก็รวย อีกทั้งจะได้มาศัลบกรรมให้ได้อีก พอบอกไม่เอาหมอ พี่ก็บอกทันตะก็ได้นะรวยดี เปิดคลีนิกเข้า แถมเอาโทรศัพท์มาเปิดอันดับเงินเดือนของแต่ละอาชีพให้ดู สรุปง่ายๆอยากให้ผมเป็นหมอว่างั้นเถอะ ตอนนั้นใจไม่ได้อยู่ที่หมออีกแล้ว พูดเท่าไรๆก็ไม่ฟัง แม่ก็เข้าข้างพี่อีก พอมาตอน ม.6 เราก็เริ่มหาลู่ทางไปสอบเข้าบัญชีแล้ว ใจอยากเข้าธรรมศาสตร์มาก เลยไปสมัครสอบ SMART-I พอโทรบอกแม่เท่านั้นแหละ บอกว่าลูกชอบเหรอ อยากเรียนเหรอ อาชีพนี้ทำงานหนักนะ เราก็สวนกลับไปว่าแล้วอาชีพหมอไม่ทำงานหนักเหรอ มันเหนื่อยนะแม่ ลูกเรียนไม่ไหวหรอก สุดท้ายแม่เลยยอมให้สมัคร พอสอบได้คะแนนก็พอใช้ได้เกือบพอยื่นและ แต่คงไม่ติด ทีนี้โควต้า มช. มน.มา สมัครเองเลยครับ เลือกอันดับหนึ่งบัญชี อันดับสอบเศรษฐศาสตร์ ไม่บอกคนในครอบครัวเลย ผลประกาศออกมาติดทั้ง 2 ที่ คราวนี้โทรไปบอกแม่ว่าเอามน.นี้แหละ ยอมทิ้ง มช. ลูกติดบัญชีนะเลือกแบบนี้ไว้ ตอนแรกๆก็เลือกนะอยากไปจุฬา ธรรมศาสตร์ แต่คิดไปคิดมาอยู่ใกล้บ้านก็ดีแล้ว ที่ไหนก็คงเหมือนกัน อีกอย่างไม่รอแอดแล้ว เหนื่อยๆ แม่ตอบกลับมาว่ายินดีด้วยนะเราก็ดีใจ แต่ประโยคถัดไปนี่บอกว่า " ติดอันนี้แล้วมันยังมีสอบอีกรอบไหม " ผมก็ตอบกลับไปว่าสรุปจะให้ลูกเรียนหมออีกใช่มั้ย ลูกบอกแล้วว่าลูกไม่เอา แม่จะบังคับทำไมอีก คุยกันเป็นชั่วโมงกว่าจะยอมได้ สุดท้ายก็ได้บัญชี มน. สมใจ จบไปก็จะสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี...
อยากจะบอกว่าจงเรียนในคณะที่ใช่คณะที่ชอบ สถาบันไหนก็เหมือนกัน จบออกมาก็มีงานทำเหมือนกัน มันอยู่ที่ตัวเราว่าตั้งใจเรียนให้มากแค่ไหน จบออกมาดีใครเค้าก็อยากเอาตัวมาทำงานให้ ไม่จำเป็นว่าจบจากที่ไหน แต่สิ่งที่จำเป็นมากกว่านั้นคือ ความรู้กับวุฒิที่เราได้รับมาต่างหาก...