ยรรยง ย้ำฟ้องถอดถอน 'ปู' เท่ากับปฏิเสธอำนาจ คสช.
http://www.thairath.co.th/content/474147
ยรรยง ย้ำการฟ้องถอดถอนยิ่งลักษณ์เท่ากับปฏิเสธอำนาจ คสช. -ศาลรัฐธรรมนูญ ส่อว่าจะเป็นการถ่ายโอนอำนาจของวุฒิสภาอย่างบิดเบือน
วันที่ 11 ม.ค. นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ แถลงเกี่ยวกับประเด็นที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หยิบยกขึ้นตอบโต้ ป.ป.ช.ในช่วงแถลงเปิดกรณีเสนอให้ ส.น.ช.ถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งระบุว่าตนได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วถึง 3 ครั้ง คือ โดยการยุบสภา โดยคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและโดยคำสั่งของ คสช.จึงไม่เหลือตำแหน่งให้ถอดถอนอีก โดยนายยรรยง ยืนยันว่านอกจากจะเป็นการถอดถอนซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็นและไม่มีกฎหมายรองรับแล้ว ยังมีผลเท่ากับเป็นการปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและ คสช.อย่างชัดแจ้งอีกด้วย
นายยรรยง ชี้แจงว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 มีผลทำให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังคงต้องทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ ในทำนองเดียงกันเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีย้าย นายถวิล เปลี่ยนสี ก็ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ยังคงต้องทำหน้าที่รักษาการอยู่ต่อไป
เมื่อมีการรัฐประหารและ คสช.ได้มีคำสั่งให้ยุบคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ จึงมีผลทำให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปโดยเด็ดขาด โดยไม่ต้องทำหน้าที่รักษาการอีกต่อไป เพราะโดยผลของคำสั่ง คสช.ทำให้ คสช.เองเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารแต่ผู้เดียว นางสาวยิ่งลักษณ์จึงหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยสมบูรณ์แล้วตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทั้งตามกฎหมายและความเป็นจริง
ดังนั้น การดำเนินการฟ้องถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงอาจวิเคราะห์ได้ 2 ประการคือ
(1) ผู้ดำเนินการไม่ยอมรับและไม่เชื่อมั่นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและคำสั่งของ คสช.มีผลทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นต้องฟ้องให้ ส.น.ช. พิจารณาถอดถอนอีก ซึ่งมีผลเท่ากับการปฏิเสธอำนาจของ คสช. และศาลรัฐธรรมนูญและ
(2) การฟ้องถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์มุ่งผลทางการเมืองในอนาคต คือต้องการกำจัด นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นศัตรูคู่แข่งทางการเมืองที่มีศักยภาพสูงสุดในปัจจุบัน โดยไม่เคารพต่อเจตนารมณ์และหลักการของการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (Impeachment) ซึ่งต้องการขจัดผู้บริหารหรือผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งอยู่ ให้หลุดพ้นจากตำแหน่งนั้นๆ เพื่อไม่ให้เขาสามารถใช้อำนาจในตำแหน่งนั้นต่อไปเท่านั้น
นายยรรยง ได้ให้ข้อสังเกตในตอนท้ายว่า ในสถานการณ์ปกติ ผู้มีอำนาจถอดถอนคือวุฒิสภาซึ่งมีหน้าที่เฉพาะในการกลั่นกรองกฎหมายและตรวจสอบบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง โดยมุ่งที่จะกลั่นกรองและตรวจสอบผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เช่น อัยการสูงสุด ผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น และมีหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใต้กรอบกฎหมายและโครงสร้างในขณะนั้นๆ เท่านั้น
นายยรรยง กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษการเสนอให้ ส.น.ช. ซึ่ง คสช. แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อใช้อำนาจที่ได้รับถ่ายโอนมาจากวุฒิสภา ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ซึ่งได้ถูกยกเลิกไปแล้ว โดย คสช.ให้ใช้อำนาจที่กว้างขวางกว่าเดิม กล่าวคือเสนอให้ สนช.ถอดถอนบุคคลที่ คสช.เองได้สั่งให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วจึงส่อว่าจะเป็นการถ่ายโอนอำนาจของวุฒิสภาอย่างบิดเบือนโดยหวังผลทางการเมืองเท่านั้น.
สรุป...ถอนแล้ว ถอนอีก ถอนจนไม่รู้จะถอนยังไงแล้ววว..555
ศาล รธน. ก็ถอนไปแล้ว
คสช. ก็ถอนไปอีกรอบ
ยังๆยังไม่พอใจ สนช. จะเอาด้วย 5555
................ยรรยง ย้ำฟ้องถอดถอน 'ปู' เท่ากับปฏิเสธอำนาจ คสช.............
http://www.thairath.co.th/content/474147
ยรรยง ย้ำการฟ้องถอดถอนยิ่งลักษณ์เท่ากับปฏิเสธอำนาจ คสช. -ศาลรัฐธรรมนูญ ส่อว่าจะเป็นการถ่ายโอนอำนาจของวุฒิสภาอย่างบิดเบือน
วันที่ 11 ม.ค. นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ แถลงเกี่ยวกับประเด็นที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หยิบยกขึ้นตอบโต้ ป.ป.ช.ในช่วงแถลงเปิดกรณีเสนอให้ ส.น.ช.ถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งระบุว่าตนได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วถึง 3 ครั้ง คือ โดยการยุบสภา โดยคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและโดยคำสั่งของ คสช.จึงไม่เหลือตำแหน่งให้ถอดถอนอีก โดยนายยรรยง ยืนยันว่านอกจากจะเป็นการถอดถอนซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็นและไม่มีกฎหมายรองรับแล้ว ยังมีผลเท่ากับเป็นการปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและ คสช.อย่างชัดแจ้งอีกด้วย
นายยรรยง ชี้แจงว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 มีผลทำให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังคงต้องทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ ในทำนองเดียงกันเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีย้าย นายถวิล เปลี่ยนสี ก็ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ยังคงต้องทำหน้าที่รักษาการอยู่ต่อไป
เมื่อมีการรัฐประหารและ คสช.ได้มีคำสั่งให้ยุบคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ จึงมีผลทำให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปโดยเด็ดขาด โดยไม่ต้องทำหน้าที่รักษาการอีกต่อไป เพราะโดยผลของคำสั่ง คสช.ทำให้ คสช.เองเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารแต่ผู้เดียว นางสาวยิ่งลักษณ์จึงหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยสมบูรณ์แล้วตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทั้งตามกฎหมายและความเป็นจริง
ดังนั้น การดำเนินการฟ้องถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงอาจวิเคราะห์ได้ 2 ประการคือ
(1) ผู้ดำเนินการไม่ยอมรับและไม่เชื่อมั่นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและคำสั่งของ คสช.มีผลทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์หลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยสมบูรณ์อย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นต้องฟ้องให้ ส.น.ช. พิจารณาถอดถอนอีก ซึ่งมีผลเท่ากับการปฏิเสธอำนาจของ คสช. และศาลรัฐธรรมนูญและ
(2) การฟ้องถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์มุ่งผลทางการเมืองในอนาคต คือต้องการกำจัด นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นศัตรูคู่แข่งทางการเมืองที่มีศักยภาพสูงสุดในปัจจุบัน โดยไม่เคารพต่อเจตนารมณ์และหลักการของการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (Impeachment) ซึ่งต้องการขจัดผู้บริหารหรือผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งอยู่ ให้หลุดพ้นจากตำแหน่งนั้นๆ เพื่อไม่ให้เขาสามารถใช้อำนาจในตำแหน่งนั้นต่อไปเท่านั้น
นายยรรยง ได้ให้ข้อสังเกตในตอนท้ายว่า ในสถานการณ์ปกติ ผู้มีอำนาจถอดถอนคือวุฒิสภาซึ่งมีหน้าที่เฉพาะในการกลั่นกรองกฎหมายและตรวจสอบบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง โดยมุ่งที่จะกลั่นกรองและตรวจสอบผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เช่น อัยการสูงสุด ผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น และมีหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใต้กรอบกฎหมายและโครงสร้างในขณะนั้นๆ เท่านั้น
นายยรรยง กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษการเสนอให้ ส.น.ช. ซึ่ง คสช. แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อใช้อำนาจที่ได้รับถ่ายโอนมาจากวุฒิสภา ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ซึ่งได้ถูกยกเลิกไปแล้ว โดย คสช.ให้ใช้อำนาจที่กว้างขวางกว่าเดิม กล่าวคือเสนอให้ สนช.ถอดถอนบุคคลที่ คสช.เองได้สั่งให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วจึงส่อว่าจะเป็นการถ่ายโอนอำนาจของวุฒิสภาอย่างบิดเบือนโดยหวังผลทางการเมืองเท่านั้น.
สรุป...ถอนแล้ว ถอนอีก ถอนจนไม่รู้จะถอนยังไงแล้ววว..555
ศาล รธน. ก็ถอนไปแล้ว
คสช. ก็ถอนไปอีกรอบ
ยังๆยังไม่พอใจ สนช. จะเอาด้วย 5555