ในท้ายตอนที่ 18 การตัดสินใจชนิดบ้าบิ่นของดัลโพ หรือ คีฮายองจะทำให้เกิดอะไรขึ้นก็คงต้องติดตามต่อไปใน 3 ตอนข้างหน้า หากในวันนี้ตั้งแต่ดูมาอาจจะสกิปช่วงสองสามตอนแรกไปซักหน่อย แต่พอปะติดปะต่อเรื่องกันไปกันมาแล้วคิดว่าเจอแนวคิดอะไรอยู่อย่าง พิน็อคคิโอ้ คือ หุ่นน้อยที่ช่างชราสร้างขึ้นมาและรักมาก หุ่นน้อยตัวนั้นจึงมีชีวิต แต่เมื่อใดที่พิน็อคคิโอ้พูดคำลวงออกมาจมูกก็จะค่อย ๆ ยาวออกไปเรื่อย ๆ
ชเวอินฮา คือ พิน็อคคิโอ้ เมื่อใดที่เธอพูดสิ่งที่ไม่ตรงกับใจอาการสะอึกจะบังเกิดเสมอ ทำให้ความฝันที่จะเป็นนักข่าวแลดูมีอุปสรรคยากเย็นแต่ด้วยเส้นสนกลนัยบางประการเธอเข้าไปทำงานที่ใฝ่ฝัน กับแม่ ผจก.ชาอ๊ก ที่เป็นไอดอลของเธอมาแต่ไหนแต่ไร หากภาพฝันและความจริงมักจะต่างกันเมื่อแม่ที่เธอฝันกับแม่ที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกันซักนิด ผู้หญิงแสนเย็นชาคนนี้คือใครกัน ?
ผจก. ชาอ๊ก เป็นคนข่าวมือฉมัง เธอลอยอยู่บัลลังก์แห่งอาชีพ และ รู้เป็นอย่างดีถึงอิทธิพล และ พลังอำนาจทีอยู่ในมือ เขาว่าปากคนยาวกกว่าปากกา แต่เธอมีทั้งปากคนและปากกาอยู่ในมือ คนข่าวที่ใคร ๆ ให้การเคารพนับถือ เรื่องราวของผู้หญิงคนแรกที่ฝ่าฝันจนมีที่ทางในโลกแห่งการงาน เป็นที่โจษขานราวตำนานผู้กล้า แต่จะมีใครซักกี่คนรู้ว่า กว่าจะถึงบัลลังก์แห่งอาชีพที่ยืนอยู่จุดนี้ ผจก. ชาอ๊ก ใช้พลังแห่งสื่อในมือสร้างคำลวง เหยียบย่ำ ลุยเลือด เศษซากปรักหักพังในชีวิตคนอื่นมามากแค่ไหน
แน่นอนว่าหนึ่งในไม่กี่คนนั้นจะต้องมีดัลโพ หรือ คีฮามยองซึ่งเป็นเหยื่อร่างแหคำลวงของ ผจก. ชาอ๊ก และ พรรคพวกเข้าเต็ม ๆ ไฟแค้นสุมอยู่ในอก หากจะเผอิญหน้าและต่อกรก็จะต้องทัดเทียมอยู่ในอาชีพเดียวกัน ปฏิบัติการล้มยักษ์จึงอยู่ในสมองของคีฮามยองตลอดมา แต่ทว่าเรื่องราวก็ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก เมื่อคนที่เขาต้องการสุดจิตสุดใจที่จะแก้แค้นไม่ใช่ใครที่ไหน แม่บังเกิดเกล้าของคนที่เขารักที่สุดในชีวิต
การฟาดฟันของ ผจก.ชาอ๊ก และ คีมยอง เป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง โดยมีชเวอินฮา พิน็อคคิโอ้ตัวน้อย ที่อยู่ตรงกลาง สำหรับเราแล้ว "ชเวอินฮา" คือกระจกที่ส่องสะท้อนให้เห็นความจริงในตัวของชาอ๊ก และ คีมยอง เพราะ สิ่งที่ชเวอินฮาพูด ทุกคนจะรู้ได้ว่าเธอหลอกหรือพูดจริง หรือ จะอาจจะเรียกได้ว่าเมื่อชเวอินฮาเปิดปากแล้วล่ะก็ นั่นคือเงาสะท้อนตัวตนอันเที่ยงตรงจากปากคนที่ไม่ว่าจะโกหกหรือจะพูดจริง ก็จะรู้ได้ว่าเธอรู้สึกเช่นไร
เงาสะท้อนจากชเวอินฮาต่อ ผจก. ชาอ๊ก ทำให้เราเห็นภาพมายาในคำลวง นานมาแล้ว ผจก.ชาอ๊ก ก็คือนักข่าวหญิงไฟแรงอนาคตไกล ที่อยู่หนทางต้องเลือก ด้านหนึ่ง คือ ความถูกต้อง แต่เปอร์เซนสูงเหลือเกินที่ตัวเองจะต้องหมดอนาคต และ ถูกตราหน้าว่าเป็นนกสองหัว เธอเห็นผลของมันมาแล้วในเคสสามีของตัวเอง และ มันจบลงด้วยการหนย่าร้าง ด้านหนึ่ง คือ ทางรอด ความหอมหวานแห่งชื่อเสียง เกียรติยศ และ อำนาจ
แต่นอกจากความลับระดับเป็นตายที่ต้องเก็บงำไว้ตลอดชีวิตแล้ว ผลกระทบอีกประการหนึ่ง คือ เธอต้องละทิ้งลูก ครอบครัว ทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง เหลือเพียงตัวเองเท่านั้น เธอเลือกอย่างหลัง คำลวงนั้นก่อให้เกิดความสำเร็จมากมายล้นหลาม กระนั้นมันก็เป็นเพียงมายาที่ปิดบังความเจ็บปวดรวดร้าวของ ผจก.ชาอ๊ก เธอคิดว่าเธอไม่มีมันอยู่แล้วความละอายเหล่านั้น นั่นคือภาพมายาอีกเช่นกัน ภาพมายาที่กลบฝังด้วยความชินชา แล้วเธอก็ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อความผิดชอบชั่วดีที่เคยลืมไปแล้วมันไม่ใช่มายาแต่มันกลายเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
เงาสะท้อนจากชเวอินฮาต่อ คีฮามยอง ทำให้เราเห็นยาพิษในคำจริง นานมาแล้วเช่นกันเมื่อความจริงปรากฎ ไฟแค้นแน่นในอกของคีฮามยองสะสมมานาน จนเขาแทบ ... ใช้คำว่าแทบนะ จะทำอะไรก็ได้เพื่อจะให้คำจริงเหล่านั้นเปิดเผยสู่สาธารณชน ครั้งหนึ่งเขาจัดการความรู้สึกตัวเองโดยการละทิ้งสายใยทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ผจก.ชาอ๊ก พ่อ และ พี่ที่เคยเลี้ยงดู อินฮาผู้หญิงที่รักดังแก้วตา ครั้งหนึ่งเขาโมโหแทบตายเมื่อรู้ว่าหลักฐานที่จะใช้เล่นงานผู้หญิงคนนั้นไม่มีอยู่จริง ครั้งหนึ่งเขาคิดว่าแค่บิดเบือนความจริงอีกเล็กน้อยก็จะถึงเส้นชัย .... ก็ทำไมล่ะ เราจะต้องแก้แค้น ผู้หญิงคนนั้นต้องถูกล้ม จะด้วยวิธีอะไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเขาเคยมีใจยินดีในข้อมูลที่ได้และรีบใช้มันอย่างตะกระตะกรามจนลืมนึกไปว่าคำจริงอาจจะกลายเป็นยาพิษได้ แต่แล้วเมื่อเขามองหน้าของชเวอินฮา ... เขารู้นี่ว่า
ผจก. ชาอ๊ก เคยทอดทิ้งครอบครัว และ ลูกสาวอย่างอินฮา
คีฮามยองเคยเดินออกจากอ้อมกอดอบอุ่นของพ่อ พี่ และ ตัดรอนอินฮา
ผจก. ชาอ๊ก เคยสร้างคำลวงเพื่อเอาตัวรอด และ ชื่อเสียง โดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะส่งผลถึงใคร และ อย่างไร
คีฮามยอง เคยคิดจะใช้คำจริงเป็นประโยชน์โดยหุนหันพลันเล่น คิดไม่รอบเช่นเดียวกันว่ามันจะส่งผลถึงใคร และ อย่างไร
ใช่สิ ถ้าเขาทำแบบนั้น มันจะต่างอะไรกับ ผจก. ชาอ๊กล่ะ มันต้องมี win-win situation สิ เงาสะท้อนจากกระจกเที่ยงตรงที่ชื่อ "ชเวอินฮา" ทำให้เบื้องลึกของทุกคนตื่นจากหลับไหล จากที่เคยรู้ซึ้งแต่ความเจ็บปวดของตัวเอง คิดว่าวันนี้ฮามยองเห็นมายาในเบื้องหลังคำลวงของ ผจก. ชาอ๊ก แล้ว เพราะ ตั้งแต่เริ่มสงครามกันมาจนบัดนี้ เขาอาจให้อภัยไม่ได้แต่เขาเริ่มเข้าใจความเจ็บปวดของชาอ๊ก เมื่อเขาต้องยืนอยู่บนทางแยกระหว่างดีชั่วในหลาย ๆ ครั้ง ส่วน ผจก. เอง ก็รู้ซึ้งแล้วว่าเมื่อปากคนและปากกาทุกสารทิศมันพุ่งเข้ามาหาเราแล้วเป็นอย่างไร ความรู้สึกที่สูญเสียความเชื่อมั่น และ ความไว้ใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเป็นอย่างไร หลอกตัวเองไปแค่ไหนก็หลอกได้ แต่หลอกความรู้สึกคงทำไม่ได้ เมื่อความเสียใจมันนอนก้นอยู่ตรงนั้นตลอดมา
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้คิดว่าฮายองมอบข้อมูลให้กับชาอ๊กเพราะเหตุใด มันบ้าบิ่น มันอาจเป็นการชะล่าใจ และ พังพินาศขั้นสุดยอด แต่เขายอมเลือกทางที่ยาก เพราะ คิดถึงคนข้างหลัง คนบริสุทธิ์ที่อาจะได้รับผลกระทบ สายตาของเขามันอาจเคยหม่นมัวเพราะความแค้น ชเวอินฮา และ ครอบครัวอาจจะเคยเป็นภาระ แต่วันนี้คือเครื่องถ่วงให้เขาคิดช้าลง ให้ทำความเข้าใจคนอื่น อาทรต่อคนอื่น พลังในการทำเพื่อคนอื่นนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดใหญ่กว่าการทำเพื่อตัวเอง ฮามยองตัดสินใจแล้วว่าคำจริงที่เขามีมันจะต้องไม่ใช่ยาพิษที่จะทำร้าย หรือ สร้างร้อยบาปให้ใคร แม้กระทั่งชาอ๊กเอง นี่คือทางลงให้เธอได้แก้ไขสิ่งผิด
ขึ้นอยู่กับชาอ๊กแล้วว่าเธอคิดยังไง แต่ไหนแต่ไรมา เธอคิดอยู่เสมอว่าการละทิ้งคือความเข้มแข็ง แต่สายใยในฐานะแม่มีหรือที่จะตัดกันขาด เมื่อทางเลือกจ่อคอหอยอยู่ข้างหน้า เธอรู้ซึ่งแล้วถึงภาพมายาในคำลวง เธอจะเลือกทางเดิมด้วยการละทิ้ง หรือ เธอจะเลือกทางใหม่ที่ฮามยองมอบให้ อันนี้ต้องติดตาม
Pinocchio (กึ่งวิเคราะห์) ในเวลาใกล้จบ : มายาในคำลวง ยาพิษในคำจริง (สปอยด์)
ชเวอินฮา คือ พิน็อคคิโอ้ เมื่อใดที่เธอพูดสิ่งที่ไม่ตรงกับใจอาการสะอึกจะบังเกิดเสมอ ทำให้ความฝันที่จะเป็นนักข่าวแลดูมีอุปสรรคยากเย็นแต่ด้วยเส้นสนกลนัยบางประการเธอเข้าไปทำงานที่ใฝ่ฝัน กับแม่ ผจก.ชาอ๊ก ที่เป็นไอดอลของเธอมาแต่ไหนแต่ไร หากภาพฝันและความจริงมักจะต่างกันเมื่อแม่ที่เธอฝันกับแม่ที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกันซักนิด ผู้หญิงแสนเย็นชาคนนี้คือใครกัน ?
ผจก. ชาอ๊ก เป็นคนข่าวมือฉมัง เธอลอยอยู่บัลลังก์แห่งอาชีพ และ รู้เป็นอย่างดีถึงอิทธิพล และ พลังอำนาจทีอยู่ในมือ เขาว่าปากคนยาวกกว่าปากกา แต่เธอมีทั้งปากคนและปากกาอยู่ในมือ คนข่าวที่ใคร ๆ ให้การเคารพนับถือ เรื่องราวของผู้หญิงคนแรกที่ฝ่าฝันจนมีที่ทางในโลกแห่งการงาน เป็นที่โจษขานราวตำนานผู้กล้า แต่จะมีใครซักกี่คนรู้ว่า กว่าจะถึงบัลลังก์แห่งอาชีพที่ยืนอยู่จุดนี้ ผจก. ชาอ๊ก ใช้พลังแห่งสื่อในมือสร้างคำลวง เหยียบย่ำ ลุยเลือด เศษซากปรักหักพังในชีวิตคนอื่นมามากแค่ไหน
แน่นอนว่าหนึ่งในไม่กี่คนนั้นจะต้องมีดัลโพ หรือ คีฮามยองซึ่งเป็นเหยื่อร่างแหคำลวงของ ผจก. ชาอ๊ก และ พรรคพวกเข้าเต็ม ๆ ไฟแค้นสุมอยู่ในอก หากจะเผอิญหน้าและต่อกรก็จะต้องทัดเทียมอยู่ในอาชีพเดียวกัน ปฏิบัติการล้มยักษ์จึงอยู่ในสมองของคีฮามยองตลอดมา แต่ทว่าเรื่องราวก็ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก เมื่อคนที่เขาต้องการสุดจิตสุดใจที่จะแก้แค้นไม่ใช่ใครที่ไหน แม่บังเกิดเกล้าของคนที่เขารักที่สุดในชีวิต
การฟาดฟันของ ผจก.ชาอ๊ก และ คีมยอง เป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง โดยมีชเวอินฮา พิน็อคคิโอ้ตัวน้อย ที่อยู่ตรงกลาง สำหรับเราแล้ว "ชเวอินฮา" คือกระจกที่ส่องสะท้อนให้เห็นความจริงในตัวของชาอ๊ก และ คีมยอง เพราะ สิ่งที่ชเวอินฮาพูด ทุกคนจะรู้ได้ว่าเธอหลอกหรือพูดจริง หรือ จะอาจจะเรียกได้ว่าเมื่อชเวอินฮาเปิดปากแล้วล่ะก็ นั่นคือเงาสะท้อนตัวตนอันเที่ยงตรงจากปากคนที่ไม่ว่าจะโกหกหรือจะพูดจริง ก็จะรู้ได้ว่าเธอรู้สึกเช่นไร
เงาสะท้อนจากชเวอินฮาต่อ ผจก. ชาอ๊ก ทำให้เราเห็นภาพมายาในคำลวง นานมาแล้ว ผจก.ชาอ๊ก ก็คือนักข่าวหญิงไฟแรงอนาคตไกล ที่อยู่หนทางต้องเลือก ด้านหนึ่ง คือ ความถูกต้อง แต่เปอร์เซนสูงเหลือเกินที่ตัวเองจะต้องหมดอนาคต และ ถูกตราหน้าว่าเป็นนกสองหัว เธอเห็นผลของมันมาแล้วในเคสสามีของตัวเอง และ มันจบลงด้วยการหนย่าร้าง ด้านหนึ่ง คือ ทางรอด ความหอมหวานแห่งชื่อเสียง เกียรติยศ และ อำนาจ
แต่นอกจากความลับระดับเป็นตายที่ต้องเก็บงำไว้ตลอดชีวิตแล้ว ผลกระทบอีกประการหนึ่ง คือ เธอต้องละทิ้งลูก ครอบครัว ทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง เหลือเพียงตัวเองเท่านั้น เธอเลือกอย่างหลัง คำลวงนั้นก่อให้เกิดความสำเร็จมากมายล้นหลาม กระนั้นมันก็เป็นเพียงมายาที่ปิดบังความเจ็บปวดรวดร้าวของ ผจก.ชาอ๊ก เธอคิดว่าเธอไม่มีมันอยู่แล้วความละอายเหล่านั้น นั่นคือภาพมายาอีกเช่นกัน ภาพมายาที่กลบฝังด้วยความชินชา แล้วเธอก็ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อความผิดชอบชั่วดีที่เคยลืมไปแล้วมันไม่ใช่มายาแต่มันกลายเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
เงาสะท้อนจากชเวอินฮาต่อ คีฮามยอง ทำให้เราเห็นยาพิษในคำจริง นานมาแล้วเช่นกันเมื่อความจริงปรากฎ ไฟแค้นแน่นในอกของคีฮามยองสะสมมานาน จนเขาแทบ ... ใช้คำว่าแทบนะ จะทำอะไรก็ได้เพื่อจะให้คำจริงเหล่านั้นเปิดเผยสู่สาธารณชน ครั้งหนึ่งเขาจัดการความรู้สึกตัวเองโดยการละทิ้งสายใยทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ผจก.ชาอ๊ก พ่อ และ พี่ที่เคยเลี้ยงดู อินฮาผู้หญิงที่รักดังแก้วตา ครั้งหนึ่งเขาโมโหแทบตายเมื่อรู้ว่าหลักฐานที่จะใช้เล่นงานผู้หญิงคนนั้นไม่มีอยู่จริง ครั้งหนึ่งเขาคิดว่าแค่บิดเบือนความจริงอีกเล็กน้อยก็จะถึงเส้นชัย .... ก็ทำไมล่ะ เราจะต้องแก้แค้น ผู้หญิงคนนั้นต้องถูกล้ม จะด้วยวิธีอะไรก็ตาม ครั้งหนึ่งเขาเคยมีใจยินดีในข้อมูลที่ได้และรีบใช้มันอย่างตะกระตะกรามจนลืมนึกไปว่าคำจริงอาจจะกลายเป็นยาพิษได้ แต่แล้วเมื่อเขามองหน้าของชเวอินฮา ... เขารู้นี่ว่า
ผจก. ชาอ๊ก เคยทอดทิ้งครอบครัว และ ลูกสาวอย่างอินฮา
คีฮามยองเคยเดินออกจากอ้อมกอดอบอุ่นของพ่อ พี่ และ ตัดรอนอินฮา
ผจก. ชาอ๊ก เคยสร้างคำลวงเพื่อเอาตัวรอด และ ชื่อเสียง โดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะส่งผลถึงใคร และ อย่างไร
คีฮามยอง เคยคิดจะใช้คำจริงเป็นประโยชน์โดยหุนหันพลันเล่น คิดไม่รอบเช่นเดียวกันว่ามันจะส่งผลถึงใคร และ อย่างไร
ใช่สิ ถ้าเขาทำแบบนั้น มันจะต่างอะไรกับ ผจก. ชาอ๊กล่ะ มันต้องมี win-win situation สิ เงาสะท้อนจากกระจกเที่ยงตรงที่ชื่อ "ชเวอินฮา" ทำให้เบื้องลึกของทุกคนตื่นจากหลับไหล จากที่เคยรู้ซึ้งแต่ความเจ็บปวดของตัวเอง คิดว่าวันนี้ฮามยองเห็นมายาในเบื้องหลังคำลวงของ ผจก. ชาอ๊ก แล้ว เพราะ ตั้งแต่เริ่มสงครามกันมาจนบัดนี้ เขาอาจให้อภัยไม่ได้แต่เขาเริ่มเข้าใจความเจ็บปวดของชาอ๊ก เมื่อเขาต้องยืนอยู่บนทางแยกระหว่างดีชั่วในหลาย ๆ ครั้ง ส่วน ผจก. เอง ก็รู้ซึ้งแล้วว่าเมื่อปากคนและปากกาทุกสารทิศมันพุ่งเข้ามาหาเราแล้วเป็นอย่างไร ความรู้สึกที่สูญเสียความเชื่อมั่น และ ความไว้ใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเป็นอย่างไร หลอกตัวเองไปแค่ไหนก็หลอกได้ แต่หลอกความรู้สึกคงทำไม่ได้ เมื่อความเสียใจมันนอนก้นอยู่ตรงนั้นตลอดมา
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้คิดว่าฮายองมอบข้อมูลให้กับชาอ๊กเพราะเหตุใด มันบ้าบิ่น มันอาจเป็นการชะล่าใจ และ พังพินาศขั้นสุดยอด แต่เขายอมเลือกทางที่ยาก เพราะ คิดถึงคนข้างหลัง คนบริสุทธิ์ที่อาจะได้รับผลกระทบ สายตาของเขามันอาจเคยหม่นมัวเพราะความแค้น ชเวอินฮา และ ครอบครัวอาจจะเคยเป็นภาระ แต่วันนี้คือเครื่องถ่วงให้เขาคิดช้าลง ให้ทำความเข้าใจคนอื่น อาทรต่อคนอื่น พลังในการทำเพื่อคนอื่นนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดใหญ่กว่าการทำเพื่อตัวเอง ฮามยองตัดสินใจแล้วว่าคำจริงที่เขามีมันจะต้องไม่ใช่ยาพิษที่จะทำร้าย หรือ สร้างร้อยบาปให้ใคร แม้กระทั่งชาอ๊กเอง นี่คือทางลงให้เธอได้แก้ไขสิ่งผิด
ขึ้นอยู่กับชาอ๊กแล้วว่าเธอคิดยังไง แต่ไหนแต่ไรมา เธอคิดอยู่เสมอว่าการละทิ้งคือความเข้มแข็ง แต่สายใยในฐานะแม่มีหรือที่จะตัดกันขาด เมื่อทางเลือกจ่อคอหอยอยู่ข้างหน้า เธอรู้ซึ่งแล้วถึงภาพมายาในคำลวง เธอจะเลือกทางเดิมด้วยการละทิ้ง หรือ เธอจะเลือกทางใหม่ที่ฮามยองมอบให้ อันนี้ต้องติดตาม